คิดถึง 2 บทที่ 86

กระทู้สนทนา

.

             ไดอารี่ความคิดถึง

            เย็นวันพุธบอสเลิกเรียนกลับมาถึงบ้าน รีบทำงานบ้านช่วยพี่สาวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากวันนี้มีนัดกับสองฝาแฝด จึงรีบทำงานบ้านให้เสร็จเพื่อเตรียมพร้อมรอสองคนนั้นกลับมา ถึงแล้วจะได้ไปกันได้เลย บอสขอยายแล้ว บอกว่าจะไปคลองถมยายก็ไม่ห้ามอะไร

            “ฟ้าวไปฟ้าวมา! อย่าอยู่มืดอยู่ค่ำได้งินบ่อ” ยายกำชับ บอสรับคำอย่างดีกลัวไม่ได้ไป จะกลับมาถึงบ้านตอนไหนค่อยว่ากันอีกที

             “บอสไปคราวเดียว! บอสแค่ไปซื้อกางเกงยีนส์ซือ ๆ “ เธอตอบ คิดแบบนั้นจริง ๆ กะว่าจะไม่แวะเดินคลองถมด้วยซ้ำ ไปพลาซ่าซื้อกางเกงแล้วกลับเลย

              “บอสพี่ฝากซื้อหมึกย่างนำเด้อร้อยนึง อะเงิน” พี่แป้งฝากซื้อของกินมาให้ บอสลอบถอนหายใจ กะว่าจะไม่แวะคลองถมแล้วนะ พี่แป้งยังจะฝากซื้อของกินอีก “หนมเบื้องนำ”

              “เค ๆ กะได้!” บอสจำต้องยอมตกลงให้ฝาก จำต้องแวะคลองถมจนได้สินะ

              “มืงสิไปยามใดล่ะบอส ค่ำแล้วหนิเทือสิฮอดในเมือง” ยายถามเธอ พึ่งจะสี่โมงเย็นเองยายก็คาดคั้นอยู่ได้

              “จักนอยหนิล่ะ! อี่แพรวมาบอสกะไปเลย” พูดจบบอสก็เดินไปบ้านของสองฝาแฝดเลย ไม่รู้ว่าทั้งสองคนมาหรือยัง ไปคอยที่บ้านย่าก็ได้ ไม่อยากอยู่บ้านให้ยายเค้นถามซักไซ้ เดี๋ยวจะพาลไม่อนุญาตไปอีก จึงรีบเดินออกจากบ้านไป

              “บอสกูใกล้จะฮอดแล้ว ถ่าจักคราวเด้อ” พิมพ์โทรมาหาเธอ ขณะนี้เธอรออยู่ที่บ้านของย่า ตอนนี้ก็ยังไม่เย็นเท่าไหร่ กว่าทั้งสองคนจะมาถึงก็น่าจะประมาณห้าโมงเย็นพอดี ยังมีเวลาและยังทันการณ์

              “กูย่างมาถ่าอยู่เฮือนใหญ่นงค์แล้ว บ่อต้องขับรถฟ้าวค่อย ๆ ขับมา” ถึงจะใจร้อนอยากเข้าไปในเมืองเร็ว ๆ ทว่าก็ไม่อยากให้พี่สาวทั้งสองคนเร่งรีบนัก เดี๋ยวเกิดอันตราย

              “เออ ๆ แค่นี้ล่ะ จะฮอดแล้วหนิ” จากนั้นเธอก็วางสายจากพิมพ์ไป นั่งคุยกับย่าฆ่าเวลา เวลานี้ป้าต้อยกำลังนึ่งข้าวทำกับข้าวเย็นอยู่ พี่โจกับพี่กอล์ฟก็อยู่บ้าน ส่วนลุงบินเดินไปดูไก่ชนกับเพื่อนบ้านข้าง ๆ กัน

              “สิชวนกันไปไสหนิ” ย่าถาม มือก็กำลังตำหมากเคี้ยวอยู่บนแคร่ เธอเองก็นั่งไกวเปลเล่น มองรถวิ่งผ่านไปผ่านมาเพลินตาดี หลัง ๆ มาก็จะเริ่มจะลายตาเวียนหัวมอเตอร์ไซค์แล้วล่ะ เนื่องจากบ้านของย่าอยู่ติดถนน ไม่มีกำแพงอิฐด้วย ย่าทำกำแพงไม้ไผ่แทน “ค่ำแล้วสิแล่นไปไสกัน” นั่นไงหนีจากยายแล้วยังมาเจอย่าบ่นอีก

