ตอนที่ผ่านมา
File 1 : คอมพิวเตอร์มรณะ [บทปัญหา]
https://ppantip.com/topic/38315565
File 1 : คอมพิวเตอร์มรณะ [บทเฉลย]
https://ppantip.com/topic/38326974
File 2 : นักฟุตบอลเปื้อนเลือด [บทปัญหา]
https://ppantip.com/topic/38337226
แนะนำตัวละคร
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- 3 -
ปลายมองดูตำรวจที่เข้าจับกุมอ๊อฟนักเตะหมายเลข 11 แล้วเดินตรงไปหาสารวัตรสรวุทธ
“สารวัตรครับ ผมว่าอ๊อฟไม่ใช่ฆาตกรนะครับ” ปลายพูดขึ้นมา
“อะไร!!” สารวัตรหันไปว่า “อ๊อฟนี่แหละฆาตกรที่สังหารอาร์ท ไม่ใช่ได้ไง”
“เชื่อผมเถอะครับ ผมรู้ว่าใครเป็นฆาตกรตัวจริง” หนุ่มผมตั้งพูดด้วยความมั่นใจ
“ไม่! อ๊อฟคือฆาตกรแน่นอน เธออย่าทำเป็นรู้ดีเลย” สารวัตรยืนยันเสียงแข็ง
“งั้นหรือครับ” ปลายยิ้มให้ จากนั้นก็เดินหลบมุมออกไป แล้วชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออก
หลังจากนั้นไม่นาน เหตุการณ์ก็เหมือนเดิม โทรศัพท์มือถือของสารวัตรสรวุทธดังขึ้นอีกครั้ง นายตำรวจโดนคำสั่งจากเบื้องบนอีกตามเคย และพูดคำว่า “ครับ” อย่างเดียว
ท่าทีของนายตำรวจอ่อนลงอีกครั้ง เขาหันมาหาปลายที่ยืนดูอยู่ไม่ห่าง จ้องหน้าอย่างสงสัย
“เธอเป็นใครกันแน่... ไม่รู้มีดีอะไร ผู้กำกับฯ ถึงสั่งให้ทำตามที่เธอบอก”
ปลายแย้มยิ้ม ไม่ได้สนใจสิ่งที่สารวัตรสรวุทธพูดเท่าไหร่ “อืม...ครับ ผมว่าเราปล่อยตัวอ๊อฟก่อนดีมั้ยครับ แล้วผมจะไขความจริงของคดีนี้ให้สารวัตรได้ทราบเอง”
สารวัตรสรวุทธจึงจำเป็นต้องปล่อยตัวอ๊อฟกลับไปนั่งที่ก่อน ซึ่งตอนนี้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนยังไม่ได้ออกไปไหน ทั้งหมดนั่งรวมอยู่ในห้องประชุมที่ใช้เป็นห้องสืบสวนแห่งนี้
“เอาล่ะครับ” ปลายออกมาอยู่ด้านหน้าของห้องประชุม แล้วเกริ่นขึ้น “ต้องขอโทษด้วยนะครับ เมื่อกี้ทางตำรวจพบว่ามีเบาะแสเพิ่มเติม ดังนั้นจึงจะสอบสวนใหม่ ซึ่งในครั้งนี้สารวัตรสรวุทธอนุญาตให้ผมเป็นผู้ไขคดีนี้เองครับ”
สารวัตรสรวุทธจ้องมองปลาย เขายืนกอดอกด้วยท่าทางหงุดหงิด ดูท่ายังคงเชื่อมั่นว่าอ๊อฟเป็นฆาตกรไม่เปลี่ยน ส่วนทุกคนในห้องนั่งนิ่งรอฟังปลายพูด
“คดีนี้เกิดจากการมีปากเสียงจนทะเลาะกันของคนสองคนอย่างที่สารวัตรสรวุทธบอก ...แต่ไม่ใช่อ๊อฟครับ”
“แล้วเป็นใครล่ะ?” สารวัตรเอ่ยถาม
“ใจเย็นก่อนครับ” ปลายหันไปยิ้ม “ก่อนผมจะบอก ผมขอสอบถามจากบุคคลกลุ่มหนึ่งก่อน นั่นคือ กลุ่มคนที่ออกไปข้างนอกห้องพักในช่วงพักครึ่งแรก ซึ่งฆาตกรก็เป็นหนึ่งในนั้น!!”
