ตอนที่ 1 - 10 https://ppantip.com/topic/42911183
1 ใจ
2 ที่ตั้งของใจ
3 ทางสายเอก
4 ทางเดียวกัน
5 หยุด
6 ตาย - เกิด
7 บุญใหญ่ - กุศลใหญ่
8 จริงแค่ไหน
9 นิพพาน
10 เหตุแห่งความชั่ว-เหตุแห่งความดี
ตอนที่ 11 - 29 https://ppantip.com/topic/42911188
11 การเข้าถึงรัตนะ
12 ทางไปของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์
13 หนทางเบื้องต้นมรรค ผล นิพพาน
14 ดวงธรรม
15 พระรัตนตรัยคือที่พึ่งอันสูงสุด
16 สำเร็จด้วยการให้
17 ศาสนาพุทธอยู่ได้ด้วยการให้
18 เป็นเอกราชด้วยพุทธศาสนา
19 ให้ดวงบุญนั้นช่วย
20 ปิยวาจา
ตอนที่ 21 - 30 https://ppantip.com/topic/42911195
21 ประพฤติให้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนกัน
22 ความเป็นผู้มีตนเสมอ
23 ทำความดีให้หนักขึ้น
24 จิต 12 ดวง
25 ทางบริสุทธิ์
26 ให้ทิ้งขันธ์ 5
27 อยู่กับธรรม
28 หลอกตัวเอง
29 ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัว
30 สุขในฌาน
ตอนที่ 31 - 40 https://ppantip.com/topic/42913225
31 หนทางหมดจดวิเศษ
32 ความไม่ประมาท
33 สุราเป็นที่ตั้งของความประมาท
34 สมาธิ
35 ตัวสำคัญ
36 ปล้ำใจให้หยุด
37 เราตถาคตคือธรรมกาย
38 ธรรมอยู่ที่ไหน
39 สุขในปัจจุบันทันตาเห็น
40 พญามาร
ตอนที่ 41 - 50 https://ppantip.com/topic/42915182
41 กำลังผจญกับพญามาร
42 ไปนิพพานได้ก็แต่ธรรมกายเท่านั้น
43 ให้ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
44 ประมุขของบุญ
45 ความไม่ประมาท
46 ไม่ประมาทในอะไร
47 ทำจริงก็เป็นทุกคน
48 ทรัพย์เป็น
49 ระลึกถึงบุญ
50 สุขหนอ
ตอนที่ 51 - 60 https://ppantip.com/topic/42915197
ตอนที่ 61 - 70 https://ppantip.com/topic/42915214
ตอนที่ 71 - 80 https://ppantip.com/topic/42915225
ตอนที่ 81 - 90 https://ppantip.com/topic/42917084
ตอนที่ 91 - 100 https://ppantip.com/topic/4291710
61
สมณะหยุดแล้ว
ออกจากโอษฐ์พระบรมศาสดานะ คำว่าหยุดนั่นแหละ เมื่อพระองค์เสด็จไปทรมานองคุลิมาล องคุลิมาลหมดพยศร้ายแล้ว แพ้จำนนนพระบรมศาสดาแล้ว เปล่งวาจาว่า สมณะหยุด ๆ พระองค์ทรงเหลียวพระพักตร์ สมณะหยุดแล้วท่านไม่หยุด
คำว่าหยุดนี่ออกจากโอษฐ์พระบรมศาสดา
องคุลิมาลพอรู้จักนัยที่พระบรมศาสดาให้เช่นนี้ก็หมดพยศร้าย มิจฉาทิฏฐิหาย กลายเป็นสัมมาทิฏฐิ เพราะฉะนั้นอ้ายตัวหยุดนี่แหละหนา เลิกเป็นมิจฉาทิฏฐิ กลับเป็นสัมมาทิฏฐิทีเดียว
หยุดนี่แหละเป็นตัวถูกละ ก็เอาใจหยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์ ไสบริสุทธิ์เท่าฟองไข่แดงของไก่ ไม่หยุดไม่ยอมกัน แก้ไขจนกระทั่งใจหยุดกิ๊ก เมื่อใจหยุดแล้ว เข้ากลางของใจที่หยุดนั่นแหละ กลางของกลาง ๆ ไม่มีเขยื้อน ที่กลางของกลางทีเดียว พอถูกส่วนเข้าก็จะเข้าถึงดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 35 เรื่อง ธชัคคสูตร
20 มิถุนายน 2497
62
อธิษฐาน
