☻ รักต้องเลือก ☻(ต่อ)

กระทู้สนทนา
[ บทที่ 1    https://ppantip.com/topic/40789979 ]
[ บทที่ 2    https://ppantip.com/topic/40799747 ]
[ บทที่ 3    https://ppantip.com/topic/40811467 ]
[ บทที่ 4    https://ppantip.com/topic/40820564 ]
[ บทที่ 5    https://ppantip.com/topic/40824378 ]

บทที่ 6 ...


.
.


แม้จะวางสายกับคุณดุลยรัฐไปแล้ว แต่ความอึ้งก็ยังคงอยู่ ติ๊นาถือโทรศัพท์ค้างในมือ ใบหน้าดนัยลอยไปมาอยู่ในหัว  ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง แค่มีชายหนุ่มสองคนก้าวเข้ามาให้เลือก แค่นั้นก็ทำให้ติ๊นาเปลี่ยนไปเป็นคนคิดมากอยู่แล้ว  ตอนนี้ ซ้ำร้ายเข้าไปอีก เมื่อจู่ ๆ ชายหนุ่มสองคนกลับกลายเป็นพี่น้องกัน และพี่น้องทั้งสองคนต่างก็ยังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่พวกเขาเกี่ยวข้องอยู่นั้น เป็นคนคนเดียวกัน

แล้วติ๊นาจะต้องทำอย่างไรต่อ?

ถ้าถือดนัยเป็นตัวตั้ง  ติ๊นาคิดว่าตัวเองพอใจแล้วนะ สำหรับผู้ชายอย่างดนัย แม้เขาจะเป็นชายหนุ่มที่ต้องคอยให้เตือนในบางเรื่องบางเวลาตามแต่ละสถานการณ์ แต่นั่นมันก็แค่ความรู้สึกของติ๊นาฝ่ายเดียว  ที่เหมือนกับอยากให้เขาเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้  ให้ถูกใจตัวเอง

ผู้หญิงซึ่งเขามองข้ามเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างที่ติ๊นาเป็นก็มีเยอะนะ  ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบแบบนั้นด้วยซ้ำ  เอ๊ะ  ติ๊นาลืมข้อนี้ไปเหมือนกัน

ที่ดนัยเป็นดนัยอย่างนั้น   ติ๊นารู้  ติ๊นาเข้าใจ  เข้าใจดีว่ามันเป็นนิสัยส่วนตัวของเขา ซึ่งก็ไม่ได้เสียหายอะไร  ทุกครั้งที่ติ๊นาบอกเขาว่า ทำไมไม่ทำอย่างนั้น .. ทำไมไม่ทำอย่างนี้  ดนัยไม่เคยอิดออดเลยที่จะทำตาม  ตรงนี้ไงที่ติ๊นาพอใจ  เป็นปลื้ม ราวกับเป็นเรื่องคุ้นเคยจากหน้าที่การงานลามไปสู่เขา  เอ..  การเป็นปลื้มในเรื่องนี้ เท่ากับเป็นการส่งเสริมนิสัยชอบสั่งการของตัวเองหรือเปล่าหนอ?

แล้วคุณดุลยรัฐล่ะ?

ชายหนุ่มในมาดพี่ชายที่แสนอบอุ่น  ติ๊นาว่าเขาเข้ามาเติมเต็มส่วนขาดของดนัยมากกว่านะ  ถ้าเข้ามาเติมเต็มให้ติ๊นา  ติ๊นาก็ไม่ได้ขาดอะไรนี่นา  เขาเข้ามาเติมเต็มในบางจุดของชายหนุ่มอีกคนต่างหาก

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นตัวตนของคุณดุลยรัฐ  ยอมรับว่าติ๊นายังไม่เคยเห็นเขาขาดตกบกพร่องเรื่องใดเลย  ติ๊นาหมายความถึงเรื่องนิสัยใจคอและสัมพันธภาพของเราเท่านั้นนะ  เรื่องครอบครัวส่วนตัว ยอมรับว่ายังไม่รู้รายละเอียด ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่จะตามมาพร้อมกับกาลเวลาเอง  กาลเวลาซึ่งเราต้องทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้   ...ถ้าติ๊นายังมีไมตรีกับเขาอยู่นะ

ติ๊นาเป็นปลื้มกับเขามากมายอย่างนั้นหรือ?  ก็ไม่นี่นา  เพียงแต่ยอมรับว่า  เขาเป็นผู้ชายที่เฟอร์เฟ็กคนหนึ่ง เท่านั้นเอง

แบบนี้เขาเรียกว่าเปิดใจให้กับผู้ชายอีกคน   และนอกใจอีกคนหรือเปล่านะ?

. . . ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย  หากเราได้รับความรู้สึกดี ๆ จากฝ่ายตรงข้าม  ร้อยทั้งร้อย  ติ๊นาเชื่อว่า  เป็นใครก็ต้องหยุดพิจารณาสิ่งดี ๆ นั้นด้วยกันทุกคน  สิ่งนั้นมาจากอะไร? เพื่ออะไร?  ทำไมต้องมีให้เรา?  และในเมื่อสิ่งนั้นก็เป็นสิ่งดี  เราจะเมินเฉย  หรือไม่ไยดี  โดยไม่แม้แต่จะหยุดพิจารณากับสิ่งนั้นเลย   อย่างนั้นหรือ? . . .

เหมือนจะเข้าข้างตัวเองนะ

ติ๊นาหงายโทรศัพท์ขึ้นแตะหาเมนูรายชื่อ

เจอแล้ว ดนัย

แตะที่สัญลักษณ์โทรออกอีกครั้ง  สัญญาณปลายทางว่าง

รอแค่เพียงชั่วครู่  ดนัยก็ส่งเสียงแว่วมา "ว่าไงครับผม  จะชวนออกไปทานข้าวเที่ยงหรอ?"

"เปล๊า!" ติ๊นาแกล้งทำเสียงยั่ว

"ผิดคาดซะแล้วเรา เฮ้ออ...  " ดนัยลากเสียงยาว  "ว่าแต่ว่า  ทำไมน้ำเสียงไม่ค่อยดีเลย   อาละวาดลูกน้องอยู่รึเปล่า?"

"เปล่า!  แต่กำลังจะอาละวาดคนคุยด้วยนี่แหละ"  ติ๊นาพูดชัดถ้อยชัดคำ

"ทำไมอ่ะ  ทำผิดอะไรอีกเหรอ"  คำถามซื่อ ๆ ตรง ๆ ด้วยน้ำเสียงจริงจัง  ทำให้ติ๊นาคลายยิ้มออกมา

"แหม... คิดอยู่แต่ว่าจะคอยจับผิดเหรอ" ติ๊นาถามกลับไป

"ไม่รู้สิ"

"ถามจริง ๆ นะตะเอง   ติ๊นาเจ้ากี้เจ้าการกับตะเองมั๊ย?.. " คล้ายกับว่าดนัยจะเว้นช่วงไปอึดใจ  แต่ก็ตอบกลับมา

"ไม่หรอก  ไม่เคยคิดยังงั้นเลย ดีใจเสียอีกที่มีคนคอยเป็นห่วงเรา"

"ตอบจากใจนะ  ไม่ใช่ตอบให้ถูกใจ" ติ๊นาทำเสียงเข้ม

"นั่นแหละ   ตอบจากหัวใจเลย  นี่นะ...   " ดนัยเว้นคำพูด "เมื่อวันก่อน  ดนัยบอกไปแล้วนี่ ว่า  การที่มีคนคอยห่วง คอยมองเห็นตัวเราอยู่เสมอ  มันน่าจะเป็นความปลื้มใจมากกว่าน่ารำคาญนะ  ยิ่งคนคอยห่วงเราคือคนที่ใช่ด้วย  มันยิ่งปลื้มใจ อิ่มใจสุด ๆ ไปเลย ไม่ต้องบอกใช่ไหม?  ว่าคน ๆ นั้นคือใคร?"

ติ๊นายิ้มกับโทรศัพท์อยู่คนเดียว  นี่ไง  ที่ติ๊นารู้สึกกับตัวเองเสมอว่า  ติ๊นาพอใจ .. สุขใจแล้ว กับชายหนุ่มคนนี้

"ตะเอง.. " ติ๊นาเรียกดนัยเสียงแผ่ว  "อยากเจอตะเองจังเลย"

"คิดถึงใช่ไหมล่ะ?"

"อย่าเพิ่งพูดเล่นสิ"

"ไม่ได้พูดเล่น  พูดจริง ๆ แล้วก็ถามจริงจังด้วย   คิดถึงใช่ไหม?..  ตอบมาจากใจด้วยนะ  ไม่ใช่ตอบให้ถูกใจ"

ติ๊นาหัวเราะร่วน   "นี่! เดี๋ยวนี้เริ่มยอกย้อนนะ"  ดนัยก็หัวเราะมาตามสายเช่นกัน

"เจอกันยังไงดี?" ติ๊นาถามกลับไป

"ยังไม่ตอบคำถามตะกี้เลย" ยอกย้อนไม่พอ  ยังไม่รามืออีกด้วย

"ตอบก็ได้   ..คิดถึงค่า  คิดถึงมากด้วย  พอใจรึยัง!?"  ดนัยหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม

"งั้นตอนเย็นไปทานข้าวกัน  ตอนเที่ยงคุยได้แค่แป๊บเดียวเอง  ตอนเย็นดีกว่านะ"

"ได้เลย  รับทราบเจ้าค่ะ!  งั้นแค่นี้ก่อน   ..คิดถึงตะเองนะ  รู้ป่ะ?"

