.....
ศูนย์ฝึกอบรมธนาคารไทยพาณิชย์ หาดตะวันรอน
เช้าวันนี้เป็นวันที่ต้องกุลีกุจอสุด ๆ ในชีวิต
‘ติ๊นา
’ ต้องกระวีกระวาดตื่นแต่ตีห้า กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว ปัดหน้าทาแก้ม แต้มตาเสร็จ ยังต้องรีบบึ่งไปให้ทันรถตู้ที่รอท่าอยู่หน้าบริษัท แล้วก็ต้องรีบเดินทางมาให้ถึง‘หาดตะวันรอน’ให้เช้าที่สุดเท่าที่จะเช้าได้ รถตู้ของบริษัทก็ทันใจด่วนจี๋ พาพวกเรามาถึงที่หมายแทบจะไม่ต้องหายใจหายคอกันเลยทีเดียว
ที่จริงต้องบอกว่า‘ลืมหายใจ’เป็นระยะ ๆ ไปด้วยซ้ำ เพราะหากใครมองออกนอกหน้าต่างรถ ไม่มีหรอกที่ใครจะไม่กลั้นหายใจ
เพิ่งจะจัดการกับอาหารเช้าที่ล็อบบี้ห้องอาหารเสร็จสรรพ
หัวหน้าผู้ตามหลังมาจากกรุงเทพก็มาถึงด้วยรถส่วนตัว พวกเราสี่คนมี
ติ๊นา ติ๊ก แมน และ
อุ้ม รีบกุลีกุจอออกไปตั้งแถวรับหน้าบานแฉ่ง
'คุณธนชาติ'วิศวกรหนุ่มใหญ่โบกมือเป็นสัญญาณไม่ต้องรีบ เหมือนจะบอกว่า เดี๋ยวจะหาอะไรรองท้องก่อน เรื่องงานเดี๋ยวค่อยว่ากัน
โถ... อุตส่าห์เช็ดปากเช็ดแก้มเลอะเค้กบราวด์นี่ออก แล้วยังโป๊ะหน้าทาลิปมันใหม่เพิ่งเสร็จ ถ้ารู้อย่างนี้ล่วงหน้า คงเบิ้ลเค้กอีกซักสองชิ้นไปแล้ว หัวหน้าหนอหัวหน้า
พวกเราย้อนกลับเข้าล็อบบี้อีกหน คราวนี้แต่ละคนวางมาดเป็นกลุ่มนางเอกกันหมด อ้อ มีแมนคนเดียวที่กอดหนึบกับมาดตัวประกอบชายด้วยการสั่งชาร้อน ขณะที่พวกนางเอกสามคนสั่งน้ำส้มคั้นมาใหม่คนละแก้ว เอาน่ะ อยากรู้ว่าแก้วสามมันยังรสชาติเดิมอยู่หรือเปล่า
คุณธนชาตินั่งเงียบ ๆ อยู่กับไอแพดส่วนตัว ที่โต๊ะในสุด
อุ้มเริ่มต้นต่อยหอย ติ๊กได้แต่อือ ๆ ออ ๆ แมนซึ่งเป็นเด็กแผนกเขียนแบบได้แต่ ...เหรอครับ....พี่อุ้มจ๊าบอ่ะ....แหล่มมากพี่อุ้ม .... แล้วก็ตามด้วยคำพูดเออออห่อหมกพกลม ตามน้ำตามเกาเหลาไปกับฝ่ายบัญชีรุ่นพี่อย่างออกนอกหน้า ส่วนติ๊นาได้แต่ลอบมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด
ผู้ชายนะผู้ชาย กว่าจะใช้มารยาร้อยแปดสิบเล่มเกวียนจนปิ๊งเราในที่สุด นั่นก็แทบจะหมดแรงหมดลมแล้ว พอได้เราไป อร๊ายย..! ไม่ใช่สิ พอได้รู้จักกันแล้ว ทำไมเรายังต้องมานั่งตามข้อความบ้าบออยู่อีก มันจะยุ่งยากลำบากซักแค่ไหนกันฮึ!! กับการกดส่งสติ๊กเกอร์มาแค่นั้น หรือพอวางขันน้ำวางแปรงสีฟันแก้ผ้าได้ อุ๊บ..! ไม่ใช่สิ พอเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ แค่พิมพ์อะไรส่งมาให้ก็ไม่เห็นจะเป็นจะตายเลยนี่นา
งุ่นง่านอยู่แว่บเดียว
เสียงสวรรค์ก็ดังติ๊งหน่องเข้ามาจริง ๆ
เย๊ ! ต้องอย่างนี้สิ คุณเจ้าชายของเรา
