ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, คุณนัน turtle_cheesecake, จารย์จี GTW, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ เป่าชาง, คุณออม ออมอำพัน, คุณ มานีโอลา, คุณ sudawo, คุณ nasa nasa
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทที่ 10
https://ppantip.com/topic/35992032
บทที่ 11
https://ppantip.com/topic/35999142
บทที่ 12
https://ppantip.com/topic/36005614
บทที่ 13
https://ppantip.com/topic/36008955
บทที่ 14
https://ppantip.com/topic/36015042
บทที่ 15
https://ppantip.com/topic/36022170
บทที่ 16
https://ppantip.com/topic/36025947
บทที่ 17
https://ppantip.com/topic/36032009
บทที่ 18
https://ppantip.com/topic/36038614
บทที่ 19
https://ppantip.com/topic/36045647
บทที่ 20
https://ppantip.com/topic/36052025
บทที่ 21
https://ppantip.com/topic/36057918
บทที่ 22
https://ppantip.com/topic/36064433
บทที่ 23
"พาไปโรงพยาบาลไหน ไปกันยังไง คุณครูเป็นอะไรมากหรือเปล่า" เขตถามร้อนรน ห่วงอยู่แล้วว่าถ้าผันต้องค้างที่เชียงใหม่ ที่บ้านจะไม่มีรถใช้ ถ้าใครเป็นอะไรก็จะลำบากไปตามๆ กันเพราะไปไหนกันไม่ได้
"โรงพยาบาลที่ปายค่ะ คุณเขต ป้าแกโทรศัพท์ไปปลุกคุณก้องให้ช่วยพาไปโรงพยาบาล ตอนนั้นคุณครูไม่รู้สึกตัวแล้วค่ะ หนูว่าหัวคงไปฟาดกับขอบบันได เลือดออกเต็มไปหมดเลยค่ะ" เสียงจากปลายสายนั้นเกือบจะร้องไห้อยู่แล้ว
"เอาล่ะ...เอาล่ะ...น้อย ขอบใจนะที่โทรมาบอก จะตามไปที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละ"
เขาวางหูโทรศัพท์กลับลงเครื่องแล้วหันมาทางชายสูงวัยซึ่งลุกจากเก้าอี้ยาวที่แกใช้นอนมายืนรีๆ รอๆ คอยคำสั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ว
"คุณต้าเจ็บหนัก ป้าคำแปงกับลุงผาพาไปโรงพยาบาล นี่คงถึงแล้ว ผมจะตามไปดู ลุงเอารถกลับบ้านก็แล้วกัน ตอนนี้ที่บ้านมีแต่น้อยกับเด็กๆ เท่านั้น"
แม้จะจองตั๋วเครื่องบินกลับกรุงเทพในวันรุ่งขึ้นได้เรียบร้อย แต่เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้เร่งด่วนกว่า เขาจึงคิดว่าควรเก็บเรื่องงานและเรื่องที่จะไปพาหมอต่างชาติมาตรวจหลานชายไว้ก่อน ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเวลานี้เที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ถ้าตามไปโรงพยาบาลซึ่งใช้เวลาขับรถไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง ครูของหลานๆ จะยังคงอยู่ที่นั่นหรือไม่
เมื่อมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่และแน่ใจว่าจะกลับกรุงเทพได้ในวันรุ่งขึ้น เขตจึงตัดสินใจค้างที่โรงแรมของคุณรังสรรค์ อีกทั้งเจ้าของสถานที่ก็คะยั้นคะยอ ไม่เพียงเท่านั้น พอรู้ว่าเขาจะมาพร้อมคุณธนา ฝ่ายนั้นยังเปิดห้องเตรียมไว้ให้เสร็จเรียบร้อย จึงไม่กล้าขัดศรัทธา
