รื่องโดย ฉัตรชณา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนก่อนหน้า
บทนำ : https://ppantip.com/topic/36780425
บทที่ 1 : https://ppantip.com/topic/36784782
บทที่ 2 : https://ppantip.com/topic/36808468
บทที่ 3 : https://ppantip.com/topic/37543715
บทที่ 4 : https://ppantip.com/topic/37545296
บทที่ 5 : https://ppantip.com/topic/37548724
บทที่ 6 (1/2) : https://ppantip.com/topic/37552736
บทที่ 6 (2/2) : https://ppantip.com/topic/37557798
บทที่ 7 : https://ppantip.com/topic/37565274
บทที่ 8 (1/3) : https://ppantip.com/topic/37575085
ตอนต่อไป
บทที่ 8 (3/3) : https://ppantip.com/topic/37603313
บทที่ 8 (2/3)
แผนรุกข้ามขั้น
เด็กหนุ่มร่างผอมบางท่าทางขี้โรคนอนมองหน้าเจ้าของร่างสูงที่เดินตามพี่สาวของเขาเข้ามาในห้องด้วยแววตาสงสัย สารินอยากจะถามออกไปตั้งแต่ทีแรกอยู่เหมือนกันว่าเขาเป็นใครแต่ติดที่มีสายตาของลัลนาคอยจ้องคอยปรามเด็กหนุ่มจึงไม่กล้าถามเขาออกไปตรงๆ ได้แต่รอเวลาให้พี่สาวของเขาออกไปจากห้องก่อน จากนั้นจึงส่งสายตามายังสิสิระว่าไม่ต้องตามเธอออกไป และอยู่รอพูดคุยกับเขาก่อน
“คุณเป็นใครเหรอฮะ เป็นแฟนพี่ลัลรึเปล่า” เด็กหนุ่มถามขึ้นทันทีที่ร่างบางของลัลนาลับหายออกไปจากห้อง
เอ่ยถามออกไปแล้วสารินก็เป็นฝ่ายลุ้นรอคำ เขาเฝ้าภาวนาอยู่ทุกวันว่าขอให้พี่สาวของเขาได้เจอคนดีๆ ที่สามารถดูแลเธอได้สักที ในที่สุดพระก็เริ่มจะรับฟังคำขอของเขาบ้างแล้ว
“แล้วเราคิดว่าไงล่ะ อยากให้เป็นหรือว่าไม่เป็น” สิสิระมองหน้าของเด็กหนุ่มที่อายุครบสิบเจ็ดปีไปแล้วแต่ร่างกายกลับผ่ายผอม ตัวเล็กเหมือนเด็กที่เพิ่งจะพ้นสิบขวบมาไม่กี่ปี แล้วย้อนเหมือนลองเชิง
“อืม... ไม่รู้สิ” สารินมีสีหน้าลังเลคล้ายไม่แน่ใจว่าเขาควรจะตอบเจ้าของร่างสูงอย่างไรดี ทว่าสุดท้ายก็ยอมตอบออกไป “ก็ต้องแล้วแต่ว่าพี่ลัลจะชอบคุณรึเปล่า แต่ถ้าเป็นก็ดี พี่ของผมจะได้มีคนมาดูแลซะที”
“พูดเหมือนปกติพี่เราเขาไม่มีใครอย่างนั้นแหละ”
“ก็ไม่มีน่ะสิ หรือว่าคุณเห็นว่ามี” สีหน้าขัดใจของสารินตอนที่เอ่ยว่าลัลนาไม่มีใคร ทำให้สิสิระนึกถูกชะตา ปนเอ็นดูน้องชายของหญิงสาวขึ้นมาครามครัน
“ก็... พอจะเห็นๆ อยู่นะ” ชายหนุ่มทำท่าคิด จากนั้นจึงจะบอกออกไป และนั้นก็มีผลให้สารินทำตาโต
“ใครฮะ อย่าบอกนะว่าเป็นพี่นะ” เด็กหนุ่มอยากรู้เสียจนจ้องหน้าเขาเป๋ง ขณะลุ้นรอฟังคำตอบ
“ทำไมล่ะ ไหนบอกว่าอยากให้มีคนดูแลพี่สาวไง หรือว่าไม่ชอบคนนี้” สิสิระพยายามล้วงความลับจากเด็กหนุ่ม ยิ่งสารินอยากรู้ ยิ่งง่ายสำหรับเขาที่จะควานหาข้อมูลของลัลนา ชายหนุ่มแกล้งถามทั้งพยายามเตะถ่วง ไม่ยอมตอบคำถามของสารินตรงๆ
“ก็... ไม่เชิงว่าไม่ชอบ แค่ไม่อยากให้เป็นพี่นะแค่นั้น” คนป่วยทำหน้ามุ่ยยามเอ่ยถึงวัฒนะ และนั่นก็ทำให้สิสิระยิ่งอยากจะรู้มากขึ้นว่าเป็นเพราะเหตุใด
“เพราะอะไร”
“เรื่องมันยาวฮะ เอาเป็นว่า ถ้าคุณเป็นแฟนพี่ลัลจริงๆ ผมจะได้วางใจ หมดห่วงเรื่องพี่นะซะที” สารินเลือกที่จะไม่ขยายความ เด็กหนุ่มคิดว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ รังแต่จะทำให้พี่สาวเขาต้องเสื่อมเสียมากกว่าจะได้รับความเห็นใจจากอีกฝ่าย
สิสิระยิ้มเย็น เกมนี้เห็นทีว่าเขาคงเล่นไม่ยาก เพราะดูจากท่าท่างแล้ว สารินน่าจะไม่ค่อยพอใจวัฒนะอยู่มาก เช่นนั้นถ้าเขาสามารถดึงน้องชายลัลนามาเป็นพวกได้ อย่างน้อยตอนที่เขาไม่อยู่ทางนี้ก็ยังมีคนช่วยเชียร์
“งั้นเอาไงดี จะเป็นหรือไม่เป็นดีนะ” สิสิระยังคงเล่นตัว
“สรุปว่ายังไงกันแน่ล่ะเนี่ย ผมชักงง” คนรอลุ้นชักไม่สบอารมณ์ ใบหน้าเล็กๆ ที่มีเค้าของลัลนา จึงยิ่งมุ่ยหนัก แถมยังทำเสียงออดราวกับมอดกัดไม้
“ถ้าเราอยากให้พี่เป็นแฟนลัล งั้น... พี่เป็นก็ได้ แต่เห็นที่ว่าเราคงต้องคอยช่วยพี่อีกแรง” ชายหนุ่มพูดอย่างเอาใจไปพร้อมๆ พยยามหาพวก ด้วยการสร้างเงื่อนไข แถมยังอุปโลกน์ยกตัวเองขึ้นมาเป็นพี่ชายของเด็กหนุ่มอีกต่างหาก
“ถ้าคุณชอบพี่ลัลจริงๆ และรับปากว่าจะดูแลพี่ผมอย่างดี จะให้ช่วยอะไรก็พูดมาได้เลย” สารินรับคำอย่างใจป้ำ ขอเพียงแค่กันลัลนาออกจากวัฒนะได้ จะให้ทำอะไร เขายอมทั้งนั้น
“พี่รับปากว่าจะดูแลลัลนาเป็นอย่างดี เป็นอันว่าเราตกลงกันตามนั้น”
“ว่าแต่ คุยกันตั้งนาน ผมยังไม่รู้เลยว่าพี่ชื่ออะไร” ในเมื่อเขายอมแทนตัวเองว่าพี่ สารินเองเป็นเด็กว่าง่าย การจะเรียกเขาว่าพี่ก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงของเขาเหมือนกัน
“พี่ชื่อสิสิระ ชื่อเล่นชื่อหมอก รินจะเรียกว่าพี่หมอกก็ได้” นี่เป็นครั้งแรกที่สิสิระยอมให้คนที่เพิ่งรู้จักกันเรียกชื่อเล่นของเขา เพียงเจอกันครั้งแรกแถมยังพูดจากันเพียงไม่กี่คำสารินก็สามารถทำให้ชายหนุ่มยอมสนิทสนมด้วยขนาดนี้ นับว่า แล้วเด็กหนุ่มเป็นคนที่พิเศษมากจริงๆ
“แล้วตกลงว่าพี่จะให้ผมช่วยอะไร”
“ช่วยเชียร์ ช่วยกัน แล้วก็ช่วยส่งข่าวเวลาที่มีใครมาเกาะแกะพี่สาวริน” สิสิระบอกกับเด็กหนุ่มแบบรวดเดียวจบ และสารินก็รับปากเขาในเกือบจะทันที
“เรื่องนั้นสบายมาก ติดแค่ว่าผมอยู่แต่ในโรงพยาบาล จะทำได้ก็แค่ตอนที่พี่ลัลมาเยี่ยมเท่านั้น”
“แค่นั้นก็พอถมเถแล้ว ที่เหลือพี่จัดการเอง”
“โอเค ฮะ ตกลงตามนั้น”
สองคนพากันหัวเราะหลังพูดจบ สิสิระยื่นมือไปตรงหน้า เด็กหนุ่มจึงยื่นมือมาจับ เป็นอันจบข้อตกลงระหว่างกัน
“แล้วพี่รู้จักกับพี่สาวผมได้ยังไงฮะ” สารินเอ่ยถาม
สิสิระจึงพยายามคิดทบทวนก่อนจะตอบออกไป “อืม...บังเอิญน่ะ มันเป็นอุบัติเหตุ”
“เหมือนในละครเลย” เด็กหนุ่มแสดงความคิดเห็นอย่างตื่นเต้น นัยน์ตาวาวราวกับเจอเรื่องถูกใจ เรียกรอยยิ้มของสิสิระออกมาจนเต็มหน้า
“ประมาณนั้น แต่อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยตรงที่ละครไม่ค่อยมีอุปสรรคเท่าของจริง”
“ยังไงฮะ”
“ก็...” สิสิระกำลังจะอ้าปากบอกสารินเรื่องบรรดาคู่แข่งของเขา ลัลนาพลันเดินกลับเข้ามาในห้อง พร้อมกับเอ่ยถามน้องชาย
“คุยอะไรกันอยู่เหรอริน หัวเราะเสียงดังเชียว”
“กำลังคุยกันเรื่องพี่ลัลอยู่ฮะ” เด็กหนุ่มตอบพี่สาวอย่างพาซื่อ ลัลนาจึงหันไปมองหน้าชายหนุ่ม เป็นเชิงถามว่าเขาคิดจะบอกอะไรกับน้องชายของเธอ
สิสิระรู้ว่าหญิงสาวคิดอย่างไรแต่เขาไม่ได้ตอบ เป็นสารินที่เอ่ยขึ้นมาแทน “รินกำลังถามพี่หมอกฮะ ว่ารู้จักกับพี่ลัลได้ยังไง”