ข้อความอวยพรให้เดินทางปลอดภัยตามด้วยสติ๊กเกอร์ทะเล้น เห็นแล้วเปลี่ยนอารมณ์ขุ่นมัวหายวับ แหม... ต้องส่งกระแสข่มขู่สินะถึงจะรู้สึกพระวรกาย ติ๊นายิ้มแป้นจนแก้มแทบฉีก ไม่ได้ยินเสียงเสวนาใดบนโลกมนุษย์อีกแล้ว เว้นแต่เสียงจากห้วงเวหา
"นี่! แม่คุณคริสติน่า! ชาวบ้านชาวช่องเขาคุยเรื่องลุงพลกันอยู่ แม่คุณเห็นเป็นเรื่องขำขันอะไรเหรอ ห๊ะ!" อุ้มสะกิดด้วยเสียงเข้มข้นราวกับครูฝ่ายปกครองกำลังเฉ่งลูกศิษย์แก๊งค์แร็ปเปอร์
"โทษที.. ไม่ได้ฟังอ่ะ พอดีมัวแต่ฟังเสียงจากห้วงหาวอยู่"
เท่านั้นแหละ
เสียงโอ้โห...ห....ห.. ก็ดังพรึ่บ!แทบจะพร้อม ๆ กัน แต่พอนึกได้ว่าหัวหน้านั่งร่วมโต๊ะอยู่ เสียงลุแก่มารยาทอันดีก็พลันเงียบกริ๊บ!
คุณธนชาติหัวหน้าทีมเสร็จสิ้นภารกิจมื้อเช้าแล้ว เวลาตอนนี้เก้าโมงเศษ พวกเราทั้งหมดห้าคนต่างพร้อมแล้วสำหรับการมุ่งหน้าสู่บ้านพักตากอากาศริมทะเลหลังสุดท้าย ติดกำแพงล้อมรอบอาณาเขตของศูนย์ฝึกอบรม
‘แมน
’เก็บรายละเอียดด้วยรูปถ่าย พร้อมกับเดินตามจดรายการที่หัวหน้าเดินไป สั่งไป ติ๊นาเดินออกไปสำรวจรอบบริเวณตัวบ้านซึ่งจะต้องทำการทั้งรีโมเดลทั้งรีโนเวตนั้น ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
บ้านตากอากาศสองชั้นหลังนี้ดูดีนะ แม้จะใช้งานมาจนสังขารร่วงโรย แต่สภาพโดยรวมยังครบถ้วน
นี่ไง
งานที่ติ๊นาจะต้องดีไซน์บ้านหลังนี้ใหม่ ทั้งภายนอกและภายในให้เสร็จภายในเวลาสามวัน!
อะไรมันจะขนาดนั้นนะ แต่คำสั่งจากผู้ใหญ่ซึ่งสรุปโป้ง!มาอย่างนั้น มันหาเหตุผลขอเพิ่มเวลาไม่ได้จริง ๆ
ภาพที่สองซึ่งติ๊นาถ่ายเองจากหน้าบ้านหันออกสู่ทะเล มองเห็นสันกำแพงหินภูเขาก่อกั้นแยกส่วนกับชายหาดต่างระดับกัน อากาศจากคลื่นลมถ่ายเทเข้ามาหาตลอดนั้น ช่างชื่นฉ่ำเย็นใจเสียจริง
เก็บภาพรอบบ้านเสร็จก็ถึงคราวต้องตามเข้าไปเก็บภายในด้วย ติ๊นาถ่ายทุกมุมของภายในเก็บไว้อย่างละเอียด ไม่ลืมแม้กระทั่งบันได ช่องเก็บของใต้บันได พอสะดุดเข้ากับหินอ่อนในห้องน้ำ ในหัวก็สะดุดกับตารางนัดหมายใครคนหนึ่งไว้เช่นกัน โอว้... แล้วเราจะกลับไปทันนัดเขาไหมนี่
ใบหน้าที่ช่างละม้ายคล้ายกับดนัย ทำให้ติ๊นาสะบัดหัวพยายามบอกตัวเองแค่ เอาน่า! สเป็กเจ้าชายของเราต้องแบบนี้ไง หน้าตาผู้ชายสองคนเลยออกไปทางพิมพ์เดียวกัน มันก็แค่นั้นเอง เธอคิดมากไป รู้ตัวหรือเปล่า? ติ๊นา
ไม่มั้ง... แต่เอ... แค่คิดติ๊ดดด.เดียว ทำไมมันรู้สึกมึนหัวพิกล
ชายหนุ่มอีกคนที่กำลังแทรกเข้ามา ถึงเขาจะเข้ามาเพราะเรื่องธุระกิจ แต่เหมือนกับเขาพกพาอะไรมาด้วยก็ไม่รู้
เราเจอกันก็เพราะหน้าที่การงาน เขาคิดกับเราแค่ไหน? อย่างไร? ก็ยังไม่รู้เลย ทำไมเราต้องคิดไปซะไกลอยู่คนเดียว ...แล้วดนัยล่ะ?
