.
ไดอารี่ความคิดถึง
เมื่อคืนฝนตกตลอดทั้งคืนทำให้เช้าวันนี้ดูอึมครึม ไม่มีแดด บรรยากาศขมุกขมัว และมีน้ำเจิ่งนองตามพื้นดิน มีทางน้ำเล็ก ๆ ไหลเป็นสายผ่านหน้าบ้านของเธอไปยังบ้านคนอื่น บอสตื่นในเวลาปกติพร้อมพี่ปาวกับพี่บอม ยกเว้นน้องบีมกับพี่บอลที่นอนตื่นสายกว่าใคร พี่บอมนั้นไปทุ่งกับตาแต่เช้าตรู่
นับถอยหลักอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว ตอนนี้อยากให้เปิดเทอมมาก ๆ อยากไปโรงเรียน อยากเจอเพื่อน ๆ อยากเรียนหนังสือ ทว่าพอเปิดเทอมก็ดันอยากปิดเทอมเป็นซะอย่างนั้น ไม่อยากทำรายงาน ไม่อยากทำการบ้าน ไม่อยากทำโครงงาน ไม่อยากไปแข่งวิชาการ และต่าง ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้นตอนนี้เธออยากเปิดเทอมมาก ๆ เลย เบื่อบ้าน
หกโมงเช้าผู้ใหญ่บ้านกำลังประกาศข่าวประชาสัมพันธ์ดั่งเช่นทุกวัน วันนี้บอสได้ยินแว่ว ๆ ว่าตอนบ่ายจะมีการเลี้ยงบ้านอยู่ดอนปู่ตา บ่ายสามโมงให้ทุกคนไปเอาต้มไก่มากิน ถือเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต และปู่จะได้คุ้มภัยเวลาเดินทางไกล เป็นความเชื่อที่คนในหมู่บ้านนับถือมายาวนาน
บอสกำลังนั่งล้างจานที่กินเสร็จเมื่อคืนให้ยาย ที่อ่างล้างจานข้างบ้าน เป็นหน้าที่ของเธอในทุก ๆ เช้าจะต้องทำ พี่ปาวทำกับข้าวช่วยยาย ส่วนพี่ชายตื่นเช้าเหมือนกัน บางวันก็ไปทุ่งกับตา และช่วยหยิบจับเวลาพี่ปาวเรียกใช้บ้าง ปกติพวกเธอจะไม่ค่อยมอบหมายหน้าที่งานบ้านให้พี่ชายสองคน จะเป็นงานนาเสียมากกว่า ทำช่วยตา ส่วนพี่แป้งยังไม่กลับจากกรุงเทพ เห็นโทรมาบอกว่าจะกลับมาในวันที่สิบนี่แหละ
บอสล้างจานไปด้วยนั่งฟังผู้ใหญ่บ้านไปด้วย หลังจบประชาสัมพันธ์ก็จะเปิดเพลงส่งท้าย เป็นแบบนี้อยู่ทุกวัน “วันนี้ตอนบ่ายไปเอาต้มไก่เหรอ เลี้ยงบ้านเหรอ” บอสรำพึงรำพันกับตนเอง ถึงแม้ว่าแต่ละปีจะได้ต้มไก่กันมานิดเดียว หากเอามารวมกันก็ได้เยอะพอกิน
มีอีกหนึ่งสิ่งที่เธอจะต้องทำในวันนี้คือย้อมสีผม ทั้งผมของเธอ ของน้องบีม และของพิมพ์กับแพรวด้วย ก่อนหน้านี้พวกเธอพากันย้อมสีผมต้อนรับสงกรานต์ที่ผ่านมา ตอนนี้ใกล้จะเปิดเทอมแล้วต้องย้อมสีดำกลับคืน และไปตัดผมสั้นก่อนที่โรงเรียนจะเปิด ทุกอย่างต้องพร้อม เสื้อผ้าหน้าผมต้องเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกอย่าง
บอสล้างจานเสร็จเรียบร้อยนำจานเข้าไปเก็บในครัวให้ยาย พระอาทิตย์เริ่มทอแสงออกมาให้บรรยากาศมันสว่างมากยิ่งขึ้น แบบนี้หน่อย ! บอสนึกในใจเมื่อเห็นแดดเริ่มออก เกรงว่าฝนจะตกอีกในรอบกลางวัน สิ่งที่คิดเอาไว้เกรงว่าจะไม่ได้ทำหากฝนตก
เมื่อเสร็จภาระกิจหน้าที่ บอสไม่รู้จะทำอะไรก็เปิดทีวีดู วันนี้เป็นวันเสาร์มีรายการทีวีให้ดูมากมาย ยายก็ไม่บ่น เมื่อเธอเปิดทีวีน้องบีมคงได้ยินเสียงทีวีจึงตื่น เดินออกมาจากห้องนอนของยาย หน้าบูดหัวฟูลากผ้าห่มผืนบาง ๆ เดินออกมาจากในห้องด้วย แล้วก็มานอนลงข้าง ๆ ดูทีวีกับเธอ