คำเรียกสิสิระของสารินทำเอาลัลนาหันขวับไปมองน้องชาย จากนั้นจึงหันกลับไปยังร่างสูง ด้วยเธอนึกว่าตัวเองหูฝาด ทว่าก็ได้พบกับใบหน้ายิ้มระรื่นที่กำลังหรี่ตามองเธออย่างมีนัย ก่อนจะเอ่ย
“คุณจะเรียกผมเหมือนที่น้องคุณเรียกก็ได้นะ ผมไม่ว่า” ชายหนุ่มบอกพลางยิ้มในหน้า มิหนำซ้ำยังทำตาเชื่อมฉ่ำวาวชวนให้หมั่นไส้
ลัลนารู้สึกเหมือนตัวเธอเพิ่งจะเจอกับมนุษย์ต่างดาวก็ไม่ปาน หญิงสาวจึงจ้องมองเขาอย่างกังขา นี่มันหมายความว่าอะไรกัน สิสิระกำลังจะยกระดับเธอกับน้องชายให้เป็นคุ้นเคยของเขาอย่างนั้นหรือ
สิสิระเลิกคิ้วพลางพยักหน้าหงึกๆ ราวกับจะย้ำว่าเธอฟังไม่ผิด ลัลนาให้เกิดอาการขัดเขินขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน หญิงสาวจึงฃอ้อมแอ้มเอ่ยปฏิเสธ
“เอ่อ... อย่าเลยค่ะ เรียกอย่างเดิม น่าจะสะดวกใจกว่า”
นัยต์ตาคมของสิสิระพลันเผยแววกรุ้มกริ่มอย่างไม่อาจปกปิด เพราะในที่สุดเธอก็ยอมพูดกับเขาเสียที หลังจากที่หญิงสาวเอาแต่นิ่งถามอะไรไม่ตอบมาหลายชั่วโมงนับแต่ออกมาจากบ้าน
“แต่ผมอยากได้ยินคุณเรียกชื่อเล่นผมนะ จะได้สนิทกันมากขึ้นไง นะคุณนะ” ชายหนุ่มทำเสียงอ้อน พร้อมเขยิบร่างสูงเข้าไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลังลัลนา โบราณว่าตีเหล็กต้องตีตอนที่มันกำลังร้อน สิสิระรีบฉวยโอกาสตอนที่ลัลนากำลังงง เร่งรัดหญิงสาวให้ทำความสนิทสนมกับตนให้มากขึ้น ลืมไปเสียสนิทว่ากำลังอยู่ต่อหน้าเด็กหนุ่มผู้เป็นน้องชายของลัลนา ที่กำลังจ้องมองมายังเขาตาเป๋ง
“เยอะไปไหมคะ ไม่เห็นว่าจะเกี่ยวกันตรงไหน” ลัลนาปรามพร้อมกับเคลื่อนตัวออกห่าง หันไปมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ หญิงสาวเกรงว่าเขาจะเผลอพูดหรือทำอะไรแปลกๆ ออกมาต่อหน้าน้องชาย จนทำให้เขาสงสัย หารู้ไม่ว่าลับหลังเธอ สองคนนั่นทำข้อตกลงกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อเรากำลังทำความรู้จักกัน ขั้นตอนของการพัฒนาความสัมพันธ์ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด จริงไหมริน” สิสิระหันไปหาพวก โดยการดึงสารินให้เข้ามามีส่วนร่วม เด็กหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับยิ้มสดใส
ลัลนาเห็นหน้าน้องชายที่ดูจะมีความสุขมากกว่าปกติแล้วหญิงสาวจึงไม่อยากขัดคำของสิสิระ จึงเป็นอันว่าเข้าทางชายหนุ่มพอดี
“ผมก็แค่อยากให้เราทำความรู้จักกันให้มากขึ้น สนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้น คุณลองเปิดโอกาสเข้าถึงตัวตนของผมดูสักครั้ง รับรองว่าต่อไปคุณจะชิน” วิธีการพูดเข้าข้างตัวเองดูท่าว่าจะเป็นความถนัดพิเศษเฉพาะทางของสิสิระจริงๆ ลัลนาฟังเขาแล้วได้แต่ร้อนๆ หนาวๆ หญิงสาวรู้ว่าเขาไม่ได้หมายถึงแค่การทำความรู้จักกันธรรมดาๆ ทว่าหมายความรวมไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นด้วย หญิงสาวได้แต่ค้อนเขาพร้อมกับเอ่ยค่อนอยู่ในใจว่า คนอะไรอะไรช่างพูดจาหาเหตุหาประโยชน์เข้าตัวเองได้ตลอดเวลา
“คุณนี่ก็แปลกเหมือนกันนะคะ ลัลชักจะตามคุณไม่ทันจริงๆ” ลัลนาพูดเฉไฉค่อนว่าเขามากว่าจะชม
