คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
คีย์ของการลดความอ้วน คือการพยายามใช้ "ไกลโคเจน" ให้พร่องมากที่สุดในแต่ละวัน เพื่อเวลากินอาหาร อินซูลิน จะได้นำพลังงานไปสะสมในไกลโคเจน (ที่พร่องนั้น) แทนที่จะนำไปสะสมในเซลล์ไขมัน
วิธีที่จะพร่องไกลโคเจนได้มากที่สุด มี 2 แนวทาง คือ 1. แนวทางออกกำลังกาย-สร้างกล้ามเนื้อ หรือ 2. แนวทางกินคีโต
แนวทางออกกำลังกาย-สร้างกล้ามเนื้อ แน่นอน คุณจะต้องสร้างกล้ามเนื้อก่อนเป็นอันดับแรก ทั้งกล้ามเนื้อขา แขน ลำตัว อก ไหล่ ... โดยปกติ กล้ามเนื้อจะใช้พลังงานจากไกลโคเจนเป็นหลัก คนที่มีกล้ามเนื้อเยอะมักจะทำอะไรไม่ค่อยเหนื่อย เพราะร่างกายจะใช้ไกลโคเจนแทนไขมัน ยิ่งเวลาคุณคาร์ดิโอ้ด้วยกล้ามเนื้อขา ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายใช้ไกลโคเจนจนมันพร่องลงมากมายในแต่ละวัน และเมื่อคุณกินอาหารมื้อต่อไป พลังงานส่วนใหญ่ของอาหารจะเข้าไปเก็บในไกลโคเจนแทนที่จะเก็บในเซลล์ไขมัน เมื่อไขมันไม่ได้รับการสะสมเพิ่มขึ้น มีแต่จะใช้ออกไป (จากการออกกำลังกายและชีวิตประจำวัน) คุณก็จะค่อยๆ ผอมลงไปเรื่อยๆ อย่างมีสุขภาพดี และมีรูปร่างที่ดีจากการออกกำลังกาย
แนวทางกินคีโต การกินคีโต ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถพร่องไกลโคเจนได้โดยไม่ต้องสร้างกล้ามเนื้อและออกกำลังกาย โดยการที่คุณต้องกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตน้อยมากๆ ประมาณ 5% ของอาหารทั้งหมด เพื่อที่จะไม่กระตุ้นอินซูลินเพื่อนำพลังงานเข้าเก็บในไกลโคเจน และเมื่อไกลโคเจนคุณน้อยลง ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนต่างๆ เพื่อดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน (โดยการสร้างเป็นสารคีโตบอดี้ส์ และ Gluconeogenesis) และมันจะทำไปตลอดทั้งวัน (เมื่อร่วมกับแนวทาง IF) ทำให้ร่างกายคุณผอมลงไปเรื่อยๆ
ก็แล้วแต่ว่าจะชอบแนวทางไหน ลองศึกษาดูครับ หรือจะเป็นแนวทางระหว่างกลางของทั้งคู่ ที่คนส่วนใหญ่นิยมกันก็คือ ออกกำลังกายประมาณนึง (ไม่ได้เน้นสร้างกล้ามเนื้อมากนัก) และกินคลีน ร่วมกับการทำ IF
สำหรับแนวทางที่ จขกท ทำมานั้น อาจยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะพร่องไกลโคเจนได้มากนัก เพราะแบบที่บอก ไกลโคเจนจะพร่องลงอย่างมาก ก็ต้องด้วยแนวทาง 2 - 3 แนวทางที่ผมว่าไว้ข้างต้นครับ
วิธีที่จะพร่องไกลโคเจนได้มากที่สุด มี 2 แนวทาง คือ 1. แนวทางออกกำลังกาย-สร้างกล้ามเนื้อ หรือ 2. แนวทางกินคีโต
แนวทางออกกำลังกาย-สร้างกล้ามเนื้อ แน่นอน คุณจะต้องสร้างกล้ามเนื้อก่อนเป็นอันดับแรก ทั้งกล้ามเนื้อขา แขน ลำตัว อก ไหล่ ... โดยปกติ กล้ามเนื้อจะใช้พลังงานจากไกลโคเจนเป็นหลัก คนที่มีกล้ามเนื้อเยอะมักจะทำอะไรไม่ค่อยเหนื่อย เพราะร่างกายจะใช้ไกลโคเจนแทนไขมัน ยิ่งเวลาคุณคาร์ดิโอ้ด้วยกล้ามเนื้อขา ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายใช้ไกลโคเจนจนมันพร่องลงมากมายในแต่ละวัน และเมื่อคุณกินอาหารมื้อต่อไป พลังงานส่วนใหญ่ของอาหารจะเข้าไปเก็บในไกลโคเจนแทนที่จะเก็บในเซลล์ไขมัน เมื่อไขมันไม่ได้รับการสะสมเพิ่มขึ้น มีแต่จะใช้ออกไป (จากการออกกำลังกายและชีวิตประจำวัน) คุณก็จะค่อยๆ ผอมลงไปเรื่อยๆ อย่างมีสุขภาพดี และมีรูปร่างที่ดีจากการออกกำลังกาย
แนวทางกินคีโต การกินคีโต ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถพร่องไกลโคเจนได้โดยไม่ต้องสร้างกล้ามเนื้อและออกกำลังกาย โดยการที่คุณต้องกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตน้อยมากๆ ประมาณ 5% ของอาหารทั้งหมด เพื่อที่จะไม่กระตุ้นอินซูลินเพื่อนำพลังงานเข้าเก็บในไกลโคเจน และเมื่อไกลโคเจนคุณน้อยลง ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนต่างๆ เพื่อดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน (โดยการสร้างเป็นสารคีโตบอดี้ส์ และ Gluconeogenesis) และมันจะทำไปตลอดทั้งวัน (เมื่อร่วมกับแนวทาง IF) ทำให้ร่างกายคุณผอมลงไปเรื่อยๆ
ก็แล้วแต่ว่าจะชอบแนวทางไหน ลองศึกษาดูครับ หรือจะเป็นแนวทางระหว่างกลางของทั้งคู่ ที่คนส่วนใหญ่นิยมกันก็คือ ออกกำลังกายประมาณนึง (ไม่ได้เน้นสร้างกล้ามเนื้อมากนัก) และกินคลีน ร่วมกับการทำ IF
สำหรับแนวทางที่ จขกท ทำมานั้น อาจยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะพร่องไกลโคเจนได้มากนัก เพราะแบบที่บอก ไกลโคเจนจะพร่องลงอย่างมาก ก็ต้องด้วยแนวทาง 2 - 3 แนวทางที่ผมว่าไว้ข้างต้นครับ
แสดงความคิดเห็น
ถามเรื่อง ลดน้ำหนักแบบคุมอาหาร นับแคลมาแล้ว 1 เดือน แต่ไม่ลดเลย สัดส่วนเพิ่มด้วย
TDEE = 1634 kcal
น้ำหนัก 56
สูง 160
ผู้หญิง
คุมอาหารโดยการกินวันละไม่เกิน 1300 kcal
แต่ไม่ได้งดของมันของทอด แต่กินน้อยลงมาก
กินข้าวขาวแต่กินน้อยลง เน้นกินของที่มีประโยชน์มากขึ้น ยังมีกินขนมหวาน วันไหนที่กินขนมหวาน ก็จะกินอย่างอื่นน้อย
ควบคุม ไม่ให้เกิน 1300 kcal ต่อวัน อาจมีบางวัน ที่เกินบ้าง
ผลที่ได้ Calorie Balance ส่วนต่างในหนึ่งเดือน คิดโดยใช้ 1634 - พลังงานที่กินต่อวัน
รวมแล้วได้ 10,063 kcal
แต่น้ำหนักไม่ลดลงเลย นอกจากนี้ เอวยังเพิ่มขึ้นมา เกือบ 1 นิ้ว
จึงมีคำถาม อยากให้ช่วยอธิบายว่าทำไมถึงไม่ผอมลง และแนวทางการปฏิบัติเพื่อลดน้ำหนักต่อไป
ขอขอบคุณล่วงหน้าจ้า