“ก็อ๊อฟไง อ๊อฟก็ออกไปนอกห้องพักไม่ใช่หรือ?” เจมส์ นายทวารหมายเลข 1 ของทีมคณะวิทยาศาสตร์พูดสวนขึ้นมา
“นั่นสิ ฉันก็คิดว่าไอ้อ๊อฟเป็นฆาตกรแน่ ๆ มันทะเลาะกับอาร์ทช่วงพักครึ่ง” เค หมายเลข 8 ทีมคณะวิศวกรรมศาสตร์เสริมขึ้นอีก
ปลายยังไม่พูดอะไรตอบโดยทันที เขาเงียบพักหนึ่ง แล้วค่อยพูดขึ้นต่อ “ก่อนที่ผมจะบอกว่าฆาตกรเป็นใคร ผมขอสอบถามทุกคนที่ออกข้างนอกห้องพักก่อนนะครับ เริ่มจากเจมส์ก่อนละกัน ..เจมส์นายออกไปไหนและไปทำอะไร?”
“ฉันก็เดินไปมาทำสมาธิอยู่ใกล้ห้องพักนั่นแหละ เออ.. ชิดก็ออกมาด้วย ลองถามชิดดูสิ” เจมส์ตอบปลายไปทันที
“อือ... ฉันก็ออกไปเหมือนกัน พอเจอเจมส์เลยนั่งทำสมาธิ พูดคุยกัน แล้วก็กลับห้อง” ชิดเสริมขึ้นมา
“งั้นหรือ...” ปลายจ้องหน้าพวกเขา นิ่งครุ่นคิดวูบหนึ่ง แล้วเปลี่ยนไปหันหาสองศูนย์หน้าของทีมคณะวิทยาศาสตร์ “อืม... ต่อไปก็แชมป์กับอ๊อฟ พวกนายออกไปไหนมากัน?”
“เอ่อ.. ฉันกับแชมป์ออกไปทำสมาธิเหมือนกัน ก็แถวห้องเก็บของใกล้ ๆ ห้องพักแหละ” อ๊อฟบอก
“ใช่แล้ว พวกผมออกไปทำสมาธิกันจริง ๆ” แชมป์ยืนยันอีก
“ไปทำสมาธิกันเหรอ... แล้วนี่อะไร?” ปลายยิ้มแล้วหยิบซองบรรจุแคปซูลยาชนิดหนึ่งออกมา “มันคืออะไรเหรอ?”
ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นซองบรรจุยานั้น
ยาในซองนั้นเป็นพวกยาโด๊ปหรือยากระตุ้น ซึ่งจัดเป็นยาที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์ สามารถกระตุ้นให้ร่างกายฟิตปึ๋งปั๋ง พละกำลังเพิ่มขึ้นได้ แต่ถ้าหากนำยานี้มาใช้ในการกีฬาจะถือว่าผิดกฎอย่างร้ายแรง
“ฉันสงสัยพวกนายมาตั้งนานแล้ว พอเจอซองยาที่ทำตกไว้ มันก็เข้าทางพอดี ..แต่เรื่องที่พวกนายใช้ยากระตุ้นนี้เอาไว้ก่อน ไว้จะจัดการทีหลัง” ปลายมองหน้าทั้งสอง “แล้วพวกนายเจอใครบ้างหรือเปล่า?”
“เอ่อ... ก็มีเจมส์นะ เจมส์เดินเลยเข้าไปข้างในอีก” แชมป์รีบบอกทันที เพราะรู้ตัวว่าตัวเองทำผิด ควรให้ความร่วมมือกับปลาย
“อืม” ปลายพยักหน้ารับ หันมองเจมส์
“อ้อ.. ฉันไปหาที่สงบ ทำสมาธิไง” เจมส์อธิบายอย่างรวดเร็ว
ปลายเพียงมองเขา ไม่ได้พูดอะไรตอบ หันไปถามเจ “งั้นเจ แกออกไปไหนมา?”
“ผมเหรอ...” เจเฉย ๆ เหมือนไม่วิตกอะไร “ผมก็ไปเข้าห้องน้ำมาไงพี่”
“แล้วในห้องน้ำ แกเจอใครบ้างหรือเปล่า?”