เขาให้ผันค้างคืนเสียที่นั่นด้วย คนขับรถประจำบ้านอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเขา จะให้แกมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่แล้วกลับแม่ฮ่องสอนในทันทีก็กระไรอยู่ มาถึงที่นี่ก็ร่วมสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว คนแก่ขนาดนั้นขับรถข้ามภูเขากลับไปกลับมาในคืนเดียวคงไม่เหมาะแน่ แม้แกจะยืนยันว่าไม่มีปัญหาก็ตาม
"ไปเดี๋ยวนี้เลยหรือครับคุณ"
"เดี๋ยวนี้เลยลุง ฝากกระเป๋าผมลงไปที่รถด้วย ผมจะไปบอกคุณธนาเสียก่อน แล้วจะไปเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมด้วยเลย" เขาคว้ากุญแจรถส่วนตัวจากโต๊ะข้างเตียงมาส่งให้
ธนาและครอบครัวพักอยู่ในห้องสูท บนชั้นสิบของโรงแรม นั่นเป็นชั้นบนสุด แม้จะต่อโทรศัพท์ขึ้นไปที่ห้องชุดนั้นได้โดยตรง แต่ความคุ้นเคยกับนิสัยของชายสูงวัยผู้เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในธุรกิจของเขา เขตรู้ดีว่าการเปลี่ยนแผนกระทันหันลักษณะนี้จะต้องขึ้นไปบอกให้รู้ด้วยตัวเอง
ดีที่ห้องสูทลักษณะนั้นมีสองห้องนอน ธนิดาเข้าพักอยู่อีกห้อง แยกจากห้องของพ่อแม่ เขาแน่ใจว่าดึกขนาดนี้หล่อนคงเข้านอนแล้ว และคงไม่ต้องรำคาญกับเสียงตัดพ้อต่อว่าเมื่อเขาจะไม่กลับกรุงเทพด้วย ดีไม่ดีหล่อนเกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมกลับกรุงเทพขึ้นมาบ้าง ก็คงต้องพ่วงหล่อนไปไหนมาไหนต่อไปอีกหลายวัน
เขตบึ่งรถไปปายไม่ต่างอะไรกับบิน ยิ่งในเวลาดึกเช่นนี้ ถนนว่างไปตลอดสาย จึงเร่งความเร็วได้อย่างใจ ระยะทางซึ่งปกติใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมงนั้น เพียงสองชั่วโมงก็เห็นทางเข้าอาคารโรงพยาบาลอยู่รำไร
คำแปงนั่งอยู่คนเดียวบนเก้าอี้ยาวหน้าห้องฉุกเฉิน ศีรษะพิงผนังทางด้านหลัง ตาปิดสนิท ดูไม่ออกว่ากำลังหลับหรือไม่ คำผา…ซึ่งน้อยบอกว่ามาโรงพยาบาลด้วย…ไม่อยู่ในบริเวณนั้น
แม่บ้านสูงวัยลืมตาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าเป็นใครก็ขยับจะลุก แต่ผู้เป็นนายจ้างโบกมือห้ามไว้เสียก่อน
"คุณครูล่ะป้า"
"ยังอยู่ในห้องนั่นเลยค่ะ เมื่อกี้อิฉันถามพยาบาล เห็นว่าคุณครูยังไม่รู้สึกตัวเลยค่ะ"
เขตเดินเลยไปที่ประตูซึ่งปิดสนิท เป็นประตูไม้ มีสองบานปิดเข้าหากัน แต่ละบานเจาะไว้เป็นช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ กรุกระจก เมื่อมองเข้าไปก็ไม่เห็นครูของหลาน เห็นเพียงผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวคนหนึ่งเพิ่งเดินออกมาจากด้านหลังของม่านสีเขียวอ่อน ผู้หญิงสวมชุดพยาบาลสีขาวสองคนกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่าง นอกเหนือจากนั้น เท่าที่เห็นมีเตียงแคบๆ ปูพลาสติกสีเขียว มีผ้าขาวปูทับ เตียงนั้นว่างเปล่า ข้างๆ มีม่านสีเขียวอ่อนปิดกั้นอะไรบางอย่างไว้ภายใน พยาบาลวัยกลางคนคนหนึ่งเพิ่งตามหมอออกมาจากหลังม่าน