“ไม่เห็นจะแปลกเลย อย่าคิดมากสิคุณ แค่ปล่อยตัวเองไปตามสบาย ไม่ช้าเราก็จะคุ้นเคยกันไปเอง” สิสิระยังคงแก้ต่างสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองทว่าสำหรับลัลนาแล้วมันกลับฟังดูกำกวมเสียจนเธอชักอ่อนใจ จะมีก็แต่สารินเท่านั้น ที่คิดตามนัยระหว่างพี่สาวกับว่าที่พี่เขยไม่ออก ได้แต่พยักหน้าตามๆ ไปแบบไม่รู้ความ
“เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่าไหมคะ คุยเรื่องนี้แล้วมันรู้สึกพิกลๆ ยังไงไม่รู้” หญิงสาวเอ่ยออกมาตรงๆ เพราะทนฟังสิ่งที่เขาพูดให้เธอคิดต่อไปไม่ไหว
“เปลียนก็ได้ รินอยากกินอะไรรึเปล่า เดี๋ยวพี่สั่งมาให้ วันนี้พี่เลี้ยงเอง” สิสิระหันไปเอ่ยกับสาริน
ทั้งวิธีการพูดทั้งน้ำเสียงของชายหนุ่มฟังดูเป็นกันเองอย่างไม่น่าเชื่อ สิสิระจงใจเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นเอาใจเด็กหนุ่มแทน ในเมื่อลัลนาไม่ยอมให้เขาพูด ต่อไปเขาก็จะยืมมือสารินนี่แหละ ให้ช่วยคอยเป็นกระบอกเสียงแทนตัวเขา ให้มันรู้กันไปว่าฟังน้องชายพูดกรอกหูอยู่ทุกวันแล้วลัลนาจะไม่ยอมใจอ่อน
“จริงเหรอฮะ งั้นรินสั่งพิซซ่าได้รึเปล่า” สารินดีใจจนยิ้มแป้น แต่ยังไม่วายหันไปมองพี่สาวราวกับจะขออนุญาต
“ไม่ได้นะริน พี่ไม่อนุญาต” ลัลนาไม่ตกลง แถมยังห้ามน้องชายเสียงแข็ง
“น่านะพี่ลัล แค่วันเดียว” คนเป็นน้องพยายามจะอ้อนขอ แต่ลัลนาก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมใจอ่อน
“ไม่ได้”
สิสิระเห็นสายตาเว้าวอนของสารินแล้วชักจะสงสารเด็กหนุ่มขึ้นมาจริงๆ ดูจากท่าทางแล้วลัลนาคงไม่ค่อยได้ตามใจน้องชายเธอสักเท่าไร เห็นทีว่าครั้งนี้เขาคงจะต้องออกโรงช่วยพูดแทน
“ตามใจน้องหน่อยเถอะลัล แค่วันนี้วันเดียว จะเป็นไรไป”
“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ไมได้ คุณยังไม่เคยเห็นว่าเวลาที่รินอาการทรุดมันน่ากลัวขนาดไหน เชื่อพี่นะริน รอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ ไม่ว่าจะกินอะไร พี่จะตามใจรินทุกอย่าง” ลัลนาพยายามโน้มน้าวพลางให้สัญญากับน้องชาย
สารินก้มหน้าอย่างขัดใจ เขารู้ดีว่าเมื่อใดที่ลัลนาบอกว่าไม่ นั่นก็คือไม่ และยิ่งยากที่เธอจะยอมเปลี่ยนใจ สิสิระเห็นสองพี่น้องคนหนึ่งอ้อนคนหนึ่งห้าม จึงพูดแทรกเพื่อช่วยสารินต่อรอง
“เอางี้มั้ย เดี๋ยวผมไปถามพยาบาลก่อนว่ารินกินพิซซ่าได้รึเปล่า ถ้าได้ เราก็สั่งมาแค่ขนาดกลาง แบ่งกันกินกันคนละนิดคนละหน่อย แค่พอให้รินหายอยาก แบบนั้นก็ไม่น่าจะกระทบกับอาการป่วยซักเท่าไหร่แล้วจริงไหม” ร่างสูงออกความเห็นเป็นฉากๆ สารินถูกใจ ยิ้มจนตาหยี โห่ร้องอย่างดีใจ ชื่นชมว่าที่พี่เขยทั้งปากและตา
“ไชโย พี่หมอกฉลาดมาก แบบนี้สิ ถึงจะเหมาะเป็นพี่เขยริน”
“ริน! พูดอะไร” ลัลนาเบิกตากว้างทำเสียงดังเพราะตกใจกับคำของน้องชาย หมายความว่าสองคนนี้คุยอะไรกันระหว่างที่เธอออกไปข้างนอกใช่หรือไม่
“เอาน่า พี่ลัล ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว หยวนเถอะนะฮะ” สารินอ้อนพี่สาว
