ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ เด็กดื้อหัวกลม, คุณ jazzzero, เสี่ย kasareev, น้องดาว Lady Star 919, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ สมาชิกหมายเลข 1065771, คุณ เป่าชาง, คุณ ฮิปโปโปตัวโตพุงโลชะมัด, คุณออม ออมอำพัน, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง, จารย์จี GTW, คุณ nasa nasa
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนหน้าค่ะ
บทที่ 20
https://ppantip.com/topic/36052025
บทที่ 21
https://ppantip.com/topic/36057918
บทที่ 22
https://ppantip.com/topic/36064433
บทที่ 23
https://ppantip.com/topic/36071189
บทที่ 24
https://ppantip.com/topic/36080925
บทที่ 25
https://ppantip.com/topic/36084107
บทที่ 26
https://ppantip.com/topic/36091378
บทที่ 27
https://ppantip.com/topic/36097779
บทที่ 28
https://ppantip.com/topic/36103826
บทที่ 29
เสียงร้องเรียกปลุกให้เขตสะดุ้งตื่นจากความรู้สึกที่ไม่ต่างอะไรกับฝัน เสียงนั้นแม้จะเหมือนดังมาจากที่ไกลและจับใจความได้ไม่ชัดเจน จนไม่แน่ใจว่าได้ยินจริงๆ หรือไม่ หากก็มีพลังเพียงพอที่จะปลุกให้เขาตื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีชื่อของหลานชายซึ่งเป็นห่วงอยู่ทุกลมหายใจร่วมอยู่ด้วย
“คุณเขตคะ คุณนนท์ค่ะ แย่แล้วค่ะ”
เสียงเรียกนั้นเองซึ่งหยุดยั้งความรู้สึกที่ว่ากำลังหล่นลิ่วๆ ราวตกจากหน้าผาเอาไว้ได้ ประจุไฟที่พลุ่งสวนขึ้นมาก็หายไปแล้วด้วย ที่หายไปพร้อมกันอีกอย่างคืออะไรก็ไม่รู้ที่โอบไว้มั่นในอ้อมแขน ไม่รู้หรอกว่าอะไร หากสิ่งนั้นให้ความรู้สึกว่าต้องประคับประคองไปให้ได้ตลอดทาง
‘ปณิตา…’ ชื่อนั้นสะท้อนก้องกลับไปกลับมาในจิตรับรู้แทบจะตลอดเวลา
“คุณเขตคะ คุณนนท์หายไปค่ะ” คราวนี้เสียงเร่งร้อนมีกังวลดังใกล้นิดเดียว
พอลืมตาจึงได้รู้ว่ารอบตัวมืดสนิท มืดจนมองไม่เห็นอะไรสักอย่าง ความรู้สึกแรกคือปวดแสบปวดร้อนที่แขนทั้งสองข้าง เรื่อยไปตามลำตัวและผิวหน้า ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดดังคลิก มีแสงไฟวูบวาบนำมาก่อน ตามด้วยร่างอวบๆ ของพี่เลี้ยงเด็กถลาเข้ามาเพียงไม่กี่ก้าว แล้วชะงักกึก ตาเบิกโพลงเมื่อแสงจากไฟฉายกวาดมาจับที่หน้าเขา
“คุณเขต! คะ…คุณ…ปะ…เป็น…เป็นอะไรคะ”
เขตลุกจากเก้าอี้เมื่ออาการงุนงงหายไปและรับรู้สภาพรอบตัวได้ดีขึ้น ไม่สนใจอากัปกิริยาของเด็กสาวที่จ้องดูตนเหมือนกำลังเห็นผีก็ไม่ปาน มองผ่านไปที่ประตูก็เห็นหลานสาวยืนคาอยู่ที่นั่น สองมือขยี้ตา มีเสียงร้องไห้เบาๆ มาให้ได้ยิน
“นนท์หายไป? หายไปไหน? แล้วนี่ไฟดับหรือ?” เขตรัวคำถามถี่ยิบ
“ไฟดับค่ะคุณ” น้อยตอบได้แต่คำถามหลัง
