.
ไดอารี่ความคิดถึง
สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคนครับ คืนนี้ที่หมู่บ้านของเรามีหนังมาฉายให้ทุกคนได้ดูกันนะฮะ...
เป็นเสียงตามสายรถเคลื่อนที่ของหนังที่จะฉายในคืนนี้ มีทั้งหมดสองเรื่องของ
“ค่ายสหมงคลฟิล์ม” บอสเลิกเรียนกลับมาถึงบ้าน ทำงานบ้านหน้าที่ของตนเองทันที ขณะนี้ก็ล้างจานไปด้วยฟังเสียงประกาศไปด้วย “อีแฝดจะไปดูหนังมั้ยนะ” บอสรำพึงรำพันกับตัวเองขณะล้างถ้วยใบหนึ่งในมือ ไม่เป็นไรล้างเสร็จเดินไปชวนที่บ้านของสองคนนั้นก็ได้ ตอนนี้ล้างจานให้พี่ปาวก่อน
รถแห่ประกาศหนังที่จะฉาย ขับแห่วนรอบหมู่บ้านประมาณสามรอบก็เลิกวิ่ง พร้อมเปิดเพลงเสียงดังไปทั่วหมู่บ้าน ที่ลานศาลากลางบ้านมีหน้าจอฉายหนังสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวขนาดใหญ่ตั้งอยู่ พร้อมมีผ้าสีน้ำเงินล้อมรั้วเอาไว้ เป็นหนังที่เก็บเงินเข้าชม ผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุ 13 ปีขึ้นไป 20 บาท ต่ำกว่า 13 ปี 10 บาท
เสียงพูดคุยของคนข้างบ้านคุยกันถึงเรื่องหนังที่จะฉาย พวกพี่ ๆ ก็พูดคุยกัน ทุกคนตกลงว่าจะไปดูหนังในคืนนี้ ขอยายแล้วและยายก็อนุญาตเรียบร้อย บอสอยากรู้ว่าพี่สาวฝาแฝดจะไปดูหนังด้วยหรือไม่ จึงรีบวิ่งไปหาที่บ้านก่อนจะค่ำ
“แฝด! ป้าแพงไอ้แฝดอยู่มั้ย” บอสเดินมาถึงบ้านของสองฝาแฝดพิมพ์แพรว เดินมาหน้าบ้านไม่เห็นรองเท้าของทั้งสองคนจึงถามป้า ได้ความว่าทั้งสองคนอยู่ที่บ้านของย่า บอสไม่รีรอพูดพร่ำทำเพลง รีบตามไปที่บ้านของย่าทันที มาถึงก็เจอสองคนอยู่ที่นี่จริง ๆ
“กูไปหาพวกมืงที่บ้าน ป้าบอกมืงมาที่นี่กูก็เลยตามมา” ไม่ทันได้ให้ใครเอ่ยถาม บอสก็ชิ่งตอบก่อน ย่านั่งเคี้ยวหมากตามประสา ส่วนพิมพ์กับแพรวก็แค่มาเล่นเฉย ๆ เนื่องจากนำกับข้าวมาส่งย่าจึงอยู่เล่นที่นี่สักพัก และเดินเข้ามานั่งใต้ถุนบ้านด้วย
“จะไปไหน” ย่าถามหลังจากเธอนั่งลงข้าง ๆ
“มาชวนอี่แฝดไปดูหนังคืนนี้ มืงไปมั้ย” บอสหันไปคุยกับพี่สาวทั้งสองคน ลุ้นว่าจะไปดูหรือเปล่า ถึงสองคนนี้ไม่ไปเธอก็มีเพื่อนไปอยู่แล้ว พวกพี่ปาวพี่แป้งพี่บอมพี่บอลก็จะไป แค่มาชวนให้ไปด้วยกันเฉย ๆ และเว้นเสียแต่เธอจะไม่อยากไปเอง
และการที่มีอะไรเข้ามาภายในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นหนังภาพยนตร์ หรือหมอลำ พวกเธอถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะจะได้ออกมาเที่ยวตอนกลางคืนแบบไม่ผิด ไม่มีใครว่าด้วย พวกเธอไม่ได้จะทำตัวเถลไถลอะไรเลย แค่แพรวกับพี่เม้าส์ได้ออกมาเจอกัน อยู่คุยกันได้นานกว่าทุก ๆ วันเท่านั้นเอง
“คิดดูก่อนมืง” แพรวตอบ ส่วนพิมพ์มองหน้าเธอ แค่มองตากันก็รู้ไปถึงข้างใน ว่าแพรวจะไม่ไปด้วยแน่นอน คืนนี้พี่เม้าส์ต้องมาหาแพรวที่บ้านแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วย
