รามูเอลก้าวฉับ ๆ ได้จังหวะ ไปตามทางเท้าของถนน... พื้นถนนแห่งนี้กว้างงดงามมาก มีหมู่บ้านแบบฮอบบิทที่ได้รับการทะนุบำรุงอย่างดี เรียงรายตลอดสาย ทุกบ้านมีสวนขนาดใหญ่ มีต้นไม้โต ๆ แผ่กิ่งก้านร่มคลื้น บดบังสายตาภายนอก
รามูเอลเดินช้า ๆ หยุดที่ป้ายรถเมล์... สายตาจ้องจับนาฬิกาจีช็อค ลายม้าลาย หน้าปัดบอกเวลา อีกสามนาทีเก้าโมง...
ป้ายรถประจำทางแห่งนี้ ก่อสร้างขึ้นใหม่เมื่อหกเดือนก่อน วัสดุแข็งแรงคงทน กันฝน กันพายุ และลมหนาวได้อย่างดี... กำแพงทาด้วยสีเหลืองอ่อน ดูอบอุ่นเช่นเดียวกับสีของแดด ส่วนม้านั่งสีน้ำตาลเข้ม เหมือนสีของดิน ให้ความความรู้สึกเชื่อมโยงธรรมชาติ...
ด้านหลังป้ายขนาดหย่อม ปกคลุมด้วยผืนป่าเขียวขจี อุดมณ์สมบรูณ์ด้วยต้นไม้เสียส่วนใหญ่ เมื่อลมพัดกระทบใบไม้ กลิ่นหอมกรุ่มหญ้าฟุ้งกระจาย อากาศบริสุทธิ์ สดชื่น...
"ถ้าลงไปเดินเล่นสักหน่อย... ต้องได้ยินเสียงนกไนติงเกลร้องเพลงแน่!!" เขานึก
รามูเอลอายุยี่สิบแปด จมูกโด่งสันตรง ผมสีน้ำตาลตัดสั้น ดวงตาฟ้าใส... สูทอังกฤษที่สวมประณีตทำให้บุคลิคดูสง่างาม...
เขาแอบชำเลืองสามสี่ครั้ง มองหญิงที่รอรถด้านซ้ายมืออยู่ก่อน... ตั้งใจจะเดินเข้าไปใกล้ ๆ แต่ไม่กล้า ราวกับมีความกลัวกั้นกลางไว้... ใบหน้าเขาแดงระเรื่อ... ความรู้สึกประหม่าจู่โจมหัวใจ
หญิงสาวผู้นี้ หน้าตาคล้ายชาวรัสเซียผสมไอริส ผมบลอนด์ยาวสลวย ดวงตาสีฟางข้าว เจาะหู มีหมุดที่ปาก อายุไม่มากไปกว่ายี่สิบหก...
เสื้อที่ใส่เป็นแจ๊กเก็ตน้ำตาลซีด ภายนอกค่อนข้างไว้ตัว แต่บางอย่างในแววตาหม่น ๆ บอกว่ากำลังเหงา... เธอฮัมเพลงเบา ๆ จากหูฟัง ดื่มดำโลกภายในเสียงดนตรี... ราวกับสร้างกำแพงขึ้นมาขังหัวใจ
"เมี้ยว ~" เสียงหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลัง
รามูเอลเหลือบมอง เห็นแมวสีเหลืองขนฟูพันธุ์เปอร์เซีย นั่งอยู่บนแผ่นหินขนาดใหญ่ มีคำขวัญเก่าแก่จารึกว่า “สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่คนดี ๆ วางเฉย" เขียนโดย เอ็ดมันด์ เบิร์ก ค.ศ. 1784
เขาทำเสียงหยอกล้อมัน เจ้าแมวกระโดดลงพื้น เยื้องย่างหาเขา คอมันถูเข้ากับขากางเกงสแล็ต พลางหาวหวอด...
รามูเอลจ้องฟันสีขาว ซี่แหลม ๆ ของมัน
"แมวเป็นสัตว์ที่ชอบล่าเหยื่อขนาดเล็ก ถ้าตัวโตกว่ามนุษย์... คงกินคนแหง" รามูเอลขบคิด...
