.
สาย ๆ ของวันเสาร์ในเดือนมกราคม อากาศยังเย็นอยู่ ไม่ร้อนและก็ไม่หนาวมาก ยังไม่หมดหน้าหนาวดี บอสกับน้องบีมนอนมุดผ้าห่มอยู่ดี ๆ ต้องสะดุ้งตื่นเพราะยายเดินเข้ามาปลุก
“ตื่น ๆ สวยแล้ว พายายออกไปนาบาแสงแน” ยายปลุกพวกเธอสองคนให้ตื่น เธอกับน้องสาวงัวเงียลุกขึ้นนั่งโดยไม่อิดออด ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องนอนไปล้างหน้าแปรงฟัน
‘บาแสง’ เป็นชื่อเรียกสถานที่ของที่นา ซึ่งแบ่งเป็นโซน แต่ละโซนก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป มีทั้งนาดอน นาลุ่ม นากลาง นาโคก และ นาบา นาบาก็จะมีหลายบาหรือหลายชื่อไปอีก แถว ๆ ละแวกบ้านของเธอมีหลายบามาก เช่น บายาว บาหินลาด และ บาแสง เป็นต้น ซึ่งมีหลายคนที่ครอบครองปรปักษ์เป็นเจ้าของที่นาบาแสงนั้น บาแสงกินพื้นที่ไปหลายไร่
*เธอเองก็ไม่รู้ความหมายของชื่อหรอกว่า คำว่า ‘บา’ หมายถึงอะไร*
“ยายไปเฮ็ดหยังนาบาแสง” บอสถามเมื่อแปรงฟันล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว ตามมาด้วยน้องบีม พวกเธอสวมเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวพร้อม
นาบาแสงเป็นผืนนาสมบัติของยายที่ตาทวดยายทวดแบ่งยกให้ ซึ่งอยู่ต่างหมู่บ้าน ทว่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับหมู่บ้านของเธอ สามารถเดินเท้าไปได้ หรือ จะนั่งรถสองแถวไปก็ได้ เนื่องจากเส้นทางเข้าตัวเมืองผ่านนาบาแสงพอดี
ส่วนนาที่อยู่ในหมู่บ้านของเธอ ที่ครอบครัวของเธอทำกินปัจจุบัน เป็นนาสมบัติของตา ที่ตามาถางจับจองและออกโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย ตาเองก็ไม่ใช่คนในหมู่บ้านเช่นกัน
“ยายคือไปนาบาแสงหายาย” น้องบีมถามยายอีกคน
“ยายสิออกไปเบิ่งนาซือ ๆ หนิแหล่ว ไปเบิ่งนาให้ลุง” ลุงที่ยายพูดถึงคือพ่อของพี่ปาวกับพี่แป้ง ยายแบ่งที่นาสมบัติของยายให้พ่อพี่ปาวกับป้าอีกคน ส่วนแม่และลูกคนอื่น ๆ ได้ที่นาส่วนที่เป็นสมบัติของตา “แต่งตัวแล้วล่ะบ่อ ปะมาไปสวยแล้ว เที่ยงจังมา”
“ยายสิออกไปนาจังใด” พี่บอมถามยาย พี่ ๆ ทั้งสี่คนก็ถูกต้อนไปนาด้วยกันหมด เนื่องจากยังเด็กอยู่ ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ยายจึงให้ไปกันหมดบ้านเลย
“ยางลัดท่งไปหนิแหล่ว นั่งรถสองแถวไปเปลืองเงิน หลายคนโพด” ยายตอบ บอสทำหน้าเบื่อหน่ายที่ต้องได้เดินไป เพราะมันไกลเอาเรื่องพอสมควร ทว่าก็เคยเดินอยู่บ่อยครั้ง หรือ จะบอกยายว่าไม่ไปแล้วไปอยู่กับย่าดีนะ บอสนึกแต่ก็เพียงแค่นึก สุดท้ายก็ยอมไปนากับยายอยู่ดี
เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว ยายก็พาออกเดินทาง แรก ๆ ก็เดินไปตามถนน เดินตามถนนออกจากหมู่บ้านไปได้ไม่ไกล ยายก็พาเลี้ยวลงทุ่งนาคนอื่น เดินลัดทุ่งไปตามคันนา
