เราชอบกระเจี๊ยบเขียวมากค่ะ สารพัดเมนูที่สรรหามาทำทาน ผัด ทอด ต้ม กินดิบ เรากินหมด จิ้มน้ำพริกนี่สุดยอดดดด
ทีนี้ไปเจอสูตรกิมจิกระเจี๊ยบเขียวมา …งื้อออ!! มันน่าสนใจมากกกก น่าทานมากกกก
เชฟกระเพาะเหล็กอย่างเราต้องรีบจัดค่ะ กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็... ไม่ค่อยมีนะ ส่วนใหญ่จะกินหมด 5555

เตรียมผักกันก่อนะคะ

กระเจี๊ยบเขียว ประมาณ 3 ขีด
ต้นหอมหั่นท่อน
แครอทหั่นเป็นเส้น (ใส่ให้สีสวยเฉยๆค่ะ)
น้ำปลา 2-3 ชต.
น้ำส้มสายชู เกลือ
🌟 วิธีเลือกกระเจี๊ยบเขียว เลือกอันที่ไม่ยาวมาก 4-5 นิ้วกำลังดี มีสีเขียวอ่อน และมีเหลี่ยมน้อย นั่นคือกระเจี๊ยบอ่อนนะคะ
ทานง่ายกว่ากระเจี๊ยบแก่เพราะไม่มีเสี้ยนแข็งๆค่ะ 🌟

ล้างกระเจี๊ยบเขียวให้สะอาด หั่นขั้วออกแล้วหั่นเป็นท่อน ประมาณ 1 ซม.ใส่ชามไว้
เทน้ำอุ่นค่อนข้างร้อนลงไปให้ท่วม ใส่น้ำส้มสายชูสัก 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ชช. คนให้เข้ากัน
แช่ทิ้งไว้ 2 ชม. ค่ะ
ครบเวลาเอามารินน้ำออก จะเป็นน้ำเหนียวๆเลยค่ะ ใส่ตะแกรงล้างน้ำเยอะๆจนหายเมือก
จากนั้นราดน้ำร้อนลวกฆ่าเชื้ออีกที พักไว้ในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำจนหมดค่ะ

ระหว่างรอกระเจี๊ยบแห้ง หั่นต้นหอมเป็นท่อน คลุกน้ำปลาเอาไว้
แครอทหั่นเส้น คลุกเกลือ ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วบีบน้ำออกให้หมดค่ะ

*~*~* ทำซอสกิมจิกันค่ะ *~*~*
ส่วนผสม
กระเทียม 3-4 กลีบ
ขิง ขนาดหัวแม่โป้ง
หัวหอม ครึ่งหัว
แป้งเปียก (แป้งข้าวเหนียว 1 ชต. ผสมน้ำครึ่งถ้วย กวนให้เหนียว)
เกลือ 2 ชช.
น้ำตาล 1 ชต.
โคชูจัง 2-3 ชต.
พริกแห้งแช่น้ำร้อนเอาเมล็ดออก 3 เม็ด
(สูตรของเราไม่ได้ใส่พริกเกาหลีนะคะ เพราะหาซื้อไม่ได้ ใครมีก็ใส่เพิ่มได้เลยจ้า)

สับกระเทียมให้ละเอียดมากๆ (หรือจะปั่น ขูด ตำ แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ ส่วนเราใช้วิธีขูด)
ขิงและหอมใหญ่ก็ทำเช่นเดียวกัน

อันนี้คือแป้งเปียกที่เรากวนไว้ค่ะ
นำส่วนผสมซอสหมักทั้งหมดมารวมกัน คนให้เข้ากัน อย่าให้แป้งเปียกจับตัวเป็นก้อน
แล้วเทผักทั้งหมดลงไปคลุกให้ทั่วค่ะ
ต้นหอมที่หมักน้ำปลาก็เทลงไปทั้งหมดรวมทั้งน้ำปลาด้วยเลยค่ะ