ลัลนามองหน้าชายหนุ่มแล้วถอนหายใจหนักอก สุดท้ายเธอก็ปิดมันไว้ไม่อยู่ แถมยังต้องยอมแพ้สองหนุ่มที่ประสานความร่วมมือ เข้าข้างกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ครั้งนี้เรื่องพิซซ่า แล้วต่อไปจะเรื่องอะไร และครั้งต่อๆ ไป อีกเล่า เธอก็คงจะต้องยอมพวกเขาอีกเหมือนเดิม แค่คิดลัลนาก็หนักใจกับการออกตัวสนับสนุนสิสิระของน้องชายตนเธอเริ่มจะกลับมาหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง
-------------
(จบซีน)
ม่านหัวใจ อุ่นไอรัก บทที่ 8 (2/3)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แผนรุกข้ามขั้น
เด็กหนุ่มร่างผอมบางท่าทางขี้โรคนอนมองหน้าเจ้าของร่างสูงที่เดินตามพี่สาวของเขาเข้ามาในห้องด้วยแววตาสงสัย สารินอยากจะถามออกไปตั้งแต่ทีแรกอยู่เหมือนกันว่าเขาเป็นใครแต่ติดที่มีสายตาของลัลนาคอยจ้องคอยปรามเด็กหนุ่มจึงไม่กล้าถามเขาออกไปตรงๆ ได้แต่รอเวลาให้พี่สาวของเขาออกไปจากห้องก่อน จากนั้นจึงส่งสายตามายังสิสิระว่าไม่ต้องตามเธอออกไป และอยู่รอพูดคุยกับเขาก่อน
“คุณเป็นใครเหรอฮะ เป็นแฟนพี่ลัลรึเปล่า” เด็กหนุ่มถามขึ้นทันทีที่ร่างบางของลัลนาลับหายออกไปจากห้อง
เอ่ยถามออกไปแล้วสารินก็เป็นฝ่ายลุ้นรอคำ เขาเฝ้าภาวนาอยู่ทุกวันว่าขอให้พี่สาวของเขาได้เจอคนดีๆ ที่สามารถดูแลเธอได้สักที ในที่สุดพระก็เริ่มจะรับฟังคำขอของเขาบ้างแล้ว
“แล้วเราคิดว่าไงล่ะ อยากให้เป็นหรือว่าไม่เป็น” สิสิระมองหน้าของเด็กหนุ่มที่อายุครบสิบเจ็ดปีไปแล้วแต่ร่างกายกลับผ่ายผอม ตัวเล็กเหมือนเด็กที่เพิ่งจะพ้นสิบขวบมาไม่กี่ปี แล้วย้อนเหมือนลองเชิง
“อืม... ไม่รู้สิ” สารินมีสีหน้าลังเลคล้ายไม่แน่ใจว่าเขาควรจะตอบเจ้าของร่างสูงอย่างไรดี ทว่าสุดท้ายก็ยอมตอบออกไป “ก็ต้องแล้วแต่ว่าพี่ลัลจะชอบคุณรึเปล่า แต่ถ้าเป็นก็ดี พี่ของผมจะได้มีคนมาดูแลซะที”
“พูดเหมือนปกติพี่เราเขาไม่มีใครอย่างนั้นแหละ”
“ก็ไม่มีน่ะสิ หรือว่าคุณเห็นว่ามี” สีหน้าขัดใจของสารินตอนที่เอ่ยว่าลัลนาไม่มีใคร ทำให้สิสิระนึกถูกชะตา ปนเอ็นดูน้องชายของหญิงสาวขึ้นมาครามครัน
“ก็... พอจะเห็นๆ อยู่นะ” ชายหนุ่มทำท่าคิด จากนั้นจึงจะบอกออกไป และนั้นก็มีผลให้สารินทำตาโต
“ใครฮะ อย่าบอกนะว่าเป็นพี่นะ” เด็กหนุ่มอยากรู้เสียจนจ้องหน้าเขาเป๋ง ขณะลุ้นรอฟังคำตอบ
“ทำไมล่ะ ไหนบอกว่าอยากให้มีคนดูแลพี่สาวไง หรือว่าไม่ชอบคนนี้” สิสิระพยายามล้วงความลับจากเด็กหนุ่ม ยิ่งสารินอยากรู้ ยิ่งง่ายสำหรับเขาที่จะควานหาข้อมูลของลัลนา ชายหนุ่มแกล้งถามทั้งพยายามเตะถ่วง ไม่ยอมตอบคำถามของสารินตรงๆ
“ก็... ไม่เชิงว่าไม่ชอบ แค่ไม่อยากให้เป็นพี่นะแค่นั้น” คนป่วยทำหน้ามุ่ยยามเอ่ยถึงวัฒนะ และนั่นก็ทำให้สิสิระยิ่งอยากจะรู้มากขึ้นว่าเป็นเพราะเหตุใด
“เพราะอะไร”
“เรื่องมันยาวฮะ เอาเป็นว่า ถ้าคุณเป็นแฟนพี่ลัลจริงๆ ผมจะได้วางใจ หมดห่วงเรื่องพี่นะซะที” สารินเลือกที่จะไม่ขยายความ เด็กหนุ่มคิดว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ รังแต่จะทำให้พี่สาวเขาต้องเสื่อมเสียมากกว่าจะได้รับความเห็นใจจากอีกฝ่าย
สิสิระยิ้มเย็น เกมนี้เห็นทีว่าเขาคงเล่นไม่ยาก เพราะดูจากท่าท่างแล้ว สารินน่าจะไม่ค่อยพอใจวัฒนะอยู่มาก เช่นนั้นถ้าเขาสามารถดึงน้องชายลัลนามาเป็นพวกได้ อย่างน้อยตอนที่เขาไม่อยู่ทางนี้ก็ยังมีคนช่วยเชียร์
