เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่ที่ผมรู้จัก เเกชื่อพี่นะ เเกได้ดูเเลไร่ที่เป็นมรดกตกทอดจากย่าเเละสืบทอดมาจากพ่อ
จะขอสมมุตว่าชื่อคนในครอบครัวเเกตามนี้นะครับ
ครอบครัวพี่นะมีกันอยู่ 4คน
พ่อชื่อเชิด
เเม่เเกชื่อน้อย
น้องชื่อหนึ่ง
ผมใช้ภาษาคาราอาเกะ บางคํานะครับมันพิมตรงๆไม่ได้
Ming มง
Mang เเมง
Here เหย
Shiphai ชบหย
Sad สส
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นในปี 2555 จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ บ้านของพี่นะที่ได้มรดกตกทอดจากพ่อมาคือเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงอยู่ติดกับไร่ ก่อนหน้านั้นเคยเจอน้ำป่าท่วมมา แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม
ตีสามกว่าๆ เสียงน้ำไหลแรงมากจนพี่นะสะดุ้งตื่น "Here! อะไรวะ!" พอชะโงกหน้าดู น้ำป่าMangมาแล้ว น้ำไหลท่วมใต้ถุนบ้านล้นเข้ามาเรื่อยๆ "Shereเอ๊ย!" รีบคว้าเอกสารสำคัญแล้วบึ่งลงไปที่ไอ้จัมโบ้ รถกระบะยกสูงคันโปรดของพ่อ
"Mangเอ๊ย น้ำท่วมบ้านทั้งทีขอให้ไอ้จัมโบ้เอาอยู่ก็แล้วกัน!" พี่นะบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะรีบสตาร์ทรถถอยออกมา แล้วมุ่งหน้าไปทางเข้าหมู่บ้าน แต่พอถึงที่หมาย น้ำแรงมากขนาดรถกระบะยังผ่านไม่ได้
“โห่ Mangเอ๊ย! ทำไงดีวะ...” จึงรีบโทรหาแม่ “แม่ครับ วันนี้ผมจะกลับไปหาเเม่นะ ฝากบอกหนึ่งด้วย อาจถึงบ้านช้าหน่อย” หลังวางสายพี่นะตัดสินใจขับลุยน้ำไปทางท้ายหมู่บ้าน ก็คือทางท้ายหมู่บ้านสมัยก่อนมันเป็นทางที่พวกพรานที่มีอาคมเเกร่งกล้าเขาใช้เป็นทางลัดเลาะป่าเข้าสู่ตัวเมืองก่อนที่จะมีการตัดถนนผ่านภูเขา
พ่อพี่นะคอยเตือนว่า อย่าเข้าไปเด็ดขาด ใครที่เข้าไปเเล้วไม่มีวิชาอาคมเเกร่งกล้าเเล้วดันเข้าไป จะไม่มีวันได้กลับออกจากป่านั้นอีกเลย
เเม้เเต่พ่อของพี่นะก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เเกเราว่าตอนที่พ่อเเกบวชเป็นเณรใหม่ๆ เเกคอยรับใช้หลวงพ่อท่านนึงขณะเข้าไปหาสมุนไพรในป่าทางท้ายหมู่บ้าน
หลวงพ่อใช้ให้ไปตักนํ้าเเถวลําธาร เเกเห็นหญิงวัยกลางคนใส่ชุดสีดํา เนื้อตัวขาวซีด ผมยาวประบ่า กําลังอาบนํ้า เเกตกตะลึงในความสวย จนผู้หญิงคนนั้นหันมาสบตาเข้าพอดี ผู้หญิงคนนั้นยิ้มออกมาเป็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวจนน่าขนลุก พอกะพริบตาอีกที ผู้หญิงคนนั้นก็มาโผล่ตรงหน้า ถูกลิ้นของผู้หญิงคนนั้นเลียไปที่เเก้ม ลิ้นที่โดนเข้ากับใบหน้านั้นสากเหมือนกับกระดาษทรายยังไงหยั่งงั้นนั้นจนเเกเซหงายหลังล้มลง พอฟื้นอีกทีก็มาอยู่ในบ่อนํ้าสมุนไพร่ที่เต็มไปด้วยว่านต่างๆเเล้ว หลวงพ่อท่านเข้ามาบอกว่า ให้เอ็งเเช่จนตะวันสาดเเสงลอดผ่านช่องของถํ้านี้เมื่อไหร่ ให้กินยาสมุนไพร เเล้วขึ้นไปนั่งสมาธิบนหินก้อนนี้ที่มีเถาวัลย์เลื้อยอยู่รอบๆ หากมีเสียงเรียก เสียงต่างๆอย่าทัก เเละห้ามลงมาจนกว่าจะได้ยินเสียงระฆัง เอ็งถึงจะพ้นเคราะห์นี้ไปได้ พอจําคําหลวงพ่อไว้ขึ้นใจ
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าใด มีเสียงตะโกนว่า ช่วยด้วย ช่วยด้วย หลวงพ่อเข้ามาด้วยอาการไม่สู้ดีมือกุมท้อง ปากบอกว่า ไอ้ผีร้ายชุดดำทำร้ายอาตมา