“ไปล้างหน้าอาบน้ำเลยบีม” บอสสั่งน้องสาว แต่ก็ไม่ได้บังคับ
“แป๊บ ขอดูการ์ตูนก่อน” น้องบีมตอบ พวกเธอสองพี่น้องนอนดูทีวีด้วยกัน ส่วนพี่ปาวเมื่อทำกับข้าวเสร็จนั่งเล่นที่เปลหน้าบ้านกับยาย รอพี่บอมกลับมาจากนาค่อยทานข้าวเช้ากัน ส่วนพี่บอลก็ยังไม่ตื่น ยายก็ยังไม่ทันได้ปลุก
“พุ้นอี่นึงตื่นขึ้นมาหน้าบ่ล้างไปนอนเฮียงเขาเบิ่งโทรทัศน์ล่ะ” ยายแซวน้องบีมด้วยท่าทางขบขัน เธอกับน้องสาวหันไปมองยายพร้อมหัวเราะชอบใจ น้องบีมก็ไม่สนใจยังไม่ยอมไปล้างหน้าแปรงฟัน ยังนอนดูการ์ตูนกับเธอต่อไป
สักพักพี่บอมก็กลับมาถึงบ้านพร้อมถุงตาข่ายสีน้ำเงิน ข้างในมีปลาช่อนและปลาหมอหลายตัวมาก ยายตื่นเต้นมาก ๆ ด้วยเช่นกัน ที่วันนี้จะมีกับข้าวอร่อย ๆ อีกวันแล้ว ไม่ต้องซื้อให้เปลืองตังค์ หน้าฝนกำลังจะมาเยือน จะเป็นช่วงที่ครอบครัวของเธอไม่เปลืองค่ากับข้าวมากที่สุด มีอะไรก็กินอันนั้น
ยายรับถุงตาข่ายกับหลานชายคนโต แล้วรีบนำไปเทใส่กะละมังหาอะไรมาปิดขังเอาไว้ทำกับข้าวตอนเย็น ที่นาของเธอตาจะทำต้อนและหลี่ไว้ดักปลา หรือเรียกว่าทำที่ดักปลา ไว้ดักเวลาฝนตกน้ำในนาจะไหลลงลำห้วย ก็จะมีปลาหลากหลายไหลไปตามสายน้ำ ตาก็เอาเยอหรือตาข่ายสีน้ำเงินไปดักเอาไว้ ตอนเช้าค่อยไปดูจะได้ปลาที่มาติดกับดักเยอะมาก
“บอสพี่มาถึงแล้ว ปิดทีวียกสำรับออกไปทานข้าวเช้า มืงเปิดอะไรนักหนาเดี๋ยวหนิ” นั่นไงพอหลานชายมาแล้วก็บ่น ทั้งที่เปิดตั้งนานแล้วไม่บ่นพึ่งจะมาบ่นเอาตอนนี้ บอสฟึดฟัดให้ยายเบา ๆ โดยที่ยายไม่ทันได้เห็น
“บีมลุกไปล้างหน้ามาหากินข้าวเลยมืง” บอสหันไปเอ็ดน้องบีมต่อ ส่วนตนเองก็ลุกเดินเข้าไปในครัว ช่วยพี่ปาวยกสำรับกับข้าวออกไปที่แคร่หน้าบ้าน น้องบีมลุกไปล้างหน้าตามที่เธอสั่ง ส่วนพี่บอมอาบน้ำที่ห้องน้ำข้างนอก
“บักนึงไปไสล่ะ คือบ่ลุกบ่ตืน บอล ! มืง...” ยายเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน ยืนอยู่ขั้นบันไดเรียกหลานชายคนเล็กให้ตื่น และก็บ่นให้พี่บอลยาว ๆ หลายประโยค สุดท้ายพี่บอลก็ต้องตื่นตามคำบ่นของยายจนได้ เดินลงมาล้างหน้าแปรงฟันทานข้าวเช้า
สรุปสุดท้ายทุกคนก็ได้ทานข้าวเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากัน ยกเว้นตาที่พาวัวไปทุ่งแต่เช้าพร้อมเสบียงที่ยายทำเมนูง่าย ๆ ให้ ตาก็ไม่เคยปริปากบ่น พวกเธอทานมื้อเช้ากันที่แคร่หน้าบ้าน เป็นภาพที่อบอุ่นสำหรับใครที่ผ่านมาพบเห็น กับข้าวไม่หรูหราเป็นกับข้าวบ้าน ๆ ทว่าเต็มไปด้วยความอร่อยที่แสนมีความสุข
นั่งทานข้าวได้สักพักยายพรก็หาบขนมมาขาย วันนี้ไม่เข็นใส่ล้อไม้มา ยายพรเหลือลูกค้าคนสำคัญอยู่คนเดียวคือน้องบีม เพราะพวกเธอโตกันหมดแล้ว ไม่ค่อยกินขนม ยายพรหาบขนมขายตั้งแต่พวกเธออยู่ประถม จนตอนนี้ก็ยังไม่เลิกขายเลย ยายพรไม่มีหน้าร้าน ทว่าใช้วิธีเดินหาบขายแบบนี่ทุกวัน