ถ้าว่ารู้จักหลักทางพุทธศาสนาแล้ว ต้องยกความขึ้นพูดความสัตย์ความจริงนั่นเป็นข้อสำคัญ ถ้าความบริสุทธิ์ของศีลมีอยู่ ก็ต้องยกความบริสุทธิ์นั่นแหละขึ้นพูด หรือความบริสุทธิ์ของสมาธิมีอยู่ ก็ยกความบริสุทธิ์ของสมาธิขึ้นพูด ขึ้นอธิษฐาน หรือแม้ว่าความจริงของปัญญามีอยู่ ก็ยกความจริงของปัญญานั้นขึ้นอธิษฐาน
หรือความสัตย์ความจริงความดีอันใดที่ทำไว้แน่นอนในใจของตัว
ให้ยกเอาความดีอันนั้นแหละขึ้นอธิษฐาน ตั้งอกตั้งใจ บรรลุความติดขัดทุกสิ่งทุกประการ ให้รู้จักหลักฐานดังนี้
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 36 เรื่อง โพชฌงคปริตร
24 มิถุนายน 2497
63
ไม่หยุดไม่ถูกศาสนา
ถ้าว่าไม่หยุดเลยไม่ถูกศาสนาสักนิดหนึ่ง ถ้าว่าหยุดเวลาไรถูกศาสนาเวลานั้น ถ้าว่าหยุดเวลาไรถูกพุทธรัตนะเวลานั้น ถ้าว่าหยุดเวลาไรถูกธรรมรัตนะเวลานั้น ถ้าว่าหยุดเวลาไรถูกสังฆรัตนะเวลานั้น
ถ้าว่าไม่หยุดแล้ว ก็ไม่ถูกพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ อย่างแน่ทีเดียว ไม่ต้องสงสัยละ อย่าไปโทษใครเลย โทษตัวเอง โทษใครก็ไม่ได้ โทษตัวของตัวเอง คนอื่นเขาหยุดได้ ตัวหยุดไม่ได้ ก็โทษตัวเอง โทษคนอื่นไม่ได้ จะไปเวรให้ใครก็ไม่ได้ ต้องว่าตัวเองโทษตัวเดียว
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 37 เรื่อง ปกิณกะ
18 กรกฎาคม 2497
64
ทางไปถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ
ในมนุษย์นี่แหละมีพุทธรัตนะ ทางไปถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ มีอยู่ในกายมนุษย์นี่ จะให้ถูกแท้ๆต้องจรดอยู่ที่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์ ใสบริสุทธิ์เท่าฟองไข่แดงของไก่ ในกายมนุษย์นี่แหละ เอาใจหยุดที่เดียว
พอหยุดกึกเข้า ก็ถูกพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะที่เดียว พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะไปทางนี้
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 38 เรื่อง สัจจกิริยคาถาถา
23 กรกฎาคม 2497
65
ควรเคารพสัทธรรม
เมื่อจำนงความเป็นใหญ่ ให้ระลึกคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ควรเคารพสัทธรรม พึงเคารพสัทธรรม ผู้ที่เคารพลัทธรรมนั่นแหละ จะถึงซึ่งความเป็นใหญ่เป็นใหญ่อย่างไร ด่าท่านก็ไม่โกรธ ทำอย่างไรก็ไม่โกรธ แกไม่อิจฉาริษยาใคร แกตั้งอยู่ในธรรมของแกมั่น ไม่ง่อนแง่นไปตามใคร
ถึงเด็กก็ต้องยกว่าเป็นผู้ใหญ่ คนชนิดนั้นถึงกลางคนก็ต้องยกให้เป็นผู้ใหญ่ ถึงเป็นผู้หญิงก็ต้องถือว่าเป็นบัณฑิตถี หญิงประกอบด้วยปัญญา หญิงเป็นใหญ่ ไม่ใช่หญิงเลวทราม ไม่ใช่หญิงง่อนแง่นคลอนแคลน มั่นคงตั้งเป็นหลักเป็นฐาน เป็นหัวหน้าประธานของคนได้
หากว่าเป็นสามเณรก็เป็นประธานของคนได้ เป็นภิกษุก็เป็นประธานของคนได้เป็นคนแก่ก็ยิ่งน่านับถือหนักเข้า น่าบูชาหนักเข้า เพราะตั้งมั่นอยู่ในธรรมไม่ง่อนแง่น ไม่คลอนแคลน จะด่าจะว่าจะเสียดสีสักเท่าหนึ่งเท่าใดก็ยิ้มแฉ่ง สบายอกสบายใจเพราะตั้งอยู่ในพระธรรม คนที่ว่านั้นก็ไม่รู้เดียงสา
เหมือนพระพุทธเจ้า ใครจะไปด่าก็ด่าไปซิ ใครจะไปเสียดสีก็เสียดสึไปซิ ไม่ขยื้อนเลย ไม่กระเทือนเลย นี่แหละทางพระพุทธศาสนาประสงค์จริงอย่างนี้
ให้ตั้งมั่นให้เคารพสัทธรรม
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 38 เรื่อง สัจจกิริยคาถา
23 กรกฎาคม 2497
66
สำรวมไม่ได้ร้ายนัก
ไอ้ที่ฆ่าฟันกันตายอยู่ใครมๆ นี้แหละ ฆ่าตัวเองตายบ้าง ฆ่าคนอื่นตายบ้างฟันแทงกันตายบ้าง เกิดรบรากันนะ ติดรสทั้งนั้นนะ ไม่ติดรสก็ติดสัมผัส ไม่ติดสัมผัสก็ติดรูป ไม่ติดรูปก็ติดเสียง ไม่ติดเสียงก็ติดกลิ่น ไม่ติดกลิ่นก็ติดรส นี่แหละติดเหล่านี้ทั้งนั้น
ที่ฆ่ากันตายร้ายนักทีเดียว
ถ้าสำรวมไม่ได้ร้ายนัก ทุกสิ่งทุกอย่างหละ เป็นภัยนักทีเดียว เหตุนี้ต้องตั้งอยู่ในความสำรวม แต่ว่าวิธีสำรวมบอกไว้แล้วนั้น ใจต้องหยุดอยู่กลางนั่นนะ หยุดนิ่งทีเดียว ต้องคอยระวัง รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสใดๆ หรือธัมมารมณ์ใดๆ มันเล็ดลอดเข้าไปถึงที่ใจหยุดละก็ มีรสมีชาติ
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 39 เรื่อง สังวรคาถา
30 กรกฎาคม 2497
67
ธรรมกายเป็นนิจจัง สุขัง อัตตา
สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัว หลีกจากสังขารทั้งหลายที่ไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายที่เป็นทุกข์ หลีกจากสังขารเหล่านั้นไปเสีย ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัว หลีกจากธรรมที่ไม่ใช่ตัวไปเสีย เข้าถึงตัวให้ได้ เข้าถึงธรรมกายให้ได้
ธรรมกายเป็นตัว ธรรมกายเที่ยง อื่นจากธรรมกายนั้นเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นี่กายในภพ
ส่วนธรรมกายนั้น เป็นนิจจัง สุขัง อัตตา นี่เป็นทางไปของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งนั้น แต่ว่าจะไปทางธรรมกายต้องใจหยุด หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ใสบริสุทธิ์เท่าฟองไข่แดงของไก่ หยุดอยู่นั้นแหละ หยุดหนักเข้า เข้ากลางของหยุดนั่นไป ก็จะเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียด หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละเอียด
เห็นกายทิพย์ กายทิพย์ละเอียด รูปพรหม รูปพรหมละเอียด กายอรูปพรหม อรูปพรหมละเอียด กายธรรม กายธรรมละเอียด กายพระโสดา พระโสดาละเอียด กายพระสกิทาคา พระสกิทาคาละเอียด กายพระอนาคา พระอนาคาละเอียด กายพระอรหัต พระอรหัตละเอียด ไปทีเดียว
นี่ไปทางนี้ ไปทางอื่นไม่ได้ ผิดทั้งนั้น ให้รู้จักหลักอันนี้ ตั้งใจให้มั่น มาประสบพบพุทธศาสนา เราจะต้องดำเนินให้ถูกร่องรอยของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ให้ได้จะได้ไปนิพพาน ในอัตภาพที่เป็นมนุษย์นี้ จะประสพความสุขสมมาดปรารถนา
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ ๔๐ เรื่อง ติลักขณาทิคาถา
๑ สิงหาคม ๒๔๙๗
68
ธรรมขาว-ธรรมดำ