เอ็งรีบลงจากหิน พิธีมันเสร็จแล้วรีบช่วยอาตมาโดยเร็ว แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาลงจากก้อนหิน ก็ฉุกคิดขึ้นได้ ยังไม่มีเสียงของระฆังดังขึ้น
พอไตร่ตรองได้ว่ามันเป็นแผนล่อลวงที่จะทำให้พิธีไม่สำเร็จ จึงข่มตานั่งสมาธิจนเสียงระฆังดังขึ้น ค่อยก้าวเท้าลงมาประจวบเหมาะกับหลวงพ่อเดินเข้ามาพอดี
หลวงพ่อเล่าว่าผีร้ายตนนี้ร้ายกาจยิ่งนัก อาตมาเห็นเณรไปตักนํ้าอยู่นาน ไม่มาสักทีพอพบตัวเอ็งเข้าอีกทีก็นอนชักตาเหลือก กว่าจะช่วยเอ็งได้เเทบเเย่ เณรยังไม่ทันได้กล่าวขอบคุณก็อ้วกมามีเเต่โคลนเต็มพื้นถํ้าไปหมด หลวงพ่อก็บริกรรมคาถาเเล้วให้เณรเก็บของไม่ดีนั้นไปฝังไว้สักที่ในป่า ที่พ่อพี่นะเล่ามาก็มีเเค่นี้
“พ่อเคยบอกแล้วว่าห้ามเข้าไป แต่จะทำไงได้วะ” พี่นะพึมพำกับตัวเองระหว่างขับขึ้นเขาลัดเลาะไปตามทางในป่าทึบ ฝนตกหนักทั้งคืน ถนนแม่งกลายเป็นดินโคลนไปหมด
พอเข้าไปไม่กี่กิโลเมตร รถดันติดหล่ม “Shere! Shiphaiแล้ว!” รีบลงจากรถไปตัดไม้มาหนุนใต้ล้อรถ เสียงหมาหอนดังขึ้นตามลม "หมาHereอะไรมาหอนตอนนี้วะ เสียงพึมพำของพี่นะเต็มไปด้วยความเครียด
พอขับรถหลุดจากหล่มได้ อยู่ดีๆ ก็มีเงาบางอย่างวิ่งตัดหน้ารถ พี่นะเบรกกระทันหันเกือบหัวทิ่ม "ไอ้Hereนี่ วิ่งมาจากไหนวะ!" แต่พอส่องกระจก กลับไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น
ไม่นานก็เห็นหมาตัวหนึ่งมายืนขวางหน้า มันคือ “ไอ้ทอง” หมาที่พ่อเคยเลี้ยงไว้ แต่หายไปหลายวันแล้ว “ไอ้Hereเอ๊ย Mingไปไหนมา!” พี่นะอุทานออกมา ก่อนจะเปิดประตูให้มันขึ้นมานั่งในรถ "Mingนั่งข้างๆ กู อย่าทำอะไรแปลกๆ ล่ะ"
ขับไปเรื่อยๆ ในป่ามืดทึบ พี่นะสังเกตเห็นสองข้างทางมีดอกไม้สีแดงขึ้นตามรากต้นไม้ “Mang ทำไมแปลกๆ วะ?” จู่ๆ ไอ้ทองก็เริ่มหอนอย่างบ้าคลั่ง พี่นะมองผ่านกระจกหลัง เห็นผู้หญิงยืนยิ้มให้กลางป่า “Here! คนเหรอวะ!” หันกลับมาดูอีกรอบก็ไม่เจออะไร
"Mangไม่ใช่คนแน่ๆ!" รีบเหยียบคันเร่งเต็มที่ แต่ดวงตาขาวโพลนปรากฏในกระจกมองหลัง พี่นะตกใจจนหักพวงมาลัย รถลื่นไถลชนเข้ากับอะไรบางอย่าง
ความมืดกลืนกินสติจนพี่นะหมดสติไป
พอตื่นขึ้นมา รีบเช็คว่ารถยังสตาร์ทติดอยู่ไหม สตาร์ทรถได้จึงขับออกมาจนเจอถนน เห็นหลังคาบ้านไกลๆ จึงขับเข้าไปถามทางจากลุงแก่ๆ ที่นั่งสานแหอยู่หน้าบ้าน
“ลุงครับ ถ้าจะเข้าเมืองไปทางไหนครับ?” ลุงตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ตรงไปก่อนจะข้ามสะพาน เลี้ยวขวา แล้วตรงไปจนสุด จำไว้นะ อย่าข้ามสะพาน”
“ขอบคุณครับลุง” พี่นะยกมือไหว้แล้วรีบขับต่อ แต่ในใจยังหวิวๆ “Mangยังไงวะ ทำไมรู้สึกแปลกๆ”
พอใกล้จะถึงหมู่บ้าน ได้ยินเสียงประชาสัมพันธ์จากวัด "ขับมาทั้งคืนเหนื่อยShiphai หาอะไรกินก่อนแล้วกัน" จึงเลี้ยวเข้าไปในวัด เห็นโรงทานมีของกินเพียบ
"เออ กินอะไรรองท้องหน่อยละกัน"
ขณะที่พี่นะกำลังถือผัดไทยกับน้ำใบเตย เดินไปนั่งใต้ต้นไม้ เห็นผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่นสีน้ำเงิน ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา "เอ้า ผู้หญิงคนนี้เป็นไรเนี่ย?" พี่นะเข้าไปถาม “เป็นอะไรครับพี่?”
เธอตอบเสียงสั่น "ฉันพึ่งจะเสียคนรักไป..." พี่นะยื่นน้ำใบเตยให้ "ดื่มหน่อยนะพี่ ใจเย็นๆ" แต่พอเธอยิ้มให้
เธอเข้ามากอดพี่นะเอาหน้าซุกไปที่อกของพี่นะจนเเน่น "พาฉันไปด้วยนะ สัญญาสิว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป" น้ำเสียงของเธอค่อยๆ เปลี่ยนไป พี่นะพยายามผลักเธอออก แต่เธอกลับรัดแน่นจนพี่นะหายใจไม่ออก
พี่นะผลักเธอเต็มแรง แต่ใบหน้าของเธอกลับบิดเบี้ยว ดวงตาขาวโพลน เหมือนกับผู้หญิงชุดดําที่เจอในป่า “Hereเอ๊ย! ปล่อยกู!” พี่นะตกใจอย่างสุดขีดเอาหัวโขกหน้าผากเธอเข้าอย่างจัง
ทันใดนั้น ภาพทุกอย่างค่อยๆ ย้อนกลับมา พี่นะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างวิ่งผ่านสมอง ก่อนที่จะรู้สึกตัวอีกที พบว่าตัวเองอยู่บนรถ เหงื่อแตกพลั่ก
ขณะที่พยายามตั้งสติ "Mangกลิ่นHereอะไรวะเหม็นShiphai!" เห็นเนินดินขนาดใหญ่มีดอกไม้สีแดงบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นเหม็นอย่างกับมีหมาเน่าตายอยู่ข้างๆ ใจเริ่มหวิว สายตาพร่ามัว หน้ามืดขึ้นเรื่อยๆหายใจไม่ค่อยออก ตะเกียกตะกาย
เหมือนจะหลับได้ทุกชั่วขณะ ตะเกียกตะกายคว้าคันโยกประตูรถเพื่อเปิดออก ร่างร่วงหล่นลงจากรถหน้าเปื้อนโคลนเต็มไปหมด พอหันกลับไปมองที่รถ
เห็นไอ้ทองนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับจ้องตัวเองตาเป็นมัน มันค่อยๆชักดิ้นชักงอร้องโหยหวนอยู่ต่อหน้า จนมีมือค่อยๆเเหกเพดานปากเเละขากรรไกรล่างมันจนปากฉีกอย่างสยดสยอง ร่างๆนึงค่อยโผล่ออกมา พอเห็นอย่างนี้ก็ตะเกียกตะกายล้มลุกคลุกคลานสุดชีวิต "กูไปทําอะไรให้Mingวะ อีผีบ้า" พี่นะวิ่งหนีอย่างกับคนเสียสติ บางสิ่งบางอย่างที่ออกมานั้นติดตามมาอย่างรวดเร็วต้นไม้ใหญ่ที่มันพุ่งผ่านล้มระเนระนาด ห่างอีกเอื้อมมือต้นไม้ใหญ่ที่ล้มก็เกือบทับร่างฝังกลบไว้ณป่าเเห่งนี้เเล้ว
อยู่ดีๆมีเสียงระฆังดังขึ้น ผีร้ายกรีดร้องสุดเสียง ปัง ปัง ปัง ปัง มันถูกกระสุนอาคมของพระหนุ่มเข้าอย่างจังหลายนัด จนร่างค่อยๆสลายกลายเป็นโคลน
ก่อนที่มันจะหนีไป มันทิ้งท้ายไว้ว่า "ไอ้พระHereMingอยากตายเหมือนพี่Mingมากนักใช่ไหม สักวันกูจะกลับมาเอาคืนพวกMingเเน่" พระหนุ่มเข้ามาดูอาการของ
พี่นะเเล้วกล่าวว่าไอ้ผีร้ายตนนี้มันถูกอาตมาตามล่าตั้งเเต่ 10 ปีที่เเล้ว
มันบาดเจ็บจากการปะมือครั้งก่อน เเต่ศึกนั้นศิษย์ผู้พี่ร่วมสํานักถูกมันลอบทําร้ายจนถึงคราต้องมรณภาพไป สิ่งที่โยมควรทําตอนนี้คือ
ไปให้ไกลจากป่าเเห่งนี้เเละอย่ากลับมาที่นี้อีก นี้เป็นคําพูดสุดท้ายจากปากของพระหนุ่ม.