เดือนมกราคมตอฟางแห้งตายหมด ทำให้เดินสะดวก ตอนนี้ระหว่างทางพวกเธอคุยกันเสียงดัง หัวเราะ หยอกกันไปตามทาง ทำให้บรรยากาศไม่เงียบ เจ้าของนาที่พวกเธอเดินผ่านต่างทักทายยายอย่างสนิทสนม
เดินลัดทุ่งได้สักพักก็มาถึงอีกหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของยายเอง ยายถึงมีที่นาที่นี่ น้อง ๆ และ พี่ ๆ ของยายก็อยู่ที่หมู่บ้านนี้เป็นส่วนใหญ่ มีเพียงยายกับน้องชายคนเล็กสุด ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านของเธอ
“ไปหยังน้อ พาหลานไปหยังว่ะยายหนิ ไปนาบ่อป้า” ยายบ่อน้องสะใภ้ของยายตะโกนถาม
“ไปนาตั้ว น้าคำน้อยไปไส” ยายถามหาน้องชายคนรอง ทั้งสองคนยืนคุยกันข้ามรั้วไม้ไผ่ โดยมีพวกเธอหกคนพี่น้องยืนฟังยายทั้งสองคนคุยกัน “เด็กน้อยเฮือนหลังหนิไปไส คือบ่อเห็นไผจักคน” ยายถามหาลูกสาวของตน ปิดบ้านสนิทเรียกหาก็ไม่มีใครตอบ
“เฒ่าน้อยย่างไปไสแหล่วตะมื้อเช้าหนิ” ยายบ่อพูดถึงสามีของตน “เด็กน้อยซุมหนิเขาไปบ้านย่าเขาตั้ว ไปเทิงลูกเขานำ” ยายบ่อพูดถึงป้าของเธอ ซึ่งเป็นลูกสาวของยายเอง
“สำพอข่อยเอิ้นหามันมิดจีลีล่ะแมะ สั่นข่อยออกไปนาก่อนเด้อ ออกไปเบิ่งนาให้บักปานตั้ว” ยายเอ่ยลายายบ่อ ขอตัวไปนา จากนั้นยายก็พาพวกเธอเดินลัดทุ่งไปอีก ต้องผ่านนาคนอื่นในหมู่บ้านนี้อีก ค่อยจะเป็นนาของลุง
พวกเธอหกคนพี่น้องรวมยายด้วยหนึ่งคนเป็นเจ็ดคน เดินลัดทุ่งครู่เดียวก็มาถึงนาของลุงแล้ว ต้องข้ามลำห้วยด้วย ยายบอกว่าเป็นลำห้วยเส้นเดียวกันกับลำห้วยที่นาของเธอชื่อ ‘ห้วยสีทน’ แต่ทำไมน้ำในห้วยตรงนี้ไม่ค่อยมีนัก เหือดหายแห้งไปหมด ทำให้เห็นสันดอนเป็นทรายโผล่ขึ้นมา ทำให้พวกเธอเดินข้ามได้อย่างสบาย
น้องบีมกับเธอกับพี่บอลและพี่แป้งวิ่งลงไปในลำห้วยกันเลย ทำให้โดนยายดุว่าจะทำให้ล้มปากงับทรายเอาได้ พวกเธอก็ไม่สะทกสะท้าน มีเพียงความสนุกสนานอย่างเดียว
ข้ามลำห้วยมาก็เป็นเขตนาของลุงแล้ว มองขึ้นไปหัวนาเห็นเถียงนาของลุงกับป้าตั้งอยู่สองหลัง หลังที่ยังดีใช้งานได้คือหลังของป้า ส่วนหลังที่เอนเอียงเซเหมือนจะล้ม คือ เถียงนาหลังของลุง พ่อของพี่ปาวกับพี่แป้งเอง
เนื่องจากไม่มีคนมาใช้งาน ลุงเองก็ไม่ค่อยมานา ส่งเพียงเงินกลับมาให้ยายทำนาให้เท่านั้น จึงไม่คิดบูรณะ ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น
“ไป! ยางไปเถียงป้าเตียดเด้อ อยู่เทิงเถียงถ่ายาย อย่าลงมาตากแดด ยายเลาะเบิ่งนาคราวเดียว ยายกะพาเมือ” ยายบอกพวกเธอ ก็เพราะเถียงนาของพี่ปาวพี่แป้งใช้งานไม่ได้ พวกเธอจำต้องไปอาศัยเถียงนาของป้าแทน “เบิ่งน้องตกสาเด้อบอม ปาว”
“จ้า! / ครับ” พวกเธอตอบพร้อมวิ่งไปยังเถียงนาของป้า
“เบิ่งน้องตกสาน้ำเด้อบอม ปาว” ยายตะโกนไล่หลังมา
บริเวณใกล้ ๆ เถียงนาป้าจะขุดสระเลี้ยงปลาเอาไว้ ที่คูสระจะมีต้นฝรั่งขี้นกและต้นตะขบหลายต้น มีลูกพอให้ได้เก็บ ถัดไปเป็นเถียงนาของป้า บริเวณหน้าเถียงจะมีต้นไม้ที่ล้มอยู่วางระเกะระกะ