ธรรมขาวเป็นธรรมสำคัญ ธรรมดำเป็นธรรมฝ่ายของพญามารแท้ๆ ไม่ใช่ของพระ ของพระเป็นฝ่ายธรรม ขาวแท้ๆ ไม่ใช่ธรรมดำ ตรงกันข้ามดังนี้
แต่ว่าผู้ประพฤติปฏิบัติในพระธรรมวินัยของพระศาสดา ทั้งภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกา ไม่รู้จักชัดว่าปฏิบัติดังนี้เป็นธรรมดำ ปฏิบัติดังนี้เป็นธรรมขาว ไม่รู้ชัด จะรู้จักชัด ต้องขัดกาย วาจา ใจ ออกไปเป็นชั้นๆ
ทุจริตกาย วาจา จิต นั่นเป็นธรรมดำ สุจริตด้วยกาย วาจา จิต นั่นเป็นธรรมขาว ทำใจให้ผ่องใสนันเป็นธรรมขาว ถ้าใจมืดมัวขุ่นหมองนั่นเป็นธรรมดำ นี่เป็นธรรมดำธรรมขาวมีลักษณะอย่างนี้
ชั่วเป็นฝ่ายดำทั้งนั้น ดีเป็นฝ่ายขาว
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 41 เรื่อง ติลักขณาทิคาถา (ต่อ)
7 สิงหาคม 2497
69
สัตว์เดรัจฉานก็มนุษย์แท้ๆ
สัตว์เดรัจฉาน ที่เราเห็นตัวปรากฏอยู่นี่ นั่นมนุษย์แท้ๆ มนุษย์ทั้งนั้น อ้ายสัตว์เดรัจฉานน่ะ ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานเสีย อ้ายตัวข้างในเป็นมนุษย์ทั้งนั้นแหละ อ้ายกายละเอียดข้างใน แต่ไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน น่าเกลียดน่าชังจริง
นั่นเพราะทำชั่วของตัวไปเกิด มันดึงดูด อายตนะของสัตว์เดรัจฉานดึงดูด ดึงดูอย่างไรล่ะ อ้าวก็ดึงดูดเข้าไปเกิดในท้องสุนัขน่ะซี ท้องหมูบ้าง ท้องสุนัขบ้าง ตามยถากรรมของมันซี ท้องเป็ด ท้องไกโน้น ดึงดูดเข้าไปอย่างนี้แหละ ดึงดูดเข้าไปได้แรงนักทีเดียว ความดึงดูดนั่น ให้รู้จักอายตนะดึงดูดอย่างนี้ อ้ายที่มันดึงดูดในพวกเหล่านี้
ถ้าว่าหย่อนขึ้นมากกว่านี้ ไปเกิดเป็นเปรต ไฟไหม้ติดตามตัวไป อสุรกายหย่อนกว่านั้นขึ้นมา นี่พวกอบายภูมิทั้งนั้น นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย ๔ อย่างนี่อบายภูมิทั้งนั้น
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 41 เรื่อง ติลักขณาทิคาถา (ต่อ)
7 สิงหาคม 2497
70
อายตนะฝ่ายดีดึงดูด
แต่นี้ชั่วไม่ได้ทำ ทำแต่ดี ทำแต่ดีก็อายตนะฝ่ายดีดึงดูด บริสุทธิ์ด้วยกาย บริสุทธิ์วาจา บริสุทธิ์ด้วยใจ ไม่มีร่องเสียเลย อายตนะอื่นดึงดูดไม่ได้ อายตนะมนุษย์ดึงดูด
ดึงดูดอย่างไรล่ะ เกิดเป็นมนุษย์กันถมไปนี่อย่างไรล่ะ เห็นโด่ๆ มันดึงดูดเข้าไปติดอยู่ในขั้วมดลูกมนุษย์นั้นแหละ มันดึงดูดอย่างนั้นแหละ นี่อายตนะมนุษย์ดึงดูดเข้ามาติดอยู่ในขั้วมดลูกของมนุษย์ นี่เพราะทำความบริสุทธิ์ด้วยกาย วาจา ใจ
ถ้าว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นไปกว่านั้น อายตนะทิพย์ดึงดูด ติดอยู่ในกำเนิดทิพย์เป็นกายทิพย์ เป็นภายทิพย์เป็นลำดับขึ้นไป จาตุมหาราช ดาวดึงสา ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตตี อายตนะดึงดูดทั้งนั้น นี่ในกามภพ 11 ชั้น คือ อบายภูมิ 4 สวรรค์ 6 เป็น 10 มนุษย์อีก 1 รวมเป็น 11 ใน 11 ชั้นนี่เรียกว่ากามภพทั้งนั้น
จาก พระธรมเทศนากัณฑ์ที่ 41 เรื่อง ติลักขณาทิคาถา (ต่อ)
7 สิงหาคม 2497