หลังจากที่พี่นะรอดจากป่าทางท้ายหมู่บ้านมาได้ตลอดระยะเวลา10ปีที่ออกจากป่ามาได้ ก็กลับมาอยู่กับแม่นิดและน้องหนึ่งตามปกติ แต่ในใจพี่นะมันไม่เคยปกติเลยซักวัน ทุกคืนฝันร้าย เห็นผู้หญิงชุดดําคนนั้นตามมาหลอกหลอน ขู่เอาชีวิตตลอดเวลา จนบางคืน พี่นะต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกทุกคืน "มันเป็นแค่ฝัน... มันไม่ใช่เรื่องจริง"
แต่ในใจกลับหวั่นวิตกตลอดเวลา
วันนั้นพี่นะตกเย็นก็กลับมาที่บ้านจากที่ทํางานตามปกติ เห็นแม่กับหนึ่งนั่งคุยกันอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน “แม่ หนึ่งเป็นไงบ้างครับ สบายดีไหมช่วงนี้” พี่นะถามพลางนั่งลง แต่ทันทีที่พี่นะนั่งลง แม่กลับมองหน้าแปลกๆ
“แม่ฝันถึงคนคนหนึ่ง” แม่พูดเบาๆ
พี่นะใจหล่นวูบ "แม่หมายถึงใคร?"เสียงพี่นะตะโกนลั่นจนเเม่ตกใจ
“ผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่นสีน้ำเงิน...” แม่พูดด้วยเสียงเบา หนึ่งที่นั่งข้างๆก็งง
“แม่ล้อเล่นหรือเปล่า?” พี่นะรีบถามด้วยความตื่นตัว “มันจะกลับมาได้ไงวะ เรื่องที่กูเจอในป่าก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยตั้งเเต่วันที่ออกมา!”
“ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านเเม่ฝันเห็นว่าเป็นผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่นสีนํ้าเงินถามหานะทุกคืน” แม่บอก “
ความเงียบเข้าปกคลุม นะสีเต็มไปด้วยความเครียด แต่ท้องฟ้าครึ้มฟ้าครึ้มฝนเหมือนฝนกำลังจะตก เสียงลมหวีดหวิวเข้ามาจากนอกบ้าน พี่นะหันมองหนึ่ง หนึ่งพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ “พี่บอกหนึ่งได้นะถ้ามีอะไรจะบอก ?”
พี่นะ “พี่เเค่เครียดกับเรื่องงาน ไม่มีอะไรหรอก”
แต่พอพูดไม่ทันจบ เสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังลั่นมาจากในป่า "เฮ้ย! พี่นะตะโกน “แม่! เก็บของเร็ว เราต้องรีบออกจากบ้านก่อนเดี๋ยวนะเล่าทีหลัง!”
ทันใดนั้นไฟในบ้านดับพรึ่บ “ซวยละ ไฟดับ!” พอเป็นเช่นนั้นพี่นะพาเเม่เเละหนึ่งวิ่งออกไปที่รถ พี่นะรีบสตาร์ทรถ แต่Mangไม่ติด “ไอ้Sad! ไฟรถก็ไม่ติดอีก!”
เสียงกรีดร้องยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาทุกที เสียงลมหวีดหวิวกลายเป็นเสียงหัวเราะของผู้หญิงที่ชัดเจนขึ้น “ฮิฮิฮิฮิ... กูมาแล้ว”
“Hereละ! มันตามมาเเล้ว” พี่นะสบถหนัก
แล้วอยู่ดีๆ เงาร่างของผู้หญิงชุดดําก็โผล่ขึ้นข้างหน้ารถ ยืนยิ้มให้พี่นะ “สวัสดี... กูเจอMingเเล้วนะ” เสียงเธอชัดเจนเจือด้วยความสยอง
"ไอ้Sad! Mingอย่าเข้ามาอีผีบ้า!" พี่นะตะโกนลั่น รีบไปหยิบลูกซองที่มีกระสุนลงอาคมที่วางซ่อนไว้ในรถ ปัง ปัง ปัง
พี่นะยิงลูกซองออกมาจนกระจกหน้ารถเเตก ร่างของผู้หญิงชุดดําก็เลือนหายไปแล้ว เหลือเพียงเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ “กูจะเอาคืนพวกMingให้ทรมาณอย่างสาสม... สาสม!”
พี่นะหมดความอดทนสบถออกมา “ไอ้ผีHere กูไม่ยอมให้Mingทำอะไรครอบครัวกูได้หรอก” แล้วรีบขับรถพาเเม่เเละหนึ่งไปบ้านพรานในหมู่บ้าน
ชื่อพรานเพียร คนในหมู่บ้านรู้ถึงดีถึงกิตติศัพท์ว่ามีอาคมกล้าแกร่งไม่น้อยหน้าใคร
“ลุงเพียร! ช่วยผมที มันเจอผมแล้ว! มันจะเอาแม่เเละหนึ่งไป!”
พรานเพียรยิ้มมุมปาก "กูรู้ว่ามันจะกลับมา... เเละกูก็รู้ว่าMingจะเป็นคนมาหากูเอง กูรอวันนี้มานานแล้ว"
พี่นะสงสัย “ ลุงผมมาขอให้ช่วย ช่วยกําจัดมันได้ไหมผมขอละลุงเพียร!”