ยายเดินสำรวจไปเรื่อย บอสสังเกตว่ายายยืนมองจุดต่าง ๆ นานมาก ไม่รู้ดูอะไร ทว่าพวกเธอก็ไม่ได้ใส่ใจ พวกเธอเล่นกันที่เถียงนาตามคำสั่งยาย และ พากันไปปีนต้นฝรั่งขี้นกของป้าเล่นที่คูสระ คูสระของป้ามีขนาดกว้างมาก ป้าทำเป็นแปลงผักเอาไว้หลายจุด
“อ้ายบอมหาบักสีดาให้น้องบีมนำ” น้องบีมปีนขึ้นไปไม่ได้ จึงใช้ให้พี่บอมหาให้ พวกเธอยกเว้นพี่ปาวกับน้องบีมสองคน กำลังอยู่บนต้นฝรั่งขี้นกกัน บอสเลือกลูกห่าม ๆ จะได้อร่อย ถ้าลูกสุกมันหวานไม่ค่อยอร่อย ส่วนลูกห่าม ๆ จะหวานอมเปรี้ยว
“ได้ ๆ เดี๋ยวอ้ายเอาให้กินนำ น้องบีมไปถ่าอยู่เถียงไป” พี่บอมตอบ
“บ่อ! น้องบีมสิอยู่หนิ” น้องบีมพูดจบก็เดินวนต้นตะขบเพื่อหาลูกของมัน ระหว่างนั้นก็โยนก้อนหินลงไปในสระน้ำแก้เหงา พอโยนก้อนหินลงไปได้ยินเสียงน้ำดังจุ๋มก็หัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว “เอื้อยบอสเบิ่งปลาบ้อน ฮา” น้องบีมเรียกให้เธอดูวงน้ำกระเพื่อมที่น้องบีมโยนก่อนหินลงไป
“โอ้ย! อี่ผีบ้า!” พี่ปาวแซวน้องบีมพร้อมหัวเราะ “มันโยนก้อนหินลงน้ำ มันว่าปลาบ้อนว่าซั่นสู” พี่ปาวเงยหน้ามาพูดกับพวกเธอ พี่ปาวคอยดูน้องบีมจึงไม่ได้ปีนขึ้นมาด้วย “แป้ง ๆ เอานวยนั่นให้กูแนน่ะ” พี่ปาวชี้มือบอกให้พี่แป้งเก็บลูกฝรั่งให้
“ใด! หนิบ่อ!” พี่แป้งถาม พี่ปาวพยักหน้าให้ จากนั้นพี่แป้งก็ปีนป่ายไปยังกิ่งนั้นแล้วเด็ดลูกฝรั่งทิ้งลงมาข้างล่างให้พี่ปาวรับ
“ให้น้องบีมนำแน ฮ่วย! น้องบีมทันได้กินนำมูอยู่” น้องบีมค่อนขอดพวกเธอ
“ฮือ! คาปากอยู่กะว่าบ่อได้กิน” น้องบีมโดนพี่บอลเอ็ดเข้าให้ “ไส! เอานวยใด”
“นั่นแมะ ๆ นวยนั่นแหมะ” น้องบีมชี้มือพร้อมกระโดดบอกพี่บอล “ไสเดี๋ยวหนิ มันบ่อสุก มันดิบมันกินบ่อได้ เบิ่งอ้ายเอานวยใหม่ให้” จากนั้นพี่บอลก็ปีนป่ายไปกิ่งอื่น จากนั้นก็เด็ดลูกฝรั่งทิ้งให้น้องบีมรับ
พอพวกเธอกินฝรั่งกันจนอิ่มแล้วจึงพากันลงมาจากต้นฝรั่ง ไม่ลืมที่จะเก็บมากินบนเถียงนารอยายด้วย บอสมองไปเห็นยายอยู่กลางทุ่งนานู่น พวกเธอหกคนพี่น้องขึ้นมานั่งบนเถียงนา ถึงจะแดดทว่าก็มีลมพัดมาให้คลายร้อนได้
“เฮาน่าจะเอาเสียมกับกะคุมานำน้อ มาขุดปู กูเห็นขวยอี่ปูบักหลายเลย” พี่ปาวพูดกับพวกเธอ นั่งกินฝรั่งไปเม้าท์กันไป พอไม่มีอะไรทำแล้วมันก็รู้สึกเบื่อ ๆ ยายก็ไม่รู้จะพากลับตอนไหน แต่น่าจะไม่เกินเที่ยง เพราะยายไม่ได้ห่อข้าวมาด้วย
ทันใดนั้นบอสมองเห็นต้นไม้ที่ล้มนั่น ตามจริงต้นไม้ไม่ได้ล้มเอง ป้าเป็นคนโค่นมันลงเอง โค่นทั้งรากกันเลย บอสมองเห็นสวนสนุกแห่งใหม่แล้ว มันน่าจะแก้เบื่อได้ กระตุกยิ้มก่อนจะผินหน้ามาขออนุญาตพี่สาว
“พี่ปาวบอสไปเล่นต้นไม้ต้นนั่นนะ” พูดพร้อมชี้มือไปที่ตรงต้นไม้ล้มนั้นด้วย
