ม่านหัวใจ อุ่นไอรัก บทที่ 7

เรื่องโดย ฉัตรชณา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
  
บทที่ 7

เกลี้ยกล่อม ต่อรอง หรือว่ารวบรัด



กว่าลัลนาจะเข้าบ้านมาได้ก็ใกล้จะตีหนึ่งอยู่รอมร่อ โชคดีว่าเป็นเวลาดึกมากแล้วถนนโล่งเธอจึงไม่ต้องติดแหงกอยู่บนท้องถนนเป็นชั่วโมงๆ เหมือนอย่างในเวลากลางวัน ทว่าถึงไม่ติดอยู่บนถนนลัลนาก็ต้องมาติดอยู่ที่หน้าบ้านตัวเองแทนอยู่ดี เพราะเมื่อมาส่งเธอแล้วสิสิระไม่ได้รีบกลับไปในทันที ทว่ายังมัวอ้อยอิ่งล่ำลาเธออยู่อีกพักใหญ่ไม่ยอมปล่อยเธอลงจากรถเสียที ลัลนาต้องเสียเวลาไปอีกครึ่งค่อนชั่วโมงในการไล่ให้เขากลับ แต่พอเธอกลับเข้าบ้านมาได้จริงๆ หญิงสาวกลับพบว่ามีบางอย่างในตัวเธอที่เปลี่ยนไป เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนเดิม ภาพเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อค่ำวานมาจนถึงที่หน้าบ้านยังคงวนเวียนอยู่ในหัวจนความคิดของเธอยุ่งเหยิง ลัลนาข่มตาเท่าไหร่ก็ยังนอนไม่หลับ

นับจากเวลาที่สิสิระบอกว่าชอบเธอเป็นต้นมา เขาก็ใช้ทุกโอกาสในการเข้าถึงตัวเธอ  ทั้งแตะเนื้อต้องตัว ทั้งยังจาบจ้วงล่วงเกิน เธอควรจะโกรธเขาไม่ใช่หรือ ทว่าน่าแปลกที่เธอกลับไม่รู้สึกโกรธเขาเลยสักนิด ลัลนาถามตัวเองหลายครั้งว่าเธอรู้สึกอย่างไร ชอบเขาหรือเปล่า แต่คำตอบในใจเธอกลับยังคลุมเครือ ทบทวนอย่างไรก็ไม่ตกผลึกเสียที หญิงสาวจึงต้องมานอนลืมตาโพลงคิดวนเวียนอย่างเพลียหัวใจจนใกล้รุ่งสางอยู่แบบนี้

ลัลนายกแตะริมฝีปากตัวเองพร้อมกับนึกถึงช่วงเวลาก่อนที่สิสิระจะกลับอย่างใจลอย

‘ลัล’

หลังจากที่เธอทั้งขอตัวทั้งไล่ให้เขากลับอยู่นาน เสียงทุ้มยังคงรั้งเธอไว้เหมือนกับที่เขาทำมาหลายรอบ จนแล้วจนรอดลัลนาก็ยังไม่ได้ลงจากรถของเขาเสียที

‘อะไรอีกคะ อุ๊บ!’

ลัลนาหันกลับมาถามเขา ทว่าในทันทีที่เธอหัน สิสิระพลันรั้งร่างเธอเข้าไปประชิดอก พร้อมกับยึดตรึงใบหน้าเธอด้วยมือข้างหนึ่งของเขาแล้วประทับจูบลงริมฝีปากเธออย่างบรรจงและอ้อยอิ่ง เธอทั้งตกใจทั้งวาบหวาม ไม่นานก็เผลอจูบตอบเขาไป สัมผัสแผ่วเบาจึงเริ่มเปลี่ยนเป็นรุกเร้ารุนแรง ชายหนุ่มแทรกลิ้นของเขาเข้ามาในโพรงปากของเธออย่างช่ำชอง ทั้งเกี่ยวกระหวัดทั้งดูดดึงจนเธอปั่นป่วนซ่านไปทั้งอก แผงอกหนาบดเบียดแนบชิดกับเนินเนื้อนุ่มอวบอุ่นของเธออย่างจงใจ แถมมือของเขายังซุกซน วนเวียนอยู่กับสะโพกกลมกลึงของเธอไม่ยอมหยุด แต่ในช่วงเวลานั้นลัลนากลับไม่มีสติพอจะแยกแยะความรู้สึกใด เพราะลำพังแค่ริมฝีปากเรียกร้องของเขาประสาทสัมผัสของเธอก็ตีรวนจนแบ่งแยกอะไรไม่ออกอีกแล้ว

ในความเพลิน ลัลนาก็เริ่มสำรวจความรู้สึกของตัวเอง หญิงสาวพบว่าครั้งนี้เธอไม่ได้รู้สึกอึดอัด หรือลืมหายใจเหมือนในคราวแรก อีกทั้งการตอบสนองของเธอก็ดูจะเป็นจังหวะมากขึ้น ดูเหมือนเธอจะเรียนรู้จากเขาได้รวดเร็วจนน่าตกใจ สิสิระเปรียบเหมือนไฟ ส่วนตัวเธอคือน้ำมัน ที่เข้าใกล้กันเมื่อไหร่เป็นต้องไฟลุกพรึบพั่บ ครั้นจะดับก็แสนยาก น่าแปลกใจคือ เธอไม่ได้รู้สึกรังเกียจสัมผัสของเขาเลยสักนิด ลัลนาไม่เคยรู้จักตัวตนของตัวเองในส่วนนี้ของตัวเองมาก่อนเลย สิสิระคือคนที่มาเปิดกล่องลับที่ซุกซ่อนอยู่ในกายเธอ ครั้งแรกเธออาจจะตกใจ และตอบรับเขาไปอย่างเผลอไผล ทว่าครั้งนี้ เธอแน่ใจว่าตัวเองกำลังตอบสนองเขาอย่างเต็มใจ และแม้จะฉุกใจแต่เธอก็ไม่ปฏิเสธหรือแม้แต่จะขัดขืน

สิสิระเองก็คงรู้สัมผัสแรงร้อนของเขาจึงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง กว่าเขาจะยอมปล่อยก็กินเวลาไปอีกนานหลายนาที คิดไปแล้วก็ช่างน่าอายเสียจริง เพราะเวลานี้ไม่เพียงแค่เขาที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ตัวของเธอเองก็ไม่ต่างกัน

ใบหน้าคมคายค่อยๆ ผละออกอย่างช้าๆ ก่อนจะก้มลงมาอีกครั้งพร้อมกับแตะเบาๆ บนฝีปากบางของเธอเพื่อเป็นการสั่งลา

'บอกแล้วว่าอยู่ใกล้คุณทีไร ผมเป็นต้องหลุด คุมตัวเองไม่อยู่สักที' เขาบอกพร้อมกับใช้ปลายนิ้ว แตะไล้เบาๆ บนริมฝีปากของเธอ ลัลนาก้มหน้าหลบตาเขา รู้สึกเขินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

'คุณจูบตอบผม ผมจะถือว่ามันคือการตอบรับ พรุ่งนี้ผมจะให้คนเตรียมสัญญาเช่า เสร็จแล้วค่อยให้คุณเข้ามาเซ็น'  สิสิระโมเมรวบรัดอย่างคนเอาแต่ใจ แถมยังสรุปขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสรรพโดยไม่ถามความเห็นอของคนเป็นคู่สัญญาสักคำ

'คะ' ลัลนาเบิกตากว้าง มองเขาอย่างงุนงงระคนทึ่ง แค่จูบตอบยังกลายเป็นเธอพลาดท่าตอบตกลงเซ็นสัญญากับเขาไปแล้ว แล้วหลังเซ็นจะเป็นอย่างไร มิเท่ากับเธอตอบตกลงยอมกายถวายตัวให้กับเขาหรอกรึ หญิงสาวคงคาดไม่ถึงว่าสิ่งที่เธอกำลังคิดไม่ได้ไกลจากความเป็นจริงเลยสักนิด

มือหนาดันร่างเธอออกห่างช้าๆ แม้จะยังเสียดายแต่สิสิระต้องตัดใจ บอกกับตัวเองว่า รออีกนิด เพราะมันยังไม่ถึงเวลา