เขากลับมาลงนั่งข้างๆ แม่บ้านสูงวัย
"เรื่องเป็นยังไงกันครับป้า คุณต้าไปโดนอะไรเข้า"
"อิฉันก็ไม่รู้หรอกค่ะคุณ น้อยมันบอกว่าได้ยินเสียงดังตึง ดังมากเลยค่ะ พอออกมาดูก็เห็นคุณครูนอนอยู่ที่เชิงบันได ตอนนั้นไม่รู้สึกตัวแล้วค่ะ หัวคงฟาดลงกับขอบบันไดเพราะมีเลือดออกมาเต็มไปหมด น้อยมันไม่เห็นหรอกค่ะว่าทำไมคุณครูถึงได้ลงไปนอนอยู่ตรงนั้น สงสัยคงลื่นล้มกระมังคะ"
เขตได้แต่ผงกศีรษะรับรู้ เป็นห่วงคนซึ่งไม่ได้สติอยู่ภายในห้องฉุกเฉินจนนั่งไม่ติด ต้องลุกกลับไปดูที่ประตูห้องอีกครั้ง
มองผ่านช่องกระจกเข้าไปภายในอยู่นานจนพยาบาลสาวคนหนึ่งหันมาเห็น หล่อนเปิดประตูออกมาถาม
"คุณเป็นญาติคนไข้หรือคะ"
"ครับ ผมเป็นญาติคุณปณิตา คุณปณิตาเป็นยังไงบ้าง"
"ยังไม่รู้สึกตัวเลยค่ะ เชิญคุณเข้ามาคุยกับคุณหมอดีกว่านะคะ คุณหมอกำลังอยากพบญาติคนไข้คนนี้อยู่พอดี"
หล่อนดันบานประตูให้กว้างพอที่ชายหนุ่มจะผ่านเข้ามาได้
นายแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินยังหนุ่มอยู่มาก รูปร่างหน้าตาตลอดจนถึงลักษณะการแต่งตัวเหมือนเพิ่งจบแพทย์มาได้เพียงไม่กี่ปี แต่เขาก็อธิบายอาการของครูสาวได้อย่างละเอียดลออ ทั้งยังเข้าใจง่ายอีกด้วย
คุ้มสีทอง (บทที่ 23)
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, คุณนัน turtle_cheesecake, จารย์จี GTW, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ เป่าชาง, คุณออม ออมอำพัน, คุณ มานีโอลา, คุณ sudawo, คุณ nasa nasa
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทที่ 10 https://ppantip.com/topic/35992032
บทที่ 11 https://ppantip.com/topic/35999142
บทที่ 12 https://ppantip.com/topic/36005614
บทที่ 13 https://ppantip.com/topic/36008955
บทที่ 14 https://ppantip.com/topic/36015042
บทที่ 15 https://ppantip.com/topic/36022170
บทที่ 16 https://ppantip.com/topic/36025947
บทที่ 17 https://ppantip.com/topic/36032009
บทที่ 18 https://ppantip.com/topic/36038614
บทที่ 19 https://ppantip.com/topic/36045647
บทที่ 20 https://ppantip.com/topic/36052025
บทที่ 21 https://ppantip.com/topic/36057918
บทที่ 22 https://ppantip.com/topic/36064433
"พาไปโรงพยาบาลไหน ไปกันยังไง คุณครูเป็นอะไรมากหรือเปล่า" เขตถามร้อนรน ห่วงอยู่แล้วว่าถ้าผันต้องค้างที่เชียงใหม่ ที่บ้านจะไม่มีรถใช้ ถ้าใครเป็นอะไรก็จะลำบากไปตามๆ กันเพราะไปไหนกันไม่ได้
"โรงพยาบาลที่ปายค่ะ คุณเขต ป้าแกโทรศัพท์ไปปลุกคุณก้องให้ช่วยพาไปโรงพยาบาล ตอนนั้นคุณครูไม่รู้สึกตัวแล้วค่ะ หนูว่าหัวคงไปฟาดกับขอบบันได เลือดออกเต็มไปหมดเลยค่ะ" เสียงจากปลายสายนั้นเกือบจะร้องไห้อยู่แล้ว
