ม่านหัวใจ อุ่นไอรัก บทที่ 1

กระทู้สนทนา
เรื่องโดย ฉัตรชณา

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

บทที่ 1




สองปีก่อน....

ร้านดอกไม้ขนาดเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคารสำนักงานสูงสี่ชั้น ทั้งร้านกำลังวุ่นวายจัดการกับออเดอร์ที่หลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่เช้า ลัลนายุ่งเสียจนแทบไม่มีเวลาจะจิบน้ำด้วยซ้ำ เวลานี้ทั้งร้านมีเพียงหล่อนกับลูกจ้างอีกหนึ่งคน ที่ช่วยกันตะลุยจัดดอกไม้มาจนตลอดทั้งเช้า

บนแป้นเสียบกระดาษรับงานยังมีใบออเดอร์ที่ค้างส่งอยู่อีกสามใบ หญิงสาวหยิบพวกมันขึ้นมาพิจารณาแล้วพบว่า หนึ่งในนั้นเป็นงานด่วนของลูกค้าประจำ โชคดีที่สถานที่จัดส่งอยู่ห่างออกไปเพียงสองช่วงตึก และอีกสองที่ยังไม่ถึงกับรีบ จึงยังพอรอได้ ไว้รอหล่อนส่งดอกไม้เสร็จ แล้วค่อยกลับมาจัดการกับงานที่เหลือก็ยังทัน

หญิงสาวลงมือจัดดอกไม้ตามใบสั่งงานไปพร้อมๆ กับการสั่งงานลูกน้อง หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวก็หอบดอกไม้ช่อโตเดินตรงไปยังอาคารสูงซึ่งอยู่ห่างจากร้านของหล่อนไปสองช่วงตึก เพื่อจัดส่งดอกไม้ให้ถึงมือลูกค้าด้วยตนเอง ระยะทางใกล้แค่นี้ ส่งเองได้ก็ช่วยประหยัดไปได้อีกหลายบาท นึกไปแล้ว ลัลนาก็ยิ้มขันให้กับความตระหนี่ของตัวเอง

สาวสวยกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่ดูแล้วเข้ากันดีเสียจนคนที่เดินผ่านต่างเหลียวมองอย่างชื่นชม ดวงหน้าใสระบายยิ้มส่งให้กับทุกคนอย่างมีไมตรี ผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัยมาแล้วร่างระหงก็หอบดอกไม้มายืนรออยู่หน้าลิฟต์ และทันทีที่ประเปิดใครบางคนก็ถลันออกมาจากตัวลิฟต์โดยปราศจากความระวัง และชนเข้ากับร่างคนที่ด้านหน้า ก่อนจะเซถลามาหาลัลนา โชคดีที่หญิงสาวสติไว ร่างบางจึงเบี่ยงหลบ แต่นั่นกลับทำให้ช่อดอกไม้หลุดมือ ตกลงไปกองอยู่ที่พื้นตรงปลายเท้าของใครบางคน ลัลนาหน้าตาตื่นมองช่อดอกไม้ที่ต้องส่งให้ถึงมือลูกค้าในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าอย่างตกใจ หล่อนถลันจะเข้าไปเก็บมัน แต่ก็ไม่ทันกับร่างสูงที่ก้มลงเก็บดอกไม้ขึ้นมาพิจารณาก่อนจะยื่นส่งคืนมาให้หล่อน

“ขอบคุณค่ะ” หล่อนขอบคุณเขาด้วยหน้าจืดจ๋อย พอเห็นเขาพยักหน้า หญิงสาวก็รีบยื่นมือไปรับดอกไม้กลับคืน แล้วเริ่มสำรวจความเสียหาย โชคยังดีที่ดอกไม้ไม่ช้ำ เพียงแค่บางดอกเคลื่อนจากตำแหน่งที่จัดไว้เพียงเล็กน้อย แก้ไขนิดหน่อยก็กลับมาสวยงามได้เหมือนเดิม ลัลนาถอนหายใจพลางยิ้มออกมาอย่างโล่งอก โดยไม่รู้ว่าทุกกิริยาอาการของหล่อนยังคงอยู่ในสายตาของร่างสูงผู้มีน้ำใจคนนั้นจนทุกขณะ