“กินขนมไหมเด็ก ๆ “ ยายพรถามเป็นภาษากลางอย่างตลก น้องบีมดูจะตื่นเต้นกว่าใคร ๆ หยุดทานข้าวลุกขึ้นลงจากแคร่ไปยืนรอยายพรกันเลย ก็ต้องโดนยายเอ็ดไปหนึ่งที
“ยายพรวันนี้มีขนมอะไร” น้องบีมถามเมื่อยายพรมาถึงก็วางตะกร้าลงกับพื้นปูนหน้าบ้าน น้องบีมนั่งลงเลือกอย่างคุ้นเคย
“มากินข้าวพร” ยายเรียกยายพรมาทานข้าวด้วยกัน
“เอาเลยแม่ใหญ่ ได้หยังกิน เด็กน้อยเขามูหนิเปิดเทอมมื้อใด” ยายพรตอบ บ้านของยายพรอยู่คุ้มใต้ ใกล้ ๆ กับบ้านพี่ปาวพี่แป้ง “ผุนึงบ่ทันมาตะกรุงเทพบ่”
“เปิดเทอมวันที่ 16 นู่นแหละ“ พี่ปาวตอบ “แป้งมาวันที่ 10 จ้า”
“บีมรีบเลือกยายพรจะไปขายให้คนอื่นต่อ” ยายสั่งน้องบีมที่ดูเหมือนจะใจเย็นเหลือเกิน “พึ่งจะกินข้าว ก็ไปกินขนมก่อนละ”
“ให้มันเลือกโลดยาย บ่ฟ้าวหรอก” เพราะลูกค้าประจำ แวะมาทีไรได้ขายทุกทีสำหรับบ้านหลังนี้ น้องบีมไม่เคยพลาด ยายพรจึงไม่รีบเร่งนัก “ตาพาวัวออกไปนาบ่”
“แมน”
“ยายบอสเอานำน้องบีมด้วยเด้อ” บอสขอยายไม่ทันที่ยายจะได้อนุมัติ บอสก็ลงไปเลือกขนมกับน้องสาว เธอได้ขนมสังขยามาสองห่อ น้องบีมได้ขนมหม้อแกง
“นั่น ! จะแมนน้อสู เอาบ่ซุมใหญ่หนิ” ยายบ่นพร้อมรูดซิปกระเป๋าที่เสื้อชั้นในที่สวมอยู่ เปิดควักเงินค่าขนมให้แก่ยายพร “ไปหาเลือกเอาแหมะ ซูกินบ่”
“หื่อ ! บ่อยาก” พี่ ๆ ทั้งสามคนไม่มีใครลงมาเลือกขนมเลย ไม่ใช่ว่าโตแล้วไม่กิน แต่เพราะขนมยายพรไม่น่ากินต่างหาก
“มันดีตะสูนั่นล่ะ จักบาทพร”
“ยี่สิบบาทยาย” ยายควักเงินจ่ายให้กับยายพรไป “มื้อแลงเพิ่นเลี้ยงบ้านแมนบ่ยาย ได้ยินผู้ใหญ่บ้านประกาศหวาเมื่อเช้าหนิ เด็กน้อยอย่าลืมไปเอาต้มไก่เด้อมื้อแลง” ยายพรถามยายพร้อมหันมาคุยกับพวกเธอ
“เลี้ยงบ้านตั้วมื้อแลง บ่เป็นตะแล้งหรอกปีนี่ ฝนตกแฮงโพดมื้อคืน เลี้ยงบ้านแล้วสิให้ตาเอาข้าวปลูกลงอยู่หนิ” ยายกับยายพรสนทนากัน
“ พ่อเด็กน้อยเขามูหนิสิมาเฮดนาบ่ล่ะยาย ฮือให้ยายเฮดให้คือเก่าบ่ “ยายพรพูดถึงลุงป้าพ่อแม่พี่สาวกับพี่ชาย นาของพี่บอมอยู่แถว ๆ นาของเธอ ตากับยายแบ่งให้ลูก ๆ เท่า ๆ กัน ยกเว้นแม่ของเธอที่ดูจะได้เยอะกว่าใคร ๆ เพราะเป็นคนดูแลตากับยาย เป็นสมบัติของตาที่ถางป่าเองในสมัยก่อน ถางเสร็จก็ทำโฉนดเลย ส่วนนาของพี่ปาวจะอยู่อีกหมู่บ้าน เป็นสมบัติของฝั่งยายที่ได้มาจากยายทวดแม่ของยายเอง
“ว่าสิมาอยู่เด้ล่ะปีหนิ บอกพ่อเอาข้าวปลูกลงไว้ให้ยุ แต่ของสองหนิบ่มา”
“ปลาลงต้อนหลายบ่ยาย คือสิลงคักเป็นตะสะออนน้อ” ยายพรถามไปเรื่อยตามประสาคนรู้จักกัน และเป็นลูกค้าขาประจำกันกับน้องบีม “บ่อึดแนวกินแล้วยามฝน”
“พอได้อยู่ เด็กน้อยเอามามื้อเช้าหนิ” ยายตอบ สองสามวันมานี่ฝนตกบ่อย น้ำหลาก ตาทำที่ดักปลาเอาไว้ ได้ปลาติดไม่ติดมือมาทุกวัน ยายกับยายพรคุยกันไปตามประสา ส่วนพวกเธอก็นั่งฟัง ที่สำคัญบ่ายสามโมงไม่ลืมไปเอาต้มไก่ที่ดอนปู่ตาแน่นอน