ชายหนุ่มก้าวยาวๆ ผ่านหน้าเด็กสาวที่ยังคงยืนตะลึง มีความรู้สึกว่าระยะทางเพียงสั้นๆ แค่นี้ แต่เหมือนเดินฝ่าอะไรต่ออะไรไปมากมาย อากาศรอบตัวก็หนาแน่นผิดปกติ เพิ่งได้ยินเสียงฝนตกกระทบหลังคาบ้านเอาก็ตอนนี้เอง
“ฝนตกหรือ”
คราวนี้ตั้งคำถามไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้ต้องการคำตอบสักเท่าไรนักหรอก เสียงฝนลงหนักราวฟ้ารั่วอย่างนี้ก็รู้อยู่แล้ว โน้มตัวลงรวบร่างเล็กๆ ที่กำลังสั่นเทิ้มของหลานสาวขึ้นมาไว้ในวงแขน แล้วปลอบให้แกหยุดร้องไห้ พอเดาได้ว่าคงกำลังขวัญเสียเมื่อรู้ว่าพี่ชายหายตัวไป
อะไรบางอย่างผ่านวูบไปต่อหน้าต่อตา สิ่งนั้นดูเผินๆ เหมือนน้ำไหล โปร่งแสงและบิดเบี้ยวอย่างไรชอบกล แต่พอเพ่งให้ชัดก็หายไปเสียแล้ว
“นนท์หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่” เขตดึงความสนใจของตัวเองกลับมาที่เรื่องเดิม
“หนูกำลังเอาคุณนิพเข้านอน ได้ยินเสียงวิ่งก็เลยออกมาดูค่ะ เห็นหลังคุณนนท์ลงบันไดพอดี หนูวิ่งตามลงไปแต่ก็ไม่ทัน อยู่ดีๆ คุณนนท์ก็หายไปเสียเฉยๆ อย่างนั้นเองค่ะ”
สาวน้อยรายงานไปพลางวิ่งตามนายจ้างหนุ่มผู้กำลังสาวเท้าตึงๆ ฝ่าความมืดไปอีกฝั่งของชั้นบนไปพลาง ส่องไฟฉายในมือนำทางให้เขาไปด้วย ก้าวหนึ่งของเขายาวพอๆ กับสามก้าวของหล่อนเลยทีเดียว
“หาดูทุกห้องหรือยัง”
“ค่ะคุณ หนูลงไปปลุกป้าแก แกหาชั้นล่างหมดแล้วด้วยค่ะ”
“มีใครไปหาข้างนอกหรือยัง”
“ลุงผันออกไปแล้วค่ะ”
เขตผ่านห้องหลานสาวคนเล็กไปยังห้องสุดท้ายของฝั่งนี้ เห็นว่าประตูเปิดทิ้งไว้กว้าง ภายในมืดสนิท หากเพียงไม่นานอะไรบางอย่างเลือนขึ้นที่กลางห้อง สิ่งนั้นดูไปก็คล้ายหมอกสีขาวจางๆ ลอยขึ้นๆ ลงๆ หากเพียงกะพริบตาครั้งเดียวก็เลือนหายไปเมื่อลำแสงจากไฟฉายทางเบื้องหลังส่องเข้าไปแทนที่
รู้สึกถึงใบหน้าเปียกชื้นของหลานสาวซุกอยู่กับซอกคอของตัว เสียงสะอื้นกระซิกๆ ยังไม่หยุด จึงกระซิบปลอบอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรนะครับนิพ พี่นนท์อยู่แถวนี้แหละ เดี๋ยวก็เจอ นิพกลับไปนอนนะครับ ลุงจะให้พี่น้อยอยู่เป็นเพื่อน”
เขาอุ้มนิพาดากลับมาที่ห้องของแก วางร่างเล็กๆ ลงบนเตียง ประคับประคองให้เอนตัวลงนอนแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้จนถึงหน้าอก
“หลับตาเสียนะครับ มืดๆ อย่างนี้มองอะไรก็ไม่เห็น เดี๋ยวลุงจะลงไปดูสวิตช์ไฟเสียหน่อย” ประโยคต่อมาหันมาสั่งพี่เลี้ยงเด็ก
“อยู่กับนิพที่นี่แหละน้อย”
“คุณเขตเอาไฟฉายไปไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอก เอาไว้ที่นี่แหละ”
เขตสั่งแล้วก้าวตึงๆ ออกมาจากห้อง หมอกขาวๆ ลอยผ่านหน้าแล้วจางหายไป ที่จริงหมอกที่เห็นไม่ได้มีอยู่เพียงภายในและหน้าห้องเท่านั้นหรอก บริเวณทางเดินก็มีเลื่อนไปลอยมาอยู่เช่นกัน ความมืดยิ่งช่วยให้เห็นชัดกว่าปกติ แต่เหตุเพราะมัวเป็นห่วงหลานทำให้ไม่สนใจสักเท่าไรนัก แน่ใจว่าคงเป็นหมอกซึ่งเกิดจากความชื้นของบรรยากาศเสียมากกว่าอะไรอื่น