"เอาล่ะ...เอาล่ะ...น้อย ขอบใจนะที่โทรมาบอก จะตามไปที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละ"
เขาวางหูโทรศัพท์กลับลงเครื่องแล้วหันมาทางชายสูงวัยซึ่งลุกจากเก้าอี้ยาวที่แกใช้นอนมายืนรีๆ รอๆ คอยคำสั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ว
"คุณต้าเจ็บหนัก ป้าคำแปงกับลุงผาพาไปโรงพยาบาล นี่คงถึงแล้ว ผมจะตามไปดู ลุงเอารถกลับบ้านก็แล้วกัน ตอนนี้ที่บ้านมีแต่น้อยกับเด็กๆ เท่านั้น"
แม้จะจองตั๋วเครื่องบินกลับกรุงเทพในวันรุ่งขึ้นได้เรียบร้อย แต่เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้เร่งด่วนกว่า เขาจึงคิดว่าควรเก็บเรื่องงานและเรื่องที่จะไปพาหมอต่างชาติมาตรวจหลานชายไว้ก่อน ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเวลานี้เที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ถ้าตามไปโรงพยาบาลซึ่งใช้เวลาขับรถไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง ครูของหลานๆ จะยังคงอยู่ที่นั่นหรือไม่
เมื่อมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่และแน่ใจว่าจะกลับกรุงเทพได้ในวันรุ่งขึ้น เขตจึงตัดสินใจค้างที่โรงแรมของคุณรังสรรค์ อีกทั้งเจ้าของสถานที่ก็คะยั้นคะยอ ไม่เพียงเท่านั้น พอรู้ว่าเขาจะมาพร้อมคุณธนา ฝ่ายนั้นยังเปิดห้องเตรียมไว้ให้เสร็จเรียบร้อย จึงไม่กล้าขัดศรัทธา
เขาให้ผันค้างคืนเสียที่นั่นด้วย คนขับรถประจำบ้านอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเขา จะให้แกมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่แล้วกลับแม่ฮ่องสอนในทันทีก็กระไรอยู่ มาถึงที่นี่ก็ร่วมสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว คนแก่ขนาดนั้นขับรถข้ามภูเขากลับไปกลับมาในคืนเดียวคงไม่เหมาะแน่ แม้แกจะยืนยันว่าไม่มีปัญหาก็ตาม
"ไปเดี๋ยวนี้เลยหรือครับคุณ"
"เดี๋ยวนี้เลยลุง ฝากกระเป๋าผมลงไปที่รถด้วย ผมจะไปบอกคุณธนาเสียก่อน แล้วจะไปเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมด้วยเลย" เขาคว้ากุญแจรถส่วนตัวจากโต๊ะข้างเตียงมาส่งให้
ธนาและครอบครัวพักอยู่ในห้องสูท บนชั้นสิบของโรงแรม นั่นเป็นชั้นบนสุด แม้จะต่อโทรศัพท์ขึ้นไปที่ห้องชุดนั้นได้โดยตรง แต่ความคุ้นเคยกับนิสัยของชายสูงวัยผู้เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในธุรกิจของเขา เขตรู้ดีว่าการเปลี่ยนแผนกระทันหันลักษณะนี้จะต้องขึ้นไปบอกให้รู้ด้วยตัวเอง
ดีที่ห้องสูทลักษณะนั้นมีสองห้องนอน ธนิดาเข้าพักอยู่อีกห้อง แยกจากห้องของพ่อแม่ เขาแน่ใจว่าดึกขนาดนี้หล่อนคงเข้านอนแล้ว และคงไม่ต้องรำคาญกับเสียงตัดพ้อต่อว่าเมื่อเขาจะไม่กลับกรุงเทพด้วย ดีไม่ดีหล่อนเกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมกลับกรุงเทพขึ้นมาบ้าง ก็คงต้องพ่วงหล่อนไปไหนมาไหนต่อไปอีกหลายวัน