เราใช้ขวดแก้วในการหมักนะคะ ต้องเอาไปต้มก่อนสัก 5 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อ (ต้มฝาด้วยนะ)
เนื่องจากเป็นอาหารหมัก จะปนเปื้อนแบคทีเรียได้ง่าย ทำให้อาหารเน่าเสีย จึงต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดมากๆ
วัตถุดิบ อุปกรณ์ ภาชนะต่างๆรวมถึงมือเราเอง ทำความสะอาดดีๆนะคะ

เรียงกิมจิลงขวดที่เตรียมไว้ (เรียกว่ายัดก็ได้ค่ะ 555) พยายามให้มีอากาศอยู่ในขวดน้อยที่สุดค่ะ
ปิดฝาให้สนิท แร็พพลาสติกอีกชั้น แน่นหนาสุดๆ แล้วหาผ้ามาห่อ (ไม่ให้โดนแสง) เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง 1-2 วัน
จากนั้นเปิดมาชิมดูค่ะ ถ้ายังไม่เปรี้ยวต้องหมักต่ออีกนะคะ ปิดภาชนะให้สนิทด้วย
ถ้าเปรี้ยวแล้วก็เก็บเข้าตู้เย็นได้เลยจ้า ของเราหมักได้ 1 วันครึ่งค่ะ

แป้ง + กระเทียม + เกลือ พอหมักด้วยกันแล้วจะเกิดรสเปรี้ยว หลักการเดียวกับการทำแหนมเลยค่ะ
ใครทำแล้วไม่เปรี้ยว อาจเพราะใส่อย่างใดอย่างหนึ่งน้อยไปนะคะ
แต่กิมจิสูตรที่เราทำนี่ออกรสเปรี้ยวนวลๆ ไม่ได้เปรี้ยวปรี๊ดแบบแหนมนะคะ เดาว่าคงเป็นเพราะรสหวานของโคชูจังมันไปตัดรสน่ะค่ะ

กิมจิกระเจี๊ยบ เปรี้ยวกำลังดี กรุบกรอบ เมือกยังมีเหลืออยู่นิดหน่อยแต่น้อยลงมากแล้วค่ะ มีความหอมจากกระเทียม ขิงและหอมใหญ่ แช่เย็นๆอร่อยค่ะ (กระเจี๊ยบมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ เหมาะอย่างยิ่งกับใครที่ท้องผูกบ่อยๆค่า)
ลองทำกันดูนะคะ
ปล. สำหรับใครที่ไม่ชอบเมือกกระเจี๊ยบนะคะ ใช้วิธีที่เราบอกไปข้างต้นเพื่อเอาเมือกกระเจี๊ยบออก จากนั้นเอาไปทำอาหารได้ปกติค่ะ เมือกจะน้อยลงมาก

ปล.2 ในรูปสุดท้าย ด้านหลังคือ”มากิซูชิดอกกุหลาบ” เดี๋ยวกระทู้หน้าจะมาแชร์วิธีทำนะคะ

แนะนำ ติชมกันได้เต็มที่นะคะ
สวัสดีค่ะ


ฝากกระทู้เก่าๆด้วยนะคะ

ซอสกาแฟ สำหรับสเต็ก ☕️ > https://ppantip.com/topic/38421405
โคร็อกเกะ รสแกงกะหรี่ไส้ชีสสสส 🧀 > https://ppantip.com/topic/38430453
วิธีหุงข้าวญี่ปุ่น 🌾 (แถมวิธีทำข้าวปั้น 3 อย่าง) > https://ppantip.com/topic/38448229
ซอสสปาเก็ตตี้แบบฟรีซ ไอเดียของแม่เพื่อน 🍝 > https://ppantip.com/topic/38483319
มาโปโทฟุอุด้ง เผ็ดๆร้อนๆ 🍲 > https://ppantip.com/topic/38516920
ข้าวผัดผงกะหรี๊~ หอมมมมม จนเพื่อนบ้านหิว 🥘 > https://ppantip.com/topic/38539009
โคลสลอว์แอปเปิ้ลเขียว เปรี้ยวหวาน สดชื่นนนน 🍏 > https://ppantip.com/topic/38552769
แซนวิชเนื้อแบบญี่ปุ่น ของว่างวันหยุด 🥪 > https://ppantip.com/topic/38610701