เฮ้อ..
ทีต้องรอเจ้าชายเปิดตัว ต้องรอแล้วรอเล่า พอเจ้าชายทรงโผล่พระวรกายมา ทำไมฟ้าต้องส่งมาพร้อมกันถึงสองพระองค์นะ โอ๊ย!! หงุดหงิดซะจริง ๆ
พวกเราใช้เวลาสำรวจบ้านร่วมชั่วโมง และเมื่อคุณธนชาติคุยโทรศัพท์เสร็จสิ้นลง ก็เป็นการสิ้นสุดการสำรวจและเก็บรายละเอียดของพวกเราเช่นกัน แล้วเราทั้งห้าก็เดินกลับมุ่งสู่ล็อบบี้ห้องอาหารอีกครั้ง รอเวลาประชุมกับฝ่ายอาคารรวมไปถึงอีกสองบริษัทผู้เป็นคนจัดเตรียมวัสดุในการรีโนเวตให้
โทรศัพท์ติ๊นาดิ้นกระดุกกระดิกเตือนเพราะมีสายเรียกเข้า มือเรียวสวยค่อย ๆ ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงชุดทำงาน
ชื่อ
'ดุลยรัฐ'โชว์หราอยู่หน้าจอ
อ๊ะ คนอะไร... เพิ่งนึกเห็นหน้าและนินทาอยู่แท้ ๆ
นึกเห็นหน้าเฉย ๆ นะ ไม่ได้อยากให้ต่อสายมาหาซักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร รับก็ด๊ายย...ย...
☻ รักต้องเลือก ☻
ศูนย์ฝึกอบรมธนาคารไทยพาณิชย์ หาดตะวันรอน
เช้าวันนี้เป็นวันที่ต้องกุลีกุจอสุด ๆ ในชีวิต ‘ติ๊นา’ ต้องกระวีกระวาดตื่นแต่ตีห้า กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว ปัดหน้าทาแก้ม แต้มตาเสร็จ ยังต้องรีบบึ่งไปให้ทันรถตู้ที่รอท่าอยู่หน้าบริษัท แล้วก็ต้องรีบเดินทางมาให้ถึง‘หาดตะวันรอน’ให้เช้าที่สุดเท่าที่จะเช้าได้ รถตู้ของบริษัทก็ทันใจด่วนจี๋ พาพวกเรามาถึงที่หมายแทบจะไม่ต้องหายใจหายคอกันเลยทีเดียว
ที่จริงต้องบอกว่า‘ลืมหายใจ’เป็นระยะ ๆ ไปด้วยซ้ำ เพราะหากใครมองออกนอกหน้าต่างรถ ไม่มีหรอกที่ใครจะไม่กลั้นหายใจ
เพิ่งจะจัดการกับอาหารเช้าที่ล็อบบี้ห้องอาหารเสร็จสรรพ
หัวหน้าผู้ตามหลังมาจากกรุงเทพก็มาถึงด้วยรถส่วนตัว พวกเราสี่คนมี ติ๊นา ติ๊ก แมน และ อุ้ม รีบกุลีกุจอออกไปตั้งแถวรับหน้าบานแฉ่ง 'คุณธนชาติ'วิศวกรหนุ่มใหญ่โบกมือเป็นสัญญาณไม่ต้องรีบ เหมือนจะบอกว่า เดี๋ยวจะหาอะไรรองท้องก่อน เรื่องงานเดี๋ยวค่อยว่ากัน
โถ... อุตส่าห์เช็ดปากเช็ดแก้มเลอะเค้กบราวด์นี่ออก แล้วยังโป๊ะหน้าทาลิปมันใหม่เพิ่งเสร็จ ถ้ารู้อย่างนี้ล่วงหน้า คงเบิ้ลเค้กอีกซักสองชิ้นไปแล้ว หัวหน้าหนอหัวหน้า
