บทที่ 1 ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นงานเขียนเก่าเก็บ
เป็นงานเขียนที่ภาคภูมิใจงานหนึ่ง
เค้าโครงเรื่อง สำนวน คำความที่เขียน
พยายามไม่แก้ไขตรงไหนให้วุ่นวาย
พยายามคงกลิ่นอายเดิม ๆ ไว้อย่างที่สุด
เรื่องนี้อ้างอิงจากข้อมูลจริง สถานที่จริง
ตัวละครจริง(บางคน)
โดยเฉพาะตัวนางเอกผู้มีแต่ความสดใส
มั่นใจในตัวเอง
นี่คือเรื่องราวความรักของเธอครับ
บทที่ 1 ...
‘
ศูนย์ฝึกอบรมธนาคารไทยพาณิชย์’ หาดตะวันรอน
เช้าวันนี้เป็นวันที่ต้องกุลีกุจอสุด ๆ ในชีวิต ที่ ‘
ติ๊นา’ ต้องกระวีกระวาดตื่นแต่ตีห้า และกว่าจะอาบน้ำ แต่งตัว ปัดแก้มแต้มตาเสร็จ ยังต้องรีบบึ่งไปให้ทันรถตู้ที่หน้าบริษัท แล้วก็ต้องรีบเดินทางมาให้ถึง ‘
หาดตะวันรอน’ เร็วที่สุด เท่าที่จะเร็วได้
รถตู้ของบริษัทก็ช่างทันใจ เพราะพาพวกเรามาถึงที่หมายแทบจะกลั้นหายใจไม่รู้กี่ช่วง กี่ตอน ที่จริงน่าจะใช้คำว่า ‘
ลืมหายใจ’ ด้วยซ้ำ เพราะหากใครมองออกหน้าต่างรถ ไม่มีหรอก ที่ใครจะไม่กลั้นหายใจ
พอจัดการเสร็จสรรพกับอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ‘
ศูนย์ฝึกอบรม’ หัวหน้าผู้ตามมาจากกรุงเทพก็มาถึงด้วยรถส่วนตัว พวกเราสี่คนมี
ติ๊นา ติ๊ก แมน และ
อุ้ม ต่างรีบออกไปตั้งแถวรับหัวหน้าวิศวกรหนุ่มใหญ่โดยพร้อมเพรียงกัน
‘
คุณธนชาติ’ บอกไม่ต้องเรื่องมาก ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวจะขออะไรรองท้องก่อน เรื่องงานเดี๋ยวค่อยว่ากัน
โถ.. อุตส่าห์เช็ดแก้มเลอะเค้กบราวด์นี่ออก แล้วยังโป๊ะหน้าทาลิปมันใหม่ ถ้ารู้ล่วงหน้า คงเบิ้ลเค้กอีกสองชิ้นไปแล้ว หัวหน้านะหัวหน้า
..
พวกเราย้อนกลับเข้าห้องอาหารอีกหน คราวนี้แต่ละคนวางมาดเป็นนางเอกทั้งก๊วน อ้อ
.. มีแมนคนเดียวที่รักษามาดตัวประกอบชายด้วยการสั่งชาเขียวร้อน ขณะพวกนางเอกสั่งน้ำส้มคั้นใหม่คนละแก้ว เอาน่ะ
.. แค่อยากรู้ว่าแก้วสาม รสชาติมันยังจะเสถียรอยู่หรือเปล่า
คุณธนชาตินั่งเงียบ สาละวนอยู่กับไอแพดส่วนตัวบนโต๊ะด้านในสุด
อุ้มเริ่มต้นต่อยหอยในกลุ่มอีกครั้ง แม่คุณเธอก็ช่างหาเรื่องมาเล่าได้แสนสารพัด ฟังดูจะออกไปทางวีรกรรมของตัวเองเป็นหลัก ติ๊กได้แต่อือ ๆ .. ออ ๆ .. แมนซึ่งเป็นเด็กแผนกเขียนแบบได้แต่
..เหรอครับ?