"รู้แล้วจ้า  เก็บไว้ก่อน  ตอนเย็นก็ได้เห็นหน้ากันอยู่แล้ว  โอเค.นะ  ก่อนเลิกงานเดี๋ยวจะไปรอรับที่ล็อบบี้"

วางสายครั้งนี้  ถึงท้องฟ้าจะยังไม่สว่างไสว  แต่ติ๊นามองเห็นก้อนเมฆนวลนุ่มนะ  มันให้ความรู้สึกอบอุ่นมากมายเลย.....

.............

.............

งานออกแบบ'บ้านศรีตรัง'เหลือเพียงด้านหน้า ซึ่งเป็นระเบียงชื่อมกับสระว่ายน้ำ แมนเป็นคนนำเลย์เอาท์แปลนสระว่ายน้ำจากฝ่ายโครงสร้างมาให้  ติ๊นาเป็นคนลงรายละเอียดจุดเชื่อมต่อ  เมื่อได้ระยะ ได้ระดับของแต่ละพื้นที่มาแล้ว  แค่เพียงลงรายละเอียดวัสดุพื้นผิวเข้าไป ทุกอย่างก็ขมวดเข้ามาจวนเจียนจะเสร็จสำหรับช็อตแรกแล้ว มีแก้ไขบ้างก็เพียงทางขึ้นลงต่างระดับเท่านั้น ต่อไปก็เหลือเพียงรายละเอียดงานภายนอกและบริเวณสวนรอบบ้านแค่นั้นเอง

ติ๊นามองนาฬิกาบนโต๊ะทำงาน อีกสิบห้านาทีจะห้าโมงเย็น ในใจแวบไปถึงใบหน้าของดนัย ป่านนี้คงกำลังขึ้นลิฟต์มาแน่แล้ว คิดได้อย่างนั้น ติ๊นาจึงเก็บเอกสารรวมทั้งแบบแปลนที่วางระเกะระกะทั้งโต๊ะทำงาน ทั้งโต๊ะเขียนแบบ หอบเข้าชั้นวางข้างผนังห้อง ปากกาเครื่องเขียนถูกเก็บลงลิ้นชัก พอกำลังง่วนอยู่กับชั้นวางข้าวของ เสียงโทรศัพท์ภายในบนโต๊ะ ก็ดังขึ้น

ติ๊นายกหูโทรศัพท์ เสียงชินหูของอุ้มดังมาตามสาย

"เก็บข้าวเก็บของเสร็จรึยังเพคะ?"

"ยัง"

"จำได้มั้ย  เมื่อเช้าชวนติ๊น่ากินข้าวเย็นไว้อ่ะ"

"ชวนตอนไหน?"

"วู้ย.. ย..  อะไรจะยุ่งปานนั้นเพค้าาา... " คำพูดของอุ้มยังทำให้ติ๊นางงอยู่ดี "แสดงว่าไม่มีสมาธิแน่ ๆ เลย   ถึงรับคลื่นทางโทรจิตพระสหายไม่ได้"

ติ๊นาถอนหายใจ "ชวนกินข้าวทางโทรจิตเนี่ยนะ แม่คุณ!" เสียงหัวเราะเฮฮาของอุ้มดังแว่วมาจากปลายทาง

"แล้วจะไปได้มั้ยล่ะค้าา.. "

"ซอรี่เจ้าค่ะ"  ติ๊นาเน้นเสียง  "วันนี้จะไปดินเน่อร์กับเจ้าชาย  ป่านนี้คงขึ้นเกี้ยวเสด็จมาแล้วล่ะ"

"โห...  ปาดหน้าข้าเจ้าชัด ๆ  แบบนี้ต้องสั่งให้รอปอภอเบรกพระเกี้ยวซะดีมั้ย?"