เมื่อยายพรไปแล้วเหตุการณ์กลับมาปกติ น้องบีมนั่งทานข้าวเหมือนเดิม ส่วนเธออิ่มแล้ว และนั่งทานขนมต่อที่เปล นั่งมองยายและพี่ ๆ กับน้องบีมทานข้าวกัน มองไปที่ผมของน้องบีมตอนนี้มันยาวบ้างแล้ว ทำให้ผมกลายเป็นสองสี ตรงโคนผมเป็นสีดำปลายผมสีทอง มองน้องบีมแล้วนึกอะไรตลก ๆ แอบยิ้มให้น้องสาว มองไปมันก็ตลกจริง ๆ ผมสองสี ของเธอเมื่อคนอื่นมองมาก็คงจะตลกแบบนี้สินะ วันนี้แหละที่เธอจะย้อมผมกลับคืนเป็นสีดำทั้งหัว
“บีมทำสีผมคืนมั้ย หรือจะปล่อยไว้แบบนี้” บอสถามน้องสาว จะได้ซื้อสีย้อมผมมาเผื่อด้วย
“หื่อ ! ไม่ย้อมคืน” ตอบคำถามของเธอแต่ไม่หันหน้ามามอง เพราะกำลังทานข้าวอยู่
“เดี๋ยวครูก็ด่า ก็ได้กลับมาย้อมคืนเหมือนเดิม” พูดพร้อมปรายตามองน้องสาว บอสนอนเล่นที่เปลกินขนมที่ซื้อจากยายพรอย่างสบายใจ น้องบีมไม่อยากย้อมผมคืนก็ไม่เป็นไร ตามใจเลย
พี่ปาวยิ้มหันหน้ามามองเธอ “บอส แกว่าครูโรงเรียนประถมเข้มงวดเหมือนครูโรงเรียนเราด้วยเหรอ”
“เออนั่นดิพี่ปาว ถ้าเป็นโรงเรียนเรานะเปิดเทอมไปวันแรก เห็นผมแดง ๆ ยาว ๆ มาหนิ บรรจงชอบนัก !” บอสพูดถึงครูฝ่ายปกครองที่โหดที่สุดของโรงเรียน ตามด้วยเสียงหัวเราะของพี่ ๆ บอสเชื่อว่าหน้าของครูบรรจงต้องลอยมาในหัวของพี่ ๆ แน่นอน
“บอสจะย้อมคืนอยู่ พี่ปาวตัดผมให้บอสด้วยนะ”
“พี่ตัดไม่เป็น ค่อยตัดรอพี่แป้งมาก่อน”
“ก็ได้ !” บอสไม่ขัด รอพี่แป้งก็รอ พวกเธอเป็นผู้หญิง ตัดให้กันเองได้ โดยเฉพาะพี่แป้งที่มีฝีมือในการตัดผมมาก ๆ แค่ทรงนักเรียน พวกเธอไม่สันทัดเท่าไหร่ ไม่ได้ห่วงสวยห่วงไปก็เท่านั้น ก็ได้ทรงนักเรียนเท่าติ่งหูอยู่ดีสำหรับ ม.ต้น ส่วนพี่บอมพี่บอลต้องไปหาช่าง ให้ช่างตัดให้เท่านั้น เพราะเป็นผู้ชาย
เมื่อยายกับพี่ ๆ ทานมื้อเช้ากันอิ่มแล้ว บอสก็เข้าไปช่วยยกสำหรับไปเก็บ ล้างจาน ปัดกวาดแคร่ออกให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป พี่บอลกับพี่บอมไปทุ่งหาตา เมื่อคืนฝนตกน้ำหลาก ต้องมีปลาเยอะแน่ เมื่อเช้าพี่บอมถือมาก็เยอะ ตาจึงให้กลับไปอีก ส่วนพี่ปาวไม่ได้ไปไหนอยู่บ้านนอนคุยโทรศัพท์กับพี่อุ้ยเช่นทุกวัน น้องบีมก็ไม่ไปเล่นที่ไหนด้วย
หลังทานข้าวเช้าเสร็จ ยายก็เดินไปหาทำของที่จะไปเซ่นไหว้ดอนปู่ตา การเลี้ยงบ้านหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเลี้ยงปู่ คนในหมู่บ้านสมมุติขึ้นมา และนับถือกันไปตามวิถีชีวิต คล้าย ๆ ผีแถนของบุญบั้งไฟ
ยายเดินไปหาทางมะพร้าวมาเท่าจำนวนคนในครอบครัว ครอบครัวของเธอ ครอบครัวของพี่ปาวพี่แป้ง ครอบครัวของพี่บอมพี่บอล ยายไม่ลืมที่จะทำให้ลูก ๆ ด้วย เพราะไม่ได้อยู่บ้าน ต้องไปหางานทำที่กรุงเทพกัน ยายก็ทำแทนหมด นอกจากจะทำเท่าจำนวนคนแล้ว ยังต้องทำเท่าจำนวนสัตว์เลี้ยงด้วยว่ามีกี่ตัว
คิดถึง 2 บทที่ 52
.
