คิดถึง 2 บทที่ 92 (จบบริบูรณ์)

กระทู้สนทนา
     
.

             ไดอารี่ความคิดถึง

           และแล้ววันที่รอคอยอีกหนึ่งวันก็มาถึง คือ วันที่ 31 ธันวาคมนั่นเอง วันที่พวกเธอเดอะแก๊งต่างตั้งตารอคอย จะเคานต์ดาวน์รวมตัวกันอีกครั้ง จะข้ามปีไปด้วยกันอีกปี

             วันนี้โรงเรียนหยุดแล้ว พ่อกับแม่ของเธอและญาติ ๆ รวมทั้งคนอื่น ๆ ที่ไปทำงานต่างจังหวัด ต่างพร้อมใจกันกลับมาบ้านของตนเอง แต่ละครอบครัวทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันหมด เห็นแล้วมีความสุขที่สุด เธอเองด้วยก็ดีใจที่พ่อกับแม่กลับมาจากกรุงเทพ แม้จะเป็นการกลับมาแค่ไม่กี่วันก็ตาม

             “ไปเมืองนำแม่บ่อบอส” แม่ถาม ขณะกำลังนั่งทานข้าวเช้ากันอยู่หน้าบ้าน ตอนสาย ๆ อากาศวันนี้ก็หนาวมาก แดดอ่อน ๆ ยามสายพอส่องให้ความอบอุ่น กองไฟเล็ก ๆ ที่ยายกับตานั่งผิงไฟกันอยู่ พี่ ๆ ทั้งสี่คนต่างกลับไปอยู่บ้านของตนเองเป็นการชั่วคราว

             “บ่อไป! ไปโลด แม่จะพาน้องบีมไปซื้อเสื้อผ้าบ่อ” บอสปฏิเสธ ถ้าเป็นตอนเด็ก ๆ บอสคงตื่นเต้นมาก ที่เวลาแม่กลับมาบ้านแล้วพาเข้าไปในเมืองซื้อชุดใหม่แบบนี้ ทว่าตอนนี้โตแล้ว ความรู้สึกมันกลับกัน บอสอยากไปเล่นกับเพื่อน ๆ มากกว่า

             “แมน” น้องบีมชิ่งตอบ “แม่ซื้อเกิบใหม่กับชุดใหม่ให้น้องบีมนำเด้อ”

             “เอ้อ! แม่สิซื้อให้หรอก” แม่ตอบน้องบีม

             “ไปโลดบอสบ่อไป แม่บอสขอเงินนำเด้อ มื้อแลงบอสจะไปเคานต์ดาวเฮือนลุงวิทย์” บอสแจ้งรายละเอียดกับแม่ จะได้ไม่ต้องตามหากัน “แม่ให้บอสพันนึง บอสบ่อเอาเสื้อผ้าบอสมีอยู่” ต่อรองกับแม่ไปอีก

             “แม่ให้พันนึงพอ สองมื้อวันที่ 1 กับมื้อหนิ ให้ซื้อเบียร์ซื้อเหล้ากินคัก ๆ หาหัดกินตะน้อย ๆ “ แม่ค่อนขอดเธอ แต่ก็ไม่ได้ดุอะไร แม่เข้าใจธรรมชาติของวัยรุ่นของลูกดี

             เธอหัวเราะอึกอักไม่เถียงแม่ ไม่ปฏิเสธ และ ไม่ตอบด้วย แอบค่อนขอดแม่คืนในใจด้วย ทำเป็นรู้ดี! สมัยแม่เป็นวัยรุ่นแม่ก็กินเหมือนกันนั่นแหละ เธอนั่งทานข้าวเงียบ ๆ ไป ปล่อยให้แม่เอ็ดได้ตามสบาย

             “กินโลดนาง กินพอมวน ว่าตะอย่ากินซุมื้อ” พ่อเข้าข้างเธอตลอด

             “น้อพ่อ!” เธอตอบสั้น ๆ พร้อมนั่งทานข้าวด้วยกันกับพ่อแม่และน้องบีม ส่วนตายายไม่ทานด้วย นั่งผิงไฟกองเล็ก ๆ ที่หน้าบ้านกับเพื่อนบ้านกันอยู่ เพราะตากับยายกินไปก่อนตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วนั่นเอง

