คิดถึง 2 บทที่ 71

กระทู้สนทนา

.

                    ไดอารี่ความคิดถึง

                  เช้าวันเสาร์อากาศดีสุด ๆ เพราะฝนตกเมื่อคืนทำให้ยามเช้าวันนี้สดชื่น ครึ้มฝนนิดหน่อย แถมยังมีละอองฝนโปรยลงมาไม่ขาด ทำให้พวกเธอนอนตื่นสายกัน โดนยายปลุกให้ตื่นลุกออกมาจากห้องนอน ทว่าก็มาล้มตัวลงนอนต่อที่ห้องโถงของบ้านหน้าทีวีกันอีก

                     ตาสวมเสื้อกันฝนพาวัวไปนาตั้งแต่เช้า ส่วนยายไปวัด พวกเธอถึงได้นอนต่อกันสบาย ๆ ยายกลับมาจากวัดค่อยตื่นอีกรอบ วันนี้บอสนัดกับพี่สาวฝาแฝดและจ๋อมเอาไว้ จะเข้าไปพลาซ่าอีกแล้ว วันเกิดที่ผ่านมาสิ่งที่อยากได้เป็นของขวัญยังไม่ได้เลย เงินก็พอเหลือให้ซื้อ ทำเพียงเลี้ยงขนมเพื่อน ๆ ไปเท่านั้น วันนี้แหละจะไปซื้อของขวัญให้ตนเอง

                       ดูบรรยากาศของวันนี้แล้วจะได้ไปหรือเปล่า ถ้าฝนตกปรอย ๆ แบบนี้ทั้งวันคงต้องอด ไม่เป็นไรยังมีพรุ่งนี้วันอาทิตย์อีกวัน ไปพรุ่งนี้ก็ได้ เธอภาวนาว่าพรุ่งนี้ขอให้ท้องฟ้าปลอดโปร่งกว่านี้ แดดออกมากกว่านี้เถอะ อยากได้รองเท้าใหม่ ที่แม่ให้ตังค์วันเกิดมาก็เพราะบอกว่าอยากได้รองเท้านี่แหละ รองเท้าแตะยี่ห้อบาจาเหมือนของพิมพ์กับแพรวและจ๋อม ความจริงเธอก็ใช้อยู่เหมือนกัน แต่ อยากได้คู่ใหม่ คู่เดิมมันเก่าแล้ว

                     “ตื่นแหมะสู ! นอนคักนอนแนแถะ จนยายมาตะวัด” พอยายกลับมาจากวัด ตัวยังไม่ถึงบ้านเลย เสียงมาก่อนทุกที ยายเดินมายุดยืนตรงประตูหน้าบ้าน ยืนมองพวกเธอนอนเรียงกันหน้าทีวีกัน เปิดทีวีปล่อยทิ้งไว้ ก็ไม่ได้หลับทุกคน มีพี่บอลที่ไม่ได้หลับกับพี่ปาว ทว่าก็ไม่ได้ใส่ใจทีวีที่เปิดอยู่นัก “ปลุกตื่นล่ะยังมานอนต่ออีกอยู่ หาข้าวมากินแหมะ” ยายพูด

                      พวกเธอลุกขึ้นตามเสียงเรียกของยาย พี่บอมเดินออกไปข้างนอกก่อนใคร ส่วนเธอกับพี่แป้งเดินเข้าไปในครัวเพื่อยกสำรับกับข้าวออกมาทานมื้อเช้า “อี่นึงไปไสล่ะ” ยายถามหาน้องบีม

                      “ในห้อง” พี่แป้งตอบ

                       “ไปปลุกน้องมากินเข่าแหมะ สิกินบ่เข่า” ทว่าพอได้ยินเสียงยายพูดไม่ต้องมีใครปลุก น้องบีมก็ตื่นและเดินออกมาจากห้องนอนเอง