หนังสือ "อมตวาทะ พระมงคลเทพมุนี (สด จนทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ 7/10
1 ใจ
2 ที่ตั้งของใจ
3 ทางสายเอก
4 ทางเดียวกัน
5 หยุด
6 ตาย - เกิด
7 บุญใหญ่ - กุศลใหญ่
8 จริงแค่ไหน
9 นิพพาน
10 เหตุแห่งความชั่ว-เหตุแห่งความดี
ตอนที่ 11 - 29 https://ppantip.com/topic/42911188
11 การเข้าถึงรัตนะ
12 ทางไปของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์
13 หนทางเบื้องต้นมรรค ผล นิพพาน
14 ดวงธรรม
15 พระรัตนตรัยคือที่พึ่งอันสูงสุด
16 สำเร็จด้วยการให้
17 ศาสนาพุทธอยู่ได้ด้วยการให้
18 เป็นเอกราชด้วยพุทธศาสนา
19 ให้ดวงบุญนั้นช่วย
20 ปิยวาจา
ตอนที่ 21 - 30 https://ppantip.com/topic/42911195
21 ประพฤติให้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนกัน
22 ความเป็นผู้มีตนเสมอ
23 ทำความดีให้หนักขึ้น
24 จิต 12 ดวง
25 ทางบริสุทธิ์
26 ให้ทิ้งขันธ์ 5
27 อยู่กับธรรม
28 หลอกตัวเอง
29 ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัว
30 สุขในฌาน
ตอนที่ 31 - 40 https://ppantip.com/topic/42913225
31 หนทางหมดจดวิเศษ
32 ความไม่ประมาท
33 สุราเป็นที่ตั้งของความประมาท
34 สมาธิ
35 ตัวสำคัญ
36 ปล้ำใจให้หยุด
37 เราตถาคตคือธรรมกาย
38 ธรรมอยู่ที่ไหน
39 สุขในปัจจุบันทันตาเห็น
40 พญามาร
ตอนที่ 41 - 50 https://ppantip.com/topic/42915182
41 กำลังผจญกับพญามาร
42 ไปนิพพานได้ก็แต่ธรรมกายเท่านั้น
43 ให้ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
44 ประมุขของบุญ
45 ความไม่ประมาท
46 ไม่ประมาทในอะไร
47 ทำจริงก็เป็นทุกคน
48 ทรัพย์เป็น
49 ระลึกถึงบุญ
50 สุขหนอ
ตอนที่ 51 - 60 https://ppantip.com/topic/42915197
ตอนที่ 61 - 70 https://ppantip.com/topic/42915214
ตอนที่ 71 - 80 https://ppantip.com/topic/42915225
ตอนที่ 81 - 90 https://ppantip.com/topic/42917084
ตอนที่ 91 - 100 https://ppantip.com/topic/4291710
61
สมณะหยุดแล้ว
ออกจากโอษฐ์พระบรมศาสดานะ คำว่าหยุดนั่นแหละ เมื่อพระองค์เสด็จไปทรมานองคุลิมาล องคุลิมาลหมดพยศร้ายแล้ว แพ้จำนนนพระบรมศาสดาแล้ว เปล่งวาจาว่า สมณะหยุด ๆ พระองค์ทรงเหลียวพระพักตร์ สมณะหยุดแล้วท่านไม่หยุด คำว่าหยุดนี่ออกจากโอษฐ์พระบรมศาสดา
องคุลิมาลพอรู้จักนัยที่พระบรมศาสดาให้เช่นนี้ก็หมดพยศร้าย มิจฉาทิฏฐิหาย กลายเป็นสัมมาทิฏฐิ เพราะฉะนั้นอ้ายตัวหยุดนี่แหละหนา เลิกเป็นมิจฉาทิฏฐิ กลับเป็นสัมมาทิฏฐิทีเดียว
หยุดนี่แหละเป็นตัวถูกละ ก็เอาใจหยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์ ไสบริสุทธิ์เท่าฟองไข่แดงของไก่ ไม่หยุดไม่ยอมกัน แก้ไขจนกระทั่งใจหยุดกิ๊ก เมื่อใจหยุดแล้ว เข้ากลางของใจที่หยุดนั่นแหละ กลางของกลาง ๆ ไม่มีเขยื้อน ที่กลางของกลางทีเดียว พอถูกส่วนเข้าก็จะเข้าถึงดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 35 เรื่อง ธชัคคสูตร
20 มิถุนายน 2497
62
อธิษฐาน