“งั้นเอาไงดี จะเป็นหรือไม่เป็นดีนะ” สิสิระยังคงเล่นตัว
“สรุปว่ายังไงกันแน่ล่ะเนี่ย ผมชักงง” คนรอลุ้นชักไม่สบอารมณ์ ใบหน้าเล็กๆ ที่มีเค้าของลัลนา จึงยิ่งมุ่ยหนัก แถมยังทำเสียงออดราวกับมอดกัดไม้
“ถ้าเราอยากให้พี่เป็นแฟนลัล งั้น... พี่เป็นก็ได้ แต่เห็นที่ว่าเราคงต้องคอยช่วยพี่อีกแรง” ชายหนุ่มพูดอย่างเอาใจไปพร้อมๆ พยยามหาพวก ด้วยการสร้างเงื่อนไข แถมยังอุปโลกน์ยกตัวเองขึ้นมาเป็นพี่ชายของเด็กหนุ่มอีกต่างหาก
“ถ้าคุณชอบพี่ลัลจริงๆ และรับปากว่าจะดูแลพี่ผมอย่างดี จะให้ช่วยอะไรก็พูดมาได้เลย” สารินรับคำอย่างใจป้ำ ขอเพียงแค่กันลัลนาออกจากวัฒนะได้ จะให้ทำอะไร เขายอมทั้งนั้น
“พี่รับปากว่าจะดูแลลัลนาเป็นอย่างดี เป็นอันว่าเราตกลงกันตามนั้น”
“ว่าแต่ คุยกันตั้งนาน ผมยังไม่รู้เลยว่าพี่ชื่ออะไร” ในเมื่อเขายอมแทนตัวเองว่าพี่ สารินเองเป็นเด็กว่าง่าย การจะเรียกเขาว่าพี่ก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงของเขาเหมือนกัน
“พี่ชื่อสิสิระ ชื่อเล่นชื่อหมอก รินจะเรียกว่าพี่หมอกก็ได้” นี่เป็นครั้งแรกที่สิสิระยอมให้คนที่เพิ่งรู้จักกันเรียกชื่อเล่นของเขา เพียงเจอกันครั้งแรกแถมยังพูดจากันเพียงไม่กี่คำสารินก็สามารถทำให้ชายหนุ่มยอมสนิทสนมด้วยขนาดนี้ นับว่า แล้วเด็กหนุ่มเป็นคนที่พิเศษมากจริงๆ
“แล้วตกลงว่าพี่จะให้ผมช่วยอะไร”
“ช่วยเชียร์ ช่วยกัน แล้วก็ช่วยส่งข่าวเวลาที่มีใครมาเกาะแกะพี่สาวริน” สิสิระบอกกับเด็กหนุ่มแบบรวดเดียวจบ และสารินก็รับปากเขาในเกือบจะทันที
“เรื่องนั้นสบายมาก ติดแค่ว่าผมอยู่แต่ในโรงพยาบาล จะทำได้ก็แค่ตอนที่พี่ลัลมาเยี่ยมเท่านั้น”
“แค่นั้นก็พอถมเถแล้ว ที่เหลือพี่จัดการเอง”
“โอเค ฮะ ตกลงตามนั้น”
สองคนพากันหัวเราะหลังพูดจบ สิสิระยื่นมือไปตรงหน้า เด็กหนุ่มจึงยื่นมือมาจับ เป็นอันจบข้อตกลงระหว่างกัน
“แล้วพี่รู้จักกับพี่สาวผมได้ยังไงฮะ” สารินเอ่ยถาม
สิสิระจึงพยายามคิดทบทวนก่อนจะตอบออกไป “อืม...บังเอิญน่ะ มันเป็นอุบัติเหตุ”
“เหมือนในละครเลย” เด็กหนุ่มแสดงความคิดเห็นอย่างตื่นเต้น นัยน์ตาวาวราวกับเจอเรื่องถูกใจ เรียกรอยยิ้มของสิสิระออกมาจนเต็มหน้า
“ประมาณนั้น แต่อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยตรงที่ละครไม่ค่อยมีอุปสรรคเท่าของจริง”
“ยังไงฮะ”
“ก็...” สิสิระกำลังจะอ้าปากบอกสารินเรื่องบรรดาคู่แข่งของเขา ลัลนาพลันเดินกลับเข้ามาในห้อง พร้อมกับเอ่ยถามน้องชาย
“คุยอะไรกันอยู่เหรอริน หัวเราะเสียงดังเชียว”
“กำลังคุยกันเรื่องพี่ลัลอยู่ฮะ” เด็กหนุ่มตอบพี่สาวอย่างพาซื่อ ลัลนาจึงหันไปมองหน้าชายหนุ่ม เป็นเชิงถามว่าเขาคิดจะบอกอะไรกับน้องชายของเธอ
สิสิระรู้ว่าหญิงสาวคิดอย่างไรแต่เขาไม่ได้ตอบ เป็นสารินที่เอ่ยขึ้นมาแทน “รินกำลังถามพี่หมอกฮะ ว่ารู้จักกับพี่ลัลได้ยังไง”
คำเรียกสิสิระของสารินทำเอาลัลนาหันขวับไปมองน้องชาย จากนั้นจึงหันกลับไปยังร่างสูง ด้วยเธอนึกว่าตัวเองหูฝาด ทว่าก็ได้พบกับใบหน้ายิ้มระรื่นที่กำลังหรี่ตามองเธออย่างมีนัย ก่อนจะเอ่ย
“คุณจะเรียกผมเหมือนที่น้องคุณเรียกก็ได้นะ ผมไม่ว่า” ชายหนุ่มบอกพลางยิ้มในหน้า มิหนำซ้ำยังทำตาเชื่อมฉ่ำวาวชวนให้หมั่นไส้