ไดอารี่ความคิดถึง
เมื่อคืนฝนตกตลอดทั้งคืนทำให้เช้าวันนี้ดูอึมครึม ไม่มีแดด บรรยากาศขมุกขมัว และมีน้ำเจิ่งนองตามพื้นดิน มีทางน้ำเล็ก ๆ ไหลเป็นสายผ่านหน้าบ้านของเธอไปยังบ้านคนอื่น บอสตื่นในเวลาปกติพร้อมพี่ปาวกับพี่บอม ยกเว้นน้องบีมกับพี่บอลที่นอนตื่นสายกว่าใคร พี่บอมนั้นไปทุ่งกับตาแต่เช้าตรู่
นับถอยหลักอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว ตอนนี้อยากให้เปิดเทอมมาก ๆ อยากไปโรงเรียน อยากเจอเพื่อน ๆ อยากเรียนหนังสือ ทว่าพอเปิดเทอมก็ดันอยากปิดเทอมเป็นซะอย่างนั้น ไม่อยากทำรายงาน ไม่อยากทำการบ้าน ไม่อยากทำโครงงาน ไม่อยากไปแข่งวิชาการ และต่าง ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้นตอนนี้เธออยากเปิดเทอมมาก ๆ เลย เบื่อบ้าน
หกโมงเช้าผู้ใหญ่บ้านกำลังประกาศข่าวประชาสัมพันธ์ดั่งเช่นทุกวัน วันนี้บอสได้ยินแว่ว ๆ ว่าตอนบ่ายจะมีการเลี้ยงบ้านอยู่ดอนปู่ตา บ่ายสามโมงให้ทุกคนไปเอาต้มไก่มากิน ถือเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต และปู่จะได้คุ้มภัยเวลาเดินทางไกล เป็นความเชื่อที่คนในหมู่บ้านนับถือมายาวนาน
บอสกำลังนั่งล้างจานที่กินเสร็จเมื่อคืนให้ยาย ที่อ่างล้างจานข้างบ้าน เป็นหน้าที่ของเธอในทุก ๆ เช้าจะต้องทำ พี่ปาวทำกับข้าวช่วยยาย ส่วนพี่ชายตื่นเช้าเหมือนกัน บางวันก็ไปทุ่งกับตา และช่วยหยิบจับเวลาพี่ปาวเรียกใช้บ้าง ปกติพวกเธอจะไม่ค่อยมอบหมายหน้าที่งานบ้านให้พี่ชายสองคน จะเป็นงานนาเสียมากกว่า ทำช่วยตา ส่วนพี่แป้งยังไม่กลับจากกรุงเทพ เห็นโทรมาบอกว่าจะกลับมาในวันที่สิบนี่แหละ
บอสล้างจานไปด้วยนั่งฟังผู้ใหญ่บ้านไปด้วย หลังจบประชาสัมพันธ์ก็จะเปิดเพลงส่งท้าย เป็นแบบนี้อยู่ทุกวัน “วันนี้ตอนบ่ายไปเอาต้มไก่เหรอ เลี้ยงบ้านเหรอ” บอสรำพึงรำพันกับตนเอง ถึงแม้ว่าแต่ละปีจะได้ต้มไก่กันมานิดเดียว หากเอามารวมกันก็ได้เยอะพอกิน
มีอีกหนึ่งสิ่งที่เธอจะต้องทำในวันนี้คือย้อมสีผม ทั้งผมของเธอ ของน้องบีม และของพิมพ์กับแพรวด้วย ก่อนหน้านี้พวกเธอพากันย้อมสีผมต้อนรับสงกรานต์ที่ผ่านมา ตอนนี้ใกล้จะเปิดเทอมแล้วต้องย้อมสีดำกลับคืน และไปตัดผมสั้นก่อนที่โรงเรียนจะเปิด ทุกอย่างต้องพร้อม เสื้อผ้าหน้าผมต้องเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกอย่าง
บอสล้างจานเสร็จเรียบร้อยนำจานเข้าไปเก็บในครัวให้ยาย พระอาทิตย์เริ่มทอแสงออกมาให้บรรยากาศมันสว่างมากยิ่งขึ้น แบบนี้หน่อย ! บอสนึกในใจเมื่อเห็นแดดเริ่มออก เกรงว่าฝนจะตกอีกในรอบกลางวัน สิ่งที่คิดเอาไว้เกรงว่าจะไม่ได้ทำหากฝนตก
เมื่อเสร็จภาระกิจหน้าที่ บอสไม่รู้จะทำอะไรก็เปิดทีวีดู วันนี้เป็นวันเสาร์มีรายการทีวีให้ดูมากมาย ยายก็ไม่บ่น เมื่อเธอเปิดทีวีน้องบีมคงได้ยินเสียงทีวีจึงตื่น เดินออกมาจากห้องนอนของยาย หน้าบูดหัวฟูลากผ้าห่มผืนบาง ๆ เดินออกมาจากในห้องด้วย แล้วก็มานอนลงข้าง ๆ ดูทีวีกับเธอ