“ผมอยู่ในห้องส้วม ไม่เห็นใครเลย แต่ได้ยินเสียงคน ๆ หนึ่ง ผมว่าน่าจะเป็นชิดนะ” เจเงยหน้าเล็กน้อยพยายามนึกถึง “ผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นะ”
“อืม...” ปลายนิ่งแล้วหันไปทางนักเตะทีมคณะวิศวกรรมศาสตร์บ้าง “เค นายก็ออกไปข้างนอกห้องพักใช่มั้ย?”
“ใช่” นักเตะหมายเลข 8 พยักหน้าบอกอย่างมั่นใจ “ฉันก็ออกไปทำสมาธิแถว ๆ ห้องพัก”
“อืม” ปลายจ้องมองเขา นิ่งคิดอยู่สักพัก แล้วสอบถามผู้ออกไปนอกห้องพักคนอื่นต่อ จึงพอวิเคราะห์เรื่องได้ทั้งหมด
“คงจะถึงเวลาเฉลยฆาตกรแล้วสินะ” ปลายฉีกยิ้ม พร้อมพูดขึ้นอย่างมั่นใจ “คดีนี้เกิดขึ้นจากการทะเลาะอย่างที่บอกในทีแรก แต่เหตุที่ทะเลาะกันนั้น ไม่ใช่ทะเลาะกันเพราะเถียงเรื่องส่วนตัวหรือเหยียดหยามกันในเกมฟุตบอล แต่มันเป็นเรื่อง... การล้มบอล!!”
ทันทีที่ปลายพูดจบประโยค นักเตะหลายคนของทั้งสองทีมต่างสีหน้าแปรเปลี่ยนไป
“เพราะผมสังเกตดูแล้ว มีนักเตะหลายคนที่เล่นผิดฟอร์ม มันเลยน่าจะเป็นเรื่องล้มบอลมากที่สุด ...แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับ ว่าคดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน เหตุเกิดขึ้นมาเพราะพลั้งพลาดไป แล้วฆาตกรต้องการพ้นผิด จึงได้กระทำการหนึ่งเพื่อให้ตัวเองรอด”
ปลายขยับตัวอีกเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นต่อ “โดยฆาตกรและอาร์ทคงจะเจรจากันเรื่องล้มบอล แต่ดูเหมือนว่าฆาตกรไม่ยอมเล่นด้วย จึงมีการกระทบกระทั่งทะเลาะกันจนพลั้งมือฆ่าอาร์ทไป ซึ่งก่อนที่อาร์ทจะตายได้ทิ้งไดอิ้งเม็สเซ็จชี้ตัวฆาตกรไว้ด้วย”
“แต่ไดอิ้งเม็สเซ็จบ่งชี้ว่าเป็นอ๊อฟนี่” สารวัตรสรวุทธพูดขึ้นมาบ้าง
“ใช่ครับ ไดอิ้งเม็สเซ็จที่เห็นบ่งชี้ว่าเป็นอ๊อฟ แต่นั่นไม่ใช่อาร์ทเป็นคนทำ ฆาตกรเป็นคนทำต่างหาก!” ปลายหันไปบอกสารวัตร “เพราะไดอิ้งเม็สเซ็จที่อาร์ททิ้งไว้ ถูกฆาตกรเปลี่ยนแปลงมัน”
“เธอรู้ได้ไง?”
“สารวัตรลองดูไดอิ้งเม็สเซ็จดี ๆ สิครับ รอยขีดเลือดสองเส้นนั่นเหมือนกันมั้ย... ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า รอยขีดหนึ่งจะดูเหมือนใช้มือขีดขึ้นมาก่อน เพราะสีค่อนข้างเข้ม เลือดน่าจะแห้งก่อน ส่วนอีกขีดกลับสีอ่อนแถมเส้นดูบางกว่า ผมว่าน่าจะขีดขึ้นมาทีหลัง ..ทั้งนี้อาจเพราะฆาตกรจับมืออาร์ทขีดรอยเลือดเพิ่มอีกขีด เพื่อเปลี่ยนแปลงไดอิ้งเม็สเซ็จที่อาร์ททิ้งไว้ทีแรก”
ปลายพูดเสร็จก้าวเดินไปทางลูกทีมคณะวิทยาศาสตร์ของตน “..ซึ่งถ้าอาร์ทขีดไว้เพียงขีดเดียว มันก็คือ เลข 1 ดังนั้น ฆาตกรก็คือ...” เขายื่นมือวางบนบ่าของนักเตะผู้หนึ่ง “เจมส์!! นายคือคนฆ่าอาร์ท!!”