ถ้าว่ารู้จักหลักทางพุทธศาสนาแล้ว ต้องยกความขึ้นพูดความสัตย์ความจริงนั่นเป็นข้อสำคัญ ถ้าความบริสุทธิ์ของศีลมีอยู่ ก็ต้องยกความบริสุทธิ์นั่นแหละขึ้นพูด หรือความบริสุทธิ์ของสมาธิมีอยู่ ก็ยกความบริสุทธิ์ของสมาธิขึ้นพูด ขึ้นอธิษฐาน หรือแม้ว่าความจริงของปัญญามีอยู่ ก็ยกความจริงของปัญญานั้นขึ้นอธิษฐาน
หรือความสัตย์ความจริงความดีอันใดที่ทำไว้แน่นอนในใจของตัว ให้ยกเอาความดีอันนั้นแหละขึ้นอธิษฐาน ตั้งอกตั้งใจ บรรลุความติดขัดทุกสิ่งทุกประการ ให้รู้จักหลักฐานดังนี้
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 36 เรื่อง โพชฌงคปริตร
24 มิถุนายน 2497
63
ไม่หยุดไม่ถูกศาสนา
ถ้าว่าไม่หยุดเลยไม่ถูกศาสนาสักนิดหนึ่ง ถ้าว่าหยุดเวลาไรถูกศาสนาเวลานั้น ถ้าว่าหยุดเวลาไรถูกพุทธรัตนะเวลานั้น ถ้าว่าหยุดเวลาไรถูกธรรมรัตนะเวลานั้น ถ้าว่าหยุดเวลาไรถูกสังฆรัตนะเวลานั้น
ถ้าว่าไม่หยุดแล้ว ก็ไม่ถูกพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ อย่างแน่ทีเดียว ไม่ต้องสงสัยละ อย่าไปโทษใครเลย โทษตัวเอง โทษใครก็ไม่ได้ โทษตัวของตัวเอง คนอื่นเขาหยุดได้ ตัวหยุดไม่ได้ ก็โทษตัวเอง โทษคนอื่นไม่ได้ จะไปเวรให้ใครก็ไม่ได้ ต้องว่าตัวเองโทษตัวเดียว
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 37 เรื่อง ปกิณกะ
18 กรกฎาคม 2497
64
ทางไปถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ
ในมนุษย์นี่แหละมีพุทธรัตนะ ทางไปถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ มีอยู่ในกายมนุษย์นี่ จะให้ถูกแท้ๆต้องจรดอยู่ที่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์ ใสบริสุทธิ์เท่าฟองไข่แดงของไก่ ในกายมนุษย์นี่แหละ เอาใจหยุดที่เดียว พอหยุดกึกเข้า ก็ถูกพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะที่เดียว พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะไปทางนี้
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 38 เรื่อง สัจจกิริยคาถาถา
23 กรกฎาคม 2497
65
ควรเคารพสัทธรรม
เมื่อจำนงความเป็นใหญ่ ให้ระลึกคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ควรเคารพสัทธรรม พึงเคารพสัทธรรม ผู้ที่เคารพลัทธรรมนั่นแหละ จะถึงซึ่งความเป็นใหญ่เป็นใหญ่อย่างไร ด่าท่านก็ไม่โกรธ ทำอย่างไรก็ไม่โกรธ แกไม่อิจฉาริษยาใคร แกตั้งอยู่ในธรรมของแกมั่น ไม่ง่อนแง่นไปตามใคร
ถึงเด็กก็ต้องยกว่าเป็นผู้ใหญ่ คนชนิดนั้นถึงกลางคนก็ต้องยกให้เป็นผู้ใหญ่ ถึงเป็นผู้หญิงก็ต้องถือว่าเป็นบัณฑิตถี หญิงประกอบด้วยปัญญา หญิงเป็นใหญ่ ไม่ใช่หญิงเลวทราม ไม่ใช่หญิงง่อนแง่นคลอนแคลน มั่นคงตั้งเป็นหลักเป็นฐาน เป็นหัวหน้าประธานของคนได้
หากว่าเป็นสามเณรก็เป็นประธานของคนได้ เป็นภิกษุก็เป็นประธานของคนได้เป็นคนแก่ก็ยิ่งน่านับถือหนักเข้า น่าบูชาหนักเข้า เพราะตั้งมั่นอยู่ในธรรมไม่ง่อนแง่น ไม่คลอนแคลน จะด่าจะว่าจะเสียดสีสักเท่าหนึ่งเท่าใดก็ยิ้มแฉ่ง สบายอกสบายใจเพราะตั้งอยู่ในพระธรรม คนที่ว่านั้นก็ไม่รู้เดียงสา