"ลองดูสิ  จะสั่งประหารให้หมดเลย" ติ๊นาทำเสียงจริงจัง  อุ้มหัวเราะเสียงดัง

"โอเค. ไม่ขวางเส้นทางสีชมพูแล้วล่ะ  เอ่อ  กะว่าจะโทรมาแจ้งเรื่องงานนิดนึง พรุ่งนี้ตอนบ่ายจะมีประชุมเรื่องบ้านศรีตรังนะจ๊ะ"

"รับทราบจากหัวหน้าแล้วย่ะ" ติ๊นาเน้นเสียง "ทีเรื่องประชุมล่ะก็  มาช้าเหลือเกิ๊นน..  เรื่องอื่นมาเร็วยังกะรถไฟความเร็วสูง"

อุ้มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี คุยต่ออีกไม่กี่ประโยคเราก็วางสายกัน  ติ๊นาสำรวจโต๊ะทำงาน เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยทุกสิ่งทุกอย่างแล้วจึงคว้ากระเป๋าคล้องไหล่ก้าวออกมาจนถึงห้องรับรองลูกค้า  มองเห็นดนัยนั่งดูหนังสือแม็กกาซีนรออยู่เงียบ ๆ กลางห้อง

"พร้อมแล้วจ้า" ติ๊นาส่งเสียงไปก่อน

ดนัยเงยหน้าขึ้นมามอง สีหน้าเรียบเฉยที่มองเห็นแวบหนึ่ง  ติ๊นารู้สึกไม่ค่อยดีเลย แต่พอเขาส่งยิ้มมาให้  ถึงได้ใจชื้นขึ้นมาเป็นปรกติ เราก้าวออกจากห้องรับรองแขกด้วยกัน มุ่งสู่หน้าลิฟต์สุดปลายทางเดิน

"ทำไมเงียบจังล่ะ ตะเอง" ติ๊นาเดินไปด้วย ถามไปด้วย

"ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังบนรถ"

เราลงมาถึงชั้นจอดรถของดนัยโดยสรุปกันไว้แล้วว่า ติ๊นาจะจอดรถไว้ที่นี่ เหมือนกับที่เคยใช้วิธีนี้มาแล้วสองสามครั้ง ดนัยจะเป็นคนไปส่งติ๊นาที่บ้านหลังจากเสร็จสิ้นอาหารมื้อค่ำด้วยกัน

ท่าทีของดนัยทำให้ติ๊นาพลอยเงียบไปด้วย  ขณะรถกำลังขยับไปกับสภาพการจราจรที่ค่อนข้างติดขัด เมื่อถึงจุดไฟแดงจุดหนึ่ง รถจอดนิ่งได้สักพัก อยู่ ๆ มือซ้ายของดนัยก็เอื้อมมากุมมือติ๊นาซึ่งวางแนบอยู่กับสายเข็มขัดนิรภัย

"นี่! ตอนนี้กุมมือเลยเหรอ  ทั้ง ๆ ที่ขับรถอยู่ด้วย" ติ๊นาหันไปมองหน้าเขา

"รถไม่ได้วิ่งซักกะหน่อย"

"อ้อ.. เหรอ" ฝ่ามือนุ่มนั้น ส่งกระแสไออุ่นสู่มือติ๊นาอย่างละมุนละไม

"ไม่ต้องขออนุญาตแล้วก็ได้ เนอะ" เขาพูดโดยมองจ้องอยู่ที่สัญญาณไฟ

"ไม่ขออนุญาต  เลยไม่กล้ามองสบตาใช่มั้ย"

ดนัยหันหน้ามา "กล้าสิค้าบ" เขายิ้มกรุ้มกริ่มและบีบมือติ๊นาเบา ๆ

"อย่าบอกนะว่าจะขอแต่งงาน" พูดออกไปแล้ว ติ๊นาได้แต่กลั้นหัวเราะอยู่ในใจ   ช่างกล้าพูดออกไปได้นะ คนเรา

"ฟังเหมือนกับเป็นคำเร่งรัดเนอะ" เขาว่ามา

ติ๊นานิ่ง มองสบตากับเขา  หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

"ใช่  ต้องเร่งรัดแล้วล่ะ  ดูนู่นสิไฟเขียวแล้ว  รีบเร่งให้ทันคันหน้าเลย ก่อนคันหลังจะบีบแตรไล่"

ดนัยหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้า เขาหัวเราะเบา ๆ  รถเริ่มเคลื่อนตัว ติ๊นานั่งอมยิ้มมองออกนอกหน้าต่างรถ  รู้สึกเขินอะไรก็ไม่รู้

ในความขวยเขินนั้น

มีความอบอุ่นประหลาด ๆ วิ่งซุกซนอยู่ในตัววุ่นวายไปหมด  วิ่งอยู่ในหัวใจด้วย  อ้อ  ในมือที่ดนัยยังกุมอยู่อีกด้วย

.............

.............
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่