พรานเพียรพูดช้าๆ ก่อนจะหยิบเอากริชโบราณออกมาจากถุงหนังเก่าๆ
ทางฝนตก กระทู้ผี เรื่องเล่าสยองขวัญ
จะขอสมมุตว่าชื่อคนในครอบครัวเเกตามนี้นะครับ
ครอบครัวพี่นะมีกันอยู่ 4คน
พ่อชื่อเชิด
เเม่เเกชื่อน้อย
น้องชื่อหนึ่ง
ผมใช้ภาษาคาราอาเกะ บางคํานะครับมันพิมตรงๆไม่ได้
Ming มง
Mang เเมง
Here เหย
Shiphai ชบหย
Sad สส
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นในปี 2555 จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ บ้านของพี่นะที่ได้มรดกตกทอดจากพ่อมาคือเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงอยู่ติดกับไร่ ก่อนหน้านั้นเคยเจอน้ำป่าท่วมมา แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม
ตีสามกว่าๆ เสียงน้ำไหลแรงมากจนพี่นะสะดุ้งตื่น "Here! อะไรวะ!" พอชะโงกหน้าดู น้ำป่าMangมาแล้ว น้ำไหลท่วมใต้ถุนบ้านล้นเข้ามาเรื่อยๆ "Shereเอ๊ย!" รีบคว้าเอกสารสำคัญแล้วบึ่งลงไปที่ไอ้จัมโบ้ รถกระบะยกสูงคันโปรดของพ่อ
"Mangเอ๊ย น้ำท่วมบ้านทั้งทีขอให้ไอ้จัมโบ้เอาอยู่ก็แล้วกัน!" พี่นะบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะรีบสตาร์ทรถถอยออกมา แล้วมุ่งหน้าไปทางเข้าหมู่บ้าน แต่พอถึงที่หมาย น้ำแรงมากขนาดรถกระบะยังผ่านไม่ได้
“โห่ Mangเอ๊ย! ทำไงดีวะ...” จึงรีบโทรหาแม่ “แม่ครับ วันนี้ผมจะกลับไปหาเเม่นะ ฝากบอกหนึ่งด้วย อาจถึงบ้านช้าหน่อย” หลังวางสายพี่นะตัดสินใจขับลุยน้ำไปทางท้ายหมู่บ้าน ก็คือทางท้ายหมู่บ้านสมัยก่อนมันเป็นทางที่พวกพรานที่มีอาคมเเกร่งกล้าเขาใช้เป็นทางลัดเลาะป่าเข้าสู่ตัวเมืองก่อนที่จะมีการตัดถนนผ่านภูเขา
พ่อพี่นะคอยเตือนว่า อย่าเข้าไปเด็ดขาด ใครที่เข้าไปเเล้วไม่มีวิชาอาคมเเกร่งกล้าเเล้วดันเข้าไป จะไม่มีวันได้กลับออกจากป่านั้นอีกเลย
เเม้เเต่พ่อของพี่นะก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เเกเราว่าตอนที่พ่อเเกบวชเป็นเณรใหม่ๆ เเกคอยรับใช้หลวงพ่อท่านนึงขณะเข้าไปหาสมุนไพรในป่าทางท้ายหมู่บ้าน
หลวงพ่อใช้ให้ไปตักนํ้าเเถวลําธาร เเกเห็นหญิงวัยกลางคนใส่ชุดสีดํา เนื้อตัวขาวซีด ผมยาวประบ่า กําลังอาบนํ้า เเกตกตะลึงในความสวย จนผู้หญิงคนนั้นหันมาสบตาเข้าพอดี ผู้หญิงคนนั้นยิ้มออกมาเป็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวจนน่าขนลุก พอกะพริบตาอีกที ผู้หญิงคนนั้นก็มาโผล่ตรงหน้า ถูกลิ้นของผู้หญิงคนนั้นเลียไปที่เเก้ม ลิ้นที่โดนเข้ากับใบหน้านั้นสากเหมือนกับกระดาษทรายยังไงหยั่งงั้นนั้นจนเเกเซหงายหลังล้มลง พอฟื้นอีกทีก็มาอยู่ในบ่อนํ้าสมุนไพร่ที่เต็มไปด้วยว่านต่างๆเเล้ว หลวงพ่อท่านเข้ามาบอกว่า ให้เอ็งเเช่จนตะวันสาดเเสงลอดผ่านช่องของถํ้านี้เมื่อไหร่ ให้กินยาสมุนไพร เเล้วขึ้นไปนั่งสมาธิบนหินก้อนนี้ที่มีเถาวัลย์เลื้อยอยู่รอบๆ หากมีเสียงเรียก เสียงต่างๆอย่าทัก เเละห้ามลงมาจนกว่าจะได้ยินเสียงระฆัง เอ็งถึงจะพ้นเคราะห์นี้ไปได้ พอจําคําหลวงพ่อไว้ขึ้นใจ
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าใด มีเสียงตะโกนว่า ช่วยด้วย ช่วยด้วย หลวงพ่อเข้ามาด้วยอาการไม่สู้ดีมือกุมท้อง ปากบอกว่า ไอ้ผีร้ายชุดดำทำร้ายอาตมา
