☻ รักต้องเลือก ☻ บทที่ 4 ...

กระทู้สนทนา
[ บทที่ 1    https://ppantip.com/topic/40789979 ]
[ บทที่ 2    https://ppantip.com/topic/40799747 ]
[ บทที่ 3    https://ppantip.com/topic/40811467 ]
 
บทที่ 4 ...

.
.


ติ๊นากลับเข้าสำนักงานพร้อมด้วยคุณดุลยรัฐ
 
เพราะยังไม่ถึงเวลาบ่ายโมง ที่ทำงานจึงดูว่างเปล่า ติ๊นานำหน้าคุณดุลยรัฐไปยังห้องทำงานของตัวเอง  ชายหนุ่มผู้มากับเงาหินหนักอึ้ง ทั้ง ๆ ที่เวลาอยู่ต่อหน้าติ๊นากลับมองเห็นแต่เงาปุยนุ่น  เขายื่นเอกสารสองสามแผ่นมาให้ "รายละเอียดเรื่องราคาครับ" ติ๊นาเอ่ยขอบคุณก่อนยื่นมือรับ
 
เห็นท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ จึงต้องเอ่ยชวนให้นั่งคุยกันก่อน  คุณดุลยรัฐนั่งลงด้วยความยินดี
 
"แฟลชไดร์ฟตัวอย่างหินล่ะคะ?"  ติ๊นานั่งลงกับเก้าอี้ตัวเองบ้าง
 
"โอว้...  ขอโทษครับ" คุณดุลยรัฐล้วงกระเป๋ากางเกง  แล้วหยิบแฟลชไดร์ฟออกมายื่นให้
 
"เดี๋ยวติ๊นาขอโหลดลงเครื่องแป๊บนะคะ  แล้วจะคืนให้"
 
"ไม่ต้องครับ ไม่ต้องคืน  เพราะผมตั้งใจนำมาให้คุณติ๊นาอยู่แล้ว"
 
"ไม่เก็บไว้ใช้อีกเหรอคะ?"
 
"ผมมีหลายอันครับ  ที่โหลดมาให้คุณติ๊นา เพราะต้องการรับประกันสเปกตามแฟลชไดร์ฟครับ"
 
"ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ "
 
อดคิดแว่บไปถึงเมื่อคืนไม่ได้ว่า
 
ถ้าคุณดุลยรัฐไม่แกล้งเก็บเจ้านี่กลับไป  เขาจะชวนติ๊นาทานข้าวด้วยวิธีไหนนะ  แวะมาหาบ่อยขึ้น?  หรือโทรศัพท์มาหาบ่อยขึ้น?  เมื่อคืนก็เริ่มทำเป็นใจดีสู้แม่เสือแล้ว   ดึกขนาดนั้นเริ่มกล้าโทรมาด้วย  คำราตรีสวัสดิ์ก่อนวางสายก็เพิ่งได้ยินครั้งแรก  เมื่อคืนเหมือนแกล้งทำดูซื่อ ๆ  แต่..  แต่ก็พอเหมาะพอควรนะ  เพราะยังไม่เผลออวยพรให้ฝันดี
 
"ขำอะไรครับ? "  คุณดุลยรัฐยิ้มคมเข้ม  ติ๊นายิ้มขำขัน
 
"เปล่าค่ะ   ไม่มีอะไร"
 
"คุณติ๊นาเป็นคนแจ่มใสอยู่เสมอ รู้ตัวมั้ยครับ  ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า คุณติ๊นายิ้มกับมันได้หมด หัวเราะได้หมด แม้แต่กับข้าวบนโต๊ะอาหาร "
 
ถึงจะรู้สึกได้ว่า..  นั่นคือคำพูดรุกคืบ แต่ทำไมติ๊นาอยากฟังอีกนะ  อยากฟังมากกว่านั้นจริง ๆ
 
คุณดุลยรัฐชวนคุยอีกหลายเรื่อง  แต่เรื่องไหนที่เขาเริ่มจะเท้าความถึงตำนาน  ติ๊นาจะรีบพาเขาแฉลบไปเรื่องใหม่ทันที  ไม่ใช่ไม่อยากฟังนะ แต่ติ๊นามีจุดอ่อน  จุดอ่อนตรงที่ตัวเองสอบตกวิชาประวัติศาสตร์ สอบตกเรื่องตำนานทุกอย่างของกาแล็กซี่นี้
 
หากจะว่าไปแล้ว  ติ๊นาควรจะต้องรักษาระยะห่างกับคุณดุลยรัฐเอาไว้  เพราะสังหรณ์ใจเหมือนกันว่า  หากสถานภาพของคุณดุลยรัฐเปลี่ยนมาเป็นคู่สัญญากับบริษัทติ๊นาในวันใดวันหนึ่ง  ความสนิทสนมซึ่งเพิ่มขึ้นของเราคงดูไม่ดีในสายตาผู้ใหญ่เป็นแน่  เผลอ ๆ จะรวมไปถึงสายตาของเพื่อนร่วมงานด้วย
 
นั่นเป็นภาพในฐานะการร่วมงาน   แล้วความรู้สึกส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องงานล่ะ?
 
ยอมรับนะว่าตกหลุม.. ไม่ใช่  ไม่ใช่  ยอมรับนะว่าเป็นปลื้มตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับเขามาเมื่องานครั้งที่แล้ว แม้ตอนนั้นจะยังมองไม่เห็นท่าทีอะไรจากชายหนุ่มเจ้าของโรงงานหินอ่อนคนนี้เลย  แต่บุคลิกความเป็นคนตรงไปตรงมา รับผิดชอบกับเรื่องงานชนิดไม่มีขาดตกบกพร่อง ตรงนี้เองที่ทำให้ติ๊นาเริ่มมองเห็นอะไรบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่า  มันคืออะไร?