“เออมืงเอาไงก็เอา ถ้าพวกมืงไม่ไป กูก็ไม่ไปถ้างั้น” บอสตอบแบบไม่คิด เอาเข้าจริงเธอก็ไม่ได้อยากไปสักเท่าไหร่หรอก “งั้นคืนนี้กูมาหามืงที่บ้าน พี่เม้าส์มาใช่มั้ยล่ะ” แพรวไม่ตอบแต่พยักหน้าเป็นคำตอบแทน สรุปแล้วพวกเธอสามคนตกลงที่จะไม่ไปดูหนังกัน ทว่ามีนัดกันที่บ้านของสองคน
หนึ่งทุ่มหลังจากทานข้าวเสร็จ พี่ชายกับพี่สาวและน้องบีมต่างจะพากันไปดูหนังที่มาฉายกัน ขอเงินยายได้เรียบร้อย ยกเว้นเธอคนเดียวที่คิดว่าจะไม่ไปด้วย และไม่ได้ขอเงินกับยาย ขอแยกตัวไปหาสองฝาแฝดก่อน น้องบีมก็ไม่ได้ขอตามมาด้วย โดนพี่ปาวจับมัดมือชกให้ตามไปด้วยกัน
บอสเดินตัวปลิวมาหาพี่สาวฝาแฝดที่บ้าน ก็เห็นพี่เม้าส์มาถึงแล้ว และแพรวนั่งอยู่เป็นเพื่อน ส่วนพิมพ์น่าจะอยู่ในบ้านหรือเปล่า การที่พี่เม้าส์มาหาแพรวที่บ้านแบบนี้ ป้าแพงกับลุงวิทย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร อนุญาตให้มาเล่นที่บ้านได้ มีน้ำอัดลมกับกระติกน้ำแข็งตั้งอยู่
“อ้าวแพรวอี่สวยล่ะ” บอสถามหาพิมพ์เพราะไม่เห็น ในบ้านก็ไม่น่าจะอยู่ในนั้น
“ไปร้านค้าเดี๋ยวก็มา” แพรวตอบ บอสเดินมานั่งลงที่โต๊ะม้าหินอ่อนด้วยคนรอพิมพ์ ขณะนี้เสียงเพลงของรถฉายหนังดังมาถึงที่บ้านของพวกเธอ คนน่าจะออกไปดูกันเยอะ เพราะเป็นภาพยนตร์ที่กำลังดังในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูในโรงหนังในตัวเมืองก็ได้ มีรถมาฉายบริการให้ดูถึงที่ อาจจะได้ดูช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร
“ตกลงไม่ไปใช่มั้ย” บอสถามอีกเพื่อความแน่ใจ
“อยู่นี่แหละไม่ต้องไปหรอก ฟังเสียงเอา ฮา” แพรวพูดติดตลก พี่เม้าส์ก็ขำไปด้วย ไม่นานพิมพ์ก็กลับมาพร้อมขนมติดไม้ติดมือมาด้วย
“มืงไปซื้อไรสวย”
“ซื้อครีม อ่ะขนม เดี๋ยวขอตัวไปอาบน้ำแป๊บ แล้วจะออกมานั่งเป็นเพื่อน” พิมพ์วางขนมลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนที่พวกเธอนั่ง แล้วขอตัวไปอาบน้ำ เดินหายเข้าไปในบ้านอยู่นานสองนาน พวกเธอสามคนนั่งคุยกันไปเรื่อย ไม่นานจ๋อมก็ขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าบ้านพร้อมเดินเข้ามาหาพวกเธอ
“ไปดูหนังกันมั้ยหนิ อี่สวยไปไหน” ทันทีที่จอดรถได้จ๋อมก็ยิงคำถามเลย พร้อมเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะข้าง ๆ เธอ
“ไม่ไปมืง อี่สวยอาบน้ำ อี่แพรวบอกฟังเสียงเอา ฮา” ทุกคนฮากับคำพูดของเธอ โดยเฉพาะแพรวออกอาการเขินนิดหน่อยที่โดนล้อ
“เอ๋าพวกมืงจะไปก็ไป แต่กูไม่ไป” แพรวยิ้มพร้อมตอบแก้เขิน ทว่าพวกเธอก็ไม่มีใครไป เมื่อไม่ไปก็ไม่ไปด้วยกันนี่แหละ อยู่ด้วยกันนี่แหละ สักพักพิมพ์ก็ออกมาเล่นด้วย หลังอาบน้ำเสร็จ