เขตบึ่งรถไปปายไม่ต่างอะไรกับบิน ยิ่งในเวลาดึกเช่นนี้ ถนนว่างไปตลอดสาย จึงเร่งความเร็วได้อย่างใจ ระยะทางซึ่งปกติใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมงนั้น เพียงสองชั่วโมงก็เห็นทางเข้าอาคารโรงพยาบาลอยู่รำไร
คำแปงนั่งอยู่คนเดียวบนเก้าอี้ยาวหน้าห้องฉุกเฉิน ศีรษะพิงผนังทางด้านหลัง ตาปิดสนิท ดูไม่ออกว่ากำลังหลับหรือไม่ คำผา…ซึ่งน้อยบอกว่ามาโรงพยาบาลด้วย…ไม่อยู่ในบริเวณนั้น
แม่บ้านสูงวัยลืมตาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าเป็นใครก็ขยับจะลุก แต่ผู้เป็นนายจ้างโบกมือห้ามไว้เสียก่อน
"คุณครูล่ะป้า"
"ยังอยู่ในห้องนั่นเลยค่ะ เมื่อกี้อิฉันถามพยาบาล เห็นว่าคุณครูยังไม่รู้สึกตัวเลยค่ะ"
เขตเดินเลยไปที่ประตูซึ่งปิดสนิท เป็นประตูไม้ มีสองบานปิดเข้าหากัน แต่ละบานเจาะไว้เป็นช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ กรุกระจก เมื่อมองเข้าไปก็ไม่เห็นครูของหลาน เห็นเพียงผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวคนหนึ่งเพิ่งเดินออกมาจากด้านหลังของม่านสีเขียวอ่อน ผู้หญิงสวมชุดพยาบาลสีขาวสองคนกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่าง นอกเหนือจากนั้น เท่าที่เห็นมีเตียงแคบๆ ปูพลาสติกสีเขียว มีผ้าขาวปูทับ เตียงนั้นว่างเปล่า ข้างๆ มีม่านสีเขียวอ่อนปิดกั้นอะไรบางอย่างไว้ภายใน พยาบาลวัยกลางคนคนหนึ่งเพิ่งตามหมอออกมาจากหลังม่าน
เขากลับมาลงนั่งข้างๆ แม่บ้านสูงวัย
"เรื่องเป็นยังไงกันครับป้า คุณต้าไปโดนอะไรเข้า"
"อิฉันก็ไม่รู้หรอกค่ะคุณ น้อยมันบอกว่าได้ยินเสียงดังตึง ดังมากเลยค่ะ พอออกมาดูก็เห็นคุณครูนอนอยู่ที่เชิงบันได ตอนนั้นไม่รู้สึกตัวแล้วค่ะ หัวคงฟาดลงกับขอบบันไดเพราะมีเลือดออกมาเต็มไปหมด น้อยมันไม่เห็นหรอกค่ะว่าทำไมคุณครูถึงได้ลงไปนอนอยู่ตรงนั้น สงสัยคงลื่นล้มกระมังคะ"
เขตได้แต่ผงกศีรษะรับรู้ เป็นห่วงคนซึ่งไม่ได้สติอยู่ภายในห้องฉุกเฉินจนนั่งไม่ติด ต้องลุกกลับไปดูที่ประตูห้องอีกครั้ง
มองผ่านช่องกระจกเข้าไปภายในอยู่นานจนพยาบาลสาวคนหนึ่งหันมาเห็น หล่อนเปิดประตูออกมาถาม
"คุณเป็นญาติคนไข้หรือคะ"
"ครับ ผมเป็นญาติคุณปณิตา คุณปณิตาเป็นยังไงบ้าง"
"ยังไม่รู้สึกตัวเลยค่ะ เชิญคุณเข้ามาคุยกับคุณหมอดีกว่านะคะ คุณหมอกำลังอยากพบญาติคนไข้คนนี้อยู่พอดี"
หล่อนดันบานประตูให้กว้างพอที่ชายหนุ่มจะผ่านเข้ามาได้
นายแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินยังหนุ่มอยู่มาก รูปร่างหน้าตาตลอดจนถึงลักษณะการแต่งตัวเหมือนเพิ่งจบแพทย์มาได้เพียงไม่กี่ปี แต่เขาก็อธิบายอาการของครูสาวได้อย่างละเอียดลออ ทั้งยังเข้าใจง่ายอีกด้วย