ทุกคนตอนนี้หันหน้าไปหาเจมส์ราวกับนัดกันไว้
เจมส์หน้าถอดสีไปทันที ใบหน้าดูหมองเศร้าลง นายทวารหนุ่มนิ่งไปสักพัก แล้วตัดสินใจลุกพรวดขึ้นมา
“ใช่แล้ว ..ฉันเป็นคนฆ่าอาร์ทเอง” เจมส์ตัดสินใจยอมสารภาพ
ปลายนิ่ง มองหน้าเขา “นายคงไม่ยอมล้มบอลสินะ”
“ถูกแล้ว อาร์ทมาคุยกับฉันให้ยอมล้มบอลให้ในครึ่งหลัง แต่ฉันไม่ยอมเลยทะเลาะกัน แล้วฉันพลั้งมือฆ่าเขาไป แต่ก่อนตายอาร์ทได้เขียนรอยขีดเลือดไว้ขีดหนึ่ง ตอนนั้นฉันยังไม่กล้าทำอะไร คิดว่าต้องโดนจับแน่...” เจมส์อธิบายด้วยสีหน้าเศร้า ๆ
ปลายมองดูเขา “แล้วมีคนมาเห็นนายฆ่าอาร์ทใช่มั้ย?”
“อือ.. ชิดกับเค” เจมส์ผงกศีรษะรับ “ตอนนั้นฉันทำอะไรไม่ได้เลย แต่พอฉันตั้งสติได้ ชิดกับเคก็เข้ามา ฉันกลัวโดนตำรวจจับ เลยเจรจาขอให้ทั้งสองปิดเรื่องนี้ไว้แลกกับที่ฉันไม่บอกเรื่องที่ทั้งคู่รู้เห็นเรื่องล้มบอล จากนั้นฉันจึงขีดรอยเลือดเพิ่ม เพื่อให้ฉันพ้นผิดและให้อ๊อฟเป็นฆาตกรแทน เพราะรู้มาจากเคว่า อ๊อฟกับอาร์ทมีเรื่องกันตอนจบครึ่งแรก น่าจะใช้เป็นแรงจูงใจได้”
คราวนี้ชิดนักเตะหมายเลข 10 ทีมคณะวิทยาศาสตร์ลุกขึ้นบ้าง เขาเดินเข้าใกล้เจมส์ “ถูกแล้ว ฉันกับเครู้กันเรื่องล้มบอล อาร์ทจะเป็นคนไปคุยเรื่องล้มบอลกับเจมส์ ตอนแรกฉันนึกว่าเจมส์จะยอมล้มบอล เพราะต้องการเงิน แต่พอฉันกับเคเดินมาดูกลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา จึงช่วยกันแก้ไขปัญหาไปก่อน ...แต่ก็ไม่นึกเลยว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นได้”
ปลายพยักหน้ารับ แล้วเดินไปหาสารวัตรสรวุทธ “สารวัตรครับ ผมว่าคดีนี้คงปิดได้แล้วนะครับ ...แต่ผมขอร้องเรื่องหนึ่งก่อนได้ไหมครับ?”
“เรื่องอะไรล่ะ?” นายตำรวจถาม
“ผมว่า..ถึงเจมส์มันจะทำลงไป แต่มันก็ไม่ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นนะครับ ...ผมขอร้องให้สารวัตรช่วยเค้าหน่อยได้มั้ยครับ?”