ที่ศาลากลางบ้านขณะนี้เจ้าของหนังกำลังประกาศเสียงตามสาย เชิญชวนให้ผู้คนรีบมาดูเพราะถึงเวลาที่หนังต้องฉายแล้ว ส่วนพวกเธอก็นั่งคุยกันไป ฟังเสียงหนังไป พี่เม้าส์ก็เล่นเพลงดีดกีตาร์ไปเรื่อย ไม่มีท่าทีว่าจะกลับไปง่าย ๆ ถ้าหนังฉายไม่จบก็จะไม่กลับ สองเรื่องหน้าจะปาเข้าไปห้าทุ่มเที่ยงคืนนู่น
พวกเธอห้าคนนั่งเม้าท์กันที่หน้าบ้าน โดยมีลุงวิทย์กับป้าแพงดูละครในบ้าน เสียงรถมอเตอร์ไซค์ขับไปขับมาเสียงดังให้วุ่น รู้สึกรถจะวิ่งเข้าวิ่งออกกันเยอะกว่าทุกวัน เพราะมีหนังมาฉาย
นับเป็นแหล่งชุมนุมของวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ในวันนี้ หลาย ๆ คนดีใจที่จะได้ออกจากบ้านตอนกลางคืน ที่ไม่ใช่แค่มาดูหนัง อาจจะรวมไปถึงการออกไปข้างนอกหมู่บ้าน เพื่อไปหาคนที่ตัวเองถูกใจก็ได้
สำหรับพวกเธอห้าคนก็ไม่มีอะไรมาก นั่งแทะเม็ดแตงโม กินน้ำอัดลม ฟังเพลงพี่เม้าส์ไปเรื่อย นั่งฟังเสียงพระเอกภาพยนตร์บริกาศหน้าเหลี่ยม คงจะสนุกหน้าดู พูดถึงพวกเธอก็เคยดูเป็นแผ่นซีดีมาแล้ว จึงไม่ได้อยากจะดูอะไรมากมาย แค่ตื่นเต้นที่จะได้ออกไปข้างนอกในตอนกลางคืนเท่านั้นเอง
เล่นเพลงไปได้สักพักเพื่อนของพี่เม้าส์ก็โทรเข้า พี่เม้าส์รับสายพูดคุยกันเสร็จพี่เม้าส์หันมาบอกพวกเธอว่า พี่เอ็กซ์จะเข้ามาที่นี่กับแฟน พวกเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร และไม่นานพี่เอ็กซ์กับอุ้มก็มาถึง มีสมาชิกมาเพิ่มหนึ่งคู่ สองคนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีเคอะเขินอะไร อุ้มก็เป็นเพื่อนของพวกเธอเช่นกัน
พอพี่เอ็กซ์มาพี่เม้าส์ก็เริ่มพูดเก่งขึ้น เนื่องจากมีเพื่อนคุย สองหนุ่มคุยกันไป พวกเธอก็คุยกันไป พูดถึงเรื่องเพื่อน ๆ กลุ่มจอยโดยเฉพาะนิน ว่านินจะแอบออกไปนอกหมู่บ้านไหมในคืนนี้ พอพี่เอ็กซ์มาก็มีเพื่อน ๆ ของพี่เม้าส์สองสามคนตามาด้วย เทียวเข้าเทียวออกบ้านแพรวอยู่อย่างนั้น
ป้ากับลุงก็ไม่ได้ว่าอะไร มีออกมาดูบ้างก็เดินกลับเข้าไปในบ้านเช่นเดิม ป้าแพงก็ทำส้มตำออกมาให้ถาดใหญ่ด้วย พี่เอ็กซ์กับพี่เม้าส์ขอดื่มเบียร์คนละขวดกับแฟน ๆ ของตัวเอง อุ้มกับแพรวก็อนุญาต บอสมองแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ อยากมีแฟนว้อย!
กว่าหนังฉายที่ศาลากลางบ้านจบก็ปาไปห้าทุ่มกว่า เสียงเครื่องรถมอเตอร์ไซค์ดั่งระงมอีกครั้ง เพราะวัยรุ่นต่างคนต่างเดินทางกลับบ้านของตน เสียงหมาเห่าไปตามถนนเพราะมีบางคนเดินกลับ พร้อมเสียงพูดคุยกันไปตามทาง บอสและทุก ๆ คนขอตัวกลับบ้านใครบ้านมันเช่นกัน กลับมาถึงพร้อมกับพวกพี่ ๆ และน้องบีมพอดี เคาะประตูเรียกตากับยายอยู่นานกว่ายายจะลุกมาเปิดบ้านให้...
