(ความเดิมตอนที่แล้วขอรับ)
http://ppantip.com/topic/32399981
แบบแปลนกระดาษไขซึ่งบ่งบอกอายุเป็นอย่างดี วางซ้อนกันอยู่บนโต๊ะเขียนแบบ โดยมีไม้ทีสไลด์วางเป็นฐานรับการไหลร่วง ติ๊นาค่อย ๆ ไล่หาเลย์เอาท์แปลนห้องน้ำ แล้วค่อย ๆ ดึงออกมาทีละแผ่น กระดาษไขเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ออกอาการกรอบและหมองจนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชาเข้ม แต่ลายเส้นปากการอตติ้งยังคมสะดุดตา มีเสน่ห์อย่างทรงคุณค่า 'แมน'เด็กเขียนแบบแปะกระดาษโน้ตแจ้งจำนวนตัวเลขพื้นที่ห้องน้ำเอาไว้ให้ตามสั่ง ติ๊นาจดลงกระดาษโน้ตใบใหม่ของตัวเองอย่างละเอียด ทีละห้อง ..ทีละห้อง
ห้องน้ำสี่ห้อง โห.. ทำไมตัวเลขพื้นที่เยอะจัง
แต่พอเห็นคำชี้แจงของแมนที่ฟุตโน้ตข้างล่าง อ๋อ.. เข้าใจแล้ว อือฮึ.. กรุผนังด้วยหินอ่อนถึงฝ้าเพดานทุกห้องเลยเชียว งานนี้คุณดุลยรัฐปิดยอดงานขายที่ตัวเลขหกหลักแน่นอน ไม่ใช่สิ ยังมีรายการรอบบ้านทั้งในและนอกอีก ไม่ใช่หกหลักแล้วล่ะ มันต้องเจ็ดหลักสิถึงจะถูกต้อง
ติ๊นาหันกลับไปนั่งยังโต๊ะทำงานตัวเอง จัดการโหลดภาพจากเมมโมรี่การ์ดของกล้องลงเครื่องที่รอท่าอยู่ สักพัก เมื่อผลการโหลดเรียบร้อย ติ๊นาก็เปิดดูภาพถ่าย
'บ้านศรีตรัง'ที่ตัวเองถ่ายมาทีละภาพ ภาพไหนถ่ายมุมกว้าง มองเห็นภาพจริงแจ่มชัดด้วยมุมแสง เงา ที่ลงตัว ติ๊นาหยิบแบบแปลนกระดาษไขมาดูประกอบกับภาพถ่ายมุมแล้ว มุมเล่า
ง่วนอยู่กับงานสักพัก อุ้มก็โผล่เข้ามาในห้องทำงาน
"ไหงหน้าตาวันนี้ดูโรย ๆ .. ร้าง ๆ ยังงั้นล่ะ คุณเพื่อนคริสติน่า" อุ้มทักทายมา ก่อนนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานติ๊นา
"วันนี้ไม่มีเวลาเมคอัพหน้าเลย รองพื้นมาเฉย ๆ แต่แค่รองพื้นก็เกินพอแล้วล่ะ สำหรับใบหน้าที่ดูดีอยู่แล้ว"
มีเสียงเหมือนอะไรติดคออุ้มดังขลุกขลักอยู่แวบหนึ่ง "โฮ๊ะ ๆ.. รู้มานานแล้วค่าคุณติน่า.. คุณติน่าไม่มีเคยมีสิวฝ้าและรอยด่างดำให้เห็นอยู่แล้วค่า.. " อุ้มลอยหน้าลอยตา "แม่นางฟ้าใส แห่งไทยพาณิชย์!!