             “วันที่หนึ่งตาชวนไปห้วยผึ้ง ไปนำแม่บ่อ” แม่ชวน บอสครุ่นคิดจะไปดีไหม ห้วยผึ้งก็ยังไม่เคยไป น่าจะลองไปดูสักหน่อย วันนี้อยู่กับเพื่อน พรุ่งนี้ไปหาญาติ ๆ กับแม่ดีกว่า

             “ไปหาไผแม่” เธอถาม ไม่ทราบจริง ๆ ว่าญาติคนไหนอยู่อำเภอห้วยผึ้ง

             “บ้านพ่อใหญ่ใส น้องชายหล่าตานั่นเด้ เราป่วยโซบ่อมีแฮง ตาชวนให้พ่อมืงพาไปเล่นนำ ไปนำแม่บ่อ มืงบ่ออยากไปเห็นอำเภอห้วยผึ้งบ่อ” แม่ชวนขณะนั่งทานข้าวด้วยกัน

             “บ้านห้วยผากะว่าแหน่ บ่อได้อยู่ในตัวอำเภอห้วยผึ้งเด้” พ่อแย้งแม่

             “กะนั่นล้า! กะบ้านห้วยผานั่นล่ะ กะอยู่อำเภอห้วยผึ้งคือเก่า” แม่หันมาเถียงพ่อ ทำเอาเธอยิ้มตามไปด้วย

             “บอสเคยเห็นใหญ่ใสอยู่ บอสฮู้จักเราอยู่ ยายไลบอสกะฮู้จัก แต่บอสบ่อเคยไปบ้านเราจักเทือ ไปนำอยู่แม่ มื้ออื่นบอสไปนำ” เธอตกลงจะไปด้วยคน พรุ่งนี้แม่จะพาตากับยายไปเที่ยวหาน้องชายของตา เธอเคยเจอน้องชายของตามาครั้งหนึ่งแล้ว

             “มื้อแลงแม่กะสิเคานต์ดาวน์คือกัน อยู่เฮือนย่านั่นแล้ว ครูกิ๋มกับป้าต้อยชวนแม่เฮ็ดบั้งข้าวหลามกิน ป้าเอกะสิมาเฮ็ดนำ” แม่พูดปนยิ้ม วันรวมญาติได้มาถึงแล้ว หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปตามวิถีชีวิตของใครของมัน

             “ครูนิพนธ์ชวนไปใส่หนูอยู่นามื้อแลง โอ้ยข่อยบ่อไปเด้อสั่นหรอก หนาวสิตาย หาถามซื้อเอาโลด ข่อยสิหาซื้อมาเฮ็ดให้กินหรอกเลยว่าสิ” พ่อคุยกับแม่ พูดถึงพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของพ่อ ครูนิพนธ์ลูกย่าน้อยเอง เธอกับน้องบีมก็นั่งฟังพ่อกับแม่คุยกัน พร้อมทานข้าวไปด้วย

             “อ้างตะว่าหนาว จะของใส่หนูบ่อเป็นกะบ่อบอกอ้าย หื้ย!” แม่พูดกลั้วหัวเราะ “ลุงวิทย์นั่นเด้ ชวนลุงวิทย์ไปไต้ถะแหมะ ลุงบิล อี่โจอี่กอล์ฟมูนั่นล่ะ ซุมเพิ่นกินหนู” แม่เสนอความคิดเห็น

             “กะนั่นล่ะ! กะสิบอกเขามูนั่นล่ะไปหามาให้กิน ตะกิใส่เป็นอยู่เด้ บ่อได้ใส่โดนแล้ว ลืมวิธีห่างหนูแล้วแหมะ ลองไปห่างเบิ่งกันน้ามื้อแลง ชวนพี่อ้ายไปห่างหนูไปกับอ้ายพนธ์ เพิ่นหนิมักกินคือหยังหนิ บักหนุ่ยพั่นว่าลิโตนชาติหนูเด้บักหนิ” พ่อพูดพร้อมทำท่าครุ่นคิดแบบจริงจัง ส่วนแม่หัวเราะประโยคที่พ่อพูดถึงลุงหนุ่ย พวกเธอก็ขำตาม ๆ กัน