เช้าวันเสาร์ก็มีเสียงพูดคุยนินทาใครสักคน ต้องเป็นเรื่องเมื่อคืนแน่ ฟังไปฟังมาก็เป็นเรื่องของนินนั่นเอง ที่เมื่อคืนไปดูหนังแล้วไม่ยอมกลับบ้าน ทำให้พ่อของนินออกตามหา ทำไมทำอะไรไม่รู้จักคิดเลย ทำไมไม่ใช้สมองบ้าง
รู้ว่าแรดแต่ก็น่าจะแรดแบบมีสติ ทำไมต้องทำให้เกิดเรื่องใหญ่ ทำไมต้องทำให้คนนินทาฮือฮาสามบ้านแปดบ้านกัน หนังจบแทนที่จะกลับบ้านตัวเอง กว่าหนังจะจบคงได้กันไปหลายยกแล้วล่ะ บอสนึกแบบทำไมนินโง่แบบนี้นะ ทำให้ตัวเองเป็นข่าวไปได้ แรดแบบไม่ใช่สมองจริง ๆ
นอกจากเรื่องของนินแล้ว เพื่อนบ้านยังพูดถึงเรื่องของแพรวด้วย ที่เมื่อคืนพี่เม้าส์มาเล่นที่บ้าน ลามไปถึงพี่เอ็กซ์กับอุ้ม ป้าแพงก็ไม่เคยพูดอะไร เพื่อนบ้านอยากพูดก็พูดไป เธอได้ยินเข้าหูเช่นกันก็ไม่ได้พูดอะไร ก็จริงอย่างที่เพื่อนบ้านพูด พี่เม้าส์มาที่บ้านจริง แล้วไง! แล้วยังไงต่อ! บอสนึกในใจพร้อมเบะปากให้คนที่พูดอยู่ในบ้านของตน ได้ยินข้างบ้านพูดถึงแพรว หึหึ...
วันหยุดนั่งนึกอะไรไปเรื่อย นึกถึงตอนเด็ก ๆ เห็นนินโพสต์กลับบ้านต่างจังหวัด ไปทำบุญบ้านกับแฟน อดนึกถึงตอนเป็นเด็กไม่ได้ แอบยิ้มให้กับเพื่อนผ่านรูปในเฟซบุ๊ก คนโสตายได้ดีแบบนี้นี่เอง! แม้จะทำโรงงานก็เถอะ
ต่างกับเธออะไรก็ไม่รู้ แต่แฟนของนินไม่ใช่พี่คนนั้น เปลี่ยนแฟนมาแล้วกี่คนก็ไม่ทราบจนมาถึงคนนี้ สงสาร! ไม่เคยมองเพื่อนในแง่ร้ายเลย เพราะชีวิตนินมันซับซ้อนน่าเห็นใจเกินกว่าจะมองเพื่อนในแง่ลบ มาได้ขนาดนี้ก็เก่งมาก!
แพรว พิมพ์ จ๋อม และเธอก็ไปคนละทิศคนละทาง ขนาดฝาแฝดโตมาด้วยกันยังได้ไม่เหมือนกันสำหรับเรื่องโชคชะตา สงสารก็แต่แพรว เมื่อไหร่นะพี่เม้าส์จะคิดได้สักที แต่ก็ไม่ได้ว่าใคร ชีวิตใครชีวิตมันได้แค่อยู่ห่าง ๆ แบบห่วง ๆ พี่สาว
“กลัว! กลัวว่าสิ่งที่ฉันฝันมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นจริง หลู กู หลิสุ ไล่ดุ้ย แล่งตุง ลานงุน ลอบุ เล้ามู้” แพรวโพสต์ และบางส่วนโพสต์เป็นภาษาดอกไม้ด้วย บอสรู้ว่าพี่สาวพูดถึงเรื่องอะไร
“อย่าคิดหลายแพรว คนในอยากออกคนนอกอยากเข้าห่ามืง ฮา ”! บอสเข้าไปคอมเม้นแพรว และมีเพื่อน ๆ และคนอื่น ๆ เข้าไปเม้นตาม
บอสระบายเรื่องเพื่อนร่วมห้องให้แพรวฟัง และพวกเธอก็เข้าไปคุยกันในแชท ระบายปัญหาคาใจให้ซึ่งกันและกันฟัง
ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งอยากกลับไปเป็นเด็ก ไม่ต้องทำอะไรเลย ขอเงินยายไปเรียนอย่าวเดียว ตอนเด็กอยากโตเพราะขี้เกียจทำการบ้าน ตอนโตอยากกลับไปเป็นเด็กเพราะขี้เกียจแบกรับปัญหา ถ้ากลับไปเป็นเด็กได้มีการบ้านกองโตเท่าภูเขาก็จะไม่บ่นสักคำ เฮ้อ...
จบบท...