เอ็งรีบลงจากหิน พิธีมันเสร็จแล้วรีบช่วยอาตมาโดยเร็ว แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาลงจากก้อนหิน ก็ฉุกคิดขึ้นได้ ยังไม่มีเสียงของระฆังดังขึ้น
พอไตร่ตรองได้ว่ามันเป็นแผนล่อลวงที่จะทำให้พิธีไม่สำเร็จ จึงข่มตานั่งสมาธิจนเสียงระฆังดังขึ้น ค่อยก้าวเท้าลงมาประจวบเหมาะกับหลวงพ่อเดินเข้ามาพอดี
หลวงพ่อเล่าว่าผีร้ายตนนี้ร้ายกาจยิ่งนัก อาตมาเห็นเณรไปตักนํ้าอยู่นาน ไม่มาสักทีพอพบตัวเอ็งเข้าอีกทีก็นอนชักตาเหลือก กว่าจะช่วยเอ็งได้เเทบเเย่ เณรยังไม่ทันได้กล่าวขอบคุณก็อ้วกมามีเเต่โคลนเต็มพื้นถํ้าไปหมด หลวงพ่อก็บริกรรมคาถาเเล้วให้เณรเก็บของไม่ดีนั้นไปฝังไว้สักที่ในป่า ที่พ่อพี่นะเล่ามาก็มีเเค่นี้
“พ่อเคยบอกแล้วว่าห้ามเข้าไป แต่จะทำไงได้วะ” พี่นะพึมพำกับตัวเองระหว่างขับขึ้นเขาลัดเลาะไปตามทางในป่าทึบ ฝนตกหนักทั้งคืน ถนนแม่งกลายเป็นดินโคลนไปหมด
พอเข้าไปไม่กี่กิโลเมตร รถดันติดหล่ม “Shere! Shiphaiแล้ว!” รีบลงจากรถไปตัดไม้มาหนุนใต้ล้อรถ เสียงหมาหอนดังขึ้นตามลม "หมาHereอะไรมาหอนตอนนี้วะ เสียงพึมพำของพี่นะเต็มไปด้วยความเครียด
พอขับรถหลุดจากหล่มได้ อยู่ดีๆ ก็มีเงาบางอย่างวิ่งตัดหน้ารถ พี่นะเบรกกระทันหันเกือบหัวทิ่ม "ไอ้Hereนี่ วิ่งมาจากไหนวะ!" แต่พอส่องกระจก กลับไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น
ไม่นานก็เห็นหมาตัวหนึ่งมายืนขวางหน้า มันคือ “ไอ้ทอง” หมาที่พ่อเคยเลี้ยงไว้ แต่หายไปหลายวันแล้ว “ไอ้Hereเอ๊ย Mingไปไหนมา!” พี่นะอุทานออกมา ก่อนจะเปิดประตูให้มันขึ้นมานั่งในรถ "Mingนั่งข้างๆ กู อย่าทำอะไรแปลกๆ ล่ะ"
ขับไปเรื่อยๆ ในป่ามืดทึบ พี่นะสังเกตเห็นสองข้างทางมีดอกไม้สีแดงขึ้นตามรากต้นไม้ “Mang ทำไมแปลกๆ วะ?” จู่ๆ ไอ้ทองก็เริ่มหอนอย่างบ้าคลั่ง พี่นะมองผ่านกระจกหลัง เห็นผู้หญิงยืนยิ้มให้กลางป่า “Here! คนเหรอวะ!” หันกลับมาดูอีกรอบก็ไม่เจออะไร
"Mangไม่ใช่คนแน่ๆ!" รีบเหยียบคันเร่งเต็มที่ แต่ดวงตาขาวโพลนปรากฏในกระจกมองหลัง พี่นะตกใจจนหักพวงมาลัย รถลื่นไถลชนเข้ากับอะไรบางอย่าง
ความมืดกลืนกินสติจนพี่นะหมดสติไป
พอตื่นขึ้นมา รีบเช็คว่ารถยังสตาร์ทติดอยู่ไหม สตาร์ทรถได้จึงขับออกมาจนเจอถนน เห็นหลังคาบ้านไกลๆ จึงขับเข้าไปถามทางจากลุงแก่ๆ ที่นั่งสานแหอยู่หน้าบ้าน
“ลุงครับ ถ้าจะเข้าเมืองไปทางไหนครับ?” ลุงตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ตรงไปก่อนจะข้ามสะพาน เลี้ยวขวา แล้วตรงไปจนสุด จำไว้นะ อย่าข้ามสะพาน”
“ขอบคุณครับลุง” พี่นะยกมือไหว้แล้วรีบขับต่อ แต่ในใจยังหวิวๆ “Mangยังไงวะ ทำไมรู้สึกแปลกๆ”
พอใกล้จะถึงหมู่บ้าน ได้ยินเสียงประชาสัมพันธ์จากวัด "ขับมาทั้งคืนเหนื่อยShiphai หาอะไรกินก่อนแล้วกัน" จึงเลี้ยวเข้าไปในวัด เห็นโรงทานมีของกินเพียบ
"เออ กินอะไรรองท้องหน่อยละกัน"
ขณะที่พี่นะกำลังถือผัดไทยกับน้ำใบเตย เดินไปนั่งใต้ต้นไม้ เห็นผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่นสีน้ำเงิน ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา "เอ้า ผู้หญิงคนนี้เป็นไรเนี่ย?" พี่นะเข้าไปถาม “เป็นอะไรครับพี่?”
