ปลาย นักสืบจำเป็น - File 5 : ยูโดสังหาร [บทปัญหา]

ตอนนี้ช่วงปริศนายาวหน่อยนะครับ ทนๆอ่านหน่อยนะครับ


ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แนะนำตัวละคร




===================================================================================


- 1 -
    
    บึก!! เสียงนี้เป็นเสียงของการกระทบกันระหว่างร่างคนกับเบาะ

    แน่นอนว่าที่นี่ต้องมีคนกับเบาะ และสถานที่ที่มีคนกระทบหรือกระแทกกับเบาะดังประจำจนเป็นเรื่องปกติธรรมดาในมหาวิทยาลัยนี้มีแห่งเดียว…

    ชมรมยูโด

    ชมรมยูโดของมหาวิทยาลัยเป็นชมรมหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยไม่น้อย สมาชิกของชมรมนี้มีจำนวนมากพอสมควร แถมฝีมือของแต่ละคนก็ไม่ใช่ธรรมดา ระดับจังหวัดระดับชาติทั้งนั้น

     “ยังร้ายกาจเหมือนเดิมเลยวุ้ย!” ชายหนุ่มในชุดยูโดคาดสายดำพูดขึ้นทั้งที่ตัวเองนอนกองอยู่บนเบาะ

    “ไม่หรอกว่ะ” ชายผมตั้งในชุดยูโดคาดสายเขียวส่ายหน้า “แกอ่อนให้ฉันมากกว่า” เขาผู้นี้เป็นคนทุ่มนักยูโดสายดำลงเบาะไป

    “เออ เออ...” นักยูโดสายดำทำท่าเหมือนไม่อยากเถียงต่อ เขาลุกขึ้นนั่ง แล้วค่อยเอ่ยต่อ “ปลาย.. คราวนี้แกต้องไปแค้มป์เก็บตัวด้วยนะ.. รู้หรือยัง?”

    นักยูโดสายเขียวก็คือ ปลาย นักศึกษานักสืบหัวหน้าแก๊งนั่นเอง เขาพูดสวนไปทันทีว่า

    “เฮ้ย! โหน่งแกว่าไงนะ?” ดูเหมือนว่าเขายังไม่รู้ แต่ก็คล้ายแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินด้วย

     โหน่งมองหน้า “นี่แกไม่ได้ยินหรือไงว่ะ ...ไม่ว่ายังไงแกก็ต้องไป ไม่ต้องมาทำเป็นไม่ได้ยินเลย”

    “ไม่ ฉันไม่อยากแข่ง” ปลายตอบหน้านิ่ง

    “สายไปแล้วเพื่อน... ฉันส่งชื่อแกไปแล้ว” โหน่งยิ้มยียวน

    “อ่ะ เออ.. แกนี่..” ปลายจ้องหน้าเพื่อน “ก็ได้ ไปก็ไปว่ะ”

        และแล้วเขาก็ยอมไปจนได้

    ปลายกับโหน่งต่างเป็นสมาชิกของชมรมยูโดเหมือนกัน แต่หนุ่มผมตั้งเป็นเพียงสมาชิกลอย ๆ ที่มีชื่อเป็นสมาชิกทิ้งไว้ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับชมรมยูโดเท่าไหร่ ซึ่งผิดกับโหน่งที่ตอนนี้เป็นถึงประธานชมรมยูโด แถมเรียกได้ว่าเป็นตัวหลักของชมรมเลยทีเดียว

    สำหรับโหน่งนั้นเป็นเพื่อนกับปลายตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม รูปร่างสูงพอ ๆ กัน แถมตอนนี้ก็เรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกันด้วย เขามีฝีมือทางยูโดสูงตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งแล้ว พอขึ้นปีสามรุ่นพี่จึงยกตำแหน่งประธานชมรมให้อย่างไม่มีใครโต้แย้ง

    ทั้งสองซ้อมยูโดกันอีกสักพักก็เริ่มเหนื่อย จึงหยุดซ้อม แล้วเดินออกมาจากห้องชมรมหยุดนั่งพักที่ม้านั่ง

    “ช่วงนี้เป็นไงบ้างวะ? ไม่ได้เจอแกตั้งนาน” โหน่งพูดขึ้น

    “ก็ไม่มีอะไร ปกติของฉันแหละ”

    “เหรอ...” โหน่งมองเขาแบบกวน ๆ “แล้วที่ไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมเนี่ย.. มันเรียกว่าปกติหรือวะ”

    “โอ.. แกรู้ด้วยวุ้ย..” ปลายมองเพื่อนกลับ “เอาน่าเพื่อน พอดีอยู่ในเหตุการณ์  ฉันก็จำเป็นต้องทำนี่หว่า”

    “อ่ะเหรอ.. จำเป็นเนอะ ..แกนี่ไม่เปลี่ยนเลย ชอบจริง ๆ นะ ไอ้เรื่องแบบนี้” โหน่งบอก แล้วเปลี่ยนประเด็นพูด “แต่ปลาย.. การแข่งขันที่จะมีขึ้นคราวนี้ ต้องฝากความหวังไว้กับแกด้วยนะ ..อย่าให้พลาดนะโว้ยพ่อหัวหน้าแก๊ง”

    “อย่ามาหวังกับฉันเลย ฉันไม่ค่อยได้ซ้อมเท่าไหร่ แถมยังแค่สายเขียวอยู่เลย แกจะเอาฉันไปแข่งทำไม?” ปลายได้โอกาส หาทางไม่เข้าแข่งซะเลย

    “แค่สายเขียวหรือว่ะ” โหน่งจ้องหน้า “สายเขียวอะไรกัน! ทุ่มสายดำซะลอย นี่ถ้าแกจริงจังหน่อย ..แค่สายดำไม่พอสำหรับแกแน่”

    “เออว่ะ.. “ ปลายพยักหน้า “แต่ยูโดมันสูงสุดแค่สายดำไม่ใช่เหรอ... มากกว่าสายดำมันเป็นสายอะไร?”

    “สายไปแล้วไงเพื่อน..” โหน่งสวนมุกทันที “เพราะไม่ว่ายังไงแกก็ต้องไปเข้าแค้มป์อย่างไม่มีข้อแม้”

    “เออ..” สุดท้ายปลายก็ปฏิเสธการเข้าแค้มป์เก็บตัวไม่ได้ “แล้วครั้งนี้มีไปเก็บตัวกี่คน?”

    “อือ.. รวมเราทั้งคู่ก็หกคน”

    “เหรอ.. แล้วอาจารย์อันไปด้วยรึเปล่า?”

    โหน่งหันจ้องขวับ นิ่งมองปลาย แล้วค่อยตอบว่า “ไปสิ แกมีเรื่องอะไรกับอาจารย์อันหรือ?”

    “เปล่า..โว้ย” หนุ่มผมตั้งเถียงทันที “แกนี่.. หวงอาจารย์อันเหลือเกินนะ ...หรือว่า..”

    “เงียบไปเลยแก..” โหน่งรีบแทรกขึ้นอย่างฉับพลัน

    ซึ่งในขณะนั้นก็มีผู้หนึ่งเดินมาหาพวกเขา

    เมื่อทั้งคู่เห็นรีบยกมือไหว้ทันที

    “สวัสดีครับอาจารย์อัน”

    ที่แท้แล้วผู้ที่เดินเข้ามาคือ อาจารย์อัน หรือที่มีชื่อจริงว่า อัญฌุกา เธอไว้ผมซอยสั้น รูปร่างสูงประมาณร้อยหกสิบห้าเซ็นต์ได้ เธอจะเท่สุดใจยามอยู่ในชุดยูโด สวยเสมอในชุดทำงาน แต่ว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในสองชุดนั้น เพราะอาจารย์สาวอยู่ในชุดเสื้อวอร์ม ซึ่งมันก็ดูน่ารักไปอีกแบบ อดีตของเธอนั้นเป็นถึงนักยูโดทีมชาติรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัมเลยทีเดียว

    อาจารย์อันในชุดวอร์มเข้าไปใกล้ ๆ ปลาย พูดขึ้นว่า “นี่ปลาย.. เธอต้องชนะในการแข่งขันให้ได้ล่ะ ฉันอุตส่าห์เลือกเธอเลยนะ”

    “อาจารย์เลือกผมเหรอ?” ปลายหันขวับ นิ่งมองหน้าอาจารย์อันตอบ “ขอบคุณที่อาจารย์ให้โอกาสผมนะครับ ผมจะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวังแน่นอน”

    ปลายนะ..ปลาย ทีเมื่อกี้ยังเถียงกับโหน่ง ไม่ยอมเข้าแคมป์เก็บตัวนักยูโดที่จะไปแข่งขันท่าเดียว แต่พออาจารย์อันพูดว่าเป็นคนเลือกเท่านั้นกลับเปลี่ยนได้ใจง่าย ๆ เห็นด้วยเฉยเลย

    “จ้า..” อาจารย์อันแย้มยิ้ม ยื่นมือแตะแก้มปลาย "เชื่อว่าเธอต้องทำให้ฉันสมหวังแน่”

    “คะ..ครับ” ปลายเขินหน้าแดง แต่ก็กลับรู้สึกร้อน ๆ ขึ้นที่ข้างตัวด้วย เพราะโหน่งจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง

      แล้วอาจารย์อันก็หันหาโหน่งบ้าง “เธอก็เหมือนกันนะโหน่ง อย่าให้พลาดล่ะ ...ฝีมือเธอดีอยู่แล้ว”

    คราวนี้อาจารย์อันยกมือลูบผมโหน่งบ้าง

    “ครับ ผมจะพยายามเต็มที่เลย” โหน่งเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว ดูมีความสุขขึ้นทันทีเมื่ออาจารย์อันลูบผม