คิดถึง 2 บทที่ 31
.
ไดอารี่ความคิดถึง
สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคนครับ คืนนี้ที่หมู่บ้านของเรามีหนังมาฉายให้ทุกคนได้ดูกันนะฮะ...
เป็นเสียงตามสายรถเคลื่อนที่ของหนังที่จะฉายในคืนนี้ มีทั้งหมดสองเรื่องของ “ค่ายสหมงคลฟิล์ม” บอสเลิกเรียนกลับมาถึงบ้าน ทำงานบ้านหน้าที่ของตนเองทันที ขณะนี้ก็ล้างจานไปด้วยฟังเสียงประกาศไปด้วย “อีแฝดจะไปดูหนังมั้ยนะ” บอสรำพึงรำพันกับตัวเองขณะล้างถ้วยใบหนึ่งในมือ ไม่เป็นไรล้างเสร็จเดินไปชวนที่บ้านของสองคนนั้นก็ได้ ตอนนี้ล้างจานให้พี่ปาวก่อน
รถแห่ประกาศหนังที่จะฉาย ขับแห่วนรอบหมู่บ้านประมาณสามรอบก็เลิกวิ่ง พร้อมเปิดเพลงเสียงดังไปทั่วหมู่บ้าน ที่ลานศาลากลางบ้านมีหน้าจอฉายหนังสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวขนาดใหญ่ตั้งอยู่ พร้อมมีผ้าสีน้ำเงินล้อมรั้วเอาไว้ เป็นหนังที่เก็บเงินเข้าชม ผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุ 13 ปีขึ้นไป 20 บาท ต่ำกว่า 13 ปี 10 บาท
เสียงพูดคุยของคนข้างบ้านคุยกันถึงเรื่องหนังที่จะฉาย พวกพี่ ๆ ก็พูดคุยกัน ทุกคนตกลงว่าจะไปดูหนังในคืนนี้ ขอยายแล้วและยายก็อนุญาตเรียบร้อย บอสอยากรู้ว่าพี่สาวฝาแฝดจะไปดูหนังด้วยหรือไม่ จึงรีบวิ่งไปหาที่บ้านก่อนจะค่ำ
“แฝด! ป้าแพงไอ้แฝดอยู่มั้ย” บอสเดินมาถึงบ้านของสองฝาแฝดพิมพ์แพรว เดินมาหน้าบ้านไม่เห็นรองเท้าของทั้งสองคนจึงถามป้า ได้ความว่าทั้งสองคนอยู่ที่บ้านของย่า บอสไม่รีรอพูดพร่ำทำเพลง รีบตามไปที่บ้านของย่าทันที มาถึงก็เจอสองคนอยู่ที่นี่จริง ๆ
“กูไปหาพวกมืงที่บ้าน ป้าบอกมืงมาที่นี่กูก็เลยตามมา” ไม่ทันได้ให้ใครเอ่ยถาม บอสก็ชิ่งตอบก่อน ย่านั่งเคี้ยวหมากตามประสา ส่วนพิมพ์กับแพรวก็แค่มาเล่นเฉย ๆ เนื่องจากนำกับข้าวมาส่งย่าจึงอยู่เล่นที่นี่สักพัก และเดินเข้ามานั่งใต้ถุนบ้านด้วย
“จะไปไหน” ย่าถามหลังจากเธอนั่งลงข้าง ๆ
“มาชวนอี่แฝดไปดูหนังคืนนี้ มืงไปมั้ย” บอสหันไปคุยกับพี่สาวทั้งสองคน ลุ้นว่าจะไปดูหรือเปล่า ถึงสองคนนี้ไม่ไปเธอก็มีเพื่อนไปอยู่แล้ว พวกพี่ปาวพี่แป้งพี่บอมพี่บอลก็จะไป แค่มาชวนให้ไปด้วยกันเฉย ๆ และเว้นเสียแต่เธอจะไม่อยากไปเอง
และการที่มีอะไรเข้ามาภายในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นหนังภาพยนตร์ หรือหมอลำ พวกเธอถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะจะได้ออกมาเที่ยวตอนกลางคืนแบบไม่ผิด ไม่มีใครว่าด้วย พวกเธอไม่ได้จะทำตัวเถลไถลอะไรเลย แค่แพรวกับพี่เม้าส์ได้ออกมาเจอกัน อยู่คุยกันได้นานกว่าทุก ๆ วันเท่านั้นเอง