“ไปกะไปถะแหมะ ระวังไม้ทังตานำ” พี่ปาวอนุญาตพร้อมเตือนให้ระวังด้วย บอสรับปากก่อนจะรีบลงจากเถียงนาไป
“น้องบีมไปนำ” น้องบีมขอตามไปด้วย บอสก็ไม่หวง
“อ้ายไปนำ” พี่บอลก็ขอตามมาด้วยเช่นกัน
พวกเธอสามคนพี่น้องพากันมาเล่นที่ต้นไม้ล้ม มันยังไม่แห้งดี ทว่าใบของมันร่วงไปหมดแล้ว พวกเธอเล่นกันไปตามประสา พี่บอลยึดตรงตำแหน่งปลายไม้เพราะมันอ่อน สามารถยื่นขย่มกิ่งของมันได้ ทำให้สนุกไปในตัว ส่วนเธอกับน้องบีมชวนกันไต่ลำต้นของมันเล่น
“บีมนี่ล่ะนางสาวไทยเขายางแบบหนิล่ะ ถ้าไผยางเทิงต้นไม้แบบนี่ได้ ใหญ่ขึ้นมาได้เป็นนางสาวไทย” บอสพูดกับน้องสาวเป็นจริงเป็นจัง สายตามองไปยังลำต้นที่เรียวของต้นไม้ไปจนสุด
“อิหลิบ่อเอื้อยบอส น้องบีมอยากเป็นนางสาวไทย” น้องบีมตอบ
“อิหลิ! มายางแข่งกัน น้องบีมยางไปฮอดอ้ายบอลเลยล้า ไผตกกลางทางผู้นั่นแพ้ ต้องกลับไปยางเริ่มใหม่” บอสตกลงกติกา น้องบีมพยักหน้าจากนั้นพวกเธอก็เริ่มเดินบนลำต้นของต้นไม้ที่ล้มกันเลย
พวกเธอสองคนพี่น้องเดินไต่บนลำไม้ บอสกางแขนเดินเพื่อพยุงตัว ตกบ้างไม่ตกบ้าง ส่วนน้องบีมเดินตกทุกรอบ น้องบีมสนุกใหญ่หัวเราะลั่นทุ่งกันเลย ทุกคราวที่เวลาตนเองเดินตกท่อนไม้ ส่วนพี่บอลก็ขย่มกิ่งไม้ไม่หยุด รายนั้นก็สนุกอยู่คนเดียวไม่แพ้กัน
วู้ว!!! วู้ว!! พี่บอลขย่มไปร้องไปอย่างสนุก “บอสบีมมาเล่นนำอ้าย มวน!” พี่บอมชวนพวกเธอสองพี่น้องไปเล่นขย่มกิ่งไม้ด้วย
“บ่อ! บอสเล่นยางนางสาวไทยอยู่” บอสตอบ
วู้ว… วู้ว.. แก๊ก! เอะ! บอสได้ยินเสียงของกิ่งไม้เหมือนจะหัก และแล้วบอสกับน้องบีมก็เห็นพี่บอลนอนลงไปกองกับพื้นดินแล้ว บอสกับน้องบีมหัวเราะกันใหญ่ รวมทั้งพี่ปาวพี่บอมและก็พี่แป้งด้วย ที่พากันหัวเราะพี่บอลอย่างสะใจอยู่บนเถียงนา
บอสกับน้องบีมเอาแต่หัวเราะพี่ชายจนท้องขดท้องแข็ง ไม่มีกะจิตกะใจจะเล่นเดินนางสาวไทยต่อเลย ไม่นานยายก็เดินมาที่เถียงนาแล้วชวนพวกเธอกลับบ้านกัน
“ปะ!.. ปะมาเมือ” ยายเรียกพวกเธอให้กลับบ้าน ตอนนี้พวกเธอก็หัวเราะพี่บอลกันไม่หยุด มันตลกมาก ส่วนเจ้าตัวเริ่มจะไม่ชอบใจแล้ว เพราะกลัวโดนยายรู้และดุเข้าให้
พอยายทำธุระเสร็จแล้วยายก็พาเดินกลับเหมือนเดิม กลับทางเดิม เดินลัดทุ่งกลับ พี่บอมเดินนำหน้า ยายเดินปิดท้ายไปตามทาง
มาถึงหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านเกิดของยาย ยังไม่ถึงหมู่บ้านของเธอ ต้องเดินลัดทุ่งไปอีกจึงจะถึงหมู่บ้านของเธอจริง ๆ ยายบ่อน้องสะใภ้ยายก็เรียกให้เข้าบ้านก่อน เรียกให้แวะทานข้าวเที่ยงกันก่อน ตามจริงยายกะว่าจะพากลับไปกินที่บ้านก็ยังทัน เพราะตอนนี้แค่สิบเอ็ดโมงเอง
“อย่าฟ้าวเมือพาหลานมากินข้าวซะก่อน” ยายบ่อเรียก ตาน้อยน้องชายคนรองของยายก็อยู่ด้วย ยายก็ไม่ขัด พาพวกเธอแวะทานข้าวเที่ยงด้วย
วันวาน
.