                       “หน้าบูดมู่ยู่อยู่พุ่น ไปล้างหน้ามากินเข่าแหมะ เขากินขนมเมิดหนีจากเด้หนิ” ยายพูดถึงขนมที่ได้มาจากวัด น้องบีมเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน สักพักก็เดินออกมาร่วมวงทานข้าวมื้อเช้าด้วยกัน

                      เสาร์นี้พี่สาวสองคนจะไปที่บ้านของตนเอง เพราะเมื่อคืนฝนตกหนัก ไปดูว่ามีอะไรเสียหายหรือเปล่า ส่วนเธอปิดไว้ก่อนไม่บอกหรอกว่าบ่ายนี้จะไปไหน กลัวโดนบ่นเพราะอาทิตย์ที่แล้วก็เข้าไปในเมือง ขืนวันนี้บอกว่าจะเข้าไปอีกมีหวังโดนบ่นแน่นอน จึงกะว่าจะไม่บอกไม่พูดอะไร ส่วนในช่วงเช้านี้จะอยู่บ้านก่อน ช่วงบ่ายค่อยไปที่บ้านหาสองฝาแฝด ยายจะได้ไม่ตาม  จะได้ไม่ต้องหาเรื่องแก้ตัวหลังกลับมาจากในเมือง

                   “ได้ขนมอิหยังมายาย” เสียงแหบเล็ก ๆ ของน้องบีมถามยาย เพราะพึ่งจะตื่นนอนมาหมาด ๆ พวกเธอหัวเราะกับภาพที่เห็นและคำถามของน้องบีม

                     “เอาไปใส่บาตรจักอย่างคือถามหาแถะบีม” พี่ปาวพูดกลั้วหัวเราะ ยายก็ยิ้มหัวเราะตาม เข้าใจที่พวกเธอแซวน้องบีม

                     “ยายบ่ได้ขอมาเด้ล่ะ ยาคูหยิบใส่ตะกร้าให้ยายเองน้อ เอาไว้กะบ่มีพุกิน” ยายตอบ ก็จริงอย่างที่ยายพูดนั่นแหละ

                       “แม่ใหญ่อันหนิเอาฮอดเข่าแห้งมา” พี่บอลแซวยาย เมื่อเห็นข้าวแห้งแข็ง ๆ อยู่ในตะกร้าไปวัดของยาย พวกเธอก็หัวเราะกันอีกในระหว่างนั่งทานมื้อเช้าด้วยกัน

                       “เอามาให้ไก่ ! “ ยายตอบ แล้วพวกเธอก็ตั้งใจทานข้าว ส่วนน้องบีมควานหาขนมในตะกร้าของยาย เลือกเอาอันที่ชอบไปหมด “ได้กินขนมล่ะ ยายพรหาบมาบ่ต้องซื้อเด้อ” ยายพูดกับน้องบีม

                   “บ่ ! ซื้อคือเก่า ห้าบาท” น้องบีมเถียงยาย มือก็แกะขนมข้าวเหนียวปิ้งทาน

                    “เอ้า ! ซื้อห้าบาทมันกะเปลืองห้าบาท ขนมกะได้กินล่ะ ยังสิซื้ออีกอยู่” ยายกับหลานสาวคนเล็กนั่งเถียงกัน พวกเธอไม่สนใจรีบทานข้าวรีบอิ่มดีกว่า

                     “เอ้า อันนั้นมันกะขนมยายพร อันนี้มันกะขนมวัดนั่นเด้ยาย มันบ่คือกัน” น้องบีมก็นั่งเถียงยายไปพร้อมทานขนมไปด้วย ไม่ยอมทานข้าวเช้าเลย

                     “แมนบีม ! ขนมร้านป้าสุ่มกะคือขนมร้านป้าสุ่ม ร้านพ่อเงินกะคือของร้านพ่อเงินน้อ ของยายพรกะส่วนของยายพรน้อบีม บ่คือกันอ้ายกะว่าสั่นล่ะ” พี่บอมล้อน้องบีมอีกคน