.. พี่อุ้มเจ๋งอ่ะ
.. แหล่มมากพี่อุ้ม
.. แล้วก็ตามด้วยคำพูดเออออไปด้วยอย่างออกนอกหน้า สำหรับติ๊นาแล้ว ทำได้แค่ลอบมองจอโทรศัพท์ตัวเอง ด้วยความวุ่นวายใจ
ผู้ชายนะผู้ชาย.. กว่าจะใช้มารยาเกือบพันเล่มเกวียนก็แทบสิ้นใจแล้ว พอได้เราไป
โอ๊ะ.. ไม่ใช่สิ พอได้รู้จักกัน ทำไมเรายังต้องมานั่งคอยเช็กข้อความบ้าบออยู่อีก มันจะยุ่งยากซักแค่ไหนกัน กับการกดส่งสติ๊กเกอร์มา หรือไม่ก็
.. พอวางขันน้ำ วางแปรงสีฟันเสร็จ แก้ผ้าเสร็จ
อุ๊บ..! ไม่ใช่ พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แค่พิมพ์อะไรทักทายมาก็ไม่เห็นจะเป็นจะตายอะไรนี่นา
ฮึ!..
งุ่นง่านแวบเดียวเอง
เสียงสวรรค์จากชั้นฟ้าก็ดังปิ๊งเข้ามา
เย๊..! ต้องอย่างนี้สิ คุณเจ้าชาย
ข้อความอวยพรตามด้วยสติ๊กเกอร์ทะเล้น เห็นแล้วเปลี่ยนอารมณ์ได้เหมือนกัน
แหม.. ต้องส่งกระแสข่มขู่ถึงจะรู้สึกพระวรกายสินะ.. ติ๊นาอมยิ้มอยู่คนเดียว ไม่ได้ยินเสียงเสวนาใด ๆ บนโลกทั้งสิ้น เว้นแต่เสียงจากห้วงดาวดึงส์
"
นี่! แม่คุณ
คริสติน่า! ชาวบ้านชาวช่องเขาคุยเรื่องดิจิตอลวอลเล็ตกันอยู่ แม่เจ้าปะคุณเห็นเป็นเรื่องขำขันงั้นเร๊อะ
ห๊ะ!" อุ้มสะกิดด้วยเสียงเข้มข้นราวกับครูฝ่ายปกครองกำลังเฉ่งลูกศิษย์ทาลิปแปร๊ด
"โทษทีค่า
.. บังเอิญไม่ได้ยินอะไร มัวได้ยินแต่เสียงจากห้วงหาว"
เท่านั้นแหละ
เสียงโห. . . . ก็ดังพรึ่บ! แทบจะพร้อม ๆ กัน แต่พอทุกคนนึกได้ว่าหัวหน้านั่งอยู่ใกล้ ๆ เสียงลุแก่มารยาทอันดีงาม ก็รวมใจกันเงียบลง
คุณธนชาติหัวหน้าทีมเสร็จสิ้นภารกิจมื้อเช้าแล้ว เวลาตอนนี้เก้าโมงเศษ พวกเราทั้งหมดห้าคนต่างพร้อมแล้วสำหรับการมุ่งหน้าสู่บ้านพักตากอากาศริมทะเลหลังสุดท้าย ติดกำแพงล้อมรอบอาณาเขตของศูนย์ฝึกอบรมธนาคารไทยพาณิชย์
‘
แมน’ เก็บรายละเอียดด้วยกล้องมือถือ พร้อมทั้งเดินจดรายการตามที่หัวหน้าเดินไปสั่งไป ติ๊นาเดินออกไปสำรวจรอบบริเวณตัวบ้านซึ่งจะต้องทำการทั้งรีโมเดลทั้งรีโนเวตนั้น ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
บ้านตากอากาศสองชั้นหลังนี้ยังดูดีนะ แม้จะใช้งานมาจนสังขารร่วงโรย แต่สภาพโดยรวมยังครบถ้วน
นี่ไง
งานที่ติ๊นาจะต้องดีไซน์บ้านหลังนี้ใหม่ ทั้งภายนอกและภายในให้เสร็จภายในเวลาสามวัน!
อะไรมันจะขนาดนั้นนะ แต่คำสั่งจากผู้ใหญ่ซึ่งสรุปโป้ง!มาอย่างนั้น มันหาเหตุผลขอเพิ่มเวลาไม่ได้จริง ๆ
ภาพที่สองซึ่งติ๊นาถ่ายเองจากหน้าบ้านหันออกทะเล มองเห็นสันกำแพงหินภูเขาก่อกั้นแยกส่วนชายหาดต่างระดับกัน คลื่นลมซึ่งถ่ายเทเข้ามาหา ช่างชื่นฉ่ำเย็นใจเสียจริง
เก็บภาพรอบบ้านด้วยโทรศัพท์มือถือเสร็จ ก็ถึงคราวต้องตามเข้าไปเก็บภายใน ติ๊นาถ่ายเก็บมุมภายในไว้อย่างละเอียด ไม่ลืมแม้กระทั่งบันได ช่องเก็บของใต้บันได พอสายตาสะดุดเข้ากับหินอ่อนในห้องน้ำ ในหัวก็สะดุดกับตารางนัดหมายใครคนหนึ่งไว้เช่นกัน
โอ้ .. แล้วเราจะกลับไปทันนัดเขาไหมนี่?
ใบหน้าที่ช่างละม้ายคล้ายกับดนัย ทำให้ติ๊นาสะบัดหัวไปมา เอาน่า
.. เพราะสเปกเจ้าชายเราต้องแบบนี้ไง หน้าตาผู้ชายสองคนเลยออกไปทางพิมพ์เดียวกันซึ่งมันก็แค่นั้นเอง เธอคิดมากไปรึเปล่า? ไม่มั้ง
แต่เอ
.. แค่คิดติ๊ดดด.เดียว ทำไมในหัวมันรู้สึกโหวง ๆ นะ
ชายหนุ่มอีกคนที่กำลังแทรกเข้ามา ถึงเขาจะเข้ามาด้วยเรื่องธุรกิจ แต่เหมือนกับเขาพกพาอะไรมาด้วยก็ไม่รู้ เราเจอกันก็ด้วยเรื่องงาน เขาคิดกับเราแค่ไหน? อย่างไร? ยังไม่รู้เลย
.. ทำไมเราต้องคิดไปนู่น
..แล้วดนัยล่ะ? เฮ้อ
..
ทีต้องรอเฝ้าเจ้าชายสักพระองค์จุติ ทำไมต้องรอแล้วรอเล่า
พอเจ้าชายองค์แรกแย้มพระวรกายมา ทำไมฟ้าต้องส่งอีกพระองค์มาด้วย?
พวกเราใช้เวลาสำรวจบ้านร่วมชั่วโมง และเมื่อคุณธนชาติคุยโทรศัพท์กับใครบางคนเสร็จ ก็เป็นอันว่าสิ้นสุดการสำรวจและเก็บรายละเอียดของพวกเราเช่นกัน แล้วเราทั้งห้าก็เดินกลับล็อบบี้ห้องอาหารอีกครั้ง รอเวลาประชุมกับฝ่ายอาคาร รวมไปถึงอีกสองบริษัทผู้เป็นคนจัดเตรียมวัสดุในการรีโนเวตครั้งนี้
ขณะว่าง โทรศัพท์ติ๊นาดิ้นกระดุกกระดิกเพราะมีสายเรียกเข้า แอบมองซ้ายมองขวาเสร็จ จึงค่อย ๆ ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงชุดทำงาน
ชื่อ
‘ดุลยรัฐ’ โชว์หราหน้าจอ
อ๊ะ! คนอะไร.. เหมือนเพิ่งนึกเห็นหน้าไม่ทันถึงชั่วโมงเลย นึกเห็นหน้าเฉย ๆ นะ ไม่ได้ภาวนาให้ต่อสายมาหาซักหน่อย
แต่ก็ไม่เป็นไร รับก็ได้
☻ รักต้องเลือก ☻ บทที่ 1 ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 1 ...