              “ไปคลองถม!” การตอบว่าไปคลองถม เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายที่สุดกว่าบอกว่าไปพลาซ่าแล้ว

              “คือพากันไปค่ำแถะ เทือสิมาสิบ่อมืดพุ่นบ่อ” ย่าถาม ก่อนจะใช้ช้อนตักหมากที่ตำละเอียดแล้วเข้าปากเคี้ยว ทั้งย่าและยายของเธอเคี้ยวหมากกันทั้งคู่ “ไปหยังแนวไป คือบ่ถ่าไปมื้อหยุดโรงเรียน ค่ำ ๆ มืด ๆ คือพากันมักไปแถะ”

              “ถ่ามื้อเสาร์อาทิตย์บอสกะบ่อทันใส่ท่อนแหล่ว บอสสิไปซื้อซ่งใส่ไปลอยกระทง” เธอตอบ ถึงจะไม่ค่อยชอบที่มีคนมาขัดใจก็ตาม ก็เธออยากจะไปซื้อวันนี้จะเป็นอะไร ถอนหายใจระงับความขุ่นมัวในใจของตนเองเอาไว้ “บอสอุตส่าห์ไปเกี่ยวข้าวแลกมา” พอพูดถึงตรงนี้ก็ยิ้มออกมาได้ นึกตลกตัวเองที่ลงทุนขนาดนั้น ก็ทุก ๆ รอบนั่นแหละ ที่ต้องเอาตัวเอาแรงเข้าแลกมาถึงจะได้ของที่อยากได้

              “ซ่งอี่หยังว่ะ” ย่าถาม ปรายตามองเธอที่ไกวเปลไม่หยุด “ไกวแฮงหลายเชือกขาดเด้อ”

              “ซ่งยีนส์ยังวะ อี่ย่ามาถามดู๋แถะ” บอสพูดปนยิ้มกับย่า นั่งคุยกันฆ่าเวลารอพิมพ์กับแพรวมาถึง ไม่นานบอสก็เห็นสองฝาแฝดกลับมาถึงบ้านกันแล้ว

              ถึงแม้ว่าบอสจะเห็นใจว่าแพรวอาจจะขับรถเหนื่อย เพราะพึ่งกลับมาจากในเมืองก็ต้องวกเข้าไปในเมืองอีกก็ตาม แต่บอสก็ไม่พูด ขอเห็นแก่ตัวก็แล้วกัน เพราะความอยากได้จริง ๆ มันรอไม่ไหว ก็บอสอยากซื้อมาใส่ไปลอยกระทงหนิ ถ้าแพรวขับไม่ไหวบอสจะเป็นคนขับเองก็ได้

              “ย่าบอสไปเฮือนอี่แพรวก่อนเด้อ” ไม่รอฟังคำตอบจากย่าบอสก็เดินจากมาเลย ข้ามถนนมายังบ้านของสองฝาแฝด “มาฮอดเร็วอยู่ กูว่าแมนจะนานมา พักก่อนกะได้กูบ่อฟ้าวหรอก ตะมื้อหนิกูต้องได้ไปซื้อซือ ๆ ฮา” บอสพูดเล่นปนจริงพร้อมหัวเราะ ทั้งสองคนก็หัวเราะด้วย พิมพ์ยกมะเหงกให้เธอ

              “อยากไปพอตายอี่ฮา! ห้าวคัก! บ่อค่อยจะเห่อเลยมืง” พิมพ์แซว เธอไม่เถียงที่พิมพ์พูดมาก็ถูกทั้งหมด

              “ให้อี่แพรวพักก่อน มันเมื่อยขับรถ หกโมงแลงจังไปกะได้! กูอยากได้น้อสู กูอุตส่าห์ไปเกี่ยวข้าวตากแดดมา” บอสตอบด้วยรอยยิ้ม ส่วนสองฝาแฝดกำลังเปลี่ยนชุดอยู่ “ให้ลุงวิทย์พาไปบ่อสั่น”

              “เทือพ่อแม่กูจะมาตะขายของ มืดก่อนพอดี ห้างปิดก่อนอีก แบบช็อปมันปิดก่อนแหมะ ห้างกะปิดสามสี่ทุ่มพุ่นแหล่ว” แพรวตอบ กำลังเปลี่ยนชุดนักเรียนสวมชุดลำลอง

              “มืงเมื่อยบ่อสั่นน่ะ” บอสถามด้วยความเห็นใจ เกรงใจ แต่ตนเองก็อยากไป ระยะทางจากตัวเมืองมายังหมู่บ้านของเธอก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ ถึงจะเป็นอำเภอเมืองก็ตาม “แต่กูกะอยากไปเด้สู!”