“คิดดูก่อนมืง” แพรวตอบ ส่วนพิมพ์มองหน้าเธอ แค่มองตากันก็รู้ไปถึงข้างใน ว่าแพรวจะไม่ไปด้วยแน่นอน คืนนี้พี่เม้าส์ต้องมาหาแพรวที่บ้านแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วย
“เออมืงเอาไงก็เอา ถ้าพวกมืงไม่ไป กูก็ไม่ไปถ้างั้น” บอสตอบแบบไม่คิด เอาเข้าจริงเธอก็ไม่ได้อยากไปสักเท่าไหร่หรอก “งั้นคืนนี้กูมาหามืงที่บ้าน พี่เม้าส์มาใช่มั้ยล่ะ” แพรวไม่ตอบแต่พยักหน้าเป็นคำตอบแทน สรุปแล้วพวกเธอสามคนตกลงที่จะไม่ไปดูหนังกัน ทว่ามีนัดกันที่บ้านของสองคน
หนึ่งทุ่มหลังจากทานข้าวเสร็จ พี่ชายกับพี่สาวและน้องบีมต่างจะพากันไปดูหนังที่มาฉายกัน ขอเงินยายได้เรียบร้อย ยกเว้นเธอคนเดียวที่คิดว่าจะไม่ไปด้วย และไม่ได้ขอเงินกับยาย ขอแยกตัวไปหาสองฝาแฝดก่อน น้องบีมก็ไม่ได้ขอตามมาด้วย โดนพี่ปาวจับมัดมือชกให้ตามไปด้วยกัน
บอสเดินตัวปลิวมาหาพี่สาวฝาแฝดที่บ้าน ก็เห็นพี่เม้าส์มาถึงแล้ว และแพรวนั่งอยู่เป็นเพื่อน ส่วนพิมพ์น่าจะอยู่ในบ้านหรือเปล่า การที่พี่เม้าส์มาหาแพรวที่บ้านแบบนี้ ป้าแพงกับลุงวิทย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร อนุญาตให้มาเล่นที่บ้านได้ มีน้ำอัดลมกับกระติกน้ำแข็งตั้งอยู่
“อ้าวแพรวอี่สวยล่ะ” บอสถามหาพิมพ์เพราะไม่เห็น ในบ้านก็ไม่น่าจะอยู่ในนั้น
“ไปร้านค้าเดี๋ยวก็มา” แพรวตอบ บอสเดินมานั่งลงที่โต๊ะม้าหินอ่อนด้วยคนรอพิมพ์ ขณะนี้เสียงเพลงของรถฉายหนังดังมาถึงที่บ้านของพวกเธอ คนน่าจะออกไปดูกันเยอะ เพราะเป็นภาพยนตร์ที่กำลังดังในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูในโรงหนังในตัวเมืองก็ได้ มีรถมาฉายบริการให้ดูถึงที่ อาจจะได้ดูช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร
“ตกลงไม่ไปใช่มั้ย” บอสถามอีกเพื่อความแน่ใจ
“อยู่นี่แหละไม่ต้องไปหรอก ฟังเสียงเอา ฮา” แพรวพูดติดตลก พี่เม้าส์ก็ขำไปด้วย ไม่นานพิมพ์ก็กลับมาพร้อมขนมติดไม้ติดมือมาด้วย
“มืงไปซื้อไรสวย”
“ซื้อครีม อ่ะขนม เดี๋ยวขอตัวไปอาบน้ำแป๊บ แล้วจะออกมานั่งเป็นเพื่อน” พิมพ์วางขนมลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนที่พวกเธอนั่ง แล้วขอตัวไปอาบน้ำ เดินหายเข้าไปในบ้านอยู่นานสองนาน พวกเธอสามคนนั่งคุยกันไปเรื่อย ไม่นานจ๋อมก็ขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าบ้านพร้อมเดินเข้ามาหาพวกเธอ
“ไปดูหนังกันมั้ยหนิ อี่สวยไปไหน” ทันทีที่จอดรถได้จ๋อมก็ยิงคำถามเลย พร้อมเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะข้าง ๆ เธอ
“ไม่ไปมืง อี่สวยอาบน้ำ อี่แพรวบอกฟังเสียงเอา ฮา” ทุกคนฮากับคำพูดของเธอ โดยเฉพาะแพรวออกอาการเขินนิดหน่อยที่โดนล้อ
“เอ๋าพวกมืงจะไปก็ไป แต่กูไม่ไป” แพรวยิ้มพร้อมตอบแก้เขิน ทว่าพวกเธอก็ไม่มีใครไป เมื่อไม่ไปก็ไม่ไปด้วยกันนี่แหละ อยู่ด้วยกันนี่แหละ สักพักพิมพ์ก็ออกมาเล่นด้วย หลังอาบน้ำเสร็จ