“ไปล้างหน้าอาบน้ำเลยบีม” บอสสั่งน้องสาว แต่ก็ไม่ได้บังคับ
“แป๊บ ขอดูการ์ตูนก่อน” น้องบีมตอบ พวกเธอสองพี่น้องนอนดูทีวีด้วยกัน ส่วนพี่ปาวเมื่อทำกับข้าวเสร็จนั่งเล่นที่เปลหน้าบ้านกับยาย รอพี่บอมกลับมาจากนาค่อยทานข้าวเช้ากัน ส่วนพี่บอลก็ยังไม่ตื่น ยายก็ยังไม่ทันได้ปลุก
“พุ้นอี่นึงตื่นขึ้นมาหน้าบ่ล้างไปนอนเฮียงเขาเบิ่งโทรทัศน์ล่ะ” ยายแซวน้องบีมด้วยท่าทางขบขัน เธอกับน้องสาวหันไปมองยายพร้อมหัวเราะชอบใจ น้องบีมก็ไม่สนใจยังไม่ยอมไปล้างหน้าแปรงฟัน ยังนอนดูการ์ตูนกับเธอต่อไป
สักพักพี่บอมก็กลับมาถึงบ้านพร้อมถุงตาข่ายสีน้ำเงิน ข้างในมีปลาช่อนและปลาหมอหลายตัวมาก ยายตื่นเต้นมาก ๆ ด้วยเช่นกัน ที่วันนี้จะมีกับข้าวอร่อย ๆ อีกวันแล้ว ไม่ต้องซื้อให้เปลืองตังค์ หน้าฝนกำลังจะมาเยือน จะเป็นช่วงที่ครอบครัวของเธอไม่เปลืองค่ากับข้าวมากที่สุด มีอะไรก็กินอันนั้น
ยายรับถุงตาข่ายกับหลานชายคนโต แล้วรีบนำไปเทใส่กะละมังหาอะไรมาปิดขังเอาไว้ทำกับข้าวตอนเย็น ที่นาของเธอตาจะทำต้อนและหลี่ไว้ดักปลา หรือเรียกว่าทำที่ดักปลา ไว้ดักเวลาฝนตกน้ำในนาจะไหลลงลำห้วย ก็จะมีปลาหลากหลายไหลไปตามสายน้ำ ตาก็เอาเยอหรือตาข่ายสีน้ำเงินไปดักเอาไว้ ตอนเช้าค่อยไปดูจะได้ปลาที่มาติดกับดักเยอะมาก
“บอสพี่มาถึงแล้ว ปิดทีวียกสำรับออกไปทานข้าวเช้า มืงเปิดอะไรนักหนาเดี๋ยวหนิ” นั่นไงพอหลานชายมาแล้วก็บ่น ทั้งที่เปิดตั้งนานแล้วไม่บ่นพึ่งจะมาบ่นเอาตอนนี้ บอสฟึดฟัดให้ยายเบา ๆ โดยที่ยายไม่ทันได้เห็น
“บีมลุกไปล้างหน้ามาหากินข้าวเลยมืง” บอสหันไปเอ็ดน้องบีมต่อ ส่วนตนเองก็ลุกเดินเข้าไปในครัว ช่วยพี่ปาวยกสำรับกับข้าวออกไปที่แคร่หน้าบ้าน น้องบีมลุกไปล้างหน้าตามที่เธอสั่ง ส่วนพี่บอมอาบน้ำที่ห้องน้ำข้างนอก
“บักนึงไปไสล่ะ คือบ่ลุกบ่ตืน บอล ! มืง...” ยายเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน ยืนอยู่ขั้นบันไดเรียกหลานชายคนเล็กให้ตื่น และก็บ่นให้พี่บอลยาว ๆ หลายประโยค สุดท้ายพี่บอลก็ต้องตื่นตามคำบ่นของยายจนได้ เดินลงมาล้างหน้าแปรงฟันทานข้าวเช้า
สรุปสุดท้ายทุกคนก็ได้ทานข้าวเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากัน ยกเว้นตาที่พาวัวไปทุ่งแต่เช้าพร้อมเสบียงที่ยายทำเมนูง่าย ๆ ให้ ตาก็ไม่เคยปริปากบ่น พวกเธอทานมื้อเช้ากันที่แคร่หน้าบ้าน เป็นภาพที่อบอุ่นสำหรับใครที่ผ่านมาพบเห็น กับข้าวไม่หรูหราเป็นกับข้าวบ้าน ๆ ทว่าเต็มไปด้วยความอร่อยที่แสนมีความสุข
นั่งทานข้าวได้สักพักยายพรก็หาบขนมมาขาย วันนี้ไม่เข็นใส่ล้อไม้มา ยายพรเหลือลูกค้าคนสำคัญอยู่คนเดียวคือน้องบีม เพราะพวกเธอโตกันหมดแล้ว ไม่ค่อยกินขนม ยายพรหาบขนมขายตั้งแต่พวกเธออยู่ประถม จนตอนนี้ก็ยังไม่เลิกขายเลย ยายพรไม่มีหน้าร้าน ทว่าใช้วิธีเดินหาบขายแบบนี่ทุกวัน