สาย ๆ ของวันเสาร์ในเดือนมกราคม อากาศยังเย็นอยู่ ไม่ร้อนและก็ไม่หนาวมาก ยังไม่หมดหน้าหนาวดี บอสกับน้องบีมนอนมุดผ้าห่มอยู่ดี ๆ ต้องสะดุ้งตื่นเพราะยายเดินเข้ามาปลุก
“ตื่น ๆ สวยแล้ว พายายออกไปนาบาแสงแน” ยายปลุกพวกเธอสองคนให้ตื่น เธอกับน้องสาวงัวเงียลุกขึ้นนั่งโดยไม่อิดออด ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องนอนไปล้างหน้าแปรงฟัน
‘บาแสง’ เป็นชื่อเรียกสถานที่ของที่นา ซึ่งแบ่งเป็นโซน แต่ละโซนก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป มีทั้งนาดอน นาลุ่ม นากลาง นาโคก และ นาบา นาบาก็จะมีหลายบาหรือหลายชื่อไปอีก แถว ๆ ละแวกบ้านของเธอมีหลายบามาก เช่น บายาว บาหินลาด และ บาแสง เป็นต้น ซึ่งมีหลายคนที่ครอบครองปรปักษ์เป็นเจ้าของที่นาบาแสงนั้น บาแสงกินพื้นที่ไปหลายไร่
*เธอเองก็ไม่รู้ความหมายของชื่อหรอกว่า คำว่า ‘บา’ หมายถึงอะไร*
“ยายไปเฮ็ดหยังนาบาแสง” บอสถามเมื่อแปรงฟันล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว ตามมาด้วยน้องบีม พวกเธอสวมเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวพร้อม
นาบาแสงเป็นผืนนาสมบัติของยายที่ตาทวดยายทวดแบ่งยกให้ ซึ่งอยู่ต่างหมู่บ้าน ทว่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับหมู่บ้านของเธอ สามารถเดินเท้าไปได้ หรือ จะนั่งรถสองแถวไปก็ได้ เนื่องจากเส้นทางเข้าตัวเมืองผ่านนาบาแสงพอดี
ส่วนนาที่อยู่ในหมู่บ้านของเธอ ที่ครอบครัวของเธอทำกินปัจจุบัน เป็นนาสมบัติของตา ที่ตามาถางจับจองและออกโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย ตาเองก็ไม่ใช่คนในหมู่บ้านเช่นกัน
“ยายคือไปนาบาแสงหายาย” น้องบีมถามยายอีกคน
“ยายสิออกไปเบิ่งนาซือ ๆ หนิแหล่ว ไปเบิ่งนาให้ลุง” ลุงที่ยายพูดถึงคือพ่อของพี่ปาวกับพี่แป้ง ยายแบ่งที่นาสมบัติของยายให้พ่อพี่ปาวกับป้าอีกคน ส่วนแม่และลูกคนอื่น ๆ ได้ที่นาส่วนที่เป็นสมบัติของตา “แต่งตัวแล้วล่ะบ่อ ปะมาไปสวยแล้ว เที่ยงจังมา”
“ยายสิออกไปนาจังใด” พี่บอมถามยาย พี่ ๆ ทั้งสี่คนก็ถูกต้อนไปนาด้วยกันหมด เนื่องจากยังเด็กอยู่ ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ยายจึงให้ไปกันหมดบ้านเลย
“ยางลัดท่งไปหนิแหล่ว นั่งรถสองแถวไปเปลืองเงิน หลายคนโพด” ยายตอบ บอสทำหน้าเบื่อหน่ายที่ต้องได้เดินไป เพราะมันไกลเอาเรื่องพอสมควร ทว่าก็เคยเดินอยู่บ่อยครั้ง หรือ จะบอกยายว่าไม่ไปแล้วไปอยู่กับย่าดีนะ บอสนึกแต่ก็เพียงแค่นึก สุดท้ายก็ยอมไปนากับยายอยู่ดี
เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว ยายก็พาออกเดินทาง แรก ๆ ก็เดินไปตามถนน เดินตามถนนออกจากหมู่บ้านไปได้ไม่ไกล ยายก็พาเลี้ยวลงทุ่งนาคนอื่น เดินลัดทุ่งไปตามคันนา
