(หนังสือ "อมตวาทะ พระมงคลเทพมุนี (สด จนทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ" นี้ เป็นหนังสือที่ คณะศิษย์วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม แจกเป็นธรรมทานในงานทอดกฐินสามัคคีมหากุศล ณ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554)
ตอนที่ 1 - 10 https://ppantip.com/topic/42911183
ตอนที่ 11 - 29 https://ppantip.com/topic/42911188
ตอนที่ 21 - 30 https://ppantip.com/topic/42911195
ตอนที่ 31 - 40 https://ppantip.com/topic/42913225
ตอนที่ 41 - 50 https://ppantip.com/topic/42915182
ตอนที่ 51 - 60 https://ppantip.com/topic/42915197
51 ทะเลบุญ
52 ดวงบุญนำไปเกิด
53 มีบุญก็ร่ำรวย
54 หาบุญได้ ใช้บุญเป็น
55 ภพดึงดูด
56 ทางมรรค ผล นิพพาน
57 ที่จรดใจ
58 ผู้ฉลาดในประโยชน์
59 พระอรหันต์ของบุตร
60 แก้วสารพัดนึก
ตอนที่ 61 - 70 https://ppantip.com/topic/42915214
61 สมณะหยุดแล้ว
62 อธิษฐาน
63 ไม่หยุดไม่ถูกศาสนา
64 ทางไปถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ
65 ควรเคารพสัทธรรม
66 สำรวมไม่ได้ร้ายนัก
67 ธรรมกายเป็นนิจจัง สุขัง อัตตา
68 ธรรมขาว-ธรรมดำ
69 สัตว์เดรัจฉานก็มนุษย์แท้ๆ
70 อายตนะฝ่ายดีดึงดูด
ตอนที่ 71 - 80 https://ppantip.com/topic/42915225
71 อายตนะนิพพานดึงดูด
72 ที่สร้างบารมีเท่านั้น
73 ออกจากภพสามไม่ได้
74 ได้ความสุขเพราะให้ทาน
75 ทาน ส่งให้ถึงสุขยิ่งใหญ่ไพศาล
76 รับใช้มาร
77 ฉลาดกว่ากัน
78 จะรวยได้ต้องมีพรหมวิหาร
79 อดทนได้จึงเข้านิพพานได้
80 ตามันบอก
ตอนที่ 81 - 90 https://ppantip.com/topic/42917084
81 ความกำหนัดยินดีทำอะไรไม่ได้
82 ลูกศิษย์พญามาร
83 ต้องเข้าถึงหลักนี้ให้ได้
84 ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
85 การเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก
86 อัตโนมัติของบุญ
87 ที่รวมลงของความดี
88 อริยทรัพย์
89 ธรรมคืออะไร
90 สามัคคี
ตอนที่ 91 - 100 https://ppantip.com/topic/42917108
91 สำเร็จด้วยการให้
92 วาจากศักดิ์สิทธิ์
93 มัชฌิมาปฏิปทา
94 เคร่งครัดในหน้าที่ของตน
95 โลกร่มเย็นได้เพราะทาน
96 พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ
97 เป้าหมายใจดำของพุทธศาสนา
98 โกงตัวเอง
99 ขันธ์5
100 ที่พึ่งจริง
51
ทะเลบุญ
หากต้องการบุญก็เข้าไปในกลางกายนั่นแหละ กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง หนักเข้าไปซ้ายขวาหน้าหลังล่างนไม่ไปทั้งนั้น กลางของกลางหนักขึ้นทุกที ก็จะเข้าไปพบบุญ
ทะเลบุญอยู่ในกลางกายนั้น เจ้าของผู้ปกครองบุญนั้นมี 2 ภาค มารปกครองภาคหนึ่ง พระปกครองภาคหนึ่ง
ถ้าภาคพระปกครอง ทำบุญทำกุศลต่างๆ พระท่านก็ส่งบุญส่งกุศลมาให้ เหมือนส่งกระแสไฟฟ้าให้ใช้นี่แหละ ผู้ส่งกระแสไฟฟ้ามาให้ใช้ก็มีอยู่ ถ้าเขาไม่ส่งมาให้เราเราก็ใช้กระแสไฟฟ้าไม่ได้ บุญก็เหมือนกัน พระเป็นผู้ปกครอง ดิน ฟ้า อากาศ ก็มีผู้ปกครองเหมือนกัน