                   ยายหัวเราะอึกอัก ก่อนจะเลิกสนใจทานข้าวต่อ หลังทานข้าวเสร็จก็แยกย้ายกัน พี่ปาวกับพี่แป้งขอไปที่บ้านตนเอง “บีมไปคุ้มใต้กับพี่บ่” พี่แป้งชวน

                   “พี่บอสไปมั้ย !” น้องบีมหันมาถามเธออีก บอสใช้ความคิดจะทำอย่างไรถึงจะเข้าไปในเมืองแล้วยายไม่บ่น ไปบ้านพี่ปาวพอถึงตอนบ่ายให้สองฝาแฝดมารับที่บ้านของพี่ปาวก็ได้ แล้วบอกกับพี่ว่าไปซื้อรองเท้า แค่นี้ยายก็ไม่รู้และไม่บ่นแล้ว ยิ้มกริ่มให้กับความคิดของตน

                    “ไป ! ไปนำ ตะจะไปจังใดอัดสี่บ่” บอสถาม ที่บ้านมีรถมอเตอร์ไซค์สองคัน ของพี่สาวกับของพี่ชาย ของเธอยังไม่มีเลย ขอแม่ตั้งนานแล้วก็ยังไม่ยอมซื้อให้สักที ปีใหม่นี้ต้องลองขอใหม่ล่ะ

                     “อัดสี่กะอัดโลด” พี่ปาวครุ่นคิดสักพักจึงตกลงยอมซ้อนสี่คนกันไป

                     “บ่ ! บอสสิปั่นจักรยานอี่ตาไป” เธอปฏิเสธ “บีมมืงซ้อนไปกับพี่ปาวพี่แป้งเลย” สั่งน้องสาว

                  “อย่าพากันอยู่ค่ำเด้อ บ่ายสามสี่โมงแลงพากันมาหาเฮ็ดแนวกินแลงเด้อ” ยายบอกกับพวกเธอ “บอลไปส่งยายไปนาแนะ ยายสิไปหาเบิ่งปลาฝนตกมื้อคืนเป็นตะหลาย” ยายหันไปวานหลานชายคนเล็ก “สองคนนี้ขั้นสิไปเฮือนสูปิดเฮือนให้ยายดี ๆ เด้อก่อนไป” ยายพูดกับหลานชายสองคนอีกนั่นแหละ

                    “ครับ ! ตะบอมบ่ไปหรอก เดี๋ยวบอมไปส่งกะได้ “

                    “เฮือนสูปิดดีบ่ล่ะ ฝนบ่สาดเปียกเมิดบ่”

                   “ถามบักบอลถะแหมะมันไปสุมื้อ” เบี่ยงประเด็นไปให้น้องชายตอบ

                    “ปิดดีอยู่ยาย” พี่บอลตอบ ก่อนจะแยกย้ายกัน พี่บอมไปส่งยายไปนา พี่ปาวพี่แป้งกับน้องบีมไปบ้านคุ้มใต้ ตามด้วยเธอปั่นจักรยานของตาตามไปแบบไม่เร่งรีบ ปั่นไปชิว ๆ ท่ามกลางละอองฝนเล็ก ๆ แอบหนักใจอยู่เหมือนกันว่าวันนี้ทั้งวันฝนจะหยุดตกไหม ไปซื้อพรุ่งนี้ก็ได้ ทว่าก็อยากได้ภายในวันนี้

                    ไม่นานก็ปั่นจักรยานมาถึงบ้านของพี่ ๆ นำจักรยานของตาไปพิงไว้ผนังข้างบ้าน น้องบีมกำลังกระโดดยางอยู่คนเดียว ผูกยางไว้กับเสาบ้านกระโดดคนเดียวก็สนุกตามประสาเด็ก ที่คุ้มใต้บ้านของพี่ปาวไม่มีเด็กรุ่นเดียวกับน้องบีมเลย มาบ้านคุ้มใต้ทีไรน้องบีมจึงไม่มีเพื่อนเล่นเสมอ

                     บอสเดินเข้าไปในบ้านดูทีวีกับพี่ ๆ พี่ปาวคุยโทรศัพท์กับพี่อุ้ย พี่แป้งกับเธอดูทีวีไปคุยกันไปด้วย เล่นเกมส์ในโทรศัพท์มือถือแก้เบื่อไปพลาง ๆ ฆ่าเวลาพอให้ผ่าน ๆ ไปในแต่ละชั่วโมง อยากไปเล่นกับสองฝาแฝดมากกว่า ไม่น่าตัดสินใจมากับพี่ ๆ เลย น่าเบื่อ อยู่กับแพรวยังพอมีเรื่องให้เมาท์ อย่างน้อยก็เรื่องของเพื่อน ๆ

                    ฝนก็ยังโปรยปรายลงมาไม่ขาดระยะ ล่าสุดตอนนี้เริ่มเทกระหน่ำลงมาอีกแล้ว โอกาสที่จะไปพลาซ่าริบหรี่ลงทุกที พรุ่งนี้ก็ยังทัน ! เธอทำใจไว้รอเลยว่าวันนี้ฝนคงจะตกแบบนี้ทั้งวัน แดดไม่ยอมออกมาให้ได้สัมผัสเลย

                   “อยากตากฝนเว้ย !” จู่ ๆ น้องบีมก็พูดขึ้น “พี่ปาวน้องบีมตากฝนนะ” ยืนพิงประตูถามพี่สาวคนโต

                  “บ่ได้ ! มันสิไข้” พี่ปาวไม่อนุญาต น้องบีมเดินหน้างอไปกระโดดยางต่อ ทว่าก็แอบเอามือไปรองน้ำที่ใต้ชายคาบ้านเป็นระยะ ๆ พร้อมเสียงหัวเราะที่ดูสนุกสนานเป็นอย่างมาก เธอหันไปมองพอน้องบีมเห็นเธอมองจึงเลิกเล่นทำเป็นกลับมากระโดดยางต่อ พอไม่มีคนสนใจก็แอบไปใช้มือใช้เท้ารองน้ำฝนที่หล่นมาจากหลังคาอีก

                    “บีมอย่าเล่นน้ำฝน มืงเข้าใจคำว่ามันสิไข้บ่” เป็นเธอเองที่เอ็ดน้องสาว ถึงจะใช้แค่มือยื่นออกไปสัมผัสน้ำฝนก็เถอะ ทว่าเสื้อผ้าเริ่มเปียกหมดแล้ว

                       “เอ๋าน้องบีมบ่ได้ตาก น้องบีมเอามือไปต๊งซือ ๆ แหมะ”

                        “กะนั่นล่ะ ! เปียกเมิดล่ะเสื้อนั่น” บอสยืนพิงประตูเอ็ดน้องสาว ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน วันนี้ฝนตกสวยงามมาก มีเพียงสายฝนที่เทลงมาจากฟ้า ไม่มีฟ้าแลบและเสียงฟ้าร้องเลย จึงดูไม่น่ากลัว เพราะเธอกลัวเสียงฟ้าร้อง

                      เมื่อเธอเดินเข้าไปในบ้านน้องบีมก็แอบเล่นน้ำฝนอีกจนได้ บอสขี้เกียจจะดุจึงปล่อยน้องสาวให้เล่นไป อยากเล่นมากก็เล่นไปเลย ป่วยมาก็ตามใจ พอไม่มีคนดุแล้วเหมือนเจ้าตัวได้ใจ จากใช้มือก็ใช้เท้ารองน้ำที่ไหลลงมาจากหลังคา คราวนี้ใช้ศีรษะรองน้ำฝนกันเลย ทำให้เสื้อผ้าเปียกไปหมด ตัวอยู่ใต้ชายคาบ้าน ทว่ายื่นศีรษะออกไปรับน้ำฝนเปียกไปหมด

                    “อี่บีม ! ฮา โอ้ยน้อกูหน่าย บอกว่าอย่าตากฝน ฮา ปาวมืงมาเบิ่งมัน ! มืงบอกมันอย่าตากฝน แต่มันเอาหัวออกไปต๊งน้ำฝน” พี่แป้งพูดกลั้วหัวเราะให้กับน้องบีม เธอเองก็หัวเราะให้กับความเจ้าเล่ห์ของน้องสาว