เธอตอบเสียงสั่น "ฉันพึ่งจะเสียคนรักไป..." พี่นะยื่นน้ำใบเตยให้ "ดื่มหน่อยนะพี่ ใจเย็นๆ" แต่พอเธอยิ้มให้
เธอเข้ามากอดพี่นะเอาหน้าซุกไปที่อกของพี่นะจนเเน่น "พาฉันไปด้วยนะ สัญญาสิว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป" น้ำเสียงของเธอค่อยๆ เปลี่ยนไป พี่นะพยายามผลักเธอออก แต่เธอกลับรัดแน่นจนพี่นะหายใจไม่ออก
พี่นะผลักเธอเต็มแรง แต่ใบหน้าของเธอกลับบิดเบี้ยว ดวงตาขาวโพลน เหมือนกับผู้หญิงชุดดําที่เจอในป่า “Hereเอ๊ย! ปล่อยกู!” พี่นะตกใจอย่างสุดขีดเอาหัวโขกหน้าผากเธอเข้าอย่างจัง
ทันใดนั้น ภาพทุกอย่างค่อยๆ ย้อนกลับมา พี่นะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างวิ่งผ่านสมอง ก่อนที่จะรู้สึกตัวอีกที พบว่าตัวเองอยู่บนรถ เหงื่อแตกพลั่ก
ขณะที่พยายามตั้งสติ "Mangกลิ่นHereอะไรวะเหม็นShiphai!" เห็นเนินดินขนาดใหญ่มีดอกไม้สีแดงบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นเหม็นอย่างกับมีหมาเน่าตายอยู่ข้างๆ ใจเริ่มหวิว สายตาพร่ามัว หน้ามืดขึ้นเรื่อยๆหายใจไม่ค่อยออก ตะเกียกตะกาย
เหมือนจะหลับได้ทุกชั่วขณะ ตะเกียกตะกายคว้าคันโยกประตูรถเพื่อเปิดออก ร่างร่วงหล่นลงจากรถหน้าเปื้อนโคลนเต็มไปหมด พอหันกลับไปมองที่รถ
เห็นไอ้ทองนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับจ้องตัวเองตาเป็นมัน มันค่อยๆชักดิ้นชักงอร้องโหยหวนอยู่ต่อหน้า จนมีมือค่อยๆเเหกเพดานปากเเละขากรรไกรล่างมันจนปากฉีกอย่างสยดสยอง ร่างๆนึงค่อยโผล่ออกมา พอเห็นอย่างนี้ก็ตะเกียกตะกายล้มลุกคลุกคลานสุดชีวิต "กูไปทําอะไรให้Mingวะ อีผีบ้า" พี่นะวิ่งหนีอย่างกับคนเสียสติ บางสิ่งบางอย่างที่ออกมานั้นติดตามมาอย่างรวดเร็วต้นไม้ใหญ่ที่มันพุ่งผ่านล้มระเนระนาด ห่างอีกเอื้อมมือต้นไม้ใหญ่ที่ล้มก็เกือบทับร่างฝังกลบไว้ณป่าเเห่งนี้เเล้ว
อยู่ดีๆมีเสียงระฆังดังขึ้น ผีร้ายกรีดร้องสุดเสียง ปัง ปัง ปัง ปัง มันถูกกระสุนอาคมของพระหนุ่มเข้าอย่างจังหลายนัด จนร่างค่อยๆสลายกลายเป็นโคลน
ก่อนที่มันจะหนีไป มันทิ้งท้ายไว้ว่า "ไอ้พระHereMingอยากตายเหมือนพี่Mingมากนักใช่ไหม สักวันกูจะกลับมาเอาคืนพวกMingเเน่" พระหนุ่มเข้ามาดูอาการของ
พี่นะเเล้วกล่าวว่าไอ้ผีร้ายตนนี้มันถูกอาตมาตามล่าตั้งเเต่ 10 ปีที่เเล้ว
มันบาดเจ็บจากการปะมือครั้งก่อน เเต่ศึกนั้นศิษย์ผู้พี่ร่วมสํานักถูกมันลอบทําร้ายจนถึงคราต้องมรณภาพไป สิ่งที่โยมควรทําตอนนี้คือ
ไปให้ไกลจากป่าเเห่งนี้เเละอย่ากลับมาที่นี้อีก นี้เป็นคําพูดสุดท้ายจากปากของพระหนุ่ม.