หลังจากนั้นไม่นานช่อดอกไม้ที่ถูกจัดแต่งจนกลับคืนมาสวยดังเดิมก็ถูกจัดส่งถึงมือมือผู้รับ ร่างสูงยืนกอดอก อิงสะโพกกับขอบโต๊ะทำงานของตน สิสิระกำลังส่งสายตาพิจารณาไปยังช่อดอกไม้คุ้นตา ในใจไพล่นึกไปถึงดวงหน้าหมดจดของคนที่นำมันมาส่ง รอยยิ้มพรายพลันระบายอยู่บนใบหน้าเข้มคมหล่อเหลาราวเทพบุตร

สิสิระใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วปลายนิ้วเรียวยาวจึงกดลงบนปุ่มโทรศัพท์บนโต๊ะ จากนั้นกรอกเสียงลงไป “คุณพิมพ์ครับ รบกวนขอนามบัตรร้านดอกไม้ที่เพิ่งมาส่งเมื่อครู่ให้ผมหน่อย”

ไม่นานเลขาที่หน้าห้องก็เข้ามาพร้อมกับกระดาษใบเล็กๆ ในมือ แล้วยื่นส่งให้กับเขาด้วยท่าทางสุภาพและสุขุมดังเช่นปกติ

“คุณหมอกจะสั่งดอกไม้ ดิฉันจัดการให้ดีกว่าไหมคะ?”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง ขอบคุณนะครับคุณพิมพ์”

“ยินดีค่ะ”

พิมพ์พิชญ์ยิ้มให้เจ้านายแล้วเดินกลับออกไป สามปีที่ทำงานกับสิสิระ เลขามืออาชีพอย่างหล่อนเรียนรู้อารมณ์ของเจ้านายตัวเองมาเป็นอย่างดี อย่างเช่นในเวลานี้ สีหน้าอาบระบายไปด้วยรอยยิ้มของชายหนุ่ม แสดงให้เห็นว่าเขาเพิ่งไปจะพบกับอะไรที่ดีๆ มา ทว่านั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่หล่อนต้องเข้าไปสอดรู้ พิมพ์พิชญ์รู้ดีว่าเจ้านายของหล่อนเป็นคนที่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันอย่างเด็ดขาด สิ่งใดที่บอกว่าจะทำเอง สิ่งนั้นมักจะเป็นเรื่องส่วนตัว จึงไม่จำเป็นที่หล่อนจะต้องทู่ซี้ขันอาสา

เมื่อเลขาออกจากห้องไปแล้วสิสิระจึงยกการ์ดใบเล็กๆ ขึ้นมาดู

“ลัลนา ฟลอริสท์... อยู่ใกล้แค่นี้เอง” เขารำพึงเบาๆ แล้วยิ้มกว้าง ในใจนึกว่าช่างบังเอิญอะไรแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นอยู่แค่ใกล้ๆ แต่เขากลับไม่เคยเจอเธอ แต่จะว่าไปแล้วก็คงไม่แปลก คนระดับบริหารอย่างเขา วันทั้งวันถ้าไม่อยู่ในห้องทำงาน ก็อยู่แต่ในห้องประชุม นานครั้งถึงจะลงมาที่ด้านล่างสักครั้ง ถ้าวันนี้ลูกค้าไม่นัดเขาลงมาคุยงานที่กาแฟ เขาก็คงไม่มีอากาศมายืนรอลิฟต์จนเจอกับหล่อนอย่างวันนี้เป็นแน่

------------------------------------------------------

เสียงกระดิ่งกรุ๋งกริ๋งดังขึ้นพร้อมกับประตูกระจกที่เปิดออก ร่างสูงเดินเข้ามาด้านในแล้วสำรวจไปรอบๆ อย่างไม่มีจุดหมาย

“มองหาดอกไม้อยู่หรือคะ”

ชายหนุ่มหันไปมองตามเสีย คนถามเป็นสาวรุ่นร่างกะทัดรัดใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มสดใส แต่ยังไม่ใช่หญิงสาวหน้าใสรูปร่างแบบบางที่สิสิระกำลังพยายามจะมองหา

ชายหนุ่มส่งยิ้มน้อยให้กับสาวน้อยพนักงานผู้อารมณ์ดี

“มีดอกไม้ในใจหรือเปล่าคะ แล้วตั้งงบประมาณไว้เท่าไหร่ ทางเราสามารถจัดช่อดอกไม้ได้ตามความต้องการของลูกค้าทุกแบบ ทุกราคาค่ะ”

อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังของสิสิระ ชายหนุ่มหันไปยังผู้มาใหม่ นัยน์ตาคมพลันไหวระริกพริบพราวอย่างพอใจ ในที่สุดหล่อนก็มา

“ไม่มีครับ คงต้องรบกวนให้คุณช่วยแนะนำ” เขาเอ่ยพลางส่งยิ้มเป็นมิตร

“ด้วยความยินดีค่ะ อ๊ะ! คุณนั่นเอง” หญิงสาวเหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้

สิสิระยิ้มกว้างทั้งใบหน้า และดวงตา “ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะครับ” คำตอบของชายหนุ่มทำให้ลัลนาแน่ใจว่าหล่อนไม่ได้จำคนผิด เขาคือบุรุษผู้มีน้ำใจคนนั้นจริงๆ

“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ สำหรับวันก่อน” ลัลนายิ้มสดใส หล่อนดีใจที่มีโอกาสได้ขอบคุณเขาอีกครั้ง

“เรื่องเล็กน้อยมากๆ ไม่เป็นไรเลยครับ” ร่างสูงเอ่ยอย่างใจดี ลัลนาจึงคิดว่าหล่อนสมควรจะตอบแทนเขาบ้าง

“ถ้าอย่างนั้น เพื่อเป็นการตอบแทน ฉันจะจัดดอกไม้ให้คุณอย่างสุดฝีมือ แล้วก็ให้ส่วนลดเป็นพิเศษด้วยค่ะ” ลัลนายิ้มจริงใจให้กับชายหนุ่ม สิสิระถึงกับมองหล่อนอย่าเผลอไผล

“ขอบคุณมากเลยครับ แต่ไม่ต้องให้ส่วนลดผมหรอก แค่คุณจัดดอกไม้สวยๆ ให้ ผมก็พอใจแล้ว”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะ อืม...” หญิงสาวทำเสียงเหมือนกำลังใช้ความคิดพร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ ร้านของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยชวนเขา “เรามาเลือกดอกไม้กันเลยดีกว่าค่ะ  ว่าแต่ผู้รับเป็นใครคะ เพศหญิงหรือชาย อายุประมาณเท่าไหร่ ถ้าคุณมีข้อมูลพวกนี้ ฉันจะสามารถแนะนำคุณได้ถูก” หญิงสาวบอกกับเขาอย่างเชี่ยวชาญ สิสิระส่งสายตามองลัลนาอย่างชื่นชม

“ผู้หญิงครับ เธอเป็นผู้หญิงใสๆ หน้าตาท่าทางประมาณเดียวกับคุณ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับทำหน้ายิ้มกรุ้มกริ่ม

ลัลนาหันกลับไปมองหน้าเขาเหมือนแปลกใจ แต่ไม่รู้ทำไม จู่ๆ หน้าของหล่อนก็ก่ำแดงขึ้นมาเสียอย่างนั้น หญิงสาวจึงรีบก้มหน้าซ่อนรอยแดง ผ่าวร้อน ที่ชักจะไล่ลามลงไปถึงคอ

“ทำไมเงียบไปละครับ ไหนคุณบอกว่าอยากได้ข้อมูล”