" ประโยคหลัง ฟังคล้ายกับก้อนหินกระทบแผ่นผาดังกึก! นะ ติ๊นายิ้มที่มุมปาก
"ว่ามาเลย มีอะไรกับนางฟ้าตั้งแต่เช้า" ติ๊นาเปลี่ยนมาเป็นเสียงหัวเราะเบา ๆ
"เรื่องสัญญาเพิ่มเติมไงจ๊ะ เอ่อ.. นี่นะ กรรมการผู้จัดการใหม่ของเราคนนี้ละเอียดมากเลยนะติ๊นา" อุ้มตั้งท่าทะมัดทะแมง "แกให้เราทำสัญญาประกอบเข้าไปใหม่ ให้บริษัทซัพพลายเอ้อร์ที่เซ็นสัญญาไปแล้วเซ็นยินยอมกลับมา แล้วอุ้มก็ต้องรีบให้ติ๊นาสรุปสเปกวัสดุพื้นผิวให้ชัดเจนใหม่ เซ็นกำกับด้วย ฝ่ายกฎหมายทำสัญญาประกอบเข้าไปใหม่ ให้ฝ่ายจัดซื้อดร็อปตัวเลขเรื่องวัสดุลง แล้วให้หาซัพพลายเอ้อร์ใหม่เข้ามาทำสัญญา เพราะดูแล้วซัพพลายเอ้อร์เดิมตัวเลขกระโดดพิกล ๆ ทางผู้ใหญ่ให้ติ๊นาช่วยตรวจสอบจำนวนพร้อมกับแอฟฟรูฟไวหน่อย จะได้ให้ฝ่ายกฎหมายทำสัญญาแยกออกมาเป็นสัญญาซื้อขายกับซัพพลายเอ้อร์ใหม่ โดยให้นำไป... "
"อุ้ม!! " ติ๊นาเปิดวอลลุ่มโช๊ะ!! นั่นแหละ แม่คุณเพื่อนถึงได้สติกลับมายังโลกปัจจุบัน
อุ้มกระพริบตาปริบ ๆ มองหน้าติ๊นา "ทำไมแม่นางเปล่งพระเสียงปานนั้นล่ะเพคะ"
ติ๊นาชิงพูดตัดหน้าก่อน ก่อนที่แม่คุณเธอจะน้ำไหลไฟดับ "ถามหน่อยเหอะพระสหาย เธอหายใจทางไหนกันเนี่ย ติ๊นามึนไปหมดแล้ว ได้ยินแต่สัญญาใหม่ แล้วก็ซัพพลายเอ้อร์ใหม่ แล้วก็แอฟฟรูฟใหม่ แก้สัญญาเก่า แล้วทำสัญญาใหม่ โอยย..ย.. "
อุ้มนั่งอมยิ้มอยู่เบื้องหน้า นี่ถ้าไม่รู้ใจกันดีละก็ ไม่รู้เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อเหมือนกัน
เอาเถอะนะ ปล่อยคุณเธอไปก่อนตอนนี้
เราเลิกเล่นกันชั่วครู่ ตั้งใจคุยอย่างเป็นการเป็นงานกัน แต่บางช่วงอุ้มก็ยังไม่วายเถลไถลออกนอกรางรถไฟอยู่ดี ติ๊นาต้องคอยตะปบ ทั้งดึงทั้งทึ้งเข้ามาในรางใหม่ ดีนะที่ไม่ใช่รถไฟรางคู่ ไม่อย่างนั้นอาจได้ปะทะขบวนที่สวนมาแน่ ๆ
ติ๊นาปล่อยให้อุ้มเป็นคนพูดมากกว่า เพราะเธอบอกว่าเมื่อตอนเก้าโมงเช้าวันนี้ กรรมการผู้จัดการคนใหม่เรียกเธอเข้าไปพบเพื่อพูดคุยและสั่งงาน ใช้เวลาไปเท่าไหร่ แม้แต่อุ้มเองก็ลืมนึกถึง แต่หลังจากเสร็จสิ้นและเดินตัวลีบเหลือสองนิ้วออกมา อุ้มก็บึ่งมาหาติ๊นาเป็นคนแรกก่อนใคร แล้วเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ไปพูดคุยกับเจ้านายมา ก็ถูกถ่ายทอดให้ติ๊นาฟังอย่างละเอียดในขณะนี้
ตัวตนของอุ้มนั้น ติ๊นารู้จักดี งานในแผนกซึ่งต้องรับผิดชอบตัวเลขชนิดปิดประตูตกหล่น เพื่อนร่วมงานในบริษัทหลายคน หลายแผนกต่างก็ทึ่งในความเป็นมืออาชีพของเธอ กรรมการผู้จัดการคนใหม่อาจจะอยากรู้จักตัวตนของเธอเป็นการส่วนตัว จึงขอคุยด้วยเป็นคนแรกสำหรับโครงการรีโนเวต'บ้านศรีตรัง'
อุ้มเคยบอกกับติ๊นาแบบคม ๆ ว่า ...
ถึงงานตัวเลขจะทำให้พวกเราต้องเคร่ง ทำให้พวกเราต้องเอาจริงเอาจังกับมัน ก็ใช่ว่าเราจะไปรบราฆ่าฟันกับมันนะ อุ้มไม่เคยเอาเป็นเอาตายกับมันนะ แค่ไม่เผลอทำมันตกหล่นเป็นพอ เพราะเมื่อไหร่ที่เจ้าพวกนี้มันหล่นต๋อมลงท่อน้ำทิ้ง เมื่อนั้นล่ะที่เราจะต้องมุดแม้กระทั่งขี้เลนเพื่อหามันให้เจอ...
อือมม.. คม คมมาก
แม้อุ้มจะเป็นคนไม่ซีเรียส ไม่เครียดเคร่งกับงาน แต่เรื่องความละเอียดรอบคอบ เธอมีเต็มร้อย ใช่ มีเต็มร้อยสมดั่งความภาคภูมิใจของเธอ
รู้ว่าติ๊นารับทราบวัตถุประสงค์เรียบร้อยแล้ว อุ้มก็กลับแผนกบัญชีของตัวเอง ติ๊นากดเครื่องโทรศัพท์ภายในให้แมนมาพบ หลังจากสั่งงานให้แมนเสร็จ ติ๊นาก็เปลี่ยนตำแหน่งไปยังโต๊ะเขียนแบบ และเริ่มต้นคัดแยกส่วนที่เป็นงานของตัวเองออกมา เพื่อเริ่มต้นทำการดีไซน์ จัดการร่างเค้าโครงงานตกแต่งใหม่ด้วยฟรีแฮนด์ไปก่อน ก่อนที่จะให้แมนนำไปลงโปรแกรมออโต้แคดของจริงอีกครั้ง
เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว มารู้เอาต่อเมื่อมีเสียงเรียกเข้าที่โทรศัพท์มือถือ ติ๊นาหยิบเครื่องขึ้นดู ชื่อคุณดุลยรัฐปรากฎอยู่บนหน้าจอชัดเจน
"ผมดุลยรัฐครับ"
"อ๋อค่ะ ว่าไงคะคุณดุลยรัฐ" ติ๊นาถามกลับไป
"ยังไม่พักกลางวันเหรอครับ คุณติ๊นา" เสียงปลายสายคล้ายกับมีความแปลกใจ
อ้อ.. ตายแล้ว เพิ่งนึกได้ว่าติ๊นารับปากจะไปทานมื้อเที่ยงกับคุณดุลยรัฐ สายตาชำเลืองดูนาฬิกาบนโต๊ะ โห.. เที่ยงแล้วหรือเนี่ย ติ๊นาลืมเสียสนิท
"ขอโทษนะคะคุณดุลยรัฐ พอดีมีงานติดพันอยู่ แต่ตอนนี้เสร็จแล้วล่ะค่ะ คุณดุลยรัฐอยู่ไหนคะตอนนี้" ติ๊นาพูดไปด้วย เก็บของสำคัญส่วนตัวไปด้วย
"อยู่ที่หน้าแผนกคุณติ๊นาครับ"
"ขอเวลาหนึ่งนาทีนะคะ"
"ได้ครับ ผมคงไม่ได้ทำให้เสียงานนะครับ"
"ไม่ค่ะไม่ เดี๋ยวติ๊นาออกไปแล้วค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ"
วางสายเสร็จ ติ๊นายืนเคว้งอยู่ชั่วครู่ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะติ๊นา เอาเถอะ เราไปเรื่องงานนะ เรื่องงาน
.............