เดือนมกราคมตอฟางแห้งตายหมด ทำให้เดินสะดวก ตอนนี้ระหว่างทางพวกเธอคุยกันเสียงดัง หัวเราะ หยอกกันไปตามทาง ทำให้บรรยากาศไม่เงียบ เจ้าของนาที่พวกเธอเดินผ่านต่างทักทายยายอย่างสนิทสนม
เดินลัดทุ่งได้สักพักก็มาถึงอีกหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของยายเอง ยายถึงมีที่นาที่นี่ น้อง ๆ และ พี่ ๆ ของยายก็อยู่ที่หมู่บ้านนี้เป็นส่วนใหญ่ มีเพียงยายกับน้องชายคนเล็กสุด ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านของเธอ
“ไปหยังน้อ พาหลานไปหยังว่ะยายหนิ ไปนาบ่อป้า” ยายบ่อน้องสะใภ้ของยายตะโกนถาม
“ไปนาตั้ว น้าคำน้อยไปไส” ยายถามหาน้องชายคนรอง ทั้งสองคนยืนคุยกันข้ามรั้วไม้ไผ่ โดยมีพวกเธอหกคนพี่น้องยืนฟังยายทั้งสองคนคุยกัน “เด็กน้อยเฮือนหลังหนิไปไส คือบ่อเห็นไผจักคน” ยายถามหาลูกสาวของตน ปิดบ้านสนิทเรียกหาก็ไม่มีใครตอบ
“เฒ่าน้อยย่างไปไสแหล่วตะมื้อเช้าหนิ” ยายบ่อพูดถึงสามีของตน “เด็กน้อยซุมหนิเขาไปบ้านย่าเขาตั้ว ไปเทิงลูกเขานำ” ยายบ่อพูดถึงป้าของเธอ ซึ่งเป็นลูกสาวของยายเอง
“สำพอข่อยเอิ้นหามันมิดจีลีล่ะแมะ สั่นข่อยออกไปนาก่อนเด้อ ออกไปเบิ่งนาให้บักปานตั้ว” ยายเอ่ยลายายบ่อ ขอตัวไปนา จากนั้นยายก็พาพวกเธอเดินลัดทุ่งไปอีก ต้องผ่านนาคนอื่นในหมู่บ้านนี้อีก ค่อยจะเป็นนาของลุง
พวกเธอหกคนพี่น้องรวมยายด้วยหนึ่งคนเป็นเจ็ดคน เดินลัดทุ่งครู่เดียวก็มาถึงนาของลุงแล้ว ต้องข้ามลำห้วยด้วย ยายบอกว่าเป็นลำห้วยเส้นเดียวกันกับลำห้วยที่นาของเธอชื่อ ‘ห้วยสีทน’ แต่ทำไมน้ำในห้วยตรงนี้ไม่ค่อยมีนัก เหือดหายแห้งไปหมด ทำให้เห็นสันดอนเป็นทรายโผล่ขึ้นมา ทำให้พวกเธอเดินข้ามได้อย่างสบาย
น้องบีมกับเธอกับพี่บอลและพี่แป้งวิ่งลงไปในลำห้วยกันเลย ทำให้โดนยายดุว่าจะทำให้ล้มปากงับทรายเอาได้ พวกเธอก็ไม่สะทกสะท้าน มีเพียงความสนุกสนานอย่างเดียว
ข้ามลำห้วยมาก็เป็นเขตนาของลุงแล้ว มองขึ้นไปหัวนาเห็นเถียงนาของลุงกับป้าตั้งอยู่สองหลัง หลังที่ยังดีใช้งานได้คือหลังของป้า ส่วนหลังที่เอนเอียงเซเหมือนจะล้ม คือ เถียงนาหลังของลุง พ่อของพี่ปาวกับพี่แป้งเอง
เนื่องจากไม่มีคนมาใช้งาน ลุงเองก็ไม่ค่อยมานา ส่งเพียงเงินกลับมาให้ยายทำนาให้เท่านั้น จึงไม่คิดบูรณะ ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น
“ไป! ยางไปเถียงป้าเตียดเด้อ อยู่เทิงเถียงถ่ายาย อย่าลงมาตากแดด ยายเลาะเบิ่งนาคราวเดียว ยายกะพาเมือ” ยายบอกพวกเธอ ก็เพราะเถียงนาของพี่ปาวพี่แป้งใช้งานไม่ได้ พวกเธอจำต้องไปอาศัยเถียงนาของป้าแทน “เบิ่งน้องตกสาเด้อบอม ปาว”
“จ้า! / ครับ” พวกเธอตอบพร้อมวิ่งไปยังเถียงนาของป้า
“เบิ่งน้องตกสาน้ำเด้อบอม ปาว” ยายตะโกนไล่หลังมา