ที่บังคับเราให้เกิด ให้แก่ ให้เจ็บ และให้ตายอยู่เดี๋ยวนี้แหละ พวกมารบังคับให้เป็นไปตามนั้น ส่วนพวกพระบังคับไม่ให้เกิด ไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ และไม่ให้ตาย นี่พวกพระกับพวกมารบังคับอย่างนี้ เวลานี้พวกพระบังคับไม่ให้รบกัน แต่พวกมารบังคับให้รบกันหนักขึ้น
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 29 เรื่อง ภัตตานุโมทนากถา
10 พฤษภาคม 2497
52
ดวงบุญนำไปเกิด
ในกลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละเอียดนั้น มีดวงบุญอีกดวงหนึ่ง ดวงบุญนั้นแหละ จะนำไปเกิดในตระกูลสูงๆ มีกษัตริย์มหาศาล มีทรัพย์สมบัติบริวารนับจะประมาณไม่ได้ เศรษฐีมหาศาล พราหมณ์มหาศาล มีทรัพย์สมบัติบริวารนับประมาณไม่ได้ คหบดีมหาศาล มีทรัพย์สมบัติบริวารนับประมาณไม่ได้ ให้เกิดในตระกูลสูงๆอย่างเช่นนั้น
ทว่าในมนุษย์โลกไม่พอรับบุญขนาดใหญ่ๆ ขนาดนี้ ก็ให้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามาพิภพ ชั้นดุสิต ชั้นนิมมานรดี และชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ให้เกิดในกายทิพย์สูงขึ้นไป กายทิพย์ในชั้นจาตุมหาราช กายทิพย์ในชั้นดาวดึงส์ กายทิพย์ในชั้นยามาพิภพ กายทิพย์ในชั้นดุสิต กายทิพย์ในชั้นนิมมานรดี กายทิพย์ในชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ในกามภพนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 29 เรื่อง ภัตตานุโมทนากถา
10 พฤษภาคม 2497
53
มีบุญก็ร่ำรวย
ในมนุษย์โลกถ้าเรามีบุญเสียแล้ว จะค้าขายก็ร่ำรวย จะทำงานทำกิจการอะไรก็เจริญ จะหาทรัพย์สมบัติก็ได้คล่องสะดวกสบาย ไม่ติดขัดแต่ประการใด
ถ้าว่าไม่มีบุญ จะทำอะไร ก็ติดขัดไปเสียทุกอย่างทุกประการ ดังนั้น จึงได้ชักชวนพวกเราให้มาทำบุญทำกุศลเสีย จะได้เลิกจนเลิกทุกข์ยากลำบากเสียที
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 29 เรื่อง ภัตตานุโมทนากถา
10 พฤษภาคม 2497
54
หาบุญได้ ใช้บุญเป็น
ต้องนึกถึงบุญ สิ่งอื่นอย่าไปนึก นึกถึงบุญแต่เพียงอย่างเดียว เมื่อต้องภัยได้รับความทุกข์ยากลำบากอย่างใด ก็ให้นึกถึงบุญ เอาใจไปจรดอยู่ที่บุญ ทำมาค้าขายอะไรก็ให้เอาใจไปจรดอยู่ที่บุญนั้น จะได้ด้ายคล่องได้กำไรเกินควรเกินค่า จะไปทำนาทำสวน ก็เอาใจไปจรดอยู่ที่บุญนั้น บุญจะให้ผลของนาและสวนเกินควรเกินค่า
ไปรับราชการก็เอาใจไปจรดอยู่ที่บุญนั้น หน้าที่ราชการก็จะรุ่งโรจน์โชตนาการยิ่งขึ้นใหญ่ ถ้าปกครองบ้านเรือนก็เอาใจจรดอยู่ที่บุญนั้นเหมือนกัน บ้านเรือนก็จะรุ่งเรือง อย่าเอาใจไปจรดอยู่ที่อื่น นี่เราเรียกว่า
หาบุญได้และใช้บุญเป็น ถ้าหากเอาใจไปจรดเสียที่อื่น จะเป็นต้นไม้ ชี้วัว ขี้ควาย อะไรจิปาถะ ชื่อว่า หาบุญได้ แต่บุญไม่เป็น
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 29 เรื่อง ภัตตานุโมทนากถา
10 พฤษภาคม 2497
55
ภพดึงดูด