ที่ศาลากลางบ้านขณะนี้เจ้าของหนังกำลังประกาศเสียงตามสาย เชิญชวนให้ผู้คนรีบมาดูเพราะถึงเวลาที่หนังต้องฉายแล้ว ส่วนพวกเธอก็นั่งคุยกันไป ฟังเสียงหนังไป พี่เม้าส์ก็เล่นเพลงดีดกีตาร์ไปเรื่อย ไม่มีท่าทีว่าจะกลับไปง่าย ๆ ถ้าหนังฉายไม่จบก็จะไม่กลับ สองเรื่องหน้าจะปาเข้าไปห้าทุ่มเที่ยงคืนนู่น
พวกเธอห้าคนนั่งเม้าท์กันที่หน้าบ้าน โดยมีลุงวิทย์กับป้าแพงดูละครในบ้าน เสียงรถมอเตอร์ไซค์ขับไปขับมาเสียงดังให้วุ่น รู้สึกรถจะวิ่งเข้าวิ่งออกกันเยอะกว่าทุกวัน เพราะมีหนังมาฉาย
นับเป็นแหล่งชุมนุมของวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ในวันนี้ หลาย ๆ คนดีใจที่จะได้ออกจากบ้านตอนกลางคืน ที่ไม่ใช่แค่มาดูหนัง อาจจะรวมไปถึงการออกไปข้างนอกหมู่บ้าน เพื่อไปหาคนที่ตัวเองถูกใจก็ได้
สำหรับพวกเธอห้าคนก็ไม่มีอะไรมาก นั่งแทะเม็ดแตงโม กินน้ำอัดลม ฟังเพลงพี่เม้าส์ไปเรื่อย นั่งฟังเสียงพระเอกภาพยนตร์บริกาศหน้าเหลี่ยม คงจะสนุกหน้าดู พูดถึงพวกเธอก็เคยดูเป็นแผ่นซีดีมาแล้ว จึงไม่ได้อยากจะดูอะไรมากมาย แค่ตื่นเต้นที่จะได้ออกไปข้างนอกในตอนกลางคืนเท่านั้นเอง
เล่นเพลงไปได้สักพักเพื่อนของพี่เม้าส์ก็โทรเข้า พี่เม้าส์รับสายพูดคุยกันเสร็จพี่เม้าส์หันมาบอกพวกเธอว่า พี่เอ็กซ์จะเข้ามาที่นี่กับแฟน พวกเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร และไม่นานพี่เอ็กซ์กับอุ้มก็มาถึง มีสมาชิกมาเพิ่มหนึ่งคู่ สองคนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีเคอะเขินอะไร อุ้มก็เป็นเพื่อนของพวกเธอเช่นกัน
พอพี่เอ็กซ์มาพี่เม้าส์ก็เริ่มพูดเก่งขึ้น เนื่องจากมีเพื่อนคุย สองหนุ่มคุยกันไป พวกเธอก็คุยกันไป พูดถึงเรื่องเพื่อน ๆ กลุ่มจอยโดยเฉพาะนิน ว่านินจะแอบออกไปนอกหมู่บ้านไหมในคืนนี้ พอพี่เอ็กซ์มาก็มีเพื่อน ๆ ของพี่เม้าส์สองสามคนตามาด้วย เทียวเข้าเทียวออกบ้านแพรวอยู่อย่างนั้น
ป้ากับลุงก็ไม่ได้ว่าอะไร มีออกมาดูบ้างก็เดินกลับเข้าไปในบ้านเช่นเดิม ป้าแพงก็ทำส้มตำออกมาให้ถาดใหญ่ด้วย พี่เอ็กซ์กับพี่เม้าส์ขอดื่มเบียร์คนละขวดกับแฟน ๆ ของตัวเอง อุ้มกับแพรวก็อนุญาต บอสมองแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ อยากมีแฟนว้อย!
กว่าหนังฉายที่ศาลากลางบ้านจบก็ปาไปห้าทุ่มกว่า เสียงเครื่องรถมอเตอร์ไซค์ดั่งระงมอีกครั้ง เพราะวัยรุ่นต่างคนต่างเดินทางกลับบ้านของตน เสียงหมาเห่าไปตามถนนเพราะมีบางคนเดินกลับ พร้อมเสียงพูดคุยกันไปตามทาง บอสและทุก ๆ คนขอตัวกลับบ้านใครบ้านมันเช่นกัน กลับมาถึงพร้อมกับพวกพี่ ๆ และน้องบีมพอดี เคาะประตูเรียกตากับยายอยู่นานกว่ายายจะลุกมาเปิดบ้านให้...