อีกฝั่งถนน หญิงชราผมสีเงิน ใส่แว่นกรอบเทา สวมผ้าคลุมม่วงทับทิม จูงหมาพันธ์บูลด็อกสีขาวปนดำ เตรียมข้ามทางม้าลาย
เมื่อสัญญาณไฟเปลียนสีเขียว เธอค่อย ๆ ก้าวเชื่องช้า...
วินาทีนั้น หมาดิ้นหลุดจากเชือกคล้องมือ
วิ่งถลาไปหาแมว ที่กำลังคลอเคลียขาชายหนุ่ม
"หยุดเดียวนี้นะ! แจสเปอร์!!" หญิงชราตะโกนใส่สุนัข
เสียงเห่าขรม ดังระงมไปทั่ว เจ้าเหมียวร้อง "ง่าว!!" ด้วยความตกใจ พลางข่วนหน้าเจ้าบลูด๊อกหนึ่งที ก่อนกระโดดหนีไปบนหลังคา
รามูเอลเอื้อมมือคว้าเชือกปลอกคอ เพื่อนสีขาตัวที่สองอัตโนมัติ
หญิงชราก้าวไปหาชายหนุ่ม ท่าทีโล่งอก...
"นี่ครับคุณยาย" เขาส่งเชือกให้ ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร
"ขอบใจจ๊ะพ่อหนุ่ม" หญิงชรารับเชือก และพูดต่อ
"จริง ๆ แล้ว เจ้าแจสเปอร์ไม่ดุหรอกนะ เชื่องยังกับแกะแน่ะ"
"ผมรักสัตว์ครับ ผมไม่กลัวหมาหรอก" รามูเอลว่า
"ผมหวังให้มันพูดได้ด้วยซ้ำ เราจะได้สนิทกันมากขึ้น... เนอะ แจสเปอร์ ~" เขาลากเสียงหวานกับสุนัข ลูบขนหัวเบา ๆ
หญิงชรายิ้ม มองชายหนุ่มนิดนึง ก่อนเสริมว่า
"ถ้าไม่เข้าไปทำความรู้จัก เธอจะเป็นคนแปลกหน้าตลอดไปนะ..." เสียงที่กล่าวหนักแน่น ชัดถ้อยชัดคำ พลางจ้องเขาลอดแว่นตา...
รามูเอลสบตาหญิงชรา ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ แววตาสีเทาคู่นั้นบ่งบอกว่า รู้จักโลกและชีวิตมากกว่าหนึ่งร้อยปี...
"ผมกลัวนะครับ" เขากระซิบแผ่วเบา "กลัวทุกอย่าง กลัวสิ่งที่เห็น สิ่งที่ทำ สิ่งที่เป็น และที่ผมกลัวที่สุด คือกลัวการถูกเมินเฉย..." รามูเอลถอนหายใจท้อแท้...
"คนเรามันต้องกล้า 20 วินะพ่อหนุ่ม..." หญิงชรายิ้มแสนอ่อนโยน... พลางขยิบตาข้างซ้ายให้ชายหนุ่ม
วินาทีต่อมา แจสเปอร์ สะบัดสายหลุดจากข้อมือหญิงชราอีกครั้ง พุ่งไปหาเจ้าแมวลายเสือที่กำลังอาบแดดเลียขน อยู่ข้าง ๆ สวนหย่อมใจกลางจัตุรัส เธอเร่งฝีเท้าตามสุนัขอย่างสง่างาม...
สายลมเหนือพัดเบา ๆ ดอกคาเมเลียพลิ้วไหว ผมสีน้ำตาลซีด และผมสีบลอนด์ ปลิ่วเรี่ยตามลม เขาแว่วเสียงรถยนต์ดังมาตามถนน รถเมล์สีแดงคันใหญ่แล่นจอดเทียบป้าย
บนประตูมีข้อความเขียนว่า "วิกฤติมักดึงดูดคนให้เขาหากัน" รามูเอลอ่านแล้วอดขันนิด ๆ ไม่ได้... ชายและหญิงต่างก้าวขึ้นรถ... ประตูเลื่อนปิด... รถโดยสารขับจากไป ประหนึ่งทิ้งสวนวิเศษไว้เบื้องหลัง...
TA 1 | เรื่องสองนักแสดง ตอนที่ 1 การปรากฏตัวของหญิงชรา
รามูเอลเดินช้า ๆ หยุดที่ป้ายรถเมล์... สายตาจ้องจับนาฬิกาจีช็อค ลายม้าลาย หน้าปัดบอกเวลา อีกสามนาทีเก้าโมง...
ป้ายรถประจำทางแห่งนี้ ก่อสร้างขึ้นใหม่เมื่อหกเดือนก่อน วัสดุแข็งแรงคงทน กันฝน กันพายุ และลมหนาวได้อย่างดี... กำแพงทาด้วยสีเหลืองอ่อน ดูอบอุ่นเช่นเดียวกับสีของแดด ส่วนม้านั่งสีน้ำตาลเข้ม เหมือนสีของดิน ให้ความความรู้สึกเชื่อมโยงธรรมชาติ...
ด้านหลังป้ายขนาดหย่อม ปกคลุมด้วยผืนป่าเขียวขจี อุดมณ์สมบรูณ์ด้วยต้นไม้เสียส่วนใหญ่ เมื่อลมพัดกระทบใบไม้ กลิ่นหอมกรุ่มหญ้าฟุ้งกระจาย อากาศบริสุทธิ์ สดชื่น...
"ถ้าลงไปเดินเล่นสักหน่อย... ต้องได้ยินเสียงนกไนติงเกลร้องเพลงแน่!!" เขานึก
รามูเอลอายุยี่สิบแปด จมูกโด่งสันตรง ผมสีน้ำตาลตัดสั้น ดวงตาฟ้าใส... สูทอังกฤษที่สวมประณีตทำให้บุคลิคดูสง่างาม...
เขาแอบชำเลืองสามสี่ครั้ง มองหญิงที่รอรถด้านซ้ายมืออยู่ก่อน... ตั้งใจจะเดินเข้าไปใกล้ ๆ แต่ไม่กล้า ราวกับมีความกลัวกั้นกลางไว้... ใบหน้าเขาแดงระเรื่อ... ความรู้สึกประหม่าจู่โจมหัวใจ
หญิงสาวผู้นี้ หน้าตาคล้ายชาวรัสเซียผสมไอริส ผมบลอนด์ยาวสลวย ดวงตาสีฟางข้าว เจาะหู มีหมุดที่ปาก อายุไม่มากไปกว่ายี่สิบหก...
เสื้อที่ใส่เป็นแจ๊กเก็ตน้ำตาลซีด ภายนอกค่อนข้างไว้ตัว แต่บางอย่างในแววตาหม่น ๆ บอกว่ากำลังเหงา... เธอฮัมเพลงเบา ๆ จากหูฟัง ดื่มดำโลกภายในเสียงดนตรี... ราวกับสร้างกำแพงขึ้นมาขังหัวใจ
"เมี้ยว ~" เสียงหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลัง
รามูเอลเหลือบมอง เห็นแมวสีเหลืองขนฟูพันธุ์เปอร์เซีย นั่งอยู่บนแผ่นหินขนาดใหญ่ มีคำขวัญเก่าแก่จารึกว่า “สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่คนดี ๆ วางเฉย" เขียนโดย เอ็ดมันด์ เบิร์ก ค.ศ. 1784
เขาทำเสียงหยอกล้อมัน เจ้าแมวกระโดดลงพื้น เยื้องย่างหาเขา คอมันถูเข้ากับขากางเกงสแล็ต พลางหาวหวอด...
รามูเอลจ้องฟันสีขาว ซี่แหลม ๆ ของมัน
"แมวเป็นสัตว์ที่ชอบล่าเหยื่อขนาดเล็ก ถ้าตัวโตกว่ามนุษย์... คงกินคนแหง" รามูเอลขบคิด...
อีกฝั่งถนน หญิงชราผมสีเงิน ใส่แว่นกรอบเทา สวมผ้าคลุมม่วงทับทิม จูงหมาพันธ์บูลด็อกสีขาวปนดำ เตรียมข้ามทางม้าลาย
เมื่อสัญญาณไฟเปลียนสีเขียว เธอค่อย ๆ ก้าวเชื่องช้า...
วินาทีนั้น หมาดิ้นหลุดจากเชือกคล้องมือ
วิ่งถลาไปหาแมว ที่กำลังคลอเคลียขาชายหนุ่ม
"หยุดเดียวนี้นะ! แจสเปอร์!!" หญิงชราตะโกนใส่สุนัข
เสียงเห่าขรม ดังระงมไปทั่ว เจ้าเหมียวร้อง "ง่าว!!" ด้วยความตกใจ พลางข่วนหน้าเจ้าบลูด๊อกหนึ่งที ก่อนกระโดดหนีไปบนหลังคา
รามูเอลเอื้อมมือคว้าเชือกปลอกคอ เพื่อนสีขาตัวที่สองอัตโนมัติ
หญิงชราก้าวไปหาชายหนุ่ม ท่าทีโล่งอก...
"นี่ครับคุณยาย" เขาส่งเชือกให้ ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร
"ขอบใจจ๊ะพ่อหนุ่ม" หญิงชรารับเชือก และพูดต่อ
"จริง ๆ แล้ว เจ้าแจสเปอร์ไม่ดุหรอกนะ เชื่องยังกับแกะแน่ะ"
"ผมรักสัตว์ครับ ผมไม่กลัวหมาหรอก" รามูเอลว่า
"ผมหวังให้มันพูดได้ด้วยซ้ำ เราจะได้สนิทกันมากขึ้น... เนอะ แจสเปอร์ ~" เขาลากเสียงหวานกับสุนัข ลูบขนหัวเบา ๆ
หญิงชรายิ้ม มองชายหนุ่มนิดนึง ก่อนเสริมว่า
"ถ้าไม่เข้าไปทำความรู้จัก เธอจะเป็นคนแปลกหน้าตลอดไปนะ..." เสียงที่กล่าวหนักแน่น ชัดถ้อยชัดคำ พลางจ้องเขาลอดแว่นตา...
รามูเอลสบตาหญิงชรา ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ แววตาสีเทาคู่นั้นบ่งบอกว่า รู้จักโลกและชีวิตมากกว่าหนึ่งร้อยปี...
"ผมกลัวนะครับ" เขากระซิบแผ่วเบา "กลัวทุกอย่าง กลัวสิ่งที่เห็น สิ่งที่ทำ สิ่งที่เป็น และที่ผมกลัวที่สุด คือกลัวการถูกเมินเฉย..." รามูเอลถอนหายใจท้อแท้...
"คนเรามันต้องกล้า 20 วินะพ่อหนุ่ม..." หญิงชรายิ้มแสนอ่อนโยน... พลางขยิบตาข้างซ้ายให้ชายหนุ่ม
วินาทีต่อมา แจสเปอร์ สะบัดสายหลุดจากข้อมือหญิงชราอีกครั้ง พุ่งไปหาเจ้าแมวลายเสือที่กำลังอาบแดดเลียขน อยู่ข้าง ๆ สวนหย่อมใจกลางจัตุรัส เธอเร่งฝีเท้าตามสุนัขอย่างสง่างาม...
สายลมเหนือพัดเบา ๆ ดอกคาเมเลียพลิ้วไหว ผมสีน้ำตาลซีด และผมสีบลอนด์ ปลิ่วเรี่ยตามลม เขาแว่วเสียงรถยนต์ดังมาตามถนน รถเมล์สีแดงคันใหญ่แล่นจอดเทียบป้าย
บนประตูมีข้อความเขียนว่า "วิกฤติมักดึงดูดคนให้เขาหากัน" รามูเอลอ่านแล้วอดขันนิด ๆ ไม่ได้... ชายและหญิงต่างก้าวขึ้นรถ... ประตูเลื่อนปิด... รถโดยสารขับจากไป ประหนึ่งทิ้งสวนวิเศษไว้เบื้องหลัง...