การที่สัตว์จะไปสู่ทุคติ ภพดึงดูดมีอยู่ ทำความชั่ว ไม่มีความดีเข้าไปจุนเจือเลยแม้เพียงเท่าปลายผมปลายขน พอแตกกายทำลายขันธ์ โลกันต์ดึงดูดเอาไป จะไปอยู่ที่อื่นใดไม่ได้ทั้งนั้น อายตนะบาปดึงดูดไปทันที ถ้าว่าภพหย่อนกว่านั้นมา ก็ไปอยู่อเวจีมหานรก ตาปนรก เหล่านี้เป็นต้น
แต่พอมาเกิดในจำพวกสัตว์เดรัจฉานได้ สัตว์เดร็จฉานก็ดึงดูด เอาไปเกิดในจำพวกสัตว์เดร็จฉาน แต่ถ้าทำความผิดไม่ถึงขนาดนั้น ก็ไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย ตามลำดับไป
ถ้าทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ไม่มีความชั่วบาปช้าเข้ามาเจือปนเลย พอแตกกายทำลายขันธ์ อายตนะของมนุษย์ดึงดูด เข้าสู่คัพภสัตว์ ไปติดอยู่ในกำเนิดมนุษษย์ ถ้าดีมากขึ้นไปกว่านี้ ก็ไปเกิดในจำพวกเทวดา เป็นชั้นๆสูงขึ้น ชั้นจาตุมหาราช ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต ชั้นนิมมานรดี ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี สูงขึ้นไปตามสภาพของธรรมดึงดูดกันเองว่า ตนได้กระทำความดีไว้ขนาดเท่าไร ควรอยู่ควรเกิดในที่ไหน
เมื่อตรงกับอายตนะไหน อายตนะนั้นก็ดึงดูดไป
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 29 เรื่อง ภัตตานุโมทนากถา
10 พฤษภาคม 2497
56
ทางมรรค ผล นิพพาน
ทางไปนิพพานน่ะทางอยู่ที่ไหน ทางอย่างไร ควรจะรู้จักทางไปนิพพาน ที่พระโสดาบันบุคคลท่านเห็นน่ะ ทางไปนิพพานน่ะจะไป ต้องรู้จักพระโสดาบันบุคคลเสียก่อน ที่เป็นพระโสดาบันบุคคลน่ะรูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร เนื้อตัวอยู่ที่ไหน
พระโสดาบันบุคคลน่ะท่านเป็นธรรมกายนะ ไม่ใช่กายมนุษย์ เป็นชั้นๆ เข้าไป ดังเคยแสดงแล้วอยู่บ่อยๆว่า กายมนุษย์นี้มีกายหนึ่ง เราจะเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียดต้องเข้าให้ถูกทางมรรค ผล ถ้าไม่ถูกทางมรรค ผล เข้าถึงกายมนุษย์ละเอียดไม่ได้
ทางมรรค ผล น่ะ เริ่มต้นจะทำอย่างไร เริ่มต้น ต้องทำใจให้หยุด ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ หยุดตรงนั้นแหละ
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 30 เรื่อง รัตนสูตร
10 พฤษภาคม 2497
57
ที่จรดใจ
ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์นั่น มนุษย์ผู้ฟังธรรม ต้องเอาใจไปจรดตรงนั้น ถ้าไม่จรดตรงนั้น ไม่ถูกทางไปของพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ไม่ถูกเป้าหมายใจดำของพระพุทธศาสนา เมื่อเอาใจไปจรดอยู่ตรงนั้น แล้วทำใจให้หยุดนั่นแหละ พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญทีเดียว
นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง สุขอื่นนอกจากความหยุดความนิ่งไม่มี หยุดตรงนั้นแหละเป็นสุขละ ถูกทางไปของพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ทีเดียว แล้วก็ถูกความสรรเสริญของพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ทีเดียว นี่แหละถูกเป้าหมายใจดำของพระพุทธศาสนาละ
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 31 เรื่อง รัตนสูตร (ต่อ)