“อืม...” สารวัตรพยักหน้ารับ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ นายตำรวจสั่งให้ลูกน้องจับกุมเจมส์ ส่วนเคกับชิดก็คุมตัวไว้ก่อน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมต่อ
จากนั้นหนุ่มผมตั้งก็เดินไปหาเจมส์ที่ถูกคุมตัวอยู่ คลี่ยิ้มให้พร้อมพูดขึ้นว่า “เจมส์ นายให้การกับตำรวจว่าโดนทำร้ายก่อน แสดงบาดแผลให้เจ้าหน้าที่เห็น โทษของนายอาจลดลงก็ได้นะ” เขาตบไหล่เพื่อนเบา ๆ “โชคดีนะ”
เจมส์ยิ้มรับเขาทันที แล้วตำรวจก็พาตัวออกไป
(มีต่ออีกหน่อยครับ)
ปลาย นักสืบจำเป็น - File 2 : นักฟุตบอลเปื้อนเลือด [บทเฉลย]
File 1 : คอมพิวเตอร์มรณะ [บทปัญหา]
https://ppantip.com/topic/38315565
File 1 : คอมพิวเตอร์มรณะ [บทเฉลย]
https://ppantip.com/topic/38326974
File 2 : นักฟุตบอลเปื้อนเลือด [บทปัญหา]
https://ppantip.com/topic/38337226
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- 3 -
ปลายมองดูตำรวจที่เข้าจับกุมอ๊อฟนักเตะหมายเลข 11 แล้วเดินตรงไปหาสารวัตรสรวุทธ
“สารวัตรครับ ผมว่าอ๊อฟไม่ใช่ฆาตกรนะครับ” ปลายพูดขึ้นมา
“อะไร!!” สารวัตรหันไปว่า “อ๊อฟนี่แหละฆาตกรที่สังหารอาร์ท ไม่ใช่ได้ไง”
“เชื่อผมเถอะครับ ผมรู้ว่าใครเป็นฆาตกรตัวจริง” หนุ่มผมตั้งพูดด้วยความมั่นใจ
“ไม่! อ๊อฟคือฆาตกรแน่นอน เธออย่าทำเป็นรู้ดีเลย” สารวัตรยืนยันเสียงแข็ง
“งั้นหรือครับ” ปลายยิ้มให้ จากนั้นก็เดินหลบมุมออกไป แล้วชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออก
หลังจากนั้นไม่นาน เหตุการณ์ก็เหมือนเดิม โทรศัพท์มือถือของสารวัตรสรวุทธดังขึ้นอีกครั้ง นายตำรวจโดนคำสั่งจากเบื้องบนอีกตามเคย และพูดคำว่า “ครับ” อย่างเดียว
ท่าทีของนายตำรวจอ่อนลงอีกครั้ง เขาหันมาหาปลายที่ยืนดูอยู่ไม่ห่าง จ้องหน้าอย่างสงสัย
“เธอเป็นใครกันแน่... ไม่รู้มีดีอะไร ผู้กำกับฯ ถึงสั่งให้ทำตามที่เธอบอก”
ปลายแย้มยิ้ม ไม่ได้สนใจสิ่งที่สารวัตรสรวุทธพูดเท่าไหร่ “อืม...ครับ ผมว่าเราปล่อยตัวอ๊อฟก่อนดีมั้ยครับ แล้วผมจะไขความจริงของคดีนี้ให้สารวัตรได้ทราบเอง”
สารวัตรสรวุทธจึงจำเป็นต้องปล่อยตัวอ๊อฟกลับไปนั่งที่ก่อน ซึ่งตอนนี้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนยังไม่ได้ออกไปไหน ทั้งหมดนั่งรวมอยู่ในห้องประชุมที่ใช้เป็นห้องสืบสวนแห่งนี้
“เอาล่ะครับ” ปลายออกมาอยู่ด้านหน้าของห้องประชุม แล้วเกริ่นขึ้น “ต้องขอโทษด้วยนะครับ เมื่อกี้ทางตำรวจพบว่ามีเบาะแสเพิ่มเติม ดังนั้นจึงจะสอบสวนใหม่ ซึ่งในครั้งนี้สารวัตรสรวุทธอนุญาตให้ผมเป็นผู้ไขคดีนี้เองครับ”
สารวัตรสรวุทธจ้องมองปลาย เขายืนกอดอกด้วยท่าทางหงุดหงิด ดูท่ายังคงเชื่อมั่นว่าอ๊อฟเป็นฆาตกรไม่เปลี่ยน ส่วนทุกคนในห้องนั่งนิ่งรอฟังปลายพูด
“คดีนี้เกิดจากการมีปากเสียงจนทะเลาะกันของคนสองคนอย่างที่สารวัตรสรวุทธบอก ...แต่ไม่ใช่อ๊อฟครับ”
“แล้วเป็นใครล่ะ?” สารวัตรเอ่ยถาม
“ใจเย็นก่อนครับ” ปลายหันไปยิ้ม “ก่อนผมจะบอก ผมขอสอบถามจากบุคคลกลุ่มหนึ่งก่อน นั่นคือ กลุ่มคนที่ออกไปข้างนอกห้องพักในช่วงพักครึ่งแรก ซึ่งฆาตกรก็เป็นหนึ่งในนั้น!!”