‘ศูนย์ฝึกอบรมธนาคารไทยพาณิชย์’ หาดตะวันรอน
เช้าวันนี้เป็นวันที่ต้องกุลีกุจอสุด ๆ ในชีวิต ที่ ‘ติ๊นา’ ต้องกระวีกระวาดตื่นแต่ตีห้า และกว่าจะอาบน้ำ แต่งตัว ปัดแก้มแต้มตาเสร็จ ยังต้องรีบบึ่งไปให้ทันรถตู้ที่หน้าบริษัท แล้วก็ต้องรีบเดินทางมาให้ถึง ‘หาดตะวันรอน’ เร็วที่สุด เท่าที่จะเร็วได้
รถตู้ของบริษัทก็ช่างทันใจ เพราะพาพวกเรามาถึงที่หมายแทบจะกลั้นหายใจไม่รู้กี่ช่วง กี่ตอน ที่จริงน่าจะใช้คำว่า ‘ลืมหายใจ’ ด้วยซ้ำ เพราะหากใครมองออกหน้าต่างรถ ไม่มีหรอก ที่ใครจะไม่กลั้นหายใจ
พอจัดการเสร็จสรรพกับอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ‘ศูนย์ฝึกอบรม’ หัวหน้าผู้ตามมาจากกรุงเทพก็มาถึงด้วยรถส่วนตัว พวกเราสี่คนมี ติ๊นา ติ๊ก แมน และ อุ้ม ต่างรีบออกไปตั้งแถวรับหัวหน้าวิศวกรหนุ่มใหญ่โดยพร้อมเพรียงกัน
‘คุณธนชาติ’ บอกไม่ต้องเรื่องมาก ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวจะขออะไรรองท้องก่อน เรื่องงานเดี๋ยวค่อยว่ากัน โถ.. อุตส่าห์เช็ดแก้มเลอะเค้กบราวด์นี่ออก แล้วยังโป๊ะหน้าทาลิปมันใหม่ ถ้ารู้ล่วงหน้า คงเบิ้ลเค้กอีกสองชิ้นไปแล้ว หัวหน้านะหัวหน้า..
พวกเราย้อนกลับเข้าห้องอาหารอีกหน คราวนี้แต่ละคนวางมาดเป็นนางเอกทั้งก๊วน อ้อ.. มีแมนคนเดียวที่รักษามาดตัวประกอบชายด้วยการสั่งชาเขียวร้อน ขณะพวกนางเอกสั่งน้ำส้มคั้นใหม่คนละแก้ว เอาน่ะ.. แค่อยากรู้ว่าแก้วสาม รสชาติมันยังจะเสถียรอยู่หรือเปล่า
คุณธนชาตินั่งเงียบ สาละวนอยู่กับไอแพดส่วนตัวบนโต๊ะด้านในสุด
อุ้มเริ่มต้นต่อยหอยในกลุ่มอีกครั้ง แม่คุณเธอก็ช่างหาเรื่องมาเล่าได้แสนสารพัด ฟังดูจะออกไปทางวีรกรรมของตัวเองเป็นหลัก ติ๊กได้แต่อือ ๆ .. ออ ๆ .. แมนซึ่งเป็นเด็กแผนกเขียนแบบได้แต่ ..เหรอครับ? .. พี่อุ้มเจ๋งอ่ะ.. แหล่มมากพี่อุ้ม .. แล้วก็ตามด้วยคำพูดเออออไปด้วยอย่างออกนอกหน้า สำหรับติ๊นาแล้ว ทำได้แค่ลอบมองจอโทรศัพท์ตัวเอง ด้วยความวุ่นวายใจ
ผู้ชายนะผู้ชาย.. กว่าจะใช้มารยาเกือบพันเล่มเกวียนก็แทบสิ้นใจแล้ว พอได้เราไป โอ๊ะ.. ไม่ใช่สิ พอได้รู้จักกัน ทำไมเรายังต้องมานั่งคอยเช็กข้อความบ้าบออยู่อีก มันจะยุ่งยากซักแค่ไหนกัน กับการกดส่งสติ๊กเกอร์มา หรือไม่ก็.. พอวางขันน้ำ วางแปรงสีฟันเสร็จ แก้ผ้าเสร็จ อุ๊บ..! ไม่ใช่ พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แค่พิมพ์อะไรทักทายมาก็ไม่เห็นจะเป็นจะตายอะไรนี่นา ฮึ!..