.............
☻ รักต้องเลือก ☻(ต่อ)
http://ppantip.com/topic/32399981
แบบแปลนกระดาษไขซึ่งบ่งบอกอายุเป็นอย่างดี วางซ้อนกันอยู่บนโต๊ะเขียนแบบ โดยมีไม้ทีสไลด์วางเป็นฐานรับการไหลร่วง ติ๊นาค่อย ๆ ไล่หาเลย์เอาท์แปลนห้องน้ำ แล้วค่อย ๆ ดึงออกมาทีละแผ่น กระดาษไขเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ออกอาการกรอบและหมองจนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชาเข้ม แต่ลายเส้นปากการอตติ้งยังคมสะดุดตา มีเสน่ห์อย่างทรงคุณค่า 'แมน'เด็กเขียนแบบแปะกระดาษโน้ตแจ้งจำนวนตัวเลขพื้นที่ห้องน้ำเอาไว้ให้ตามสั่ง ติ๊นาจดลงกระดาษโน้ตใบใหม่ของตัวเองอย่างละเอียด ทีละห้อง ..ทีละห้อง
ห้องน้ำสี่ห้อง โห.. ทำไมตัวเลขพื้นที่เยอะจัง
แต่พอเห็นคำชี้แจงของแมนที่ฟุตโน้ตข้างล่าง อ๋อ.. เข้าใจแล้ว อือฮึ.. กรุผนังด้วยหินอ่อนถึงฝ้าเพดานทุกห้องเลยเชียว งานนี้คุณดุลยรัฐปิดยอดงานขายที่ตัวเลขหกหลักแน่นอน ไม่ใช่สิ ยังมีรายการรอบบ้านทั้งในและนอกอีก ไม่ใช่หกหลักแล้วล่ะ มันต้องเจ็ดหลักสิถึงจะถูกต้อง
ติ๊นาหันกลับไปนั่งยังโต๊ะทำงานตัวเอง จัดการโหลดภาพจากเมมโมรี่การ์ดของกล้องลงเครื่องที่รอท่าอยู่ สักพัก เมื่อผลการโหลดเรียบร้อย ติ๊นาก็เปิดดูภาพถ่าย'บ้านศรีตรัง'ที่ตัวเองถ่ายมาทีละภาพ ภาพไหนถ่ายมุมกว้าง มองเห็นภาพจริงแจ่มชัดด้วยมุมแสง เงา ที่ลงตัว ติ๊นาหยิบแบบแปลนกระดาษไขมาดูประกอบกับภาพถ่ายมุมแล้ว มุมเล่า
ง่วนอยู่กับงานสักพัก อุ้มก็โผล่เข้ามาในห้องทำงาน
"ไหงหน้าตาวันนี้ดูโรย ๆ .. ร้าง ๆ ยังงั้นล่ะ คุณเพื่อนคริสติน่า" อุ้มทักทายมา ก่อนนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานติ๊นา
"วันนี้ไม่มีเวลาเมคอัพหน้าเลย รองพื้นมาเฉย ๆ แต่แค่รองพื้นก็เกินพอแล้วล่ะ สำหรับใบหน้าที่ดูดีอยู่แล้ว"
มีเสียงเหมือนอะไรติดคออุ้มดังขลุกขลักอยู่แวบหนึ่ง "โฮ๊ะ ๆ.. รู้มานานแล้วค่าคุณติน่า.. คุณติน่าไม่มีเคยมีสิวฝ้าและรอยด่างดำให้เห็นอยู่แล้วค่า.. " อุ้มลอยหน้าลอยตา "แม่นางฟ้าใส แห่งไทยพาณิชย์!! " ประโยคหลัง ฟังคล้ายกับก้อนหินกระทบแผ่นผาดังกึก! นะ ติ๊นายิ้มที่มุมปาก
"ว่ามาเลย มีอะไรกับนางฟ้าตั้งแต่เช้า" ติ๊นาเปลี่ยนมาเป็นเสียงหัวเราะเบา ๆ