“กินขนมไหมเด็ก ๆ “ ยายพรถามเป็นภาษากลางอย่างตลก น้องบีมดูจะตื่นเต้นกว่าใคร ๆ หยุดทานข้าวลุกขึ้นลงจากแคร่ไปยืนรอยายพรกันเลย ก็ต้องโดนยายเอ็ดไปหนึ่งที
“ยายพรวันนี้มีขนมอะไร” น้องบีมถามเมื่อยายพรมาถึงก็วางตะกร้าลงกับพื้นปูนหน้าบ้าน น้องบีมนั่งลงเลือกอย่างคุ้นเคย
“มากินข้าวพร” ยายเรียกยายพรมาทานข้าวด้วยกัน
“เอาเลยแม่ใหญ่ ได้หยังกิน เด็กน้อยเขามูหนิเปิดเทอมมื้อใด” ยายพรตอบ บ้านของยายพรอยู่คุ้มใต้ ใกล้ ๆ กับบ้านพี่ปาวพี่แป้ง “ผุนึงบ่ทันมาตะกรุงเทพบ่”
“เปิดเทอมวันที่ 16 นู่นแหละ“ พี่ปาวตอบ “แป้งมาวันที่ 10 จ้า”
“บีมรีบเลือกยายพรจะไปขายให้คนอื่นต่อ” ยายสั่งน้องบีมที่ดูเหมือนจะใจเย็นเหลือเกิน “พึ่งจะกินข้าว ก็ไปกินขนมก่อนละ”
“ให้มันเลือกโลดยาย บ่ฟ้าวหรอก” เพราะลูกค้าประจำ แวะมาทีไรได้ขายทุกทีสำหรับบ้านหลังนี้ น้องบีมไม่เคยพลาด ยายพรจึงไม่รีบเร่งนัก “ตาพาวัวออกไปนาบ่”
“แมน”
“ยายบอสเอานำน้องบีมด้วยเด้อ” บอสขอยายไม่ทันที่ยายจะได้อนุมัติ บอสก็ลงไปเลือกขนมกับน้องสาว เธอได้ขนมสังขยามาสองห่อ น้องบีมได้ขนมหม้อแกง
“นั่น ! จะแมนน้อสู เอาบ่ซุมใหญ่หนิ” ยายบ่นพร้อมรูดซิปกระเป๋าที่เสื้อชั้นในที่สวมอยู่ เปิดควักเงินค่าขนมให้แก่ยายพร “ไปหาเลือกเอาแหมะ ซูกินบ่”
“หื่อ ! บ่อยาก” พี่ ๆ ทั้งสามคนไม่มีใครลงมาเลือกขนมเลย ไม่ใช่ว่าโตแล้วไม่กิน แต่เพราะขนมยายพรไม่น่ากินต่างหาก
“มันดีตะสูนั่นล่ะ จักบาทพร”
“ยี่สิบบาทยาย” ยายควักเงินจ่ายให้กับยายพรไป “มื้อแลงเพิ่นเลี้ยงบ้านแมนบ่ยาย ได้ยินผู้ใหญ่บ้านประกาศหวาเมื่อเช้าหนิ เด็กน้อยอย่าลืมไปเอาต้มไก่เด้อมื้อแลง” ยายพรถามยายพร้อมหันมาคุยกับพวกเธอ
“เลี้ยงบ้านตั้วมื้อแลง บ่เป็นตะแล้งหรอกปีนี่ ฝนตกแฮงโพดมื้อคืน เลี้ยงบ้านแล้วสิให้ตาเอาข้าวปลูกลงอยู่หนิ” ยายกับยายพรสนทนากัน
“ พ่อเด็กน้อยเขามูหนิสิมาเฮดนาบ่ล่ะยาย ฮือให้ยายเฮดให้คือเก่าบ่ “ยายพรพูดถึงลุงป้าพ่อแม่พี่สาวกับพี่ชาย นาของพี่บอมอยู่แถว ๆ นาของเธอ ตากับยายแบ่งให้ลูก ๆ เท่า ๆ กัน ยกเว้นแม่ของเธอที่ดูจะได้เยอะกว่าใคร ๆ เพราะเป็นคนดูแลตากับยาย เป็นสมบัติของตาที่ถางป่าเองในสมัยก่อน ถางเสร็จก็ทำโฉนดเลย ส่วนนาของพี่ปาวจะอยู่อีกหมู่บ้าน เป็นสมบัติของฝั่งยายที่ได้มาจากยายทวดแม่ของยายเอง
“ว่าสิมาอยู่เด้ล่ะปีหนิ บอกพ่อเอาข้าวปลูกลงไว้ให้ยุ แต่ของสองหนิบ่มา”
“ปลาลงต้อนหลายบ่ยาย คือสิลงคักเป็นตะสะออนน้อ” ยายพรถามไปเรื่อยตามประสาคนรู้จักกัน และเป็นลูกค้าขาประจำกันกับน้องบีม “บ่อึดแนวกินแล้วยามฝน”
“พอได้อยู่ เด็กน้อยเอามามื้อเช้าหนิ” ยายตอบ สองสามวันมานี่ฝนตกบ่อย น้ำหลาก ตาทำที่ดักปลาเอาไว้ ได้ปลาติดไม่ติดมือมาทุกวัน ยายกับยายพรคุยกันไปตามประสา ส่วนพวกเธอก็นั่งฟัง ที่สำคัญบ่ายสามโมงไม่ลืมไปเอาต้มไก่ที่ดอนปู่ตาแน่นอน