16 พฤษภาคม 2497
58
ผู้ฉลาดในประโยชน์
ผู้ฉลาดในประโยชน์นั่นเป็นเช่นไร สักโก เป็นผู้อาจหาญ อาจหาญทุกประการในธรรมวินัยของพระศาสดา ไม่ขาดตกบกพร่อง อาจหาญในทางบริสุทธิ์กายอาจหาญในทางบริสุทธิ์วาจา อาจหาญในทางบริสุทธิ์ใจ ไม่มีขาดตกบกพร่องใดๆ
ทำสิ่งใดด้วยกาย ต้องเอาปัญญาเข้าสอดส่องมองเสียก่อน แล้วจึงทำ เห็นว่าไม่มีทุกข์ ไม่เดือดร้อนตน ไม่เดือดร้อนบุคคลผู้อื่น จึงทำ ถ้าเห็นว่าเดือดร้อนตน เดือดร้อนผู้อื่น ไม่ทำ อาจหาญอย่างนี้ อาจหาญในการดีอย่างนี้
ที่จะกล่าววาจาอันใดออกไป อาจหาญอีกเหมือนกัน
เอาปัญญาเข้าสอดส่องดูเสียก่อน ถ้าเดือดร้อนเราก็ไม่กล่าว เดือดร้อนเขาก็ไม่กล่าว เดือดร้อนทั้งเราทั้งเขาก็ไม่กล่าว ถ้าไม่เดือดร้อนเราจึงกล่าว ถ้าไม่เดือดร้อนเขาจึงกล่าว ถ้าไม่เดือดร้อนทั้งเราทั้งเขาจึงกล่าว นี้ก็อาจหาญในวาจา
อาจหาญในทางใจ
ใจจะคิดสิ่งหนึ่งสิ่งใด เดือดร้อนเราก็ไม่คิด เดือดร้อนเขาก็ไม่คิด เดือดร้อนทั้งเราทั้งเขาก็ไม่คิด ถ้าไม่เดือดร้อนเราจึงคิด ถ้าไม่เดือดร้อนเขาจึงคิด ถ้าไม่เดือดร้อนทั้งเรทั้งเขาจึงคิด นี้อาจหาญอย่างนี้
นี่สักโกเป็นผู้อาจหาญ ไม่ใช่อาจหาญเรื่องอื่น ไม่ใช่อาจหาญเรื่องเหลวไหล
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 32 เรื่อง กรณียเมตตสูตร
25 พฤษภาคม 2497
59
พระอรหันต์ของบุตร
มารดาบิดารักลูกออกใหม่ๆ มีเมตตารักใคร่จะให้เป็นสุข ไม่ต้องการอะไรเลยในลูก กรุณาอยากจะช่วยลูกให้พ้นทุกข์ มุทิตาเมื่อลูกเดินได้นั่งได้คลานได้ ไปในทิศานุทิศได้ เลี้ยงตัวได้ก็ยินดีด้วย โมทนาด้วย หรือถึงความวิบัติพลัดพราก ที่เหลือวิสัยที่จะช่วยได้ก็อยู่ในอุเบกขาอย่างนั้นมารดาที่รักลูกน่ะ รักใคร่ลูกน่ะ ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกน่ะ ไม่ประกอบด้วยกาม ประกอบด้วยพรหมวิหารแท้ๆ ถึงได้กล่าวว่ามารดาบิดาเป็นพรหมของบุตร
พระพุทธเจ้าก็เป็นพรหมของบุตร เป็นพระพุทธเจ้าด้วย เป็นพรหมด้วย
มารดาบิดาเป็นบุรพาจารย์ของบุตร เพราะสอนบุตรและธิดามาก่อนใคร
มารดาบิดาเป็นพระอรหันต์ของบุตร บุตรจะเพาะเลี้ยงมารดาบิดาด้วยประการใด ก็ได้ชื่อว่าเลี้ยงพระอรหันต์แท้ๆ
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 31 เรื่อง กรณียเมตตสูตร
1 มิถุนายน 2497
60
แก้วสารพัดนึก
เมื่อเข้าถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ อย่างนี้แล้วละก็ ไม่ต้องอ้อนวอนพวกสัตว์เดร็จฉาน พญานาค หรือสัตว์ต่างๆ ก็ช่าง จะทำอะไรก็ช่าง ไม่มีกลัวอะไร ไม่ครั่นคร้ามต่ออะไร พญานาคมีเท่าไร ปราบหมด หรือเทวดามีฤทธิ์มีเดชเท่าไร ปราบหมดหรือรูปพรหมมีฤทธิ์มีเดชเท่าไร ปราบหมด หรืออรูปพรหมมีฤทธิ์มีเดชเท่าไร เข้าถึงพระรัตนตรัยเสียแล้ว ปราบได้หมด ไม่ต้องกลัวอะไรสักอย่าง
เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า เก่งกาจขนาดนั้น เพราะฉะนั้น
เมื่อใครเข้าถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ได้ชื่อว่า เข้าถึงซึ่งแก้วสารพัดนึก