เหมือนพระพุทธเจ้า ใครจะไปด่าก็ด่าไปซิ ใครจะไปเสียดสีก็เสียดสึไปซิ ไม่ขยื้อนเลย ไม่กระเทือนเลย นี่แหละทางพระพุทธศาสนาประสงค์จริงอย่างนี้ ให้ตั้งมั่นให้เคารพสัทธรรม
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 38 เรื่อง สัจจกิริยคาถา
23 กรกฎาคม 2497
66
สำรวมไม่ได้ร้ายนัก
ไอ้ที่ฆ่าฟันกันตายอยู่ใครมๆ นี้แหละ ฆ่าตัวเองตายบ้าง ฆ่าคนอื่นตายบ้างฟันแทงกันตายบ้าง เกิดรบรากันนะ ติดรสทั้งนั้นนะ ไม่ติดรสก็ติดสัมผัส ไม่ติดสัมผัสก็ติดรูป ไม่ติดรูปก็ติดเสียง ไม่ติดเสียงก็ติดกลิ่น ไม่ติดกลิ่นก็ติดรส นี่แหละติดเหล่านี้ทั้งนั้น
ที่ฆ่ากันตายร้ายนักทีเดียว ถ้าสำรวมไม่ได้ร้ายนัก ทุกสิ่งทุกอย่างหละ เป็นภัยนักทีเดียว เหตุนี้ต้องตั้งอยู่ในความสำรวม แต่ว่าวิธีสำรวมบอกไว้แล้วนั้น ใจต้องหยุดอยู่กลางนั่นนะ หยุดนิ่งทีเดียว ต้องคอยระวัง รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสใดๆ หรือธัมมารมณ์ใดๆ มันเล็ดลอดเข้าไปถึงที่ใจหยุดละก็ มีรสมีชาติ
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 39 เรื่อง สังวรคาถา
30 กรกฎาคม 2497
67
ธรรมกายเป็นนิจจัง สุขัง อัตตา
สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัว หลีกจากสังขารทั้งหลายที่ไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายที่เป็นทุกข์ หลีกจากสังขารเหล่านั้นไปเสีย ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัว หลีกจากธรรมที่ไม่ใช่ตัวไปเสีย เข้าถึงตัวให้ได้ เข้าถึงธรรมกายให้ได้
ธรรมกายเป็นตัว ธรรมกายเที่ยง อื่นจากธรรมกายนั้นเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นี่กายในภพ ส่วนธรรมกายนั้น เป็นนิจจัง สุขัง อัตตา นี่เป็นทางไปของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งนั้น แต่ว่าจะไปทางธรรมกายต้องใจหยุด หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ใสบริสุทธิ์เท่าฟองไข่แดงของไก่ หยุดอยู่นั้นแหละ หยุดหนักเข้า เข้ากลางของหยุดนั่นไป ก็จะเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียด หยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละเอียด
เห็นกายทิพย์ กายทิพย์ละเอียด รูปพรหม รูปพรหมละเอียด กายอรูปพรหม อรูปพรหมละเอียด กายธรรม กายธรรมละเอียด กายพระโสดา พระโสดาละเอียด กายพระสกิทาคา พระสกิทาคาละเอียด กายพระอนาคา พระอนาคาละเอียด กายพระอรหัต พระอรหัตละเอียด ไปทีเดียว
นี่ไปทางนี้ ไปทางอื่นไม่ได้ ผิดทั้งนั้น ให้รู้จักหลักอันนี้ ตั้งใจให้มั่น มาประสบพบพุทธศาสนา เราจะต้องดำเนินให้ถูกร่องรอยของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ให้ได้จะได้ไปนิพพาน ในอัตภาพที่เป็นมนุษย์นี้ จะประสพความสุขสมมาดปรารถนา
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ ๔๐ เรื่อง ติลักขณาทิคาถา
๑ สิงหาคม ๒๔๙๗
68
ธรรมขาว-ธรรมดำ