คุ้มสีทอง (บทที่ 29)
ขอบคุณ คุณ เด็กดื้อหัวกลม, คุณ jazzzero, เสี่ย kasareev, น้องดาว Lady Star 919, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ สมาชิกหมายเลข 1065771, คุณ เป่าชาง, คุณ ฮิปโปโปตัวโตพุงโลชะมัด, คุณออม ออมอำพัน, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง, จารย์จี GTW, คุณ nasa nasa
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนหน้าค่ะ
บทที่ 20 https://ppantip.com/topic/36052025
บทที่ 21 https://ppantip.com/topic/36057918
บทที่ 22 https://ppantip.com/topic/36064433
บทที่ 23 https://ppantip.com/topic/36071189
บทที่ 24 https://ppantip.com/topic/36080925
บทที่ 25 https://ppantip.com/topic/36084107
บทที่ 26 https://ppantip.com/topic/36091378
บทที่ 27 https://ppantip.com/topic/36097779
บทที่ 28 https://ppantip.com/topic/36103826
เสียงร้องเรียกปลุกให้เขตสะดุ้งตื่นจากความรู้สึกที่ไม่ต่างอะไรกับฝัน เสียงนั้นแม้จะเหมือนดังมาจากที่ไกลและจับใจความได้ไม่ชัดเจน จนไม่แน่ใจว่าได้ยินจริงๆ หรือไม่ หากก็มีพลังเพียงพอที่จะปลุกให้เขาตื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีชื่อของหลานชายซึ่งเป็นห่วงอยู่ทุกลมหายใจร่วมอยู่ด้วย
“คุณเขตคะ คุณนนท์ค่ะ แย่แล้วค่ะ”
เสียงเรียกนั้นเองซึ่งหยุดยั้งความรู้สึกที่ว่ากำลังหล่นลิ่วๆ ราวตกจากหน้าผาเอาไว้ได้ ประจุไฟที่พลุ่งสวนขึ้นมาก็หายไปแล้วด้วย ที่หายไปพร้อมกันอีกอย่างคืออะไรก็ไม่รู้ที่โอบไว้มั่นในอ้อมแขน ไม่รู้หรอกว่าอะไร หากสิ่งนั้นให้ความรู้สึกว่าต้องประคับประคองไปให้ได้ตลอดทาง
‘ปณิตา…’ ชื่อนั้นสะท้อนก้องกลับไปกลับมาในจิตรับรู้แทบจะตลอดเวลา
“คุณเขตคะ คุณนนท์หายไปค่ะ” คราวนี้เสียงเร่งร้อนมีกังวลดังใกล้นิดเดียว
พอลืมตาจึงได้รู้ว่ารอบตัวมืดสนิท มืดจนมองไม่เห็นอะไรสักอย่าง ความรู้สึกแรกคือปวดแสบปวดร้อนที่แขนทั้งสองข้าง เรื่อยไปตามลำตัวและผิวหน้า ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดดังคลิก มีแสงไฟวูบวาบนำมาก่อน ตามด้วยร่างอวบๆ ของพี่เลี้ยงเด็กถลาเข้ามาเพียงไม่กี่ก้าว แล้วชะงักกึก ตาเบิกโพลงเมื่อแสงจากไฟฉายกวาดมาจับที่หน้าเขา
“คุณเขต! คะ…คุณ…ปะ…เป็น…เป็นอะไรคะ”
เขตลุกจากเก้าอี้เมื่ออาการงุนงงหายไปและรับรู้สภาพรอบตัวได้ดีขึ้น ไม่สนใจอากัปกิริยาของเด็กสาวที่จ้องดูตนเหมือนกำลังเห็นผีก็ไม่ปาน มองผ่านไปที่ประตูก็เห็นหลานสาวยืนคาอยู่ที่นั่น สองมือขยี้ตา มีเสียงร้องไห้เบาๆ มาให้ได้ยิน
“นนท์หายไป? หายไปไหน? แล้วนี่ไฟดับหรือ?” เขตรัวคำถามถี่ยิบ
“ไฟดับค่ะคุณ” น้อยตอบได้แต่คำถามหลัง
ชายหนุ่มก้าวยาวๆ ผ่านหน้าเด็กสาวที่ยังคงยืนตะลึง มีความรู้สึกว่าระยะทางเพียงสั้นๆ แค่นี้ แต่เหมือนเดินฝ่าอะไรต่ออะไรไปมากมาย อากาศรอบตัวก็หนาแน่นผิดปกติ เพิ่งได้ยินเสียงฝนตกกระทบหลังคาบ้านเอาก็ตอนนี้เอง