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 34 เรื่อง ขันธปริตร
6 มิถุนายน 2497
หนังสือ "อมตวาทะ พระมงคลเทพมุนี (สด จนทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ 6/10
ตอนที่ 1 - 10 https://ppantip.com/topic/42911183
ตอนที่ 11 - 29 https://ppantip.com/topic/42911188
ตอนที่ 21 - 30 https://ppantip.com/topic/42911195
ตอนที่ 31 - 40 https://ppantip.com/topic/42913225
ตอนที่ 41 - 50 https://ppantip.com/topic/42915182
ตอนที่ 51 - 60 https://ppantip.com/topic/42915197
51 ทะเลบุญ
52 ดวงบุญนำไปเกิด
53 มีบุญก็ร่ำรวย
54 หาบุญได้ ใช้บุญเป็น
55 ภพดึงดูด
56 ทางมรรค ผล นิพพาน
57 ที่จรดใจ
58 ผู้ฉลาดในประโยชน์
59 พระอรหันต์ของบุตร
60 แก้วสารพัดนึก
ตอนที่ 61 - 70 https://ppantip.com/topic/42915214
61 สมณะหยุดแล้ว
62 อธิษฐาน
63 ไม่หยุดไม่ถูกศาสนา
64 ทางไปถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ
65 ควรเคารพสัทธรรม
66 สำรวมไม่ได้ร้ายนัก
67 ธรรมกายเป็นนิจจัง สุขัง อัตตา
68 ธรรมขาว-ธรรมดำ
69 สัตว์เดรัจฉานก็มนุษย์แท้ๆ
70 อายตนะฝ่ายดีดึงดูด
ตอนที่ 71 - 80 https://ppantip.com/topic/42915225
71 อายตนะนิพพานดึงดูด
72 ที่สร้างบารมีเท่านั้น
73 ออกจากภพสามไม่ได้
74 ได้ความสุขเพราะให้ทาน
75 ทาน ส่งให้ถึงสุขยิ่งใหญ่ไพศาล
76 รับใช้มาร
77 ฉลาดกว่ากัน
78 จะรวยได้ต้องมีพรหมวิหาร
79 อดทนได้จึงเข้านิพพานได้
80 ตามันบอก
ตอนที่ 81 - 90 https://ppantip.com/topic/42917084
81 ความกำหนัดยินดีทำอะไรไม่ได้
82 ลูกศิษย์พญามาร
83 ต้องเข้าถึงหลักนี้ให้ได้
84 ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
85 การเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก
86 อัตโนมัติของบุญ
87 ที่รวมลงของความดี
88 อริยทรัพย์
89 ธรรมคืออะไร
90 สามัคคี
ตอนที่ 91 - 100 https://ppantip.com/topic/42917108
91 สำเร็จด้วยการให้
92 วาจากศักดิ์สิทธิ์
93 มัชฌิมาปฏิปทา
94 เคร่งครัดในหน้าที่ของตน
95 โลกร่มเย็นได้เพราะทาน
96 พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ
97 เป้าหมายใจดำของพุทธศาสนา
98 โกงตัวเอง
99 ขันธ์5
100 ที่พึ่งจริง
51
ทะเลบุญ
หากต้องการบุญก็เข้าไปในกลางกายนั่นแหละ กลางของกลาง กลางของกลาง กลางของกลาง หนักเข้าไปซ้ายขวาหน้าหลังล่างนไม่ไปทั้งนั้น กลางของกลางหนักขึ้นทุกที ก็จะเข้าไปพบบุญ ทะเลบุญอยู่ในกลางกายนั้น เจ้าของผู้ปกครองบุญนั้นมี 2 ภาค มารปกครองภาคหนึ่ง พระปกครองภาคหนึ่ง
ถ้าภาคพระปกครอง ทำบุญทำกุศลต่างๆ พระท่านก็ส่งบุญส่งกุศลมาให้ เหมือนส่งกระแสไฟฟ้าให้ใช้นี่แหละ ผู้ส่งกระแสไฟฟ้ามาให้ใช้ก็มีอยู่ ถ้าเขาไม่ส่งมาให้เราเราก็ใช้กระแสไฟฟ้าไม่ได้ บุญก็เหมือนกัน พระเป็นผู้ปกครอง ดิน ฟ้า อากาศ ก็มีผู้ปกครองเหมือนกัน