             “ลุงหนุ่ยลิโตนชาติหนูว่าติ” แม่พูดกล้วยิ้ม

             “แมน” พ่อตอบปนยิ้มเช่นกัน

            สาเหตุเพราะครูนิพนธ์อยากกินหนูนา หน้าหนาวแบบนี้อาหารชั้นเลิศอีกเมนู คือ เมนูหนูนานั่นแหละ จะย่างจะอ่อมก็ได้ ทว่าเธอไม่กิน

             “บอสบ่อกินหนูเด้อ บอสย่าน” เธอปฏิเสธ

             “มืงบ่อกินหนูบ่อแห้ง แซ่บกะด้อ” พ่อถามเธอ ชอบเรียกเธอว่าแห้งอยู่เรื่อย ทั้งที่เธออ้วนจะตาย

             “มันมาสิกิน! บ่อเคยเอาใส่ปากมันจักเทือ” แม่ตอบพ่อแทนเธอ

             “น้องบีมกินอี่พ่อ! คือเนื้อไก่หนิ น้องบีมเคยกิน แซ่บ ลุงบิลกับอ้ายโจเอาให้กิน” น้องบีมตอบอย่างคนตื่นเต้น ที่เคยกินหนูนา และทำท่าทางว่าอร่อยมากด้วย

             แม่หัวเราะพ่อก็ยิ้มตามด้วยกับท่าทางของน้องบีม “อี่หยองคือเคยกินหนูวะ ตะแม่ยังบ่อกินเลยหยอง นี่ล่ะอี่หยองมันสิอยู่ได้มันบ่อเลือกกิน อี่แห้งมันกินยาก มันเลือกกินคือหยังหนิ ตะน้อย ๆ กูว่าแม่นสิได้ฆ่ากันป้อนข้าวยามใด” แม่พูดปนยิ้ม นั่งทานข้าวกันในเช้าวันนี้

             ทานข้าวเสร็จต่างคนต่างแยกย้ายกันไป แม่ให้เงินเธอหนึ่งพันบาทตามที่ได้พูดเอาไว้ จากนั้นก็พายายกับน้องบีมเข้าไปในเมือง ส่วนเธอก็เดินมาที่บ้านลุงวิทย์ มาหาสองฝาแฝดตามที่ได้นัดกันเอาไว้ตั้งแต่ต้นเดือนนู่น

             “คุณพ่อคุณแม่เธอไปไสน้องบอส อยู่เฮือนบ่อ” ป้าแพงถาม ทันทีที่เธอเดินมาถึงบ้าน

             “พาอี่บีมไปเมือง มื้อแลงเราว่าสิเคานต์ดาวกับป้าต้อยอยู่ ว่าสิเฮ็ดบั้งข้าวหลามว่าสั่น” เธอตอบผู้เป็นป้าพร้อมเดินมานั่งเปลญวนอย่างคุ้นเคย

             “ดีเลย! ป้ากะสิไปเผานำ” ป้าแพงตอบ

           “ครูกิ๋มชวนเราเผาตั้วป้าแพง”
คุยกับป้ารอสองฝาแฝด ไม่นานทั้งสองคนก็ออกมาจากในบ้าน ถึงอากาศจะหนาวพวกเธอก็ไม่สะทกสะท้าน “ลูกครูสมพงษ์มาหาย่าน้อยบ่อปีหนิ”

            “จักแล้วป้าบ่อได้ย่างไปเฮือนย่าน้อยจักเทือ” ป้าแพงตอบ วันนี้ลุงกับป้าหยุดขายของตลาดนัดเหมือนกัน อยู่บ้านส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เหมือนกัน และ คงไปรวมญาติที่บ้านใครสักบ้านนั่นแหละ ถ้าไม่ใช่บ้านแม่ของป้าแพงเอง ก็คงจะเป็นที่บ้านของย่า

           “ลุงวิทย์ไปไส” เธอถามหาผู้เป็นลุง ตั้งแต่มาถึงยังไม่เห็นหน้าเลย ส่วนพี่เจนอนอยู่ในบ้าน

            “อยู่เฮือนใหญ่นงค์อี่ฮา ไปตะเช้า ๆ พุ่น น้องเรามา อาวหวาดมาหยามย่า” พิมพ์ตอบ ทั้งสองคนนั่งที่ม้าหินอ่อนเจ้าประจำ