พวกเราย้อนกลับเข้าล็อบบี้อีกหน คราวนี้แต่ละคนวางมาดเป็นกลุ่มนางเอกกันหมด อ้อ มีแมนคนเดียวที่กอดหนึบกับมาดตัวประกอบชายด้วยการสั่งชาร้อน ขณะที่พวกนางเอกสามคนสั่งน้ำส้มคั้นมาใหม่คนละแก้ว เอาน่ะ อยากรู้ว่าแก้วสามมันยังรสชาติเดิมอยู่หรือเปล่า
คุณธนชาตินั่งเงียบ ๆ อยู่กับไอแพดส่วนตัว ที่โต๊ะในสุด
อุ้มเริ่มต้นต่อยหอย ติ๊กได้แต่อือ ๆ ออ ๆ แมนซึ่งเป็นเด็กแผนกเขียนแบบได้แต่ ...เหรอครับ....พี่อุ้มจ๊าบอ่ะ....แหล่มมากพี่อุ้ม .... แล้วก็ตามด้วยคำพูดเออออห่อหมกพกลม ตามน้ำตามเกาเหลาไปกับฝ่ายบัญชีรุ่นพี่อย่างออกนอกหน้า ส่วนติ๊นาได้แต่ลอบมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด
ผู้ชายนะผู้ชาย กว่าจะใช้มารยาร้อยแปดสิบเล่มเกวียนจนปิ๊งเราในที่สุด นั่นก็แทบจะหมดแรงหมดลมแล้ว พอได้เราไป อร๊ายย..! ไม่ใช่สิ พอได้รู้จักกันแล้ว ทำไมเรายังต้องมานั่งตามข้อความบ้าบออยู่อีก มันจะยุ่งยากลำบากซักแค่ไหนกันฮึ!! กับการกดส่งสติ๊กเกอร์มาแค่นั้น หรือพอวางขันน้ำวางแปรงสีฟันแก้ผ้าได้ อุ๊บ..! ไม่ใช่สิ พอเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ แค่พิมพ์อะไรส่งมาให้ก็ไม่เห็นจะเป็นจะตายเลยนี่นา
งุ่นง่านอยู่แว่บเดียว
เสียงสวรรค์ก็ดังติ๊งหน่องเข้ามาจริง ๆ
เย๊ ! ต้องอย่างนี้สิ คุณเจ้าชายของเรา
ข้อความอวยพรให้เดินทางปลอดภัยตามด้วยสติ๊กเกอร์ทะเล้น เห็นแล้วเปลี่ยนอารมณ์ขุ่นมัวหายวับ แหม... ต้องส่งกระแสข่มขู่สินะถึงจะรู้สึกพระวรกาย ติ๊นายิ้มแป้นจนแก้มแทบฉีก ไม่ได้ยินเสียงเสวนาใดบนโลกมนุษย์อีกแล้ว เว้นแต่เสียงจากห้วงเวหา
"นี่! แม่คุณคริสติน่า! ชาวบ้านชาวช่องเขาคุยเรื่องลุงพลกันอยู่ แม่คุณเห็นเป็นเรื่องขำขันอะไรเหรอ ห๊ะ!" อุ้มสะกิดด้วยเสียงเข้มข้นราวกับครูฝ่ายปกครองกำลังเฉ่งลูกศิษย์แก๊งค์แร็ปเปอร์
"โทษที.. ไม่ได้ฟังอ่ะ พอดีมัวแต่ฟังเสียงจากห้วงหาวอยู่"
เท่านั้นแหละ
เสียงโอ้โห...ห....ห.. ก็ดังพรึ่บ!แทบจะพร้อม ๆ กัน แต่พอนึกได้ว่าหัวหน้านั่งร่วมโต๊ะอยู่ เสียงลุแก่มารยาทอันดีก็พลันเงียบกริ๊บ!