ที่บังคับเราให้เกิด ให้แก่ ให้เจ็บ และให้ตายอยู่เดี๋ยวนี้แหละ พวกมารบังคับให้เป็นไปตามนั้น ส่วนพวกพระบังคับไม่ให้เกิด ไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ และไม่ให้ตาย นี่พวกพระกับพวกมารบังคับอย่างนี้ เวลานี้พวกพระบังคับไม่ให้รบกัน แต่พวกมารบังคับให้รบกันหนักขึ้น
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 29 เรื่อง ภัตตานุโมทนากถา
10 พฤษภาคม 2497
52
ดวงบุญนำไปเกิด
ในกลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละเอียดนั้น มีดวงบุญอีกดวงหนึ่ง ดวงบุญนั้นแหละ จะนำไปเกิดในตระกูลสูงๆ มีกษัตริย์มหาศาล มีทรัพย์สมบัติบริวารนับจะประมาณไม่ได้ เศรษฐีมหาศาล พราหมณ์มหาศาล มีทรัพย์สมบัติบริวารนับประมาณไม่ได้ คหบดีมหาศาล มีทรัพย์สมบัติบริวารนับประมาณไม่ได้ ให้เกิดในตระกูลสูงๆอย่างเช่นนั้น
ทว่าในมนุษย์โลกไม่พอรับบุญขนาดใหญ่ๆ ขนาดนี้ ก็ให้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามาพิภพ ชั้นดุสิต ชั้นนิมมานรดี และชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ให้เกิดในกายทิพย์สูงขึ้นไป กายทิพย์ในชั้นจาตุมหาราช กายทิพย์ในชั้นดาวดึงส์ กายทิพย์ในชั้นยามาพิภพ กายทิพย์ในชั้นดุสิต กายทิพย์ในชั้นนิมมานรดี กายทิพย์ในชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ในกามภพนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 29 เรื่อง ภัตตานุโมทนากถา
10 พฤษภาคม 2497
53
มีบุญก็ร่ำรวย
ในมนุษย์โลกถ้าเรามีบุญเสียแล้ว จะค้าขายก็ร่ำรวย จะทำงานทำกิจการอะไรก็เจริญ จะหาทรัพย์สมบัติก็ได้คล่องสะดวกสบาย ไม่ติดขัดแต่ประการใด ถ้าว่าไม่มีบุญ จะทำอะไร ก็ติดขัดไปเสียทุกอย่างทุกประการ ดังนั้น จึงได้ชักชวนพวกเราให้มาทำบุญทำกุศลเสีย จะได้เลิกจนเลิกทุกข์ยากลำบากเสียที
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 29 เรื่อง ภัตตานุโมทนากถา
10 พฤษภาคม 2497
54
หาบุญได้ ใช้บุญเป็น
ต้องนึกถึงบุญ สิ่งอื่นอย่าไปนึก นึกถึงบุญแต่เพียงอย่างเดียว เมื่อต้องภัยได้รับความทุกข์ยากลำบากอย่างใด ก็ให้นึกถึงบุญ เอาใจไปจรดอยู่ที่บุญ ทำมาค้าขายอะไรก็ให้เอาใจไปจรดอยู่ที่บุญนั้น จะได้ด้ายคล่องได้กำไรเกินควรเกินค่า จะไปทำนาทำสวน ก็เอาใจไปจรดอยู่ที่บุญนั้น บุญจะให้ผลของนาและสวนเกินควรเกินค่า
ไปรับราชการก็เอาใจไปจรดอยู่ที่บุญนั้น หน้าที่ราชการก็จะรุ่งโรจน์โชตนาการยิ่งขึ้นใหญ่ ถ้าปกครองบ้านเรือนก็เอาใจจรดอยู่ที่บุญนั้นเหมือนกัน บ้านเรือนก็จะรุ่งเรือง อย่าเอาใจไปจรดอยู่ที่อื่น นี่เราเรียกว่า หาบุญได้และใช้บุญเป็น ถ้าหากเอาใจไปจรดเสียที่อื่น จะเป็นต้นไม้ ชี้วัว ขี้ควาย อะไรจิปาถะ ชื่อว่า หาบุญได้ แต่บุญไม่เป็น
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 29 เรื่อง ภัตตานุโมทนากถา
10 พฤษภาคม 2497
55
ภพดึงดูด
การที่สัตว์จะไปสู่ทุคติ ภพดึงดูดมีอยู่ ทำความชั่ว ไม่มีความดีเข้าไปจุนเจือเลยแม้เพียงเท่าปลายผมปลายขน พอแตกกายทำลายขันธ์ โลกันต์ดึงดูดเอาไป จะไปอยู่ที่อื่นใดไม่ได้ทั้งนั้น อายตนะบาปดึงดูดไปทันที ถ้าว่าภพหย่อนกว่านั้นมา ก็ไปอยู่อเวจีมหานรก ตาปนรก เหล่านี้เป็นต้น