ติ๊นารู้จักกับคุณดุลยรัฐก่อนหน้าดนัยไม่กี่เดือน  เราติดต่อกันก็แต่ในเรื่องงานเท่านั้น และก็ขาดการติดต่อไปหลายเดือน จนงานใหม่ที่หาดตะวันรอนนี้เริ่มนับหนึ่ง  ติ๊นาถึงได้โทรศัพท์ขอรายละเอียดสินค้าจากเขาอีกครั้ง เพื่อขอข้อมูลนำมาประกอบการออกแบบใหม่ 'บ้านศรีตรัง'
 
ท่าทีของคุณดุลยรัฐตอนนี้ก็เหมือนเริ่มเปลี่ยนแล้วเหมือนกัน  คิดถึงตรงนี้แล้ว  ติ๊นาขอคิดเข้าข้างตัวเองสักนิด  จะไม่ให้คิดได้อย่างไร  ในเมื่อสายตาที่มองสบตามาทุกครั้งนั้น  ติ๊นาว่า..  ติ๊นาเห็นอะไรแวบ ๆ นะ  อะไรที่ว่านั้นเป็นอย่างไรเหรอ  ไม่รู้สิ  ติ๊นาไม่บอกใครหรอก เพราะบอกไปแล้ว คนไม่เชื่อ พูดอย่างไรก็จะไม่ยอมเชื่ออยู่ดี แถมยังจะหาว่าติ๊นาคิดเองเออเอง  ถ้าอย่างนั้นติ๊นาไม่บอกใครดีกว่า
 
"วันหยุดลองวีคเอนที่จะถึงนี้ คุณติ๊นาได้หยุดกี่วันครับ?" คำถามสุดแสนธรรมดา  แต่ในห้วงภวังค์ซึ่งกำลังเข้าข้างตัวเอง ทำไมมันเหมือนหัวใจจะฟูฟ่องขึ้นมาปุบปับ ก็ไม่รู้
 
"ผมหยุดงานสามสี่วันครับ แต่โรงงานก็ยังทำงานปกตินะ"
 
"แล้วทำไม?  เอ่อ.....   ยังไงเหรอคะ?"
 
"อ๋อ..  ผมเกรงว่าเผื่อคุณติ๊นาต้องการอะไรเร่งด่วน ผมอาจจะนำมาให้ไม่ได้น่ะครับ"
 
โธ่ถัง...
 
ติ๊นาคิดไปโน่น   . . . ผมว่าจะชวนคุณติ๊นาไปเที่ยวต่างจังหวัดซักวันสองวันน่ะครับ . . .ไปดูต้นไม้  ดอกไม้  ภูเขา  รับสายลม  ไอหมอก . . หรือไปเดินเล่นบนหาดทรายริมทะเลที่ไหนสักแห่งก็ได้ . . . .  ดีไหมครับ ? . . .
 
มันไม่ใช่อย่างที่ติ๊นาคิดไว้สักเรื่อง  แต่ถึงจะใช่  ติ๊นาก็ไปไม่ได้อยู่แล้ว
 
คำพูดของแม่แว่วมาเสมอ ยามที่ติ๊นาต้องตั้งมั่นในสติ  . . . รักนวลสงวนตัว อย่ากลัวผู้ชายว่า . . . .   พอแล้วติ๊นา  พอ!   ไม่คิดต่อแล้วล่ะ
 
"ติ๊นามีเบอร์โทรคุณดุลยรัฐอยู่แล้ว  ไม่เห็นต้องห่วงเลยค่ะ  ถึงคุณดุลยรัฐจะอยู่ไหน  คิดว่าคงยินดีรับสายติ๊นาอยู่แล้ว ใช่มั้ยคะ"
 
"ใช่ครับ คุณติ๊นาไม่ต้องห่วง"
 
เสียงนั้นบอกได้เลยว่า  หนักแน่นดุจหินแกรนิตมหึมา
 
หลังจากคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรอีกแล้ว คุณดุลยรัฐจึงขอตัว บอกว่าจะแวะไปพบน้องชายแถว ๆ นี้ก่อน วันหยุดลองวีคเอนที่จะถึงมีวันสำคัญคือวันแม่ด้วย  ตั้งใจจะไปเกลี้ยกล่อมน้องชายให้ไปเยี่ยมแม่ด้วยกัน  คุณดุลยรัฐบอกว่า . . หลายปีแล้ว ที่น้องชายไม่ได้กลับไปร่วมงานวันสำคัญอย่างนี้ .. งานตำแหน่งรองผู้จัดการห้างระดับนั้น  น่าจะขอหยุดวันสำคัญของครอบครัวได้อยู่แล้ว    หากเขาต้องการ  . .
 
ติ๊นาได้ยินและรู้สึกสังหรณ์ใจพิกลกับอะไรสักอย่าง  "คุณดุลยรัฐมีน้องชายทำงานที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าวเหรอคะ? "  ติ๊นาถามด้วยใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ
 
"ใช่ครับ!" คุณดุลยรัฐตอบหนักแน่น
 
"เขาเป็นรองผู้จัดการ แผนกลูกค้าสัมพันธ์"
 
ติ๊นาตัวแข็งทื่อ  และยิ่งไปกว่านั้น
 
หัวใจมันทำท่าจะหยุดเต้นด้วยซ้ำ   เมื่อได้ยินคุณดุลยรัฐพูดต่อ
 
"แม่ตั้งชื่อให้ผมว่า ..ดุลยรัฐ พอมีน้องชายตามมา อยากให้ขึ้นต้นด้วยดอเด็กเหมือนกัน  แม่เลยตั้งชื่อให้เค้าว่า ..ดนัย ครับ"
 
.............
 
.............
 
(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่