             “สูคือบ่อไปสวัสดีอาวกับอาสู ไปถะแหมะเรามาฮอดตะมื้อคืนพุ่น แม่กะสิไป! มาแหมะมาไปนำแม่ ไปสวัสดีอาซะก่อนจังพากันกลับมา” ป้าแพงชวน เธอเลิ่กลั่กมองหน้าพี่สาวฝาแฝดทั้งสองคน ไม่อยากไปกันสักคนเลย

            “ไปกะไป! แฝดไปบ่อ” บอสถามความเห็นพี่ ๆ “ที่แรกบอสว่าสิถ่าไปพร้อมอี่แม่กับอี่พ่อ ไปก่อนกะได้! ไปบ่อแฝด” เธอชวนพี่ ๆ อยากไปหาอาอยู่เหมือนกัน อาลูกคนสุดท้องของปู่กับย่า ต่อจากพ่อของเธอที่เป็นคนรองสุดท้าย

             “ปะสั่น! ไปกะไป” แพรวตอบ

             “มาไปพร้อมแม่จังพากันกลับมาเล่น บักเม้าส์มากะเอิ้นมันมาเฮือนใหญ่นำ” ป้าแพงกล่าว “เจ! มาไปไหว้ขอพรปีใหม่นำใหญ่นงค์มาแหมะ อากับอาวมาเฮือนตั้ว มาแหมะ” ป้าแพงชวนลูกชายคนเดียวของตนเองไปด้วย

             “บ่อ! ไปก่อนโลดแม่ เดี๋ยวเจไปทีหลังหรอก” พี่เจตอบมาจากในบ้าน จากนั้นพวกเธอกับป้าแพงก็ไม่รบเร้า ไม่ไปก็ไม่ไปพวกเธอไปกันแค่สี่คนก็พอ

             มาถึงไม่เพียงแค่ครอบครัวของอา แต่ยังมีครอบครัวของย่าน้อยบางคนด้วยที่อยู่ที่นี่ นั่นคือครอบครัวของครูนิพนธ์เอง และ ญาติ ๆ ลุงป้าลูกของย่าเต็มบ้านไปหมด ล้วนแต่คุ้นเคยกันทั้งนั้น เพราะอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ยกเว้นครอบครัวของอาหวาดและลูก ๆ ของย่าน้อยที่อยู่ที่นี่ด้วย

             “มาแล้วนั่น! แฝดนั่นของน้าวิทย์ ผู้นึงของน้าภาส” ป้าต้อยแนะนำ พวกเธอยิ้มยกมือไหว้กันใหญ่เลย คุ้นเคยกับอาหวาดเป็นอย่างดี แต่ก็เขินอยู่ดีนั่นแหละ เพราะครอบครัวของอาหวาดไม่ได้อยู่ที่นี่ นาน ๆ จะมาเยี่ยมย่าที

             “ใหญ่แล้ว! มาปีหนิเป็นสาวแล้วแหมะ ปีก่อนข่อยมายังบ่อใหญ่ปานหนิเลยแม” อาหวาดพูดปนยิ้ม เดินมาหาพวกเธอสามคน หันไปคุยกับย่ากับป้าต้อยและคนอื่น ๆ “มาขาวแถะ พากันเรียน ม.ใดแล้วหนิ”

            “ม.2 จ้า” แพรวตอบ

             “อี่น้องบอสมันล่ะขาวน้อเบิ่งแหน่ ขาวคือป้าฝนหนิ สะออนคนมีลูกสาวเด้ จะของได้ตะบักเถิก แงงหลานสาวกะได้หรอก” อาหวาดพูดปนหัวเราะ

             “จะของเฮ็ดบ่อเป็นน้อ เบิ่งผู้เขาเฮ็ดเป็นได้ฮอดแฝด” ครูนิพนธ์แซวอาหวาด ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นน้องสาวตนเองนั่นแหละ ลูกพี่ลูกน้องกัน ทุกคนหัวเราะกับคำพูดของกันและกัน ที่บ้านของย่าก็ครึกครื้นไม่แพ้กัน เต็มไปด้วยลูก ๆ หลาน ๆ ที่มาเยี่ยมในปีใหม่วันนี้

             “บักวิทย์มันแฮงว่าอยู่ ขั้นเมียบ่อเฮ็ดหมันก่อน กูเอาแฝดชายอีกคู่แล้วมันว่า” ครูนิพนธ์พูดอีก คราวนี้ป้าแพงหัวเราะไม่หยุดเลย แม้กระทั่งลุงวิทย์ที่นั่งอยู่ไกล ๆ เพื่อน กำลังดูไก่ชนกับลุงบินอยู่ ก็หัวเราะตะโกนคุยด้วย