              “ไป! กูสิพามืงไปอยู่หนิ กูนัดอ้ายเม้าส์ไว้แล้ว กูจะนั่งรถไปนำอ้ายเม้าส์ ส่วนมืงกับอี่พิมพ์ไปนำกัน” แพรวตอบ บอสยิ้มออกมาได้ สุดท้ายก็ได้ไปจนได้

              “เค! เดี๋ยวกูเป็นคนขับให้อี่พิมพ์ซ้อนเอง ว่าตะอย่าพากูไปเลาะไปมายไผหลายเด้อ ไปพลาซ่าคือไปพลาซ่า! บาดมาพากูแวะคลองถมจักคราวนำ บ่อต้องย่าง! กูเข้าไปซื้อปลาหมึกกับขนมเบื้องให้พี่แป้งซือ ๆ “ บอสสาธยายแผนการในวันนี้

              “เค! ตามนั้น ปะพร้อมแล้ว อ้ายเม้าส์ไปถ่าอยู่โรงเรียนมืงแล้ว” แพรวตอบ จากนั้นพวกเธอก็ซ้อนสามกันออกจากหมู่บ้าน มุ่งหน้าไปยังโรงเรียนของเธอก่อน เพื่อไปรับพี่เม้าส์ไปด้วย

              มาถึงโรงเรียนก็เห็นว่าพี่เม้าส์นั่งรอที่ประตูทางเข้าโรงเรียนแล้ว ไม่รีรอพวกเธอก็สลับกันนั่ง แพรวไปนั่งซ้อนกับพี่เม้าส์ ส่วนเธอกับพิมพ์นั่งรถไปด้วยกัน เธอเป็นคนขับให้พิมพ์ซ้อนเอง

              พวกเธอขับรถมุ่งหน้าเข้าไปในเมือง จุดมุ่งหมายคือพลาซ่า ไม่ต้องขับรถรอกัน ไปรอที่พลาซ่าเลย ใครไปถึงก่อนให้นำรถไปจอดฝั่งประตูทางหลังพลาซ่านั่นเอง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามหากันอีก

              พวกเธอสองคนขับรถมุ่งหน้าไปก่อน ดูเหมือนพี่เม้าส์กับแพรวจะขับรถกินลมชมวิวกันอยู่ บอสก็ไม่ว่าอะไร ขับแซงหน้าทั้งสองคนมาเลย เวลานี้สบายใจได้ ตำรวจไม่มี ไม่มีด่านแต่รถเยอะชะมัด เพราะเป็นช่วงเวลาเลิกงานของใครหลาย ๆ คน

              รถโรงเรียนก็ยังทยอยมารับนักเรียนยังไม่หมด ทำให้การจราจรติดขัด มีรถบนท้องถนนเยอะแยะ อีกทั้งวันนี้มีคลองถมด้วย ทำให้การจราจรเป็นไปอย่างติด ๆ ขัด ๆ

              สำหรับพวกเธอแล้ว มอเตอร์ไซค์คล่องตัวที่สุด บอสค่อย ๆ ขับรถพาพิมพ์เข้ามายังในตัวเมือง ขับตามไล่ทางมาเรื่อย ๆ ถึงเวลานี้จะไม่มีตำรวจ ทว่าเพราะความเคยชิน บอสก็ใช้เส้นทางเดิม คือ เส้นทางหลบตำรวจหลังพลาซ่า จะเลี้ยวเข้าทางปากทางเข้าวัดประชานิยมเลยก็ได้ หลังโรงเรียนเซนต์ยอแซฟหรือ จะขับเลยโรงเรียนเซนต์ยอแซฟมาแล้วค่อยเลี้ยวก็ได้เช่นกัน