งุ่นง่านแวบเดียวเอง
เสียงสวรรค์จากชั้นฟ้าก็ดังปิ๊งเข้ามา
เย๊..! ต้องอย่างนี้สิ คุณเจ้าชาย
ข้อความอวยพรตามด้วยสติ๊กเกอร์ทะเล้น เห็นแล้วเปลี่ยนอารมณ์ได้เหมือนกัน แหม.. ต้องส่งกระแสข่มขู่ถึงจะรู้สึกพระวรกายสินะ.. ติ๊นาอมยิ้มอยู่คนเดียว ไม่ได้ยินเสียงเสวนาใด ๆ บนโลกทั้งสิ้น เว้นแต่เสียงจากห้วงดาวดึงส์
"นี่! แม่คุณคริสติน่า! ชาวบ้านชาวช่องเขาคุยเรื่องดิจิตอลวอลเล็ตกันอยู่ แม่เจ้าปะคุณเห็นเป็นเรื่องขำขันงั้นเร๊อะ ห๊ะ!" อุ้มสะกิดด้วยเสียงเข้มข้นราวกับครูฝ่ายปกครองกำลังเฉ่งลูกศิษย์ทาลิปแปร๊ด
"โทษทีค่า.. บังเอิญไม่ได้ยินอะไร มัวได้ยินแต่เสียงจากห้วงหาว"
เท่านั้นแหละ
เสียงโห. . . . ก็ดังพรึ่บ! แทบจะพร้อม ๆ กัน แต่พอทุกคนนึกได้ว่าหัวหน้านั่งอยู่ใกล้ ๆ เสียงลุแก่มารยาทอันดีงาม ก็รวมใจกันเงียบลง
คุณธนชาติหัวหน้าทีมเสร็จสิ้นภารกิจมื้อเช้าแล้ว เวลาตอนนี้เก้าโมงเศษ พวกเราทั้งหมดห้าคนต่างพร้อมแล้วสำหรับการมุ่งหน้าสู่บ้านพักตากอากาศริมทะเลหลังสุดท้าย ติดกำแพงล้อมรอบอาณาเขตของศูนย์ฝึกอบรมธนาคารไทยพาณิชย์
‘แมน’ เก็บรายละเอียดด้วยกล้องมือถือ พร้อมทั้งเดินจดรายการตามที่หัวหน้าเดินไปสั่งไป ติ๊นาเดินออกไปสำรวจรอบบริเวณตัวบ้านซึ่งจะต้องทำการทั้งรีโมเดลทั้งรีโนเวตนั้น ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
บ้านตากอากาศสองชั้นหลังนี้ยังดูดีนะ แม้จะใช้งานมาจนสังขารร่วงโรย แต่สภาพโดยรวมยังครบถ้วน
นี่ไง
งานที่ติ๊นาจะต้องดีไซน์บ้านหลังนี้ใหม่ ทั้งภายนอกและภายในให้เสร็จภายในเวลาสามวัน!