แต่พอมาเกิดในจำพวกสัตว์เดรัจฉานได้ สัตว์เดร็จฉานก็ดึงดูด เอาไปเกิดในจำพวกสัตว์เดร็จฉาน แต่ถ้าทำความผิดไม่ถึงขนาดนั้น ก็ไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย ตามลำดับไป
ถ้าทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ไม่มีความชั่วบาปช้าเข้ามาเจือปนเลย พอแตกกายทำลายขันธ์ อายตนะของมนุษย์ดึงดูด เข้าสู่คัพภสัตว์ ไปติดอยู่ในกำเนิดมนุษษย์ ถ้าดีมากขึ้นไปกว่านี้ ก็ไปเกิดในจำพวกเทวดา เป็นชั้นๆสูงขึ้น ชั้นจาตุมหาราช ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต ชั้นนิมมานรดี ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี สูงขึ้นไปตามสภาพของธรรมดึงดูดกันเองว่า ตนได้กระทำความดีไว้ขนาดเท่าไร ควรอยู่ควรเกิดในที่ไหน เมื่อตรงกับอายตนะไหน อายตนะนั้นก็ดึงดูดไป
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 29 เรื่อง ภัตตานุโมทนากถา
10 พฤษภาคม 2497
56
ทางมรรค ผล นิพพาน
ทางไปนิพพานน่ะทางอยู่ที่ไหน ทางอย่างไร ควรจะรู้จักทางไปนิพพาน ที่พระโสดาบันบุคคลท่านเห็นน่ะ ทางไปนิพพานน่ะจะไป ต้องรู้จักพระโสดาบันบุคคลเสียก่อน ที่เป็นพระโสดาบันบุคคลน่ะรูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร เนื้อตัวอยู่ที่ไหน
พระโสดาบันบุคคลน่ะท่านเป็นธรรมกายนะ ไม่ใช่กายมนุษย์ เป็นชั้นๆ เข้าไป ดังเคยแสดงแล้วอยู่บ่อยๆว่า กายมนุษย์นี้มีกายหนึ่ง เราจะเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียดต้องเข้าให้ถูกทางมรรค ผล ถ้าไม่ถูกทางมรรค ผล เข้าถึงกายมนุษย์ละเอียดไม่ได้
ทางมรรค ผล น่ะ เริ่มต้นจะทำอย่างไร เริ่มต้น ต้องทำใจให้หยุด ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ หยุดตรงนั้นแหละ
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 30 เรื่อง รัตนสูตร
10 พฤษภาคม 2497
57
ที่จรดใจ
ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์นั่น มนุษย์ผู้ฟังธรรม ต้องเอาใจไปจรดตรงนั้น ถ้าไม่จรดตรงนั้น ไม่ถูกทางไปของพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ไม่ถูกเป้าหมายใจดำของพระพุทธศาสนา เมื่อเอาใจไปจรดอยู่ตรงนั้น แล้วทำใจให้หยุดนั่นแหละ พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญทีเดียว
นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง สุขอื่นนอกจากความหยุดความนิ่งไม่มี หยุดตรงนั้นแหละเป็นสุขละ ถูกทางไปของพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ทีเดียว แล้วก็ถูกความสรรเสริญของพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ทีเดียว นี่แหละถูกเป้าหมายใจดำของพระพุทธศาสนาละ
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 31 เรื่อง รัตนสูตร (ต่อ)
16 พฤษภาคม 2497
58
ผู้ฉลาดในประโยชน์