ธรรมขาวเป็นธรรมสำคัญ ธรรมดำเป็นธรรมฝ่ายของพญามารแท้ๆ ไม่ใช่ของพระ ของพระเป็นฝ่ายธรรม ขาวแท้ๆ ไม่ใช่ธรรมดำ ตรงกันข้ามดังนี้
แต่ว่าผู้ประพฤติปฏิบัติในพระธรรมวินัยของพระศาสดา ทั้งภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกา ไม่รู้จักชัดว่าปฏิบัติดังนี้เป็นธรรมดำ ปฏิบัติดังนี้เป็นธรรมขาว ไม่รู้ชัด จะรู้จักชัด ต้องขัดกาย วาจา ใจ ออกไปเป็นชั้นๆ
ทุจริตกาย วาจา จิต นั่นเป็นธรรมดำ สุจริตด้วยกาย วาจา จิต นั่นเป็นธรรมขาว ทำใจให้ผ่องใสนันเป็นธรรมขาว ถ้าใจมืดมัวขุ่นหมองนั่นเป็นธรรมดำ นี่เป็นธรรมดำธรรมขาวมีลักษณะอย่างนี้ ชั่วเป็นฝ่ายดำทั้งนั้น ดีเป็นฝ่ายขาว
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 41 เรื่อง ติลักขณาทิคาถา (ต่อ)
7 สิงหาคม 2497
69
สัตว์เดรัจฉานก็มนุษย์แท้ๆ
สัตว์เดรัจฉาน ที่เราเห็นตัวปรากฏอยู่นี่ นั่นมนุษย์แท้ๆ มนุษย์ทั้งนั้น อ้ายสัตว์เดรัจฉานน่ะ ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานเสีย อ้ายตัวข้างในเป็นมนุษย์ทั้งนั้นแหละ อ้ายกายละเอียดข้างใน แต่ไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน น่าเกลียดน่าชังจริง
นั่นเพราะทำชั่วของตัวไปเกิด มันดึงดูด อายตนะของสัตว์เดรัจฉานดึงดูด ดึงดูอย่างไรล่ะ อ้าวก็ดึงดูดเข้าไปเกิดในท้องสุนัขน่ะซี ท้องหมูบ้าง ท้องสุนัขบ้าง ตามยถากรรมของมันซี ท้องเป็ด ท้องไกโน้น ดึงดูดเข้าไปอย่างนี้แหละ ดึงดูดเข้าไปได้แรงนักทีเดียว ความดึงดูดนั่น ให้รู้จักอายตนะดึงดูดอย่างนี้ อ้ายที่มันดึงดูดในพวกเหล่านี้
ถ้าว่าหย่อนขึ้นมากกว่านี้ ไปเกิดเป็นเปรต ไฟไหม้ติดตามตัวไป อสุรกายหย่อนกว่านั้นขึ้นมา นี่พวกอบายภูมิทั้งนั้น นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย ๔ อย่างนี่อบายภูมิทั้งนั้น
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 41 เรื่อง ติลักขณาทิคาถา (ต่อ)
7 สิงหาคม 2497
70
อายตนะฝ่ายดีดึงดูด
แต่นี้ชั่วไม่ได้ทำ ทำแต่ดี ทำแต่ดีก็อายตนะฝ่ายดีดึงดูด บริสุทธิ์ด้วยกาย บริสุทธิ์วาจา บริสุทธิ์ด้วยใจ ไม่มีร่องเสียเลย อายตนะอื่นดึงดูดไม่ได้ อายตนะมนุษย์ดึงดูด
ดึงดูดอย่างไรล่ะ เกิดเป็นมนุษย์กันถมไปนี่อย่างไรล่ะ เห็นโด่ๆ มันดึงดูดเข้าไปติดอยู่ในขั้วมดลูกมนุษย์นั้นแหละ มันดึงดูดอย่างนั้นแหละ นี่อายตนะมนุษย์ดึงดูดเข้ามาติดอยู่ในขั้วมดลูกของมนุษย์ นี่เพราะทำความบริสุทธิ์ด้วยกาย วาจา ใจ
ถ้าว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นไปกว่านั้น อายตนะทิพย์ดึงดูด ติดอยู่ในกำเนิดทิพย์เป็นกายทิพย์ เป็นภายทิพย์เป็นลำดับขึ้นไป จาตุมหาราช ดาวดึงสา ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตตี อายตนะดึงดูดทั้งนั้น นี่ในกามภพ 11 ชั้น คือ อบายภูมิ 4 สวรรค์ 6 เป็น 10 มนุษย์อีก 1 รวมเป็น 11 ใน 11 ชั้นนี่เรียกว่ากามภพทั้งนั้น
จาก พระธรมเทศนากัณฑ์ที่ 41 เรื่อง ติลักขณาทิคาถา (ต่อ)
7 สิงหาคม 2497