อะไรมันจะขนาดนั้นนะ แต่คำสั่งจากผู้ใหญ่ซึ่งสรุปโป้ง!มาอย่างนั้น มันหาเหตุผลขอเพิ่มเวลาไม่ได้จริง ๆ
ภาพที่สองซึ่งติ๊นาถ่ายเองจากหน้าบ้านหันออกทะเล มองเห็นสันกำแพงหินภูเขาก่อกั้นแยกส่วนชายหาดต่างระดับกัน คลื่นลมซึ่งถ่ายเทเข้ามาหา ช่างชื่นฉ่ำเย็นใจเสียจริง
เก็บภาพรอบบ้านด้วยโทรศัพท์มือถือเสร็จ ก็ถึงคราวต้องตามเข้าไปเก็บภายใน ติ๊นาถ่ายเก็บมุมภายในไว้อย่างละเอียด ไม่ลืมแม้กระทั่งบันได ช่องเก็บของใต้บันได พอสายตาสะดุดเข้ากับหินอ่อนในห้องน้ำ ในหัวก็สะดุดกับตารางนัดหมายใครคนหนึ่งไว้เช่นกัน โอ้ .. แล้วเราจะกลับไปทันนัดเขาไหมนี่?
ใบหน้าที่ช่างละม้ายคล้ายกับดนัย ทำให้ติ๊นาสะบัดหัวไปมา เอาน่า.. เพราะสเปกเจ้าชายเราต้องแบบนี้ไง หน้าตาผู้ชายสองคนเลยออกไปทางพิมพ์เดียวกันซึ่งมันก็แค่นั้นเอง เธอคิดมากไปรึเปล่า? ไม่มั้ง
แต่เอ.. แค่คิดติ๊ดดด.เดียว ทำไมในหัวมันรู้สึกโหวง ๆ นะ
ชายหนุ่มอีกคนที่กำลังแทรกเข้ามา ถึงเขาจะเข้ามาด้วยเรื่องธุรกิจ แต่เหมือนกับเขาพกพาอะไรมาด้วยก็ไม่รู้ เราเจอกันก็ด้วยเรื่องงาน เขาคิดกับเราแค่ไหน? อย่างไร? ยังไม่รู้เลย.. ทำไมเราต้องคิดไปนู่น ..แล้วดนัยล่ะ? เฮ้อ..
ทีต้องรอเฝ้าเจ้าชายสักพระองค์จุติ ทำไมต้องรอแล้วรอเล่า
พอเจ้าชายองค์แรกแย้มพระวรกายมา ทำไมฟ้าต้องส่งอีกพระองค์มาด้วย?
พวกเราใช้เวลาสำรวจบ้านร่วมชั่วโมง และเมื่อคุณธนชาติคุยโทรศัพท์กับใครบางคนเสร็จ ก็เป็นอันว่าสิ้นสุดการสำรวจและเก็บรายละเอียดของพวกเราเช่นกัน แล้วเราทั้งห้าก็เดินกลับล็อบบี้ห้องอาหารอีกครั้ง รอเวลาประชุมกับฝ่ายอาคาร รวมไปถึงอีกสองบริษัทผู้เป็นคนจัดเตรียมวัสดุในการรีโนเวตครั้งนี้
ขณะว่าง โทรศัพท์ติ๊นาดิ้นกระดุกกระดิกเพราะมีสายเรียกเข้า แอบมองซ้ายมองขวาเสร็จ จึงค่อย ๆ ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงชุดทำงาน
ชื่อ ‘ดุลยรัฐ’ โชว์หราหน้าจอ อ๊ะ! คนอะไร.. เหมือนเพิ่งนึกเห็นหน้าไม่ทันถึงชั่วโมงเลย นึกเห็นหน้าเฉย ๆ นะ ไม่ได้ภาวนาให้ต่อสายมาหาซักหน่อย
แต่ก็ไม่เป็นไร รับก็ได้