เช้าวันเสาร์ก็มีเสียงพูดคุยนินทาใครสักคน ต้องเป็นเรื่องเมื่อคืนแน่ ฟังไปฟังมาก็เป็นเรื่องของนินนั่นเอง ที่เมื่อคืนไปดูหนังแล้วไม่ยอมกลับบ้าน ทำให้พ่อของนินออกตามหา ทำไมทำอะไรไม่รู้จักคิดเลย ทำไมไม่ใช้สมองบ้าง
รู้ว่าแรดแต่ก็น่าจะแรดแบบมีสติ ทำไมต้องทำให้เกิดเรื่องใหญ่ ทำไมต้องทำให้คนนินทาฮือฮาสามบ้านแปดบ้านกัน หนังจบแทนที่จะกลับบ้านตัวเอง กว่าหนังจะจบคงได้กันไปหลายยกแล้วล่ะ บอสนึกแบบทำไมนินโง่แบบนี้นะ ทำให้ตัวเองเป็นข่าวไปได้ แรดแบบไม่ใช่สมองจริง ๆ
นอกจากเรื่องของนินแล้ว เพื่อนบ้านยังพูดถึงเรื่องของแพรวด้วย ที่เมื่อคืนพี่เม้าส์มาเล่นที่บ้าน ลามไปถึงพี่เอ็กซ์กับอุ้ม ป้าแพงก็ไม่เคยพูดอะไร เพื่อนบ้านอยากพูดก็พูดไป เธอได้ยินเข้าหูเช่นกันก็ไม่ได้พูดอะไร ก็จริงอย่างที่เพื่อนบ้านพูด พี่เม้าส์มาที่บ้านจริง แล้วไง! แล้วยังไงต่อ! บอสนึกในใจพร้อมเบะปากให้คนที่พูดอยู่ในบ้านของตน ได้ยินข้างบ้านพูดถึงแพรว หึหึ...
วันหยุดนั่งนึกอะไรไปเรื่อย นึกถึงตอนเด็ก ๆ เห็นนินโพสต์กลับบ้านต่างจังหวัด ไปทำบุญบ้านกับแฟน อดนึกถึงตอนเป็นเด็กไม่ได้ แอบยิ้มให้กับเพื่อนผ่านรูปในเฟซบุ๊ก คนโสตายได้ดีแบบนี้นี่เอง! แม้จะทำโรงงานก็เถอะ
ต่างกับเธออะไรก็ไม่รู้ แต่แฟนของนินไม่ใช่พี่คนนั้น เปลี่ยนแฟนมาแล้วกี่คนก็ไม่ทราบจนมาถึงคนนี้ สงสาร! ไม่เคยมองเพื่อนในแง่ร้ายเลย เพราะชีวิตนินมันซับซ้อนน่าเห็นใจเกินกว่าจะมองเพื่อนในแง่ลบ มาได้ขนาดนี้ก็เก่งมาก!
แพรว พิมพ์ จ๋อม และเธอก็ไปคนละทิศคนละทาง ขนาดฝาแฝดโตมาด้วยกันยังได้ไม่เหมือนกันสำหรับเรื่องโชคชะตา สงสารก็แต่แพรว เมื่อไหร่นะพี่เม้าส์จะคิดได้สักที แต่ก็ไม่ได้ว่าใคร ชีวิตใครชีวิตมันได้แค่อยู่ห่าง ๆ แบบห่วง ๆ พี่สาว
“กลัว! กลัวว่าสิ่งที่ฉันฝันมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นจริง หลู กู หลิสุ ไล่ดุ้ย แล่งตุง ลานงุน ลอบุ เล้ามู้” แพรวโพสต์ และบางส่วนโพสต์เป็นภาษาดอกไม้ด้วย บอสรู้ว่าพี่สาวพูดถึงเรื่องอะไร
“อย่าคิดหลายแพรว คนในอยากออกคนนอกอยากเข้าห่ามืง ฮา ”! บอสเข้าไปคอมเม้นแพรว และมีเพื่อน ๆ และคนอื่น ๆ เข้าไปเม้นตาม
บอสระบายเรื่องเพื่อนร่วมห้องให้แพรวฟัง และพวกเธอก็เข้าไปคุยกันในแชท ระบายปัญหาคาใจให้ซึ่งกันและกันฟัง
ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งอยากกลับไปเป็นเด็ก ไม่ต้องทำอะไรเลย ขอเงินยายไปเรียนอย่าวเดียว ตอนเด็กอยากโตเพราะขี้เกียจทำการบ้าน ตอนโตอยากกลับไปเป็นเด็กเพราะขี้เกียจแบกรับปัญหา ถ้ากลับไปเป็นเด็กได้มีการบ้านกองโตเท่าภูเขาก็จะไม่บ่นสักคำ เฮ้อ...
จบบท...