ชายสวมหน้ากากเป็นใคร? และเขาต้องการอะไรกับแมนน์? นั่นคือคำถามของตอนวันนี้ เรามาเริ่มกันที่นุ่นบอกโจว่าแมนน์์ตกลงว่าจะช่วยพวกเขาด้วยการเผชิญหน้ากับหมอมณฑลและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันที่จุ๋มตาย. เนติวัฒน์ทราบแผนของโจจึงตัดสินใจส่งดนัยไปรับแมนน์ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสถานี. นุ่นเข้ามาแทรกแซงขนะที่ดนัยกําลังจะจับกุมแมนน์ ดังนั้นดนัยจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพาเธอไปด้วย. ระหว่างการเดินทาง, มีรถลึกลับเข้ามาขวางทางพวกเขา ชายสวมหน้ากากออกมาจากรถและขู่ด้วยปืน เขาบอกให้ลงจากรถ พวกเขาทั้งหมดทำตามที่พวกเขาบอก ชายสวมหน้ากากยิงดนัยแล้วพาแมนน์ขึ้นรถ, ทิ้งนุ่นไว้ในรถ. นุ่นและโจร่วมมือกันไล่ล่าตามชายสวมหน้ากาก โดยปล่อยให้ดนัยรอรถพยาบาล. ชายสวมหน้ากากลักพาตัวแมนน์ พาเขาไปที่เรือนร้างและรัดคอเขาด้วยโซ่เหนือเพดาน แมนