..........( รักซ้อน ซ่อนพิษ )..........
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ ๑
https://ppantip.com/topic/38986500
ตอนที่ ๒
https://ppantip.com/topic/39004238
ตอนที่ ๓
https://ppantip.com/topic/39015740
ตอนที่ ๔
https://ppantip.com/topic/39016967
ตอนที่ ๕
https://ppantip.com/topic/39024305
ตอนที่ ๖
https://ppantip.com/topic/39034299
ตอนที่ ๗
https://ppantip.com/topic/39053215
ตอนที่ ๘
https://ppantip.com/topic/39068575
ตอนที่ ๙
https://ppantip.com/topic/39083490
ตอนที่ ๑๐
https://ppantip.com/topic/39093068
ตอนที่ ๑๑
...........เจ๊แตง กระโดดลงจากโขดหินวิ่งเข้าในป่า มีไม้ใหญ่น้อยขึ้นสลับกัน เป็นฉากกำบังตามธรรมชาติ ด้านนอกมองเข้ามาเห็นคนข้างในยาก ในขณะที่มองออกไปในที่โล่งจะเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน แปลกใจได้ยินเสียงปืนแว่ว ๆ ตั้งแต่เดินขึ้นเนินมาจากอีกด้าน ตอนแรกนึกว่า พี่เลิศยิงใคร แต่เสียงปืนหลายสิบนัดนั้น คงไม่ได้ยิงฝ่ายเดียว และไม่ใช่เหตุธรรมดาแน่นอน
มองสภาพบ้านจากตรงที่ยืนอยู่ตอนแรก นึกว่าคนอยู่ข้างในจะไม่รอดซะแล้ว หน้าต่างไม่มีชิ้นดี เศษไม้เศษกระจก เกลื่อนไปทั่วแปลกใจครั้งที่สอง เห็นเชิดยิงเจ้าคนข้างต้นสักกลิ้งลงไปข้างล่าง แต่ยังมีอีกสองคน เธอเห็นชัดเพราะเธอขึ้นมาจากด้านหลัง เลยซัดเข้า จนกระเด็นตกเนินไป เขาเอาปืนมาจากไหน และพี่เลิศก็อยู่ข้าง ๆ เจ๊แตงไม่เข้าใจภาพที่เห็น แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาคิด
เสียงปืนยังมีให้ได้ยิน เธอลัดเข้าป่า ค่อย ๆ ก้าวตามทางที่เคยเดินประจำ ตามองลงไปรอบ ๆ เห็นบ้านซึ่งอยู่ต่ำลงไปชัด และทันได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากในบ้าน สองนัดแทบเป็นเสียงเดียวกัน
“ปังปัง” เจ้าคนซุ่มอยู่เชิงเขาด้านหลังบ้าน กับคนอยู่ริมถนนดิน ด้านทิศเหนือหงายลงไป เจ๊แตงเห็น เชิด นั่งคุกเข่าอยู่กลางห้องกำลังเปลี่ยนแม็กกาซีนใหม่ พร้อมปลดเซฟให้ลูกเลื่อนวิ่งไปข้างหน้าดันกระสุนเข้าในรังเพลิง เสร็จแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเธอ พลางหลบเข้าข้างผนัง
เขาปลอดภัยดี มองเข้าไปเห็นหลังพี่เลิศอยู่อีกด้าน เจ๊แตงวิ่งต่ออีกนิดพอเห็นถนนดินชัด นั่งลงมองด้านล่างรอบ ๆ เยื้องไปทางซ้ายมือ เจ้าคนหนึ่งนั่งข้างเพื่อนที่นอนเหยียดยาวนิ่ง ตามองจ้องไปที่หน้าต่าง ซึ่งตอนนี้โล่งมองเห็นข้างในได้เกือบหมด มันค่อย ๆ ย่อตัวเดินช้า ๆ ย่องใกล้ตัวบ้านเข้าไป มือขวาจับปืนท่าเตรียมพร้อม ชูขึ้น มือซ้ายกำข้อมือที่ถือปืนไว้ ก้าวเข้าไปอีกนิด พอเห็นพี่เลิศที่ใต้หน้าต่างอีกด้าน ก็แสยะยิ้มพร้อมยกปืนขึ้นเล็ง
“ปัง” หน้าทิ่มลงไปไม่ทันร้อง น่าจะหมดแล้ว เจ๊แตงลด .38 สเปเชียลในมือลง ควันยังคงลอยออกมาจากปากกระบอกจาง ๆ มองเนินเขาที่ทอดยาวด้านขวามือเห็นชัดจนสุดเนิน ในบ้านตรงหน้า เลิศ และ เชิดมองมาที่เธอ เจ๊แตงหันไปทางถนนใหญ่ซ้ายมือไกล ๆ รถเก๋งสีขาวจอดอยู่หนึ่งคันแต่มองไม่เห็นคน ดูดีแล้วไม่มีใคร เธอวิ่งลงเนินไปที่ถนนดิน พอถึงตัวบ้านก้าวกระโดดข้ามช่องหน้าต่างเข้าไปอย่างเร็ว
“แตง” เลิศเอ่ยทักขึ้นก่อน ขณะเจ๊แตงลงนั่ง ข้าง ๆ เชิด
“เป็นไงมั่ง เชิด” เจ๊แตง ไม่แม้แต่ชำเลืองตามองหนุ่มใหญ่ เลิศ ยิ้มให้กับภาพตรงหน้า ลุกเดินช้า ๆ ไปที่ตู้ติดผนัง หยิบกล้องส่องทางไกลตัวเล็กออกมา ก้าวไปที่ประตู ส่องไปยังถนนใหญ่ไกลออกไปประมาณ ๑๐๐ เมตร ครั้งแรกตอนมาที่นี่เลี้ยวลงจากถนนก็เข้าหน้าบ้านได้เลย แต่เลิศคิดถึงงานที่เขาทำอยู่ เลยสำรวจเส้นทางใหม่
เลยไปอีก ๑๕๐ เมตร เจอทางเก่าเป็นทางดินเล็ก ๆ ลงจากถนนใหญ่แล้วโค้งไปมา จนถึงตัวบ้านทางด้านซ้าย เลิศจึงตัดต้นไม้ ทับทางที่ตรงเข้าบ้านเป็นช่วง ๆ แล้วปล่อยให้รกจนหมดสภาพเป็นทางมาหลายปี ทุกวันนี้รถขับเข้าบ้านต้องมาอย่างช้า ๆ เพราะรูปแบบถนนดินบังคับ
รถแม่เลี้ยงแน่นอน เลิศจำได้แม่นยำ แต่ไม่เห็นใครอยู่ใกล้ ๆ ที่ยิงกันสนั่นป่าเมื่อกี้ มีแต่ลิ่วล้อ เธออยู่ไหนนะ หนุ่มใหญ่คิดพลางส่องกล้องมองไปทีละจุดอย่างช้า ๆ
“แตงพาเชิดกลับก่อนนะ” เสียงแหวกความเงียบขึ้นมา เลิศ ลดกล้องลง เอี้ยวคอ มอง ยิ้มให้ แล้วเอ่ยเบา ๆ
“แล้วจะทิ้งพี่ไว้อย่างนี้เหรอ” น้ำเสียงหนุ่มใหญ่ สบาย ๆ เหมือนคุยเล่นกัน มากกว่าจริงจัง พลางหันกลับมาจ้องมองด้วยรอยยิ้มระบายเต็มหน้า
“เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่ เชิดเค้าไม่เกี่ยว แตงก็ไม่เกี่ยว และไม่อยากรับรู้ด้วย” เจ๊ลุกขึ้นยืน พยักหน้าให้ ชายหนุ่มลุกตาม เชิดลุกขึ้นอย่าง งง งง เดินเข้าไปส่งปืนให้หนุ่มใหญ่ เลิศ ยืนเฉยไม่ยื่นมือรับ
“จะว่าไปแล้ว เรื่องทั้งหมดเริ่มจากไอ้หนุ่มนี่แหละ ชื่อไรนะ เชิด” หนุ่มใหญ่พูดช้า ๆ ดันมือ ชายหนุ่มที่ถือปืนออกเบา ๆ เป็นทีว่าให้เก็บไว้ก่อน เจ๊แตงจ้องหน้าอย่างไม่พอใจ
“แตงไม่สนใจเรื่องของพี่ แต่ที่แตงข้องใจ พี่เลิศ ทำไมทำกับ อุ้ม ขนาดนั้น” เจ๊จ้องหน้า ตาไม่กระพริบ เชิด ได้ยินเข้าตกใจ คิดว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับอุ้มแน่นอน หันไปมองหนุ่มใหญ่ที่ส่ายหน้าช้า ๆ มองมาทางเชิด และแตง พร้อมยิ้มที่มุมปาก
“เด็กสองคนต้องขาดแม่ พี่รู้สึกอะไรมั้ย แตงจะพาเค้ากลับไป อย่างน้อย เด็กได้เห็นหน้าพ่อก็ยังดี”
เจ๊แตงกำปืนแน่น ตามองหนุ่มใหญ่ ไม่หลบสายตา อารมณ์แบบนี้ เชิดเพิ่งเคยเห็น และชายหนุ่มคิดลำดับเหตุการณ์ในใจ วันนี้ พี่เลิศ อยู่กับเขาตลอดเวลา
ตัวเลิศเอง ไม่เคยคิดจะให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับ อุ้ม เพียงแต่ต้องการให้แม่เลี้ยงดวงใจ ไปจนมุมที่นั่นเท่านั้น ถ้าจะถามว่าเขารู้หรือเปล่าว่าแม่เลี้ยงเป็นคนยังไง ต้องตอบว่ารู้อยู่เต็ม อก แต่ไม่คิดว่าจะเลยเถิดถึงขั้นนี้
“แตง..” หนุ่มใหญ่พูดได้แค่นั้น เวลาตรงหน้ามีน้อยกว่าจะเอ่ย บางสิ่งที่เก็บไว้นานปีออกมา และหลายอย่าง ยากจะแก้ไขให้เป็นดังเดิม
เจ๊แตง ยังคงมอง พี่เลิศตาไม่วาง มีแค่ประโยคเดียวที่ต้องการให้เขารับรู้ รอโอกาสเอ่ยออกมา
“พี่ตามหาแตงทั่ว” ในที่สุดหนุ่มใหญ่ก็พูดออก
“เหรอ แล้วทำไมไม่เจอ” เธอยิ้มเยาะ มันเลยจุดที่ต้องการคำนี้มานานแล้ว ความค้างคาใจ มีเพียงเขาไม่ได้บอกเลิกเธอ จากปากเท่านั้น
“พี่ทำทุกอย่างก็เพื่อแตงนะ” เลิศพูดถึงความคิดแรกที่เขาเข้าวงการ
“พอเหอะพี่ ไม่มีใครเค้ามีคนใหม่เพื่อใครหรอก” เจ๊แตงขยับเตรียมก้าวเดิน ชั่งใจกับประโยคที่จะเอ่ยออกไป เก็บไว้ มีแต่จะติดอยู่ข้างใน เสียงหนุ่มใหญ่ยังคงเอ่ยมา
“พี่ทำงาน เก็บเงินไว้เพื่อเรา ตอนนี้ถ้าเริ่มกันใหม่ พี่เลิกงานแบบนี้ได้นะแตง” เลิศเปิดเผยสิ่งที่ปิดมานานให้รับรู้ เชิด ยืนนิ่ง ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เขาทำใจไว้รอแล้ว
“มันสายไปแล้วพี่ แตงลืมพี่ ตั้งแต่วันแรกที่พี่ก้าวออกไปแล้ว” หม้ายสาวสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ แล้วปล่อยออกยาว หลังจากที่ได้พูดออกมา เลิศสะอึก มันทะลุใจ เข้าไปเหมือนหนามทิ่มแทง แต่เจ๊แตงตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น เจ็บแค่นี้ ไม่ได้ครึ่งเธอหรอก
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้พี่รู้ไว้ว่า พี่ กับแตง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน” พูดจบเธอก้าวเดิน ปล่อยหนุ่มใหญ่ยืนอึ้งอยู่
เลิศคิดถึงทางออก รถก็อยู่กับเจ้าเปี๊ยก ส่วนแตง ตอนนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ เขาจึงยืนนิ่ง มองสองคนเดินออกประตูหลังบ้านไปที่เนินเขา งานนี้เหลือคนเดียว ไม่เป็นไร หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว หนุ่มใหญ่คิดพลาง โทรหาเจ้าดำ ที่เข้ามาไม่ได้ตั้งแต่แรก เพราะสมุนแม่เลี้ยงดวงใจเต็มไปหมด เลิศเห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อสักครู่แล้วเข้าใจดี คุยกับเจ้าดำสองเรื่องแล้ววางสาย...
มึต่อครับ
..........รักซ้อน ซ่อนพิษ........ตอนที่ ๑๑..........@@ โดย ลุงแผน
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ ๑๑
...........เจ๊แตง กระโดดลงจากโขดหินวิ่งเข้าในป่า มีไม้ใหญ่น้อยขึ้นสลับกัน เป็นฉากกำบังตามธรรมชาติ ด้านนอกมองเข้ามาเห็นคนข้างในยาก ในขณะที่มองออกไปในที่โล่งจะเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน แปลกใจได้ยินเสียงปืนแว่ว ๆ ตั้งแต่เดินขึ้นเนินมาจากอีกด้าน ตอนแรกนึกว่า พี่เลิศยิงใคร แต่เสียงปืนหลายสิบนัดนั้น คงไม่ได้ยิงฝ่ายเดียว และไม่ใช่เหตุธรรมดาแน่นอน
มองสภาพบ้านจากตรงที่ยืนอยู่ตอนแรก นึกว่าคนอยู่ข้างในจะไม่รอดซะแล้ว หน้าต่างไม่มีชิ้นดี เศษไม้เศษกระจก เกลื่อนไปทั่วแปลกใจครั้งที่สอง เห็นเชิดยิงเจ้าคนข้างต้นสักกลิ้งลงไปข้างล่าง แต่ยังมีอีกสองคน เธอเห็นชัดเพราะเธอขึ้นมาจากด้านหลัง เลยซัดเข้า จนกระเด็นตกเนินไป เขาเอาปืนมาจากไหน และพี่เลิศก็อยู่ข้าง ๆ เจ๊แตงไม่เข้าใจภาพที่เห็น แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาคิด
เสียงปืนยังมีให้ได้ยิน เธอลัดเข้าป่า ค่อย ๆ ก้าวตามทางที่เคยเดินประจำ ตามองลงไปรอบ ๆ เห็นบ้านซึ่งอยู่ต่ำลงไปชัด และทันได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากในบ้าน สองนัดแทบเป็นเสียงเดียวกัน
“ปังปัง” เจ้าคนซุ่มอยู่เชิงเขาด้านหลังบ้าน กับคนอยู่ริมถนนดิน ด้านทิศเหนือหงายลงไป เจ๊แตงเห็น เชิด นั่งคุกเข่าอยู่กลางห้องกำลังเปลี่ยนแม็กกาซีนใหม่ พร้อมปลดเซฟให้ลูกเลื่อนวิ่งไปข้างหน้าดันกระสุนเข้าในรังเพลิง เสร็จแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเธอ พลางหลบเข้าข้างผนัง
เขาปลอดภัยดี มองเข้าไปเห็นหลังพี่เลิศอยู่อีกด้าน เจ๊แตงวิ่งต่ออีกนิดพอเห็นถนนดินชัด นั่งลงมองด้านล่างรอบ ๆ เยื้องไปทางซ้ายมือ เจ้าคนหนึ่งนั่งข้างเพื่อนที่นอนเหยียดยาวนิ่ง ตามองจ้องไปที่หน้าต่าง ซึ่งตอนนี้โล่งมองเห็นข้างในได้เกือบหมด มันค่อย ๆ ย่อตัวเดินช้า ๆ ย่องใกล้ตัวบ้านเข้าไป มือขวาจับปืนท่าเตรียมพร้อม ชูขึ้น มือซ้ายกำข้อมือที่ถือปืนไว้ ก้าวเข้าไปอีกนิด พอเห็นพี่เลิศที่ใต้หน้าต่างอีกด้าน ก็แสยะยิ้มพร้อมยกปืนขึ้นเล็ง
“ปัง” หน้าทิ่มลงไปไม่ทันร้อง น่าจะหมดแล้ว เจ๊แตงลด .38 สเปเชียลในมือลง ควันยังคงลอยออกมาจากปากกระบอกจาง ๆ มองเนินเขาที่ทอดยาวด้านขวามือเห็นชัดจนสุดเนิน ในบ้านตรงหน้า เลิศ และ เชิดมองมาที่เธอ เจ๊แตงหันไปทางถนนใหญ่ซ้ายมือไกล ๆ รถเก๋งสีขาวจอดอยู่หนึ่งคันแต่มองไม่เห็นคน ดูดีแล้วไม่มีใคร เธอวิ่งลงเนินไปที่ถนนดิน พอถึงตัวบ้านก้าวกระโดดข้ามช่องหน้าต่างเข้าไปอย่างเร็ว
“แตง” เลิศเอ่ยทักขึ้นก่อน ขณะเจ๊แตงลงนั่ง ข้าง ๆ เชิด
“เป็นไงมั่ง เชิด” เจ๊แตง ไม่แม้แต่ชำเลืองตามองหนุ่มใหญ่ เลิศ ยิ้มให้กับภาพตรงหน้า ลุกเดินช้า ๆ ไปที่ตู้ติดผนัง หยิบกล้องส่องทางไกลตัวเล็กออกมา ก้าวไปที่ประตู ส่องไปยังถนนใหญ่ไกลออกไปประมาณ ๑๐๐ เมตร ครั้งแรกตอนมาที่นี่เลี้ยวลงจากถนนก็เข้าหน้าบ้านได้เลย แต่เลิศคิดถึงงานที่เขาทำอยู่ เลยสำรวจเส้นทางใหม่
เลยไปอีก ๑๕๐ เมตร เจอทางเก่าเป็นทางดินเล็ก ๆ ลงจากถนนใหญ่แล้วโค้งไปมา จนถึงตัวบ้านทางด้านซ้าย เลิศจึงตัดต้นไม้ ทับทางที่ตรงเข้าบ้านเป็นช่วง ๆ แล้วปล่อยให้รกจนหมดสภาพเป็นทางมาหลายปี ทุกวันนี้รถขับเข้าบ้านต้องมาอย่างช้า ๆ เพราะรูปแบบถนนดินบังคับ
รถแม่เลี้ยงแน่นอน เลิศจำได้แม่นยำ แต่ไม่เห็นใครอยู่ใกล้ ๆ ที่ยิงกันสนั่นป่าเมื่อกี้ มีแต่ลิ่วล้อ เธออยู่ไหนนะ หนุ่มใหญ่คิดพลางส่องกล้องมองไปทีละจุดอย่างช้า ๆ
“แตงพาเชิดกลับก่อนนะ” เสียงแหวกความเงียบขึ้นมา เลิศ ลดกล้องลง เอี้ยวคอ มอง ยิ้มให้ แล้วเอ่ยเบา ๆ
“แล้วจะทิ้งพี่ไว้อย่างนี้เหรอ” น้ำเสียงหนุ่มใหญ่ สบาย ๆ เหมือนคุยเล่นกัน มากกว่าจริงจัง พลางหันกลับมาจ้องมองด้วยรอยยิ้มระบายเต็มหน้า
“เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่ เชิดเค้าไม่เกี่ยว แตงก็ไม่เกี่ยว และไม่อยากรับรู้ด้วย” เจ๊ลุกขึ้นยืน พยักหน้าให้ ชายหนุ่มลุกตาม เชิดลุกขึ้นอย่าง งง งง เดินเข้าไปส่งปืนให้หนุ่มใหญ่ เลิศ ยืนเฉยไม่ยื่นมือรับ
“จะว่าไปแล้ว เรื่องทั้งหมดเริ่มจากไอ้หนุ่มนี่แหละ ชื่อไรนะ เชิด” หนุ่มใหญ่พูดช้า ๆ ดันมือ ชายหนุ่มที่ถือปืนออกเบา ๆ เป็นทีว่าให้เก็บไว้ก่อน เจ๊แตงจ้องหน้าอย่างไม่พอใจ
“แตงไม่สนใจเรื่องของพี่ แต่ที่แตงข้องใจ พี่เลิศ ทำไมทำกับ อุ้ม ขนาดนั้น” เจ๊จ้องหน้า ตาไม่กระพริบ เชิด ได้ยินเข้าตกใจ คิดว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับอุ้มแน่นอน หันไปมองหนุ่มใหญ่ที่ส่ายหน้าช้า ๆ มองมาทางเชิด และแตง พร้อมยิ้มที่มุมปาก
“เด็กสองคนต้องขาดแม่ พี่รู้สึกอะไรมั้ย แตงจะพาเค้ากลับไป อย่างน้อย เด็กได้เห็นหน้าพ่อก็ยังดี”
เจ๊แตงกำปืนแน่น ตามองหนุ่มใหญ่ ไม่หลบสายตา อารมณ์แบบนี้ เชิดเพิ่งเคยเห็น และชายหนุ่มคิดลำดับเหตุการณ์ในใจ วันนี้ พี่เลิศ อยู่กับเขาตลอดเวลา
ตัวเลิศเอง ไม่เคยคิดจะให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับ อุ้ม เพียงแต่ต้องการให้แม่เลี้ยงดวงใจ ไปจนมุมที่นั่นเท่านั้น ถ้าจะถามว่าเขารู้หรือเปล่าว่าแม่เลี้ยงเป็นคนยังไง ต้องตอบว่ารู้อยู่เต็ม อก แต่ไม่คิดว่าจะเลยเถิดถึงขั้นนี้
“แตง..” หนุ่มใหญ่พูดได้แค่นั้น เวลาตรงหน้ามีน้อยกว่าจะเอ่ย บางสิ่งที่เก็บไว้นานปีออกมา และหลายอย่าง ยากจะแก้ไขให้เป็นดังเดิม
เจ๊แตง ยังคงมอง พี่เลิศตาไม่วาง มีแค่ประโยคเดียวที่ต้องการให้เขารับรู้ รอโอกาสเอ่ยออกมา
“พี่ตามหาแตงทั่ว” ในที่สุดหนุ่มใหญ่ก็พูดออก
“เหรอ แล้วทำไมไม่เจอ” เธอยิ้มเยาะ มันเลยจุดที่ต้องการคำนี้มานานแล้ว ความค้างคาใจ มีเพียงเขาไม่ได้บอกเลิกเธอ จากปากเท่านั้น
“พี่ทำทุกอย่างก็เพื่อแตงนะ” เลิศพูดถึงความคิดแรกที่เขาเข้าวงการ
“พอเหอะพี่ ไม่มีใครเค้ามีคนใหม่เพื่อใครหรอก” เจ๊แตงขยับเตรียมก้าวเดิน ชั่งใจกับประโยคที่จะเอ่ยออกไป เก็บไว้ มีแต่จะติดอยู่ข้างใน เสียงหนุ่มใหญ่ยังคงเอ่ยมา
“พี่ทำงาน เก็บเงินไว้เพื่อเรา ตอนนี้ถ้าเริ่มกันใหม่ พี่เลิกงานแบบนี้ได้นะแตง” เลิศเปิดเผยสิ่งที่ปิดมานานให้รับรู้ เชิด ยืนนิ่ง ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เขาทำใจไว้รอแล้ว
“มันสายไปแล้วพี่ แตงลืมพี่ ตั้งแต่วันแรกที่พี่ก้าวออกไปแล้ว” หม้ายสาวสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ แล้วปล่อยออกยาว หลังจากที่ได้พูดออกมา เลิศสะอึก มันทะลุใจ เข้าไปเหมือนหนามทิ่มแทง แต่เจ๊แตงตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น เจ็บแค่นี้ ไม่ได้ครึ่งเธอหรอก
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้พี่รู้ไว้ว่า พี่ กับแตง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน” พูดจบเธอก้าวเดิน ปล่อยหนุ่มใหญ่ยืนอึ้งอยู่
เลิศคิดถึงทางออก รถก็อยู่กับเจ้าเปี๊ยก ส่วนแตง ตอนนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ เขาจึงยืนนิ่ง มองสองคนเดินออกประตูหลังบ้านไปที่เนินเขา งานนี้เหลือคนเดียว ไม่เป็นไร หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว หนุ่มใหญ่คิดพลาง โทรหาเจ้าดำ ที่เข้ามาไม่ได้ตั้งแต่แรก เพราะสมุนแม่เลี้ยงดวงใจเต็มไปหมด เลิศเห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อสักครู่แล้วเข้าใจดี คุยกับเจ้าดำสองเรื่องแล้ววางสาย...
มึต่อครับ