เมื่อยายพรไปแล้วเหตุการณ์กลับมาปกติ น้องบีมนั่งทานข้าวเหมือนเดิม ส่วนเธออิ่มแล้ว และนั่งทานขนมต่อที่เปล นั่งมองยายและพี่ ๆ กับน้องบีมทานข้าวกัน มองไปที่ผมของน้องบีมตอนนี้มันยาวบ้างแล้ว ทำให้ผมกลายเป็นสองสี ตรงโคนผมเป็นสีดำปลายผมสีทอง มองน้องบีมแล้วนึกอะไรตลก ๆ แอบยิ้มให้น้องสาว มองไปมันก็ตลกจริง ๆ ผมสองสี ของเธอเมื่อคนอื่นมองมาก็คงจะตลกแบบนี้สินะ วันนี้แหละที่เธอจะย้อมผมกลับคืนเป็นสีดำทั้งหัว
“บีมทำสีผมคืนมั้ย หรือจะปล่อยไว้แบบนี้” บอสถามน้องสาว จะได้ซื้อสีย้อมผมมาเผื่อด้วย
“หื่อ ! ไม่ย้อมคืน” ตอบคำถามของเธอแต่ไม่หันหน้ามามอง เพราะกำลังทานข้าวอยู่
“เดี๋ยวครูก็ด่า ก็ได้กลับมาย้อมคืนเหมือนเดิม” พูดพร้อมปรายตามองน้องสาว บอสนอนเล่นที่เปลกินขนมที่ซื้อจากยายพรอย่างสบายใจ น้องบีมไม่อยากย้อมผมคืนก็ไม่เป็นไร ตามใจเลย
พี่ปาวยิ้มหันหน้ามามองเธอ “บอส แกว่าครูโรงเรียนประถมเข้มงวดเหมือนครูโรงเรียนเราด้วยเหรอ”
“เออนั่นดิพี่ปาว ถ้าเป็นโรงเรียนเรานะเปิดเทอมไปวันแรก เห็นผมแดง ๆ ยาว ๆ มาหนิ บรรจงชอบนัก !” บอสพูดถึงครูฝ่ายปกครองที่โหดที่สุดของโรงเรียน ตามด้วยเสียงหัวเราะของพี่ ๆ บอสเชื่อว่าหน้าของครูบรรจงต้องลอยมาในหัวของพี่ ๆ แน่นอน
“บอสจะย้อมคืนอยู่ พี่ปาวตัดผมให้บอสด้วยนะ”
“พี่ตัดไม่เป็น ค่อยตัดรอพี่แป้งมาก่อน”
“ก็ได้ !” บอสไม่ขัด รอพี่แป้งก็รอ พวกเธอเป็นผู้หญิง ตัดให้กันเองได้ โดยเฉพาะพี่แป้งที่มีฝีมือในการตัดผมมาก ๆ แค่ทรงนักเรียน พวกเธอไม่สันทัดเท่าไหร่ ไม่ได้ห่วงสวยห่วงไปก็เท่านั้น ก็ได้ทรงนักเรียนเท่าติ่งหูอยู่ดีสำหรับ ม.ต้น ส่วนพี่บอมพี่บอลต้องไปหาช่าง ให้ช่างตัดให้เท่านั้น เพราะเป็นผู้ชาย
เมื่อยายกับพี่ ๆ ทานมื้อเช้ากันอิ่มแล้ว บอสก็เข้าไปช่วยยกสำหรับไปเก็บ ล้างจาน ปัดกวาดแคร่ออกให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป พี่บอลกับพี่บอมไปทุ่งหาตา เมื่อคืนฝนตกน้ำหลาก ต้องมีปลาเยอะแน่ เมื่อเช้าพี่บอมถือมาก็เยอะ ตาจึงให้กลับไปอีก ส่วนพี่ปาวไม่ได้ไปไหนอยู่บ้านนอนคุยโทรศัพท์กับพี่อุ้ยเช่นทุกวัน น้องบีมก็ไม่ไปเล่นที่ไหนด้วย
หลังทานข้าวเช้าเสร็จ ยายก็เดินไปหาทำของที่จะไปเซ่นไหว้ดอนปู่ตา การเลี้ยงบ้านหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเลี้ยงปู่ คนในหมู่บ้านสมมุติขึ้นมา และนับถือกันไปตามวิถีชีวิต คล้าย ๆ ผีแถนของบุญบั้งไฟ
ยายเดินไปหาทางมะพร้าวมาเท่าจำนวนคนในครอบครัว ครอบครัวของเธอ ครอบครัวของพี่ปาวพี่แป้ง ครอบครัวของพี่บอมพี่บอล ยายไม่ลืมที่จะทำให้ลูก ๆ ด้วย เพราะไม่ได้อยู่บ้าน ต้องไปหางานทำที่กรุงเทพกัน ยายก็ทำแทนหมด นอกจากจะทำเท่าจำนวนคนแล้ว ยังต้องทำเท่าจำนวนสัตว์เลี้ยงด้วยว่ามีกี่ตัว