'เข้าบ้านเถอะ ขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังคุณได้เสร็จผมจริงๆ แน่' พูดพลางไล้เบาๆ ไปบนกรอบหน้าสวยหวาน พร้อมกันนั้นก็หัวเราะร่วนเมื่อเห็นดวงหน้างามของลัลนาเถือกแดงไล่ลามไปจนถึงใบหู

ลัลนารีบผละจากชายหนุ่มราวกับกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ จากนั้นเปิดประตูเตรียมก้าวลงจากรถ ความงุนงงยังไม่จาง

‘ลัล’

เขาเรียกเธออีกแล้ว แต่ลัลนาก็ยอมหัน

‘พรุ่งนี้ออกจากบ้านกี่โมง’

‘ไม่ทราบค่ะ คุณถามทำไมคะ’ เสียงตอบของลัลนาเธอเบาจนเขาแทบไม่ได้ยิน

หญิงสาวไม่รู้จริงๆ นั่นแหละ เพราะป่านนี้เธอยังไม่ได้เข้าบ้าน แถมไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนหลับหรือเปล่า มีหวังพรุ่งนี้เธอคงได้เข้าร้านตอนสายแหงๆ

‘ผมจะมารับ ปกติคุณออกจากบ้านกี่โมง’ เสียงถามฟังดูราบเรียบระคนขัน

'ราวๆ หกโมงค่ะ' หญิงสาวตอบไปตามสัญชาติญาณ พอนึกได้ว่าพลาดบอกเวลาจริงกับเขาไปเสียแล้ว หญิงสาวก็ก้าวลงจากรถพ้อมกับเอยลา “ฉัน...เข้าบ้านก่อนนะคะ”

นึกมาถึงตอนนี้ ลัลนาก็ลุกพรวดพร้อมกับทวนคำของเขาในใจ

รับเหรอ!

ดวงตาสวยเบิกโพลง เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าสิสิระบอกว่าเช้านี้เขาจะมารับเธอ ร่างบางผุดลุกจากที่นอนอย่างเร่งรีบ จากนั้นจึงเปิดไฟจนสว่างไปทั่วทั้งห้อง

ตีห้ากว่าแล้ว อีกไม่กี่นาทีท้องฟ้าเบื้องนอกก็จะสว่าง หญิงสาวหยิบข้าวของที่จำเป็นจากนั้นเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนจะออกมาอีกครั้งในสภาพเตรียมพร้อมออกจากบ้าน ลัลนายังไม่พร้อมที่จะเจอกับสิสิระในเช้านี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกินไป เธอตั้งรับเขาไม่ทัน ชั่วเวลาเพียงข้ามคืนเขาสามารถรวบรัดให้เธอตอบตกลงเป็นแฟนของเขาได้ สิสิระช่างน่ากลัวเกินกว่าที่เธอจะรับมือไหว เห็นทีว่าวันนี้เธอต้องขอเวลาทำใจ ขอหลบไปตั้งตัวก่อนสักพัก

ลัลนาตัดสินใจว่าวันนี้เธอจะไม่เข้าร้าน แต่จะใช้เวลาอยู่กับบิดาและน้องที่โรงพยาบาลแทน คิดแล้วหญิงสาวก็รีบส่งข้อความไปบอกกับพนักงานของเธอ แล้วรีบออกจากบ้านไป

ทว่า... ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่ใจเธอคิด

จู่ๆ ร่างสูงในชุดสูทเต็มยศที่กำลังนั่งเอนหลังพิงเบาะอย่างสบายอารมณ์ก็หันหน้ามายังเธอ สายตาเข้มคมของเขาจ้องมองตรงมายังเธออย่างรู้ทัน ลัลนารู้สึกราวกับว่าเขากำลังตะโกนบอก ว่าเขารู้ทันความคิดของเธอทุกอย่าง

ลัลนาถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง แล้วทีนี้เธอจะทำอย่างไร จะหนีไปไหนก็ไม่ทันเสียแล้ว ยังไม่ทันจะหกโมงเช้าเลยแท้ๆ

แต่สิสิระ... กลับมาจอดรถรออยู่ที่หน้าบ้านของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

----------------------------------------
ยังมีต่อ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่