“ฝนตกหรือ”
คราวนี้ตั้งคำถามไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้ต้องการคำตอบสักเท่าไรนักหรอก เสียงฝนลงหนักราวฟ้ารั่วอย่างนี้ก็รู้อยู่แล้ว โน้มตัวลงรวบร่างเล็กๆ ที่กำลังสั่นเทิ้มของหลานสาวขึ้นมาไว้ในวงแขน แล้วปลอบให้แกหยุดร้องไห้ พอเดาได้ว่าคงกำลังขวัญเสียเมื่อรู้ว่าพี่ชายหายตัวไป
อะไรบางอย่างผ่านวูบไปต่อหน้าต่อตา สิ่งนั้นดูเผินๆ เหมือนน้ำไหล โปร่งแสงและบิดเบี้ยวอย่างไรชอบกล แต่พอเพ่งให้ชัดก็หายไปเสียแล้ว
“นนท์หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่” เขตดึงความสนใจของตัวเองกลับมาที่เรื่องเดิม
“หนูกำลังเอาคุณนิพเข้านอน ได้ยินเสียงวิ่งก็เลยออกมาดูค่ะ เห็นหลังคุณนนท์ลงบันไดพอดี หนูวิ่งตามลงไปแต่ก็ไม่ทัน อยู่ดีๆ คุณนนท์ก็หายไปเสียเฉยๆ อย่างนั้นเองค่ะ”
สาวน้อยรายงานไปพลางวิ่งตามนายจ้างหนุ่มผู้กำลังสาวเท้าตึงๆ ฝ่าความมืดไปอีกฝั่งของชั้นบนไปพลาง ส่องไฟฉายในมือนำทางให้เขาไปด้วย ก้าวหนึ่งของเขายาวพอๆ กับสามก้าวของหล่อนเลยทีเดียว
“หาดูทุกห้องหรือยัง”
“ค่ะคุณ หนูลงไปปลุกป้าแก แกหาชั้นล่างหมดแล้วด้วยค่ะ”
“มีใครไปหาข้างนอกหรือยัง”
“ลุงผันออกไปแล้วค่ะ”
เขตผ่านห้องหลานสาวคนเล็กไปยังห้องสุดท้ายของฝั่งนี้ เห็นว่าประตูเปิดทิ้งไว้กว้าง ภายในมืดสนิท หากเพียงไม่นานอะไรบางอย่างเลือนขึ้นที่กลางห้อง สิ่งนั้นดูไปก็คล้ายหมอกสีขาวจางๆ ลอยขึ้นๆ ลงๆ หากเพียงกะพริบตาครั้งเดียวก็เลือนหายไปเมื่อลำแสงจากไฟฉายทางเบื้องหลังส่องเข้าไปแทนที่
รู้สึกถึงใบหน้าเปียกชื้นของหลานสาวซุกอยู่กับซอกคอของตัว เสียงสะอื้นกระซิกๆ ยังไม่หยุด จึงกระซิบปลอบอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรนะครับนิพ พี่นนท์อยู่แถวนี้แหละ เดี๋ยวก็เจอ นิพกลับไปนอนนะครับ ลุงจะให้พี่น้อยอยู่เป็นเพื่อน”
เขาอุ้มนิพาดากลับมาที่ห้องของแก วางร่างเล็กๆ ลงบนเตียง ประคับประคองให้เอนตัวลงนอนแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้จนถึงหน้าอก
“หลับตาเสียนะครับ มืดๆ อย่างนี้มองอะไรก็ไม่เห็น เดี๋ยวลุงจะลงไปดูสวิตช์ไฟเสียหน่อย” ประโยคต่อมาหันมาสั่งพี่เลี้ยงเด็ก
“อยู่กับนิพที่นี่แหละน้อย”
“คุณเขตเอาไฟฉายไปไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอก เอาไว้ที่นี่แหละ”
เขตสั่งแล้วก้าวตึงๆ ออกมาจากห้อง หมอกขาวๆ ลอยผ่านหน้าแล้วจางหายไป ที่จริงหมอกที่เห็นไม่ได้มีอยู่เพียงภายในและหน้าห้องเท่านั้นหรอก บริเวณทางเดินก็มีเลื่อนไปลอยมาอยู่เช่นกัน ความมืดยิ่งช่วยให้เห็นชัดกว่าปกติ แต่เหตุเพราะมัวเป็นห่วงหลานทำให้ไม่สนใจสักเท่าไรนัก แน่ใจว่าคงเป็นหมอกซึ่งเกิดจากความชื้นของบรรยากาศเสียมากกว่าอะไรอื่น