บริเวณใกล้ ๆ เถียงนาป้าจะขุดสระเลี้ยงปลาเอาไว้ ที่คูสระจะมีต้นฝรั่งขี้นกและต้นตะขบหลายต้น มีลูกพอให้ได้เก็บ ถัดไปเป็นเถียงนาของป้า บริเวณหน้าเถียงจะมีต้นไม้ที่ล้มอยู่วางระเกะระกะ
ยายเดินสำรวจไปเรื่อย บอสสังเกตว่ายายยืนมองจุดต่าง ๆ นานมาก ไม่รู้ดูอะไร ทว่าพวกเธอก็ไม่ได้ใส่ใจ พวกเธอเล่นกันที่เถียงนาตามคำสั่งยาย และ พากันไปปีนต้นฝรั่งขี้นกของป้าเล่นที่คูสระ คูสระของป้ามีขนาดกว้างมาก ป้าทำเป็นแปลงผักเอาไว้หลายจุด
“อ้ายบอมหาบักสีดาให้น้องบีมนำ” น้องบีมปีนขึ้นไปไม่ได้ จึงใช้ให้พี่บอมหาให้ พวกเธอยกเว้นพี่ปาวกับน้องบีมสองคน กำลังอยู่บนต้นฝรั่งขี้นกกัน บอสเลือกลูกห่าม ๆ จะได้อร่อย ถ้าลูกสุกมันหวานไม่ค่อยอร่อย ส่วนลูกห่าม ๆ จะหวานอมเปรี้ยว
“ได้ ๆ เดี๋ยวอ้ายเอาให้กินนำ น้องบีมไปถ่าอยู่เถียงไป” พี่บอมตอบ
“บ่อ! น้องบีมสิอยู่หนิ” น้องบีมพูดจบก็เดินวนต้นตะขบเพื่อหาลูกของมัน ระหว่างนั้นก็โยนก้อนหินลงไปในสระน้ำแก้เหงา พอโยนก้อนหินลงไปได้ยินเสียงน้ำดังจุ๋มก็หัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว “เอื้อยบอสเบิ่งปลาบ้อน ฮา” น้องบีมเรียกให้เธอดูวงน้ำกระเพื่อมที่น้องบีมโยนก่อนหินลงไป
“โอ้ย! อี่ผีบ้า!” พี่ปาวแซวน้องบีมพร้อมหัวเราะ “มันโยนก้อนหินลงน้ำ มันว่าปลาบ้อนว่าซั่นสู” พี่ปาวเงยหน้ามาพูดกับพวกเธอ พี่ปาวคอยดูน้องบีมจึงไม่ได้ปีนขึ้นมาด้วย “แป้ง ๆ เอานวยนั่นให้กูแนน่ะ” พี่ปาวชี้มือบอกให้พี่แป้งเก็บลูกฝรั่งให้
“ใด! หนิบ่อ!” พี่แป้งถาม พี่ปาวพยักหน้าให้ จากนั้นพี่แป้งก็ปีนป่ายไปยังกิ่งนั้นแล้วเด็ดลูกฝรั่งทิ้งลงมาข้างล่างให้พี่ปาวรับ
“ให้น้องบีมนำแน ฮ่วย! น้องบีมทันได้กินนำมูอยู่” น้องบีมค่อนขอดพวกเธอ
“ฮือ! คาปากอยู่กะว่าบ่อได้กิน” น้องบีมโดนพี่บอลเอ็ดเข้าให้ “ไส! เอานวยใด”
“นั่นแมะ ๆ นวยนั่นแหมะ” น้องบีมชี้มือพร้อมกระโดดบอกพี่บอล “ไสเดี๋ยวหนิ มันบ่อสุก มันดิบมันกินบ่อได้ เบิ่งอ้ายเอานวยใหม่ให้” จากนั้นพี่บอลก็ปีนป่ายไปกิ่งอื่น จากนั้นก็เด็ดลูกฝรั่งทิ้งให้น้องบีมรับ
พอพวกเธอกินฝรั่งกันจนอิ่มแล้วจึงพากันลงมาจากต้นฝรั่ง ไม่ลืมที่จะเก็บมากินบนเถียงนารอยายด้วย บอสมองไปเห็นยายอยู่กลางทุ่งนานู่น พวกเธอหกคนพี่น้องขึ้นมานั่งบนเถียงนา ถึงจะแดดทว่าก็มีลมพัดมาให้คลายร้อนได้
“เฮาน่าจะเอาเสียมกับกะคุมานำน้อ มาขุดปู กูเห็นขวยอี่ปูบักหลายเลย” พี่ปาวพูดกับพวกเธอ นั่งกินฝรั่งไปเม้าท์กันไป พอไม่มีอะไรทำแล้วมันก็รู้สึกเบื่อ ๆ ยายก็ไม่รู้จะพากลับตอนไหน แต่น่าจะไม่เกินเที่ยง เพราะยายไม่ได้ห่อข้าวมาด้วย
ทันใดนั้นบอสมองเห็นต้นไม้ที่ล้มนั่น ตามจริงต้นไม้ไม่ได้ล้มเอง ป้าเป็นคนโค่นมันลงเอง โค่นทั้งรากกันเลย บอสมองเห็นสวนสนุกแห่งใหม่แล้ว มันน่าจะแก้เบื่อได้ กระตุกยิ้มก่อนจะผินหน้ามาขออนุญาตพี่สาว
“พี่ปาวบอสไปเล่นต้นไม้ต้นนั่นนะ” พูดพร้อมชี้มือไปที่ตรงต้นไม้ล้มนั้นด้วย