“ก็อ๊อฟไง อ๊อฟก็ออกไปนอกห้องพักไม่ใช่หรือ?” เจมส์ นายทวารหมายเลข 1 ของทีมคณะวิทยาศาสตร์พูดสวนขึ้นมา
“นั่นสิ ฉันก็คิดว่าไอ้อ๊อฟเป็นฆาตกรแน่ ๆ มันทะเลาะกับอาร์ทช่วงพักครึ่ง” เค หมายเลข 8 ทีมคณะวิศวกรรมศาสตร์เสริมขึ้นอีก
ปลายยังไม่พูดอะไรตอบโดยทันที เขาเงียบพักหนึ่ง แล้วค่อยพูดขึ้นต่อ “ก่อนที่ผมจะบอกว่าฆาตกรเป็นใคร ผมขอสอบถามทุกคนที่ออกข้างนอกห้องพักก่อนนะครับ เริ่มจากเจมส์ก่อนละกัน ..เจมส์นายออกไปไหนและไปทำอะไร?”
“ฉันก็เดินไปมาทำสมาธิอยู่ใกล้ห้องพักนั่นแหละ เออ.. ชิดก็ออกมาด้วย ลองถามชิดดูสิ” เจมส์ตอบปลายไปทันที
“อือ... ฉันก็ออกไปเหมือนกัน พอเจอเจมส์เลยนั่งทำสมาธิ พูดคุยกัน แล้วก็กลับห้อง” ชิดเสริมขึ้นมา
“งั้นหรือ...” ปลายจ้องหน้าพวกเขา นิ่งครุ่นคิดวูบหนึ่ง แล้วเปลี่ยนไปหันหาสองศูนย์หน้าของทีมคณะวิทยาศาสตร์ “อืม... ต่อไปก็แชมป์กับอ๊อฟ พวกนายออกไปไหนมากัน?”
“เอ่อ.. ฉันกับแชมป์ออกไปทำสมาธิเหมือนกัน ก็แถวห้องเก็บของใกล้ ๆ ห้องพักแหละ” อ๊อฟบอก
“ใช่แล้ว พวกผมออกไปทำสมาธิกันจริง ๆ” แชมป์ยืนยันอีก
“ไปทำสมาธิกันเหรอ... แล้วนี่อะไร?” ปลายยิ้มแล้วหยิบซองบรรจุแคปซูลยาชนิดหนึ่งออกมา “มันคืออะไรเหรอ?”
ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นซองบรรจุยานั้น
ยาในซองนั้นเป็นพวกยาโด๊ปหรือยากระตุ้น ซึ่งจัดเป็นยาที่มีส่วนผสมของสเตอรอยด์ สามารถกระตุ้นให้ร่างกายฟิตปึ๋งปั๋ง พละกำลังเพิ่มขึ้นได้ แต่ถ้าหากนำยานี้มาใช้ในการกีฬาจะถือว่าผิดกฎอย่างร้ายแรง
“ฉันสงสัยพวกนายมาตั้งนานแล้ว พอเจอซองยาที่ทำตกไว้ มันก็เข้าทางพอดี ..แต่เรื่องที่พวกนายใช้ยากระตุ้นนี้เอาไว้ก่อน ไว้จะจัดการทีหลัง” ปลายมองหน้าทั้งสอง “แล้วพวกนายเจอใครบ้างหรือเปล่า?”
“เอ่อ... ก็มีเจมส์นะ เจมส์เดินเลยเข้าไปข้างในอีก” แชมป์รีบบอกทันที เพราะรู้ตัวว่าตัวเองทำผิด ควรให้ความร่วมมือกับปลาย
“อืม” ปลายพยักหน้ารับ หันมองเจมส์
“อ้อ.. ฉันไปหาที่สงบ ทำสมาธิไง” เจมส์อธิบายอย่างรวดเร็ว
ปลายเพียงมองเขา ไม่ได้พูดอะไรตอบ หันไปถามเจ “งั้นเจ แกออกไปไหนมา?”
“ผมเหรอ...” เจเฉย ๆ เหมือนไม่วิตกอะไร “ผมก็ไปเข้าห้องน้ำมาไงพี่”
“แล้วในห้องน้ำ แกเจอใครบ้างหรือเปล่า?”