ผู้ฉลาดในประโยชน์นั่นเป็นเช่นไร สักโก เป็นผู้อาจหาญ อาจหาญทุกประการในธรรมวินัยของพระศาสดา ไม่ขาดตกบกพร่อง อาจหาญในทางบริสุทธิ์กายอาจหาญในทางบริสุทธิ์วาจา อาจหาญในทางบริสุทธิ์ใจ ไม่มีขาดตกบกพร่องใดๆ
ทำสิ่งใดด้วยกาย ต้องเอาปัญญาเข้าสอดส่องมองเสียก่อน แล้วจึงทำ เห็นว่าไม่มีทุกข์ ไม่เดือดร้อนตน ไม่เดือดร้อนบุคคลผู้อื่น จึงทำ ถ้าเห็นว่าเดือดร้อนตน เดือดร้อนผู้อื่น ไม่ทำ อาจหาญอย่างนี้ อาจหาญในการดีอย่างนี้
ที่จะกล่าววาจาอันใดออกไป อาจหาญอีกเหมือนกัน เอาปัญญาเข้าสอดส่องดูเสียก่อน ถ้าเดือดร้อนเราก็ไม่กล่าว เดือดร้อนเขาก็ไม่กล่าว เดือดร้อนทั้งเราทั้งเขาก็ไม่กล่าว ถ้าไม่เดือดร้อนเราจึงกล่าว ถ้าไม่เดือดร้อนเขาจึงกล่าว ถ้าไม่เดือดร้อนทั้งเราทั้งเขาจึงกล่าว นี้ก็อาจหาญในวาจา
อาจหาญในทางใจ ใจจะคิดสิ่งหนึ่งสิ่งใด เดือดร้อนเราก็ไม่คิด เดือดร้อนเขาก็ไม่คิด เดือดร้อนทั้งเราทั้งเขาก็ไม่คิด ถ้าไม่เดือดร้อนเราจึงคิด ถ้าไม่เดือดร้อนเขาจึงคิด ถ้าไม่เดือดร้อนทั้งเรทั้งเขาจึงคิด นี้อาจหาญอย่างนี้ นี่สักโกเป็นผู้อาจหาญ ไม่ใช่อาจหาญเรื่องอื่น ไม่ใช่อาจหาญเรื่องเหลวไหล
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 32 เรื่อง กรณียเมตตสูตร
25 พฤษภาคม 2497
59
พระอรหันต์ของบุตร
มารดาบิดารักลูกออกใหม่ๆ มีเมตตารักใคร่จะให้เป็นสุข ไม่ต้องการอะไรเลยในลูก กรุณาอยากจะช่วยลูกให้พ้นทุกข์ มุทิตาเมื่อลูกเดินได้นั่งได้คลานได้ ไปในทิศานุทิศได้ เลี้ยงตัวได้ก็ยินดีด้วย โมทนาด้วย หรือถึงความวิบัติพลัดพราก ที่เหลือวิสัยที่จะช่วยได้ก็อยู่ในอุเบกขาอย่างนั้นมารดาที่รักลูกน่ะ รักใคร่ลูกน่ะ ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกน่ะ ไม่ประกอบด้วยกาม ประกอบด้วยพรหมวิหารแท้ๆ ถึงได้กล่าวว่ามารดาบิดาเป็นพรหมของบุตร
พระพุทธเจ้าก็เป็นพรหมของบุตร เป็นพระพุทธเจ้าด้วย เป็นพรหมด้วย
มารดาบิดาเป็นบุรพาจารย์ของบุตร เพราะสอนบุตรและธิดามาก่อนใคร มารดาบิดาเป็นพระอรหันต์ของบุตร บุตรจะเพาะเลี้ยงมารดาบิดาด้วยประการใด ก็ได้ชื่อว่าเลี้ยงพระอรหันต์แท้ๆ
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 31 เรื่อง กรณียเมตตสูตร
1 มิถุนายน 2497
60
แก้วสารพัดนึก
เมื่อเข้าถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ อย่างนี้แล้วละก็ ไม่ต้องอ้อนวอนพวกสัตว์เดร็จฉาน พญานาค หรือสัตว์ต่างๆ ก็ช่าง จะทำอะไรก็ช่าง ไม่มีกลัวอะไร ไม่ครั่นคร้ามต่ออะไร พญานาคมีเท่าไร ปราบหมด หรือเทวดามีฤทธิ์มีเดชเท่าไร ปราบหมดหรือรูปพรหมมีฤทธิ์มีเดชเท่าไร ปราบหมด หรืออรูปพรหมมีฤทธิ์มีเดชเท่าไร เข้าถึงพระรัตนตรัยเสียแล้ว ปราบได้หมด ไม่ต้องกลัวอะไรสักอย่าง
เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า เก่งกาจขนาดนั้น เพราะฉะนั้น เมื่อใครเข้าถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ได้ชื่อว่า เข้าถึงซึ่งแก้วสารพัดนึก
จาก พระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ 34 เรื่อง ขันธปริตร
6 มิถุนายน 2497