หลังจากที่พี่นะรอดจากป่าทางท้ายหมู่บ้านมาได้ตลอดระยะเวลา10ปีที่ออกจากป่ามาได้ ก็กลับมาอยู่กับแม่นิดและน้องหนึ่งตามปกติ แต่ในใจพี่นะมันไม่เคยปกติเลยซักวัน ทุกคืนฝันร้าย เห็นผู้หญิงชุดดําคนนั้นตามมาหลอกหลอน ขู่เอาชีวิตตลอดเวลา จนบางคืน พี่นะต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกทุกคืน "มันเป็นแค่ฝัน... มันไม่ใช่เรื่องจริง"
แต่ในใจกลับหวั่นวิตกตลอดเวลา
วันนั้นพี่นะตกเย็นก็กลับมาที่บ้านจากที่ทํางานตามปกติ เห็นแม่กับหนึ่งนั่งคุยกันอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน “แม่ หนึ่งเป็นไงบ้างครับ สบายดีไหมช่วงนี้” พี่นะถามพลางนั่งลง แต่ทันทีที่พี่นะนั่งลง แม่กลับมองหน้าแปลกๆ
“แม่ฝันถึงคนคนหนึ่ง” แม่พูดเบาๆ
พี่นะใจหล่นวูบ "แม่หมายถึงใคร?"เสียงพี่นะตะโกนลั่นจนเเม่ตกใจ
“ผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่นสีน้ำเงิน...” แม่พูดด้วยเสียงเบา หนึ่งที่นั่งข้างๆก็งง
“แม่ล้อเล่นหรือเปล่า?” พี่นะรีบถามด้วยความตื่นตัว “มันจะกลับมาได้ไงวะ เรื่องที่กูเจอในป่าก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยตั้งเเต่วันที่ออกมา!”
“ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านเเม่ฝันเห็นว่าเป็นผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่นสีนํ้าเงินถามหานะทุกคืน” แม่บอก “
ความเงียบเข้าปกคลุม นะสีเต็มไปด้วยความเครียด แต่ท้องฟ้าครึ้มฟ้าครึ้มฝนเหมือนฝนกำลังจะตก เสียงลมหวีดหวิวเข้ามาจากนอกบ้าน พี่นะหันมองหนึ่ง หนึ่งพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ “พี่บอกหนึ่งได้นะถ้ามีอะไรจะบอก ?”
พี่นะ “พี่เเค่เครียดกับเรื่องงาน ไม่มีอะไรหรอก”
แต่พอพูดไม่ทันจบ เสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังลั่นมาจากในป่า "เฮ้ย! พี่นะตะโกน “แม่! เก็บของเร็ว เราต้องรีบออกจากบ้านก่อนเดี๋ยวนะเล่าทีหลัง!”
ทันใดนั้นไฟในบ้านดับพรึ่บ “ซวยละ ไฟดับ!” พอเป็นเช่นนั้นพี่นะพาเเม่เเละหนึ่งวิ่งออกไปที่รถ พี่นะรีบสตาร์ทรถ แต่Mangไม่ติด “ไอ้Sad! ไฟรถก็ไม่ติดอีก!”
เสียงกรีดร้องยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาทุกที เสียงลมหวีดหวิวกลายเป็นเสียงหัวเราะของผู้หญิงที่ชัดเจนขึ้น “ฮิฮิฮิฮิ... กูมาแล้ว”
“Hereละ! มันตามมาเเล้ว” พี่นะสบถหนัก
แล้วอยู่ดีๆ เงาร่างของผู้หญิงชุดดําก็โผล่ขึ้นข้างหน้ารถ ยืนยิ้มให้พี่นะ “สวัสดี... กูเจอMingเเล้วนะ” เสียงเธอชัดเจนเจือด้วยความสยอง
"ไอ้Sad! Mingอย่าเข้ามาอีผีบ้า!" พี่นะตะโกนลั่น รีบไปหยิบลูกซองที่มีกระสุนลงอาคมที่วางซ่อนไว้ในรถ ปัง ปัง ปัง
พี่นะยิงลูกซองออกมาจนกระจกหน้ารถเเตก ร่างของผู้หญิงชุดดําก็เลือนหายไปแล้ว เหลือเพียงเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ “กูจะเอาคืนพวกMingให้ทรมาณอย่างสาสม... สาสม!”
พี่นะหมดความอดทนสบถออกมา “ไอ้ผีHere กูไม่ยอมให้Mingทำอะไรครอบครัวกูได้หรอก” แล้วรีบขับรถพาเเม่เเละหนึ่งไปบ้านพรานในหมู่บ้าน
ชื่อพรานเพียร คนในหมู่บ้านรู้ถึงดีถึงกิตติศัพท์ว่ามีอาคมกล้าแกร่งไม่น้อยหน้าใคร
“ลุงเพียร! ช่วยผมที มันเจอผมแล้ว! มันจะเอาแม่เเละหนึ่งไป!”
พรานเพียรยิ้มมุมปาก "กูรู้ว่ามันจะกลับมา... เเละกูก็รู้ว่าMingจะเป็นคนมาหากูเอง กูรอวันนี้มานานแล้ว"
พี่นะสงสัย “ ลุงผมมาขอให้ช่วย ช่วยกําจัดมันได้ไหมผมขอละลุงเพียร!”
พรานเพียรพูดช้าๆ ก่อนจะหยิบเอากริชโบราณออกมาจากถุงหนังเก่าๆ