"เรื่องสัญญาเพิ่มเติมไงจ๊ะ เอ่อ.. นี่นะ กรรมการผู้จัดการใหม่ของเราคนนี้ละเอียดมากเลยนะติ๊นา" อุ้มตั้งท่าทะมัดทะแมง "แกให้เราทำสัญญาประกอบเข้าไปใหม่ ให้บริษัทซัพพลายเอ้อร์ที่เซ็นสัญญาไปแล้วเซ็นยินยอมกลับมา แล้วอุ้มก็ต้องรีบให้ติ๊นาสรุปสเปกวัสดุพื้นผิวให้ชัดเจนใหม่ เซ็นกำกับด้วย ฝ่ายกฎหมายทำสัญญาประกอบเข้าไปใหม่ ให้ฝ่ายจัดซื้อดร็อปตัวเลขเรื่องวัสดุลง แล้วให้หาซัพพลายเอ้อร์ใหม่เข้ามาทำสัญญา เพราะดูแล้วซัพพลายเอ้อร์เดิมตัวเลขกระโดดพิกล ๆ ทางผู้ใหญ่ให้ติ๊นาช่วยตรวจสอบจำนวนพร้อมกับแอฟฟรูฟไวหน่อย จะได้ให้ฝ่ายกฎหมายทำสัญญาแยกออกมาเป็นสัญญาซื้อขายกับซัพพลายเอ้อร์ใหม่ โดยให้นำไป... "
"อุ้ม!! " ติ๊นาเปิดวอลลุ่มโช๊ะ!! นั่นแหละ แม่คุณเพื่อนถึงได้สติกลับมายังโลกปัจจุบัน
อุ้มกระพริบตาปริบ ๆ มองหน้าติ๊นา "ทำไมแม่นางเปล่งพระเสียงปานนั้นล่ะเพคะ"
ติ๊นาชิงพูดตัดหน้าก่อน ก่อนที่แม่คุณเธอจะน้ำไหลไฟดับ "ถามหน่อยเหอะพระสหาย เธอหายใจทางไหนกันเนี่ย ติ๊นามึนไปหมดแล้ว ได้ยินแต่สัญญาใหม่ แล้วก็ซัพพลายเอ้อร์ใหม่ แล้วก็แอฟฟรูฟใหม่ แก้สัญญาเก่า แล้วทำสัญญาใหม่ โอยย..ย.. "
อุ้มนั่งอมยิ้มอยู่เบื้องหน้า นี่ถ้าไม่รู้ใจกันดีละก็ ไม่รู้เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อเหมือนกัน
เอาเถอะนะ ปล่อยคุณเธอไปก่อนตอนนี้
เราเลิกเล่นกันชั่วครู่ ตั้งใจคุยอย่างเป็นการเป็นงานกัน แต่บางช่วงอุ้มก็ยังไม่วายเถลไถลออกนอกรางรถไฟอยู่ดี ติ๊นาต้องคอยตะปบ ทั้งดึงทั้งทึ้งเข้ามาในรางใหม่ ดีนะที่ไม่ใช่รถไฟรางคู่ ไม่อย่างนั้นอาจได้ปะทะขบวนที่สวนมาแน่ ๆ
ติ๊นาปล่อยให้อุ้มเป็นคนพูดมากกว่า เพราะเธอบอกว่าเมื่อตอนเก้าโมงเช้าวันนี้ กรรมการผู้จัดการคนใหม่เรียกเธอเข้าไปพบเพื่อพูดคุยและสั่งงาน ใช้เวลาไปเท่าไหร่ แม้แต่อุ้มเองก็ลืมนึกถึง แต่หลังจากเสร็จสิ้นและเดินตัวลีบเหลือสองนิ้วออกมา อุ้มก็บึ่งมาหาติ๊นาเป็นคนแรกก่อนใคร แล้วเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ไปพูดคุยกับเจ้านายมา ก็ถูกถ่ายทอดให้ติ๊นาฟังอย่างละเอียดในขณะนี้
ตัวตนของอุ้มนั้น ติ๊นารู้จักดี งานในแผนกซึ่งต้องรับผิดชอบตัวเลขชนิดปิดประตูตกหล่น เพื่อนร่วมงานในบริษัทหลายคน หลายแผนกต่างก็ทึ่งในความเป็นมืออาชีพของเธอ กรรมการผู้จัดการคนใหม่อาจจะอยากรู้จักตัวตนของเธอเป็นการส่วนตัว จึงขอคุยด้วยเป็นคนแรกสำหรับโครงการรีโนเวต'บ้านศรีตรัง'
อุ้มเคยบอกกับติ๊นาแบบคม ๆ ว่า ...ถึงงานตัวเลขจะทำให้พวกเราต้องเคร่ง ทำให้พวกเราต้องเอาจริงเอาจังกับมัน ก็ใช่ว่าเราจะไปรบราฆ่าฟันกับมันนะ อุ้มไม่เคยเอาเป็นเอาตายกับมันนะ แค่ไม่เผลอทำมันตกหล่นเป็นพอ เพราะเมื่อไหร่ที่เจ้าพวกนี้มันหล่นต๋อมลงท่อน้ำทิ้ง เมื่อนั้นล่ะที่เราจะต้องมุดแม้กระทั่งขี้เลนเพื่อหามันให้เจอ...
