คือเราไปอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่ง เค้าบอกว่าถ้าเราต้องการลดน้ำหนักควรทานอาหารประมาณ 1000-1200 kcal (เค้าบอกว่าปกติเราต้องการอาหารประมาณวันละ 2000 kcal ถ้าต้องการลดน้ำหนักควรทานน้อยกว่านี้) เราก็ทำตาม คือทานประมาณ 1200 kcal ต่อวัน มาได้ประมาณ 4 สัปดาห์แล้ว ทานครบ 3 มื้อ แต่เพิ่งจะมาเริ่มออกกำลังกายเอาตอนสัปดาห์ที่ 4 ซึ่งเราเพิ่งหาข้อมูลแบบจริงจัง ก็พบว่าความจริงแล้วเราควรทานกี่แคลอรี่นั้นขึ้นอยู่กับค่า BMR และค่า TDEE ซึ่งค่านี้จะแตกต่างกันไปตามตัวบุคคล (ของเราได้ค่า BMR = 1457 ส่วนค่า TDEE = 2130) ความเป็นจริงคือเราไม่ควรทานต่ำกว่าค่า BMR (เป็นค่าพลังงานขั้นต่ำที่ร่างกายต้องการเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตอยู่ในแต่ละวัน) เพราะถ้าต่ำกว่านั้นร่างกายจะเข้าสู่โหมดจำศีล คือพยายามเผาผลาญพลังงานให้น้อยลง เนื่องจากร่างกายได้รับพลังงานน้อยเกินไป ถ้าจะให้ถูกต้องเราต้องทานให้ต่ำกว่าค่า TDEE ประมาณ 500 kcal (TDEE คือค่าพลังงานที่ร่างกายต้องการใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน) ซึ่งสำหรับเราควรทานประมาณ 1630 kcal แต่ที่ผ่านมาตลอด 4 สัปดาห์ เราทานแค่ 1200 kcal มาโดยตลอด (ต่ำกว่าค่า BMR ซะอีก)
แบบนี้ระบบเผาผลาญเราจะเสียรึเปล่าคะ ถ้าเราจะกลับมาทานให้มากขึ้นมันจะโยโย่รึเปล่า แล้วถ้าโยโย่ เราต้องอดทนไปอีกนานแค่ไหนกว่าระบบเผาผลาญจะกลับมาทำงานปกติ แล้วมีวิธีช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญให้ทำงานมากขึ้นมั้ยคะ ทุกวันนี้ก็พยายามออกกำลังกายช่วยทุกวัน อยากรู้ว่าต้องออกกำลังหนักแค่ไหนถึงจะช่วยได้ เสียใจจัง รู้ตัวช้าไป T_T
รู้ตัวช้าไป แบบนี้ระบบเผาผลาญเราจะพังมั้ยคะ?
แบบนี้ระบบเผาผลาญเราจะเสียรึเปล่าคะ ถ้าเราจะกลับมาทานให้มากขึ้นมันจะโยโย่รึเปล่า แล้วถ้าโยโย่ เราต้องอดทนไปอีกนานแค่ไหนกว่าระบบเผาผลาญจะกลับมาทำงานปกติ แล้วมีวิธีช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญให้ทำงานมากขึ้นมั้ยคะ ทุกวันนี้ก็พยายามออกกำลังกายช่วยทุกวัน อยากรู้ว่าต้องออกกำลังหนักแค่ไหนถึงจะช่วยได้ เสียใจจัง รู้ตัวช้าไป T_T