ลัลนารู้สึกเหมือนตัวเธอเพิ่งจะเจอกับมนุษย์ต่างดาวก็ไม่ปาน หญิงสาวจึงจ้องมองเขาอย่างกังขา นี่มันหมายความว่าอะไรกัน สิสิระกำลังจะยกระดับเธอกับน้องชายให้เป็นคุ้นเคยของเขาอย่างนั้นหรือ
สิสิระเลิกคิ้วพลางพยักหน้าหงึกๆ ราวกับจะย้ำว่าเธอฟังไม่ผิด ลัลนาให้เกิดอาการขัดเขินขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน หญิงสาวจึงฃอ้อมแอ้มเอ่ยปฏิเสธ
“เอ่อ... อย่าเลยค่ะ เรียกอย่างเดิม น่าจะสะดวกใจกว่า”
นัยต์ตาคมของสิสิระพลันเผยแววกรุ้มกริ่มอย่างไม่อาจปกปิด เพราะในที่สุดเธอก็ยอมพูดกับเขาเสียที หลังจากที่หญิงสาวเอาแต่นิ่งถามอะไรไม่ตอบมาหลายชั่วโมงนับแต่ออกมาจากบ้าน
“แต่ผมอยากได้ยินคุณเรียกชื่อเล่นผมนะ จะได้สนิทกันมากขึ้นไง นะคุณนะ” ชายหนุ่มทำเสียงอ้อน พร้อมเขยิบร่างสูงเข้าไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลังลัลนา โบราณว่าตีเหล็กต้องตีตอนที่มันกำลังร้อน สิสิระรีบฉวยโอกาสตอนที่ลัลนากำลังงง เร่งรัดหญิงสาวให้ทำความสนิทสนมกับตนให้มากขึ้น ลืมไปเสียสนิทว่ากำลังอยู่ต่อหน้าเด็กหนุ่มผู้เป็นน้องชายของลัลนา ที่กำลังจ้องมองมายังเขาตาเป๋ง
“เยอะไปไหมคะ ไม่เห็นว่าจะเกี่ยวกันตรงไหน” ลัลนาปรามพร้อมกับเคลื่อนตัวออกห่าง หันไปมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ หญิงสาวเกรงว่าเขาจะเผลอพูดหรือทำอะไรแปลกๆ ออกมาต่อหน้าน้องชาย จนทำให้เขาสงสัย หารู้ไม่ว่าลับหลังเธอ สองคนนั่นทำข้อตกลงกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อเรากำลังทำความรู้จักกัน ขั้นตอนของการพัฒนาความสัมพันธ์ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด จริงไหมริน” สิสิระหันไปหาพวก โดยการดึงสารินให้เข้ามามีส่วนร่วม เด็กหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับยิ้มสดใส
ลัลนาเห็นหน้าน้องชายที่ดูจะมีความสุขมากกว่าปกติแล้วหญิงสาวจึงไม่อยากขัดคำของสิสิระ จึงเป็นอันว่าเข้าทางชายหนุ่มพอดี
“ผมก็แค่อยากให้เราทำความรู้จักกันให้มากขึ้น สนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้น คุณลองเปิดโอกาสเข้าถึงตัวตนของผมดูสักครั้ง รับรองว่าต่อไปคุณจะชิน” วิธีการพูดเข้าข้างตัวเองดูท่าว่าจะเป็นความถนัดพิเศษเฉพาะทางของสิสิระจริงๆ ลัลนาฟังเขาแล้วได้แต่ร้อนๆ หนาวๆ หญิงสาวรู้ว่าเขาไม่ได้หมายถึงแค่การทำความรู้จักกันธรรมดาๆ ทว่าหมายความรวมไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นด้วย หญิงสาวได้แต่ค้อนเขาพร้อมกับเอ่ยค่อนอยู่ในใจว่า คนอะไรอะไรช่างพูดจาหาเหตุหาประโยชน์เข้าตัวเองได้ตลอดเวลา
“คุณนี่ก็แปลกเหมือนกันนะคะ ลัลชักจะตามคุณไม่ทันจริงๆ” ลัลนาพูดเฉไฉค่อนว่าเขามากว่าจะชม
“ไม่เห็นจะแปลกเลย อย่าคิดมากสิคุณ แค่ปล่อยตัวเองไปตามสบาย ไม่ช้าเราก็จะคุ้นเคยกันไปเอง” สิสิระยังคงแก้ต่างสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองทว่าสำหรับลัลนาแล้วมันกลับฟังดูกำกวมเสียจนเธอชักอ่อนใจ จะมีก็แต่สารินเท่านั้น ที่คิดตามนัยระหว่างพี่สาวกับว่าที่พี่เขยไม่ออก ได้แต่พยักหน้าตามๆ ไปแบบไม่รู้ความ
“เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่าไหมคะ คุยเรื่องนี้แล้วมันรู้สึกพิกลๆ ยังไงไม่รู้” หญิงสาวเอ่ยออกมาตรงๆ เพราะทนฟังสิ่งที่เขาพูดให้เธอคิดต่อไปไม่ไหว
“เปลียนก็ได้ รินอยากกินอะไรรึเปล่า เดี๋ยวพี่สั่งมาให้ วันนี้พี่เลี้ยงเอง” สิสิระหันไปเอ่ยกับสาริน
ทั้งวิธีการพูดทั้งน้ำเสียงของชายหนุ่มฟังดูเป็นกันเองอย่างไม่น่าเชื่อ สิสิระจงใจเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นเอาใจเด็กหนุ่มแทน ในเมื่อลัลนาไม่ยอมให้เขาพูด ต่อไปเขาก็จะยืมมือสารินนี่แหละ ให้ช่วยคอยเป็นกระบอกเสียงแทนตัวเขา ให้มันรู้กันไปว่าฟังน้องชายพูดกรอกหูอยู่ทุกวันแล้วลัลนาจะไม่ยอมใจอ่อน
“จริงเหรอฮะ งั้นรินสั่งพิซซ่าได้รึเปล่า” สารินดีใจจนยิ้มแป้น แต่ยังไม่วายหันไปมองพี่สาวราวกับจะขออนุญาต
“ไม่ได้นะริน พี่ไม่อนุญาต” ลัลนาไม่ตกลง แถมยังห้ามน้องชายเสียงแข็ง
“น่านะพี่ลัล แค่วันเดียว” คนเป็นน้องพยายามจะอ้อนขอ แต่ลัลนาก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมใจอ่อน
“ไม่ได้”
สิสิระเห็นสายตาเว้าวอนของสารินแล้วชักจะสงสารเด็กหนุ่มขึ้นมาจริงๆ ดูจากท่าทางแล้วลัลนาคงไม่ค่อยได้ตามใจน้องชายเธอสักเท่าไร เห็นทีว่าครั้งนี้เขาคงจะต้องออกโรงช่วยพูดแทน
“ตามใจน้องหน่อยเถอะลัล แค่วันนี้วันเดียว จะเป็นไรไป”
“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ไมได้ คุณยังไม่เคยเห็นว่าเวลาที่รินอาการทรุดมันน่ากลัวขนาดไหน เชื่อพี่นะริน รอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ ไม่ว่าจะกินอะไร พี่จะตามใจรินทุกอย่าง” ลัลนาพยายามโน้มน้าวพลางให้สัญญากับน้องชาย
สารินก้มหน้าอย่างขัดใจ เขารู้ดีว่าเมื่อใดที่ลัลนาบอกว่าไม่ นั่นก็คือไม่ และยิ่งยากที่เธอจะยอมเปลี่ยนใจ สิสิระเห็นสองพี่น้องคนหนึ่งอ้อนคนหนึ่งห้าม จึงพูดแทรกเพื่อช่วยสารินต่อรอง
“เอางี้มั้ย เดี๋ยวผมไปถามพยาบาลก่อนว่ารินกินพิซซ่าได้รึเปล่า ถ้าได้ เราก็สั่งมาแค่ขนาดกลาง แบ่งกันกินกันคนละนิดคนละหน่อย แค่พอให้รินหายอยาก แบบนั้นก็ไม่น่าจะกระทบกับอาการป่วยซักเท่าไหร่แล้วจริงไหม” ร่างสูงออกความเห็นเป็นฉากๆ สารินถูกใจ ยิ้มจนตาหยี โห่ร้องอย่างดีใจ ชื่นชมว่าที่พี่เขยทั้งปากและตา
“ไชโย พี่หมอกฉลาดมาก แบบนี้สิ ถึงจะเหมาะเป็นพี่เขยริน”
“ริน! พูดอะไร” ลัลนาเบิกตากว้างทำเสียงดังเพราะตกใจกับคำของน้องชาย หมายความว่าสองคนนี้คุยอะไรกันระหว่างที่เธอออกไปข้างนอกใช่หรือไม่
“เอาน่า พี่ลัล ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว หยวนเถอะนะฮะ” สารินอ้อนพี่สาว
ลัลนามองหน้าชายหนุ่มแล้วถอนหายใจหนักอก สุดท้ายเธอก็ปิดมันไว้ไม่อยู่ แถมยังต้องยอมแพ้สองหนุ่มที่ประสานความร่วมมือ เข้าข้างกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ครั้งนี้เรื่องพิซซ่า แล้วต่อไปจะเรื่องอะไร และครั้งต่อๆ ไป อีกเล่า เธอก็คงจะต้องยอมพวกเขาอีกเหมือนเดิม แค่คิดลัลนาก็หนักใจกับการออกตัวสนับสนุนสิสิระของน้องชายตนเธอเริ่มจะกลับมาหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง
-------------
(จบซีน)