                    “ฮา มันกะบ่ได้ตากเด้ล่ะพี่แป้ง มันเอาตะหัวตาก “ พูดปนหัวเราะให้กับน้องสาว ส่วนเจ้าตัวหัวเราะกรี๊ดกร๊าดใหญ่เลยที่โดนจับได้ “บีมปะพี่พาเล่นน้ำฝน”

                    “ปะ ! “ พอได้รับอนุญาตน้องบีมก็ดีใจใหญ่เลย วิ่งออกไปนอกบ้าน ตอนนี้ฝนยังไม่ซา ยังคงความแรงและเร็ว เม็ดใหญ่ด้วย พวกเธอสองคนพี่น้องเล่นน้ำฝนตรงหน้าบ้านด้วยกัน เธอไม่ได้สนุกเพียงเล่นเป็นเพื่อนน้องสาวเท่านั้น ส่วนคนสนุกเห็นจะเป็นน้องบีม

                     “บีมเบิ่งพี่บอสจะนั่งสมาธิ” บอสสวมกางเกงวอร์มสีดำและเสื้อยืดเล่นน้ำฝน นั่งขัดสมาธิตรงชายคาบ้าน ให้สายน้ำที่ไหลลงมาหล่นใส่ตัว พนมมือท่ามกลางสายน้ำอย่างสนุก หลับตาเอาไว้ลืมตาไม่ได้เพราะน้ำเข้าตา

                    ส่วนน้องบีมนั่งกลางแจ้งตรงทางน้ำไหลเล็ก ๆ นั่งขวางทางน้ำเอาไว้อย่างสนุก “บีมทำฝาย คอยดูนะบีมจะปล่อยน้ำ “ พอยกตัวขึ้นน้ำก็ไหลทะลักแรงพอประมาณ พอให้น้องบีมได้หัวเราะสนุกสนาน จากนั้นก็นั่งปิดกั้นขวางทางน้ำอีก “พี่บอสอ้าปากกินน้ำฝนดูนะอร่อย” ไม่พูดเฉยเงยหน้าหลับตาอ้าปากรองน้ำฝนไปอีก

                    “แซ่บบ่ !” แกล้งถามน้องไปอย่างนั้น

                  “แซ่บ หวาน !”

                   “อี่ผีบ้า ! ฮา “ ทั้งสองคนพี่น้องก็พากันเล่นน้ำฝนอย่างเพลิดเพลิน สนุกมาก สำหรับเธอนานแล้วที่ไม่ได้เล่นน้ำฝนแบบนี้ ด้วยอายุที่มากขึ้น เมื่อสบโอกาสวันนี้จึงถือโอกาสเล่นไปกับน้องสาวด้วยเลย ไม่สนใจแล้วว่าฝนจะหยุดตกตอนไหน จะได้เข้าไปซื้อรองเท้าหรือไม่ ตอนนี้เล่นน้ำฝนสนุกมากกว่า

                     ไม่นานฝนก็ซาลงและหยุดตกไปโดยปริยาย ทว่าฟ้ายังครึ้ม ๆ อยู่ สักพักคงโปรยปรายลงมาอีก ดูท่าทางแล้วคงจะตกทั้งวันลักษณะแบบนี้ “พี่ปาวยืมรถไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแน” บอสขอรถกับพี่สาวขับกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดกัน ตอนนี้ตัวเปียกแฉะไปหมด

                   “ฟ้าวไปฟ้าวมาเด้อ ฝนสิตกอีกรอบอยู่หนิ แวะซื้อส้มตำร้านยายกันมานำ ตำป่านำ” พี่ปาวกำชับก่อนจะยื่นกุญแจรถให้พวกเธอ บอสรับคำแล้วก็พาน้องสาวขับมอเตอร์ไซค์กลับไปที่บ้านเพื่อเปลี่ยนชุด….
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่