“ไปกะไปถะแหมะ ระวังไม้ทังตานำ” พี่ปาวอนุญาตพร้อมเตือนให้ระวังด้วย บอสรับปากก่อนจะรีบลงจากเถียงนาไป
“น้องบีมไปนำ” น้องบีมขอตามไปด้วย บอสก็ไม่หวง
“อ้ายไปนำ” พี่บอลก็ขอตามมาด้วยเช่นกัน
พวกเธอสามคนพี่น้องพากันมาเล่นที่ต้นไม้ล้ม มันยังไม่แห้งดี ทว่าใบของมันร่วงไปหมดแล้ว พวกเธอเล่นกันไปตามประสา พี่บอลยึดตรงตำแหน่งปลายไม้เพราะมันอ่อน สามารถยื่นขย่มกิ่งของมันได้ ทำให้สนุกไปในตัว ส่วนเธอกับน้องบีมชวนกันไต่ลำต้นของมันเล่น
“บีมนี่ล่ะนางสาวไทยเขายางแบบหนิล่ะ ถ้าไผยางเทิงต้นไม้แบบนี่ได้ ใหญ่ขึ้นมาได้เป็นนางสาวไทย” บอสพูดกับน้องสาวเป็นจริงเป็นจัง สายตามองไปยังลำต้นที่เรียวของต้นไม้ไปจนสุด
“อิหลิบ่อเอื้อยบอส น้องบีมอยากเป็นนางสาวไทย” น้องบีมตอบ
“อิหลิ! มายางแข่งกัน น้องบีมยางไปฮอดอ้ายบอลเลยล้า ไผตกกลางทางผู้นั่นแพ้ ต้องกลับไปยางเริ่มใหม่” บอสตกลงกติกา น้องบีมพยักหน้าจากนั้นพวกเธอก็เริ่มเดินบนลำต้นของต้นไม้ที่ล้มกันเลย
พวกเธอสองคนพี่น้องเดินไต่บนลำไม้ บอสกางแขนเดินเพื่อพยุงตัว ตกบ้างไม่ตกบ้าง ส่วนน้องบีมเดินตกทุกรอบ น้องบีมสนุกใหญ่หัวเราะลั่นทุ่งกันเลย ทุกคราวที่เวลาตนเองเดินตกท่อนไม้ ส่วนพี่บอลก็ขย่มกิ่งไม้ไม่หยุด รายนั้นก็สนุกอยู่คนเดียวไม่แพ้กัน
วู้ว!!! วู้ว!! พี่บอลขย่มไปร้องไปอย่างสนุก “บอสบีมมาเล่นนำอ้าย มวน!” พี่บอมชวนพวกเธอสองพี่น้องไปเล่นขย่มกิ่งไม้ด้วย
“บ่อ! บอสเล่นยางนางสาวไทยอยู่” บอสตอบ
วู้ว… วู้ว.. แก๊ก! เอะ! บอสได้ยินเสียงของกิ่งไม้เหมือนจะหัก และแล้วบอสกับน้องบีมก็เห็นพี่บอลนอนลงไปกองกับพื้นดินแล้ว บอสกับน้องบีมหัวเราะกันใหญ่ รวมทั้งพี่ปาวพี่บอมและก็พี่แป้งด้วย ที่พากันหัวเราะพี่บอลอย่างสะใจอยู่บนเถียงนา
บอสกับน้องบีมเอาแต่หัวเราะพี่ชายจนท้องขดท้องแข็ง ไม่มีกะจิตกะใจจะเล่นเดินนางสาวไทยต่อเลย ไม่นานยายก็เดินมาที่เถียงนาแล้วชวนพวกเธอกลับบ้านกัน
“ปะ!.. ปะมาเมือ” ยายเรียกพวกเธอให้กลับบ้าน ตอนนี้พวกเธอก็หัวเราะพี่บอลกันไม่หยุด มันตลกมาก ส่วนเจ้าตัวเริ่มจะไม่ชอบใจแล้ว เพราะกลัวโดนยายรู้และดุเข้าให้
พอยายทำธุระเสร็จแล้วยายก็พาเดินกลับเหมือนเดิม กลับทางเดิม เดินลัดทุ่งกลับ พี่บอมเดินนำหน้า ยายเดินปิดท้ายไปตามทาง
มาถึงหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านเกิดของยาย ยังไม่ถึงหมู่บ้านของเธอ ต้องเดินลัดทุ่งไปอีกจึงจะถึงหมู่บ้านของเธอจริง ๆ ยายบ่อน้องสะใภ้ยายก็เรียกให้เข้าบ้านก่อน เรียกให้แวะทานข้าวเที่ยงกันก่อน ตามจริงยายกะว่าจะพากลับไปกินที่บ้านก็ยังทัน เพราะตอนนี้แค่สิบเอ็ดโมงเอง
“อย่าฟ้าวเมือพาหลานมากินข้าวซะก่อน” ยายบ่อเรียก ตาน้อยน้องชายคนรองของยายก็อยู่ด้วย ยายก็ไม่ขัด พาพวกเธอแวะทานข้าวเที่ยงด้วย