              ไม่รู้บอสคิดอะไรอยู่ บอสจึงพาพิมพ์เลี้ยวข้างโรงเรียนเซนต์ยอแซฟเลย ซึ่งมันเป็นซอยเล็ก ๆ คดเคี้ยวไปอีก แถมยังวุ่นวายไปด้วยเด็กนักเรียนที่กำลังรอรถ และ ผู้ปกครองที่มารับบุตรหลาน อีกทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่มาขายลูกชิ้นให้เด็ก ๆ จำต้องค่อย ๆ ขับไป ถนนก็เป็นซอยเล็ก ๆ ต้องคอยหลบทั้งคนหลบทั้งรถที่วิ่งสวนมา

              “บอสมืงคือพากูเลี้ยวตะหัวปีแถะอี่หนิ” พิมพ์ยื่นหน้ามาคุยกับเธอแบบเบื่อ ๆ เพราะการจราจรติดขัด อึดอัดด้วย พอเธอได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะชอบใจ เธอเองก็ไม่ทราบเหตุผลที่ทำแบบนั้นเหมือนกัน ทำไมถึงเลี้ยวก่อนเส้นทางที่ควรจะเลี้ยวก็ไม่รู้

             “จักคือกันพิมพ์! ฮา “ บอสตอบพร้อมหัวเราะอึกอัก ค่อย ๆ พาพิมพ์ขับมาเรื่อย ๆ สุดท้ายก็พ้นเขตโรงเรียนมาโผล่เขตหมู่บ้านหลังพลาซ่า พวกเธอก็หายใจหายคอกันโล่งหน่อย

              “เนี่ยขับเลยมาเลี้ยวซอยหนิกะได้นะ อันหนิจักอี่หยัง ล่ะพากูเลี้ยวมาตะวัดประชานิยมพุ่น” พิมพ์บ่นไม่หยุด ส่วนเธอก็ขำไม่หยุดเช่นกัน ไม่รู้ว่าขำอะไรรู้แต่ว่ามันนึกตลก

              ขำตนเองนั่นแหละที่ไม่รู้คิดอะไรอยู่นาทีนั้น ขับเพลินไปหน่อย พอเห็นซอยเลี้ยวก็เลี้ยวเลย ลืมนึกไปว่ามันเลยมาเลี้ยวซอยนี้ก็ได้ จะได้ไม่ต้องไปเจอจราจรวุ่นวายหลังโรงเรียนเซนต์ยอแซฟ

              “กูลืมคราวอี่ฮา! อ้ายเม้าส์กับอี่แพรวไปฮอดไสแล้วบุ บ่อแมนฮอดพลาซ่าแล้วติ” เธอถามพิมพ์ ตนเองก็ค่อย ๆ ขับรถไปเรื่อย ๆ ผ่านบ้านจัดสรรค์หลายหลัง กว่าจะมาโผล่อาณาเขตของพลาซ่าได้ ผ่านบ้านของใครคนหนึ่ง แอบชำเลืองมองเข้าไปด้วย ไม่เห็นใครสักคน ก็แค่นั้น! ก็แค่มองเฉย ๆ

              “งวกเบิ่งคักปานนั่นคือบ่อจอดเอิ้นโลดบอส! ฮา กูซังเฮ้ยอดเบิ่งคักเบิ่งแน่” เจอพิมพ์แซวเข้าให้ มาใส่ร้ายกันได้อย่างไร แค่มองแว่บเดียว หาว่ามองจนคอจะเคล็ดได้อย่างไร

              “อี่ฮาพิมพ์ว่าบาปกู! กูกะแนมไปเรื่อยไง แนมข้างทางไปเรื่อยไง” แก้ตัวไป ก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็มองไปเรื่อย ๆ

              “เหรอ! ฟ้าวขับไปเหอะปานหนิอี่แพรวกับอ้ายเม้าส์ถ่าโดนแล้ว” พิมพ์พูดประชด จากนั้นเธอก็รีบขับไปพลาซ่าอย่างไว แอบคิดเล่น ๆ จะเจอหรือเปล่านะ ก็บอกไว้แล้วล่ะว่าจะเข้ามาซื้อกางเกงวันพุธนี้