คุณธนชาติหัวหน้าทีมเสร็จสิ้นภารกิจมื้อเช้าแล้ว เวลาตอนนี้เก้าโมงเศษ พวกเราทั้งหมดห้าคนต่างพร้อมแล้วสำหรับการมุ่งหน้าสู่บ้านพักตากอากาศริมทะเลหลังสุดท้าย ติดกำแพงล้อมรอบอาณาเขตของศูนย์ฝึกอบรม
‘แมน’เก็บรายละเอียดด้วยรูปถ่าย พร้อมกับเดินตามจดรายการที่หัวหน้าเดินไป สั่งไป ติ๊นาเดินออกไปสำรวจรอบบริเวณตัวบ้านซึ่งจะต้องทำการทั้งรีโมเดลทั้งรีโนเวตนั้น ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
บ้านตากอากาศสองชั้นหลังนี้ดูดีนะ แม้จะใช้งานมาจนสังขารร่วงโรย แต่สภาพโดยรวมยังครบถ้วน
งานที่ติ๊นาจะต้องดีไซน์บ้านหลังนี้ใหม่ ทั้งภายนอกและภายในให้เสร็จภายในเวลาสามวัน!
อะไรมันจะขนาดนั้นนะ แต่คำสั่งจากผู้ใหญ่ซึ่งสรุปโป้ง!มาอย่างนั้น มันหาเหตุผลขอเพิ่มเวลาไม่ได้จริง ๆ
เก็บภาพรอบบ้านเสร็จก็ถึงคราวต้องตามเข้าไปเก็บภายในด้วย ติ๊นาถ่ายทุกมุมของภายในเก็บไว้อย่างละเอียด ไม่ลืมแม้กระทั่งบันได ช่องเก็บของใต้บันได พอสะดุดเข้ากับหินอ่อนในห้องน้ำ ในหัวก็สะดุดกับตารางนัดหมายใครคนหนึ่งไว้เช่นกัน โอว้... แล้วเราจะกลับไปทันนัดเขาไหมนี่
ใบหน้าที่ช่างละม้ายคล้ายกับดนัย ทำให้ติ๊นาสะบัดหัวพยายามบอกตัวเองแค่ เอาน่า! สเป็กเจ้าชายของเราต้องแบบนี้ไง หน้าตาผู้ชายสองคนเลยออกไปทางพิมพ์เดียวกัน มันก็แค่นั้นเอง เธอคิดมากไป รู้ตัวหรือเปล่า? ติ๊นา
ไม่มั้ง... แต่เอ... แค่คิดติ๊ดดด.เดียว ทำไมมันรู้สึกมึนหัวพิกล
ชายหนุ่มอีกคนที่กำลังแทรกเข้ามา ถึงเขาจะเข้ามาเพราะเรื่องธุระกิจ แต่เหมือนกับเขาพกพาอะไรมาด้วยก็ไม่รู้
เราเจอกันก็เพราะหน้าที่การงาน เขาคิดกับเราแค่ไหน? อย่างไร? ก็ยังไม่รู้เลย ทำไมเราต้องคิดไปซะไกลอยู่คนเดียว ...แล้วดนัยล่ะ?
เฮ้อ..
ทีต้องรอเจ้าชายเปิดตัว ต้องรอแล้วรอเล่า พอเจ้าชายทรงโผล่พระวรกายมา ทำไมฟ้าต้องส่งมาพร้อมกันถึงสองพระองค์นะ โอ๊ย!! หงุดหงิดซะจริง ๆ
พวกเราใช้เวลาสำรวจบ้านร่วมชั่วโมง และเมื่อคุณธนชาติคุยโทรศัพท์เสร็จสิ้นลง ก็เป็นการสิ้นสุดการสำรวจและเก็บรายละเอียดของพวกเราเช่นกัน แล้วเราทั้งห้าก็เดินกลับมุ่งสู่ล็อบบี้ห้องอาหารอีกครั้ง รอเวลาประชุมกับฝ่ายอาคารรวมไปถึงอีกสองบริษัทผู้เป็นคนจัดเตรียมวัสดุในการรีโนเวตให้
โทรศัพท์ติ๊นาดิ้นกระดุกกระดิกเตือนเพราะมีสายเรียกเข้า มือเรียวสวยค่อย ๆ ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงชุดทำงาน
ชื่อ'ดุลยรัฐ'โชว์หราอยู่หน้าจอ
อ๊ะ คนอะไร... เพิ่งนึกเห็นหน้าและนินทาอยู่แท้ ๆ
นึกเห็นหน้าเฉย ๆ นะ ไม่ได้อยากให้ต่อสายมาหาซักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร รับก็ด๊ายย...ย...