             “ผู้เอื้อยขาวคือแม่มันตั้ว ผู้น้องผัดก่ำเด้หวาด ได้พ่อมาคักสีผิว บ่อขาวซำเอื้อยเด้อี่บีม ไปไสบุบ่อทันเห็นหน้าอยู่มื้อหนิ” ย่าตอบ ย่ายิ้มตลอดเวลาเลย คงจะดีใจที่ลูก ๆ หลาน ๆ มาหากันครบทุกคน

             “สองคนหนิกะก่ำหนิ เอาสีผิวพ่อมาคือกันหนิ” ป้าแพงแซวพิมพ์กับแพรวลูกสาวของตนเอง

             “แนวเฮามันก่ำน้อนาง ก่ำกะงามคือเก่าน้องพิมพ์น้องแพรว จักไผเป็นไผเด้อ อาเอิ้นรวม ๆ ไปโลด” อาหวาดพูด ยิ้มให้กับพวกเธอ

        “น้องไปไส น้องคือบ่อมานำ พ่อแม่มืงไปไสน้องบอส” ป้าต้อยถามหาพ่อกับแม่กับน้องบีม

             “ไปเมือตั้วป้าต้อย พาน้องบีมกับยายไปเมืองไปซื้อหยังบุ” บอสตอบ นั่งลงข้าง ๆ ย่า

             “มื้อแลงกูว่าสิชวนเพิ่นภาสไปห่างหนูอยู่นา เพิ่นว่าข่อยบ่อไปเด้ข่อยหนาวว่าสั่น ห่างหนูบ่อเป็นกะบ่อบอกอ้าย” ครูนิพนธ์พูดกลั้วหัวเราะ เดินมาเล่นที่บ้านย่าตั้งแต่เช้า ๆ นู่น เวลากลับมาบ้านทีไร ครูนิพนธ์ก็ชอบมาหาย่าเสมอ หรือไม่ก็มาเล่นด้วยก่อนกลับประจำ และถ้าเป็นเทศกาลแบบนี้ เวลาพ่อกลับมาบ้านครูนิพนธ์ก็มักจะมาหาพ่อที่บ้านด้วย ชอบมาพูดเรื่องการเมืองกันประจำ เข้าขากันเป็นอย่างดีทั้งสองคน

            “มืงอยากหนูสั่นบ่อนิพนธ์ มันมาสิอึด” ลุงวิทย์ถาม “บักหนุ่ยกับบักปักกินอยู่บ่อ กูจะหามาให้เฮ็ดกิน” ลุงวิทย์ออกตัวจะหามาให้เอง

             “บักหนุ่ยมันบ่อกินหนูเด้มันลิโตนชาติพะนะ บักหนิกะเว้าไปทั่วเด้แนวอยู่แนวกิน เป็นสัตวแพทย์รักษาสัตว์มาหลายแล้ว ข่อยบ่อกินเลยถ้าบ่อจำเป็นมันว่า บอกอ้ายว่าข่อยลิโตนชาติมันว่าซั่นบักหนิกะดาย มีตะกูหนิกินหามาโลด บ่อต้องเอามาหลายโตหรอก พอหายอยากกะพอ” ครูนิพนธ์พูดกับลุงวิทย์ คุยกันตามประสาพี่น้อง ไม่มียศตำแหน่งอะไร จะทำงานอะไรก็ตาม พอพี่น้องกลับมาเจอกันกูมืงเหมือนเดิม ยกเว้นคนที่เข้ามาเป็นเขยกับสะใภ้เท่านั้น ที่จะพูดให้เกียรติกันหน่อย

             “มันเป็นหมอรักษาสัตว์ มันกะสิคิดลิโตนชาติเขาน้อบักหนิ มันกะสิคิดเห็นยามมันรักษาเขา ยามรักษากูกะรักษา ยามกินกะกินบ้อมันกะสิคิดไปน้อ มันกะสิคิดลิโตน มันกะสิบ่ออยากกินคือว่านั่นหล่ะ” ย่าคุยกับหลานชายคนรองของตนเอง รองจากครูสมพงษ์ที่เสียไปนานแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่