คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
โยโย่เกิดจากการกินเยอะในขณะที่ร่างกายยังชินกับการเผาผลาญได้น้อย
เหมือนคนกิน 1000 ตลอด วันนึงกิน 1300 อย่างถ้าคุณกิน 1300 แล้ว maintain ได้ตลอด
ไม่รู้สึกโหยหรือตบะแตก ก็จะไม่เกิดการโยโย่ แต่ถ้าวันนึงอยากกลับมาทาน 1500 ก็มีสิทธิ์น้ำหนักขึ้น
ลองทานของแคลอรี่สูงขึ้นมาหน่อยดู เช่นข้าวโอ๊ต เนยถั่ว กราโนล่า แปปเดียวก็ถึง 1500 แล้วค่ะ
เหมือนคนกิน 1000 ตลอด วันนึงกิน 1300 อย่างถ้าคุณกิน 1300 แล้ว maintain ได้ตลอด
ไม่รู้สึกโหยหรือตบะแตก ก็จะไม่เกิดการโยโย่ แต่ถ้าวันนึงอยากกลับมาทาน 1500 ก็มีสิทธิ์น้ำหนักขึ้น
ลองทานของแคลอรี่สูงขึ้นมาหน่อยดู เช่นข้าวโอ๊ต เนยถั่ว กราโนล่า แปปเดียวก็ถึง 1500 แล้วค่ะ
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ลดความอ้วน
สงสัยเกี่ยวกับค่า BMR ค่ะ
จขกท น้ำหนัก73 kg. สูง 166 cm.
ได้ค่า BMR = 1565 kcal
TDEE ถ้าออกกำลังกาย 3-5 วัน/สัปดาห์ จะได้= 2426 kcal
ต้องการลดน้ำหนักให้เหลือ 60 kg. ใน 100 วัน
ในโปรแกรมบอกว่าต้อง ลดพลังงาน 860 kcal ต่อวัน
ปริมาณพลังงานที่แนะนำต่อวัน 1566 kcal
แต่ตัว จขกท เองรู้สึกว่ามันมากไปและน้ำหนักก็ไม่ค่อยลดด้วย และต้องพยายามที่จะกินให้ครบ 1566 ถ้าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไขมันต่ำ น้ำตาลต่ำมันจะต้องกินเยอะมากและอิ่มมากค่ะ ที่จะกินให้ครบ บางวันกลัวว่าถ้ากินน้อยกว่าค่า bmr จะเกิดโยโย่ ก็เลยหาอาหารที่พลังงานสูงๆมากินให้มันครบๆ
ทุกคนคงสงสัยว่าแล้วที่ผ่านมาทำไม ถึงอ้วนได้ถ้าปกติกินน้อย คือ จขกท ไม่ค่อยกินข้าวหรืออาหารหลักเยอะๆอยู่แล้วค่ะที่ทำให้อ้วนน่าจะเป็นเพราะน้ำหวาน ขนมต่างๆ ที่กินจุบจิบทั้งวัน
แต่มาช่วงลดน้ำหนักนี้ก็ไม่ได้กินแล้วค่ะพวกน้ำหวาน ขนม อาจมีบ้างวันละประมาน 100-200 kcal ไม่เกินนี้
จึงอยากถามว่าถ้าเราจะกินให้น้อยกว่าค่า bmr ให้เหลือสักประมาณ 1300 kcal จะทำให้เกิดโยโย่ไหมคะ