    แล้วไม่นานอาจารย์อันก็เดินออกไป

    แต่พออาจารย์อันไปได้สักพัก ก็มีนักยูโดสายดำร่างใหญ่เข้ามาแทน

    นักยูโดผู้นี้จ้องมองปลายตาไม่กะพริบ

    “แกน่ะหรือ.. อีกคนที่เข้าเก็บตัว” นักยูโดร่างใหญ่พูดขึ้นมา

    ปลายจ้องหน้าเขากลับ ไม่มีทีท่าสะทกสะท้านอะไร ทั้งยังทำเหมือนไม่สนใจเท่าไหร่ด้วย เขาหันหน้าคุยกับโหน่งต่อ ไม่ได้พูดตอบคนผู้นั้นสักคำ

    นักยูโดสายดำผู้เข้ามายังไม่ยอมเงียบ พูดขึ้นต่อว่า “อะไรว่ะ เป็นแค่สายเขียว ทำไมอาจารย์ถึงเรียกเก็บตัวด้วย ...หรือว่าแกมีลีลาดีอาจารย์ถึงได้ยอมให้”

    พอได้ยินอย่างนี้ ปลายทำท่าจะลุกขึ้น แต่โหน่งดันพรวดขึ้นมาก่อน

    “บอย!! แกเงียบไปเลย!!”

    บอย นักยูโดร่างใหญ่นิ่ง ท่าทีเหมือนจะอ่อนลง แต่ก็พูดขึ้นว่า “พี่โหน่ง.. ทำไมล่ะ ...มันมาเพิ่มอีกคนได้ไง ปกติเรามีอยู่ห้าคนก็ดีแล้วนี่”

    “แก..หยุดพูดเดี๋ยวนี้ รีบออกไปซะ!” โหน่งพูดขึ้นต่อ

    “พี่โหน่ง..”

    “รีบออกไปซะ ..หรือจะให้ฉันตัดชื่อแกออกจากการเก็บตัว” ประธานชมรมยูโดหนุ่มพูดอย่างหนักแน่น

    “ก็ได้..พี่โหน่ง” บอยคล้ายจะยอมแล้ว แต่ก็ยังพูดใส่ปลายไปอีกประโยค “แต่แก.. ตอนนี้ฉันเห็นแก่พี่โหน่งถึงได้ยอมไปก่อน.. แต่ตอนเก็บตัวแกต้องโดนแน่!”

    พอปลายได้ยินพยายามจะลุกขึ้นอีกทันที แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะถูกโหน่งยื่นแขนกันไว้ จนบอยเดินออกไปไกล

    “ห้ามทำไมวะ?” ปลายปัดแขนโหน่งพลางพูดขึ้นมา

    “เออ..น่า ใจเย็น ๆ นะเพื่อน”

    “ใจเย็นเหรอ..” ปลายมองหน้า “ให้ฉันใจเย็น... เหอะ.. แกมากกว่ามั้ง...ทำไมแกถึงลุกขึ้นว่ามันก่อนฉันล่ะ?”

    โหน่งนิ่ง มองหน้าผู้เป็นเพื่อน แล้วค่อยพูดต่อ “เรื่องนั้นช่างมันเถอะน่า ..แกลืม ๆ ไปเสียเถอะ”

    ปลายมองผู้พูดอยู่ครู่หนึ่ง ท่าทีเริ่มอ่อนลงเหมือนจะยอมแล้ว “เออก็ได้ ..แล้วมันเป็นใครวะ?”

    “มันเหรอ.. มันชื่อ บอย  เด็กปีสอง เพิ่งเข้าชมรมมาไม่นานนี้ เมื่อก่อนมันเคยได้แชมป์ประเทศไทย เลยค่อนข้างอวดดีหน่อย”

    “เหรอ... นี่มันไม่หน่อยแล้วนะโว้ย! ท่าจะไม่รู้จักฉัน อย่างนี้มันต้องเอาคืนซะแล้ว”

    “อย่านะโว้ย.. มันเป็นนักยูโดตัวหลักของเรา แกยอม ๆ ไปก่อนได้มั้ย?”

    “ยอมเหรอ.. ไม่มีทาง ถ้าแข่งเสร็จเมื่อไหร่ ฉันเอาคืนแน่!!”

    “เออ.. ก็ได้ว่ะ เป็นไงเป็นกัน” โหน่งส่ายหน้าคล้ายไม่ยอมรับที่ปลายพูดเท่าไหร่ “แกเห็นมัน…ก็น่าจะรู้แล้วนะว่าทำไมถึงต้องเรียกแกมาด้วย”

    “เออ..” ปลายทำหน้าเซ็ง แล้วลุกขึ้นยืน “ไม่อยากพูดแล้ว ขอตัวไปอาบน้ำล่ะ”

    ปลายเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในล็อกเกอร์ แล้วเดินตรงเข้าห้องน้ำ ซึ่งหลังจากนั้นโหน่งเองก็ตามเข้าห้องน้ำไปเช่นกัน





(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่