“ผมอยู่ในห้องส้วม ไม่เห็นใครเลย แต่ได้ยินเสียงคน ๆ หนึ่ง ผมว่าน่าจะเป็นชิดนะ” เจเงยหน้าเล็กน้อยพยายามนึกถึง “ผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นะ”
“อืม...” ปลายนิ่งแล้วหันไปทางนักเตะทีมคณะวิศวกรรมศาสตร์บ้าง “เค นายก็ออกไปข้างนอกห้องพักใช่มั้ย?”
“ใช่” นักเตะหมายเลข 8 พยักหน้าบอกอย่างมั่นใจ “ฉันก็ออกไปทำสมาธิแถว ๆ ห้องพัก”
“อืม” ปลายจ้องมองเขา นิ่งคิดอยู่สักพัก แล้วสอบถามผู้ออกไปนอกห้องพักคนอื่นต่อ จึงพอวิเคราะห์เรื่องได้ทั้งหมด
“คงจะถึงเวลาเฉลยฆาตกรแล้วสินะ” ปลายฉีกยิ้ม พร้อมพูดขึ้นอย่างมั่นใจ “คดีนี้เกิดขึ้นจากการทะเลาะอย่างที่บอกในทีแรก แต่เหตุที่ทะเลาะกันนั้น ไม่ใช่ทะเลาะกันเพราะเถียงเรื่องส่วนตัวหรือเหยียดหยามกันในเกมฟุตบอล แต่มันเป็นเรื่อง... การล้มบอล!!”
ทันทีที่ปลายพูดจบประโยค นักเตะหลายคนของทั้งสองทีมต่างสีหน้าแปรเปลี่ยนไป
“เพราะผมสังเกตดูแล้ว มีนักเตะหลายคนที่เล่นผิดฟอร์ม มันเลยน่าจะเป็นเรื่องล้มบอลมากที่สุด ...แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับ ว่าคดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน เหตุเกิดขึ้นมาเพราะพลั้งพลาดไป แล้วฆาตกรต้องการพ้นผิด จึงได้กระทำการหนึ่งเพื่อให้ตัวเองรอด”
ปลายขยับตัวอีกเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นต่อ “โดยฆาตกรและอาร์ทคงจะเจรจากันเรื่องล้มบอล แต่ดูเหมือนว่าฆาตกรไม่ยอมเล่นด้วย จึงมีการกระทบกระทั่งทะเลาะกันจนพลั้งมือฆ่าอาร์ทไป ซึ่งก่อนที่อาร์ทจะตายได้ทิ้งไดอิ้งเม็สเซ็จชี้ตัวฆาตกรไว้ด้วย”
“แต่ไดอิ้งเม็สเซ็จบ่งชี้ว่าเป็นอ๊อฟนี่” สารวัตรสรวุทธพูดขึ้นมาบ้าง
“ใช่ครับ ไดอิ้งเม็สเซ็จที่เห็นบ่งชี้ว่าเป็นอ๊อฟ แต่นั่นไม่ใช่อาร์ทเป็นคนทำ ฆาตกรเป็นคนทำต่างหาก!” ปลายหันไปบอกสารวัตร “เพราะไดอิ้งเม็สเซ็จที่อาร์ททิ้งไว้ ถูกฆาตกรเปลี่ยนแปลงมัน”
“เธอรู้ได้ไง?”
“สารวัตรลองดูไดอิ้งเม็สเซ็จดี ๆ สิครับ รอยขีดเลือดสองเส้นนั่นเหมือนกันมั้ย... ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า รอยขีดหนึ่งจะดูเหมือนใช้มือขีดขึ้นมาก่อน เพราะสีค่อนข้างเข้ม เลือดน่าจะแห้งก่อน ส่วนอีกขีดกลับสีอ่อนแถมเส้นดูบางกว่า ผมว่าน่าจะขีดขึ้นมาทีหลัง ..ทั้งนี้อาจเพราะฆาตกรจับมืออาร์ทขีดรอยเลือดเพิ่มอีกขีด เพื่อเปลี่ยนแปลงไดอิ้งเม็สเซ็จที่อาร์ททิ้งไว้ทีแรก”
ปลายพูดเสร็จก้าวเดินไปทางลูกทีมคณะวิทยาศาสตร์ของตน “..ซึ่งถ้าอาร์ทขีดไว้เพียงขีดเดียว มันก็คือ เลข 1 ดังนั้น ฆาตกรก็คือ...” เขายื่นมือวางบนบ่าของนักเตะผู้หนึ่ง “เจมส์!! นายคือคนฆ่าอาร์ท!!”