“อะ...อ๋อ ค่ะ ไม่มีอะไรค่ะ แค่...กำลังคิดตาม” หญิงสาวตอบตะกุกตะกัก ลูบแก้มตัวเองเบาๆ เป็นการแก้เขิน

“แต่ผมไม่รู้หรอกว่าเธอชอบดอกอะไร สีไหน เอาเป็นว่าสมมติว่าเธอเป็นคุณแล้วกัน คุณเลือกอะไรมา ผมก็เอาตามนั้นล่ะ”

ลัลนาเกิดอาการเขินจนแทบไม่กล้ามองหน้าเขาไปแล้ว ทั้งที่เขาก็แค่บอกความต้องการของตัวเอง แต่ทำไมหล่อนจึงรู้สึกว่าเขากำลังเกี้ยวหล่อน หญิงสาวรีบสลัดความคิดนั้นทิ้ง ไม่กล้าคิดต่อ  หล่อนเป็นมืออาชีพ จะมามัวยืนเขินอยู่กับเรื่องแค่นี้ได้อย่างไร มือบางจึงค่อยๆ ไล่เบาๆ ไปตามพุ่มดอกไม้ที่ปักอยู่ในแจกันใบใหญ่แต่ละใบอย่างใช้ความคิด แล้วจึงหันไปบอกกับเขา

“ถ้าเป็นฉัน ฉันจะเลือกตามโอกาส หรือไม่ก็ฤดูกาลค่ะ ถ้าฤดูกาลนี้ ฉันจะเลือกลิลลี่ เพราะตอนนี้อากาศค่อนข้างร้อน กลิ่นหอมอ่อนๆ จะช่วยให้บรรยากาศสดชื่นค่ะ” หญิงสาวเริ่มสาธยาย ขณะที่ร่างสูงคอยมองตามเธอไปแบบเพลินๆ

“แล้วถ้าเป็นเดือนหน้าละครับ คุณจะเลือกดอกอะไร”

“เดือนหน้าจะเริ่มเข้าหน้าฝน ดอกไม้ที่ใช้ก็ควรจะเป็นพวกดูแรงโก้ เวอร์บีน่า หรือไม่ก็ตระกูล เลซี่เดซ แฮปปี้ เทรล พวกนี้ดอกจะเป็นพุ่ม ก้านใหญ่ บางชนิดกลีบจะบางหน่อย แต่สีสันสดใส และสวยทน ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศอึมครึมของหน้าฝน ทำให้คนมองสดใสอารมณ์ดีมากขึ้นค่ะ” หญิงสาวเล่าไปเรื่อยๆ อย่างร่าเริง ประหนึ่งว่าหล่อนกำลังเล่านิทานให้เขาฟังก็ไม่ปาน

“ถ้าให้ผมเดา คุณคงจะเลือก พวกกุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น ในช่วงฤดูหนาว” ชายหนุ่มเริ่มคาดเดาความชอบของหล่อน ตามประเภทของดอกไม้ที่ออกในแต่ฤดูกาล

“มีส่วนถูกค่ะ ฉันจะเลือกช่อทิวลิป ในฤดูหนาว เพราะแม้มันจะอายุสั้น แต่ปีหนึ่งจะออกดอกมาให้เห็นแค่เพียงครั้งเดียว ดังนั้นจึงคุ้มค่าที่จะชื่นชม”

“ผมคิดไปเองหรือเปล่า ว่าคุณดูมีความสุขมากๆ เวลาพูดถึงพวกมัน”

“ค่ะ มีความสุข ดอกไม้ไม่มีพิษมีภัย มีแต่จะมอบความสดชื่น แจ่มใสให้กับคนทุกคน ฉันชอบดอกไม้ และรักการจัดดอกไม้ ถึงได้มาเปิดร้านดอกไม้อยู่ทุกวันนี้ไงคะ” ลัลนาเอ่ยแล้วยิ้มอย่างเป็นสุข

ทั้งลูกค้า และแม่ค้า พากันเดินชมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงพุ่มดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ พร่างพราวอยู่เต็มกิ่งก้าน