อือมม.. คม คมมาก
แม้อุ้มจะเป็นคนไม่ซีเรียส ไม่เครียดเคร่งกับงาน แต่เรื่องความละเอียดรอบคอบ เธอมีเต็มร้อย ใช่ มีเต็มร้อยสมดั่งความภาคภูมิใจของเธอ
รู้ว่าติ๊นารับทราบวัตถุประสงค์เรียบร้อยแล้ว อุ้มก็กลับแผนกบัญชีของตัวเอง ติ๊นากดเครื่องโทรศัพท์ภายในให้แมนมาพบ หลังจากสั่งงานให้แมนเสร็จ ติ๊นาก็เปลี่ยนตำแหน่งไปยังโต๊ะเขียนแบบ และเริ่มต้นคัดแยกส่วนที่เป็นงานของตัวเองออกมา เพื่อเริ่มต้นทำการดีไซน์ จัดการร่างเค้าโครงงานตกแต่งใหม่ด้วยฟรีแฮนด์ไปก่อน ก่อนที่จะให้แมนนำไปลงโปรแกรมออโต้แคดของจริงอีกครั้ง
เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว มารู้เอาต่อเมื่อมีเสียงเรียกเข้าที่โทรศัพท์มือถือ ติ๊นาหยิบเครื่องขึ้นดู ชื่อคุณดุลยรัฐปรากฎอยู่บนหน้าจอชัดเจน
"ผมดุลยรัฐครับ"
"อ๋อค่ะ ว่าไงคะคุณดุลยรัฐ" ติ๊นาถามกลับไป
"ยังไม่พักกลางวันเหรอครับ คุณติ๊นา" เสียงปลายสายคล้ายกับมีความแปลกใจ
อ้อ.. ตายแล้ว เพิ่งนึกได้ว่าติ๊นารับปากจะไปทานมื้อเที่ยงกับคุณดุลยรัฐ สายตาชำเลืองดูนาฬิกาบนโต๊ะ โห.. เที่ยงแล้วหรือเนี่ย ติ๊นาลืมเสียสนิท
"ขอโทษนะคะคุณดุลยรัฐ พอดีมีงานติดพันอยู่ แต่ตอนนี้เสร็จแล้วล่ะค่ะ คุณดุลยรัฐอยู่ไหนคะตอนนี้" ติ๊นาพูดไปด้วย เก็บของสำคัญส่วนตัวไปด้วย
"อยู่ที่หน้าแผนกคุณติ๊นาครับ"
"ขอเวลาหนึ่งนาทีนะคะ"
"ได้ครับ ผมคงไม่ได้ทำให้เสียงานนะครับ"
"ไม่ค่ะไม่ เดี๋ยวติ๊นาออกไปแล้วค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ"
วางสายเสร็จ ติ๊นายืนเคว้งอยู่ชั่วครู่ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะติ๊นา เอาเถอะ เราไปเรื่องงานนะ เรื่องงาน
.............
.............