ทุกคนตอนนี้หันหน้าไปหาเจมส์ราวกับนัดกันไว้
เจมส์หน้าถอดสีไปทันที ใบหน้าดูหมองเศร้าลง นายทวารหนุ่มนิ่งไปสักพัก แล้วตัดสินใจลุกพรวดขึ้นมา
“ใช่แล้ว ..ฉันเป็นคนฆ่าอาร์ทเอง” เจมส์ตัดสินใจยอมสารภาพ
ปลายนิ่ง มองหน้าเขา “นายคงไม่ยอมล้มบอลสินะ”
“ถูกแล้ว อาร์ทมาคุยกับฉันให้ยอมล้มบอลให้ในครึ่งหลัง แต่ฉันไม่ยอมเลยทะเลาะกัน แล้วฉันพลั้งมือฆ่าเขาไป แต่ก่อนตายอาร์ทได้เขียนรอยขีดเลือดไว้ขีดหนึ่ง ตอนนั้นฉันยังไม่กล้าทำอะไร คิดว่าต้องโดนจับแน่...” เจมส์อธิบายด้วยสีหน้าเศร้า ๆ
ปลายมองดูเขา “แล้วมีคนมาเห็นนายฆ่าอาร์ทใช่มั้ย?”
“อือ.. ชิดกับเค” เจมส์ผงกศีรษะรับ “ตอนนั้นฉันทำอะไรไม่ได้เลย แต่พอฉันตั้งสติได้ ชิดกับเคก็เข้ามา ฉันกลัวโดนตำรวจจับ เลยเจรจาขอให้ทั้งสองปิดเรื่องนี้ไว้แลกกับที่ฉันไม่บอกเรื่องที่ทั้งคู่รู้เห็นเรื่องล้มบอล จากนั้นฉันจึงขีดรอยเลือดเพิ่ม เพื่อให้ฉันพ้นผิดและให้อ๊อฟเป็นฆาตกรแทน เพราะรู้มาจากเคว่า อ๊อฟกับอาร์ทมีเรื่องกันตอนจบครึ่งแรก น่าจะใช้เป็นแรงจูงใจได้”
คราวนี้ชิดนักเตะหมายเลข 10 ทีมคณะวิทยาศาสตร์ลุกขึ้นบ้าง เขาเดินเข้าใกล้เจมส์ “ถูกแล้ว ฉันกับเครู้กันเรื่องล้มบอล อาร์ทจะเป็นคนไปคุยเรื่องล้มบอลกับเจมส์ ตอนแรกฉันนึกว่าเจมส์จะยอมล้มบอล เพราะต้องการเงิน แต่พอฉันกับเคเดินมาดูกลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา จึงช่วยกันแก้ไขปัญหาไปก่อน ...แต่ก็ไม่นึกเลยว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นได้”
ปลายพยักหน้ารับ แล้วเดินไปหาสารวัตรสรวุทธ “สารวัตรครับ ผมว่าคดีนี้คงปิดได้แล้วนะครับ ...แต่ผมขอร้องเรื่องหนึ่งก่อนได้ไหมครับ?”
“เรื่องอะไรล่ะ?” นายตำรวจถาม
“ผมว่า..ถึงเจมส์มันจะทำลงไป แต่มันก็ไม่ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นนะครับ ...ผมขอร้องให้สารวัตรช่วยเค้าหน่อยได้มั้ยครับ?”
“อืม...” สารวัตรพยักหน้ารับ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ นายตำรวจสั่งให้ลูกน้องจับกุมเจมส์ ส่วนเคกับชิดก็คุมตัวไว้ก่อน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมต่อ
จากนั้นหนุ่มผมตั้งก็เดินไปหาเจมส์ที่ถูกคุมตัวอยู่ คลี่ยิ้มให้พร้อมพูดขึ้นว่า “เจมส์ นายให้การกับตำรวจว่าโดนทำร้ายก่อน แสดงบาดแผลให้เจ้าหน้าที่เห็น โทษของนายอาจลดลงก็ได้นะ” เขาตบไหล่เพื่อนเบา ๆ “โชคดีนะ”
เจมส์ยิ้มรับเขาทันที แล้วตำรวจก็พาตัวออกไป
(มีต่ออีกหน่อยครับ)