“แล้วพวกดอกเล็กๆ พวกนี้ละครับ ชื่ออะไร”

“ยิบโซค่ะ เป็นดอกไม้ใช้แซมช่อ ปักแจกัน หรือแซมเสริมตามซุ้มดอกไม้ ส่วนชื่อก็มีความหมายที่ดี เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา เป็นดอกไม้ที่หาได้ง่ายๆ มีอยู่ทุกฤดูกาลค่ะ”

“ผมฟังคุณพูดแล้วเพลินจัง คุณมีความรู้เกี่ยวกับดอกไม้พวกนี้เยอะแยะไปหมด แถมยังอธิบายได้อย่างไม่น่าเบื่อ”

“ขอบคุณค่ะ คนขายดอกไม้ ถ้าไม่รู้จักดอกไม้ แล้วจะแนะนำลูกค้ายังไงละคะ ทุกอาชีพก็เหมือนๆ กัน ทำอะไรก็ควรจะต้องรู้จักให้ถ่องแท้ จะขายของ ก็ต้องรู้จักสินค้าของตัวเองเป็นอย่างดี ก่อนจะไปแนะนำให้กับคนอื่น จริงไหมคะ”

“ฟังคุณแล้วผมชักทึ่ง น่าเชิญให้คุณไปอบรมพวกพนักงานขายในบริษัทผมจริงๆ เผื่อจะมีจิตวิญญาณนักขายกันขึ้นมาบ้าง” สิสิระเหมือนพูดเล่น แต่นัยของเขาคือชื่นชมเธอจากใจ

“กลับมาเรื่องของเรากันดีกว่า ค่ะตกลงว่าคุณจะให้ฉันเลือกให้จริงๆ ใช่ไหมคะ”

สิสิระเกือบจะยิ้มออกมาเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดว่า เรื่องของเรา ทั้งที่จริงแล้วหล่อนหมายถึงดอกไม้ที่หล่อนกำลังช่วยเขาเลือก

“ครับ เลือกเลย ขอแค่คุณเป็นคนเลือก ดอกอะไรผมก็ไม่เกี่ยง”

“โอเคค่ะ งั้นเชิญคุณไปนั่งรอที่โต๊ะรับแขกก่อน เสร็จแล้วลัลจะมาบอก เชิญตามสบายนะคะ เดี๋ยวลัลจะให้เด็กยกน้ำมาเสิร์ฟ” เหมือนลัลนาจะลืมตัว หญิงสาวรู้สึกคุ้นเคยกับเขาคนนี้อย่างรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ ไม่เช่นนั้นหล่อนคงไม่เผลอแทนตัวเองด้วยชื่อโดยไม่รู้ตัวแบบนั้น

สิสิระเองก็สะดุดหู แต่ชายหนุ่มเลือกจะทำเนียนๆ แล้วตอบรับหล่อนแต่เพียงสั้นๆ ไม่ทำให้เจ้าตัวต้องกระดาก ขัดเขิน

“ครับ”

ลัลนาเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์แล้วเริ่มลงมือทำงานข้างกายมีสาวรุ่นผู้ร่าเริงคนเดิมยืนประกบคอยเป็นลูกมือช่วยอยู่ไม่ห่าง มือเรียวหยิบโน่นเลือกนี่นำมาจัดวางประกอบกันอย่างคล่องแคล่ว ไม่ช้าสิ่งต่างๆ ที่หญิงสาวนำมาวางเรียงก็เริ่มปรากฏเป็นรูปร่างของช่อดอกขนาดพอเหมาะพอดีขึ้นช่อหนึ่ง สิสิระมองหล่อนทำงานด้วยความเพลิดเพลินจนแทบไม่ได้ละสายตา และเมื่อผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงดอกไม้หอมกรุ่นงดงามตระการตาก็ถูกร่างบางหอบอุ้มนำมาส่งมอบให้กับชายหนุ่มจนถึงมือพร้อมกับรอยยิ้มภูมิใจในฝีมือตัวเองของคนจัด

(ยังมีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่