              เธอจะขับทำความเร็วไม่ได้เพราะซอยมันคดเคี้ยว ก็ต้องค่อย ๆ ขับไปอยู่ดี สักพักก็มาถึงพลาซ่าจนได้ พวกเธอนำรถไปจอดตรงประตูสอง ตรงที่ได้นัดกันเอาไว้

              และแล้วแพรวกับพี่เม้าส์ก็มาถึงก่อนจริง ๆ เห็นยืนอยู่ประตูทางเข้ารอพวกเธอ พอจอดรถและเช็กความเรียบร้อยของตนเองเสร็จ จึงพากันเดินไปหาพี่สาวกับว่าที่พี่เขยทันที

              “อ้ายเม้าส์มาถ่าโดนแล้วบ่อ” บอสเลือกที่จะถามว่าที่พี่เขยแทนพี่สาวดีกว่า

              “มืงสองคนคือนานมาแถะ นึกว่าถืกรถสอยไปแล้ว กูกับอ้ายเม้าส์ยืนถ่าจนขาแข็ง” มาถึงก็โดนแพรวบ่นเป็นชุดเลย บอสทำได้เพียงยิ้มแหย ๆ ให้พี่สาวไป ก็ขับรถไม่เก่งนี่นา แล้วก็ไม่ได้เข้าในเมืองบ่อยด้วย ไม่ค่อยชินทาง จำเส้นทางหลังพลาซ่าพาพิมพ์มาถึงได้ก็บุญหัวแล้ว ขณะนี้ก็จะมืดลงทุกที หน้าหนาวมืดเร็ว ตอนนี้แค่หกโมงเย็นนิด ๆ เอง

              “เอ๋าแพรว! แพรวกะถามน้องแน่เป็นหยัง คาหยังคือนานฮอด” บอสอมยิ้ม รู้ว่าพิมพ์พูดถึงเรื่องอะไร ค่อนขอดให้พี่สาวด้วยที่ชอบหาเรื่องใส่ร้าย “งวกจนคอสิหักแล้ว ขั้นแมนมีรถสวนมากะใส่กันตึ้มเลยล่ะมืง งวกเบิ่งคักเบิ่งแน่”

              “อี่หยัง! อ่อ… กูเข้าใจละ คือบ่อจอดโลดย่านหยัง จอดเอิ้นมานำโลด ฮา เบิ่งก็สิชวนให้” แพรวเข้าใจที่พิมพ์พูดในทันที พี่เม้าส์ก็เอาแต่ยิ้มฟังพวกเธอสามคนพี่น้องคุยกัน

              “ซุมฮาหนิใส่ร้ายตะกู! ปะเข้าไปเถาะ อยากได้กางเกงแล้ว” ไม่พูดเฉยเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเลย สองฝาแฝดกับพี่เม้าส์ก็เดินตามหลังมา บอสมีความสุขและสดใสที่สุด ที่ได้ของสมดังใจแล้ว เบิกบานยิ้มแป้นกลางห้างสรรพสินค้ากันเลย

            ก่อนจะซื้อบอสก็ได้ไปกดเงินก่อน จากนั้นจึงเดินไปยังช็อปยี่ห้อแม็ก ซึ่งบริเวณนี้เป็นโซนขายเสื้อผ้า มียี่ห้ออื่น ๆ มากมายให้เลือกสรร ทว่าเธอก็พิศวาสแม็กกว่ายี่ห้อไหน ๆ เข้ามาในช็อปมันก็ตื้นเต้นไปหมด สวยหมดทุกอย่าง โดนใจทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแขนยาว กางเกง เสื้อยืด มันสวยทุก ๆ ตัวเลย

              พนักงานเข้ามาต้อนรับ คอยหาสินค้าให้ อยากดูอะไรพนักงานก็หาให้ ประเคนมาให้เป็นอย่างดี พิมพ์กับแพรวก็เลือกดูเสื้อไป พี่เม้าส์ด้วย

              “อยากดูกางเกงยีนส์สีดำค่ะ เดฟนะ” บอสกล่าวกับพนักงานสาว

              “เอวเท่าไหร่ค่ะ” พนักงานถามเธอ

              “ไซซ์เอสค่ะ” เธอตอบ ไม่รู้เลยว่ารอบเอวของตนเองเท่าไหร่ รู้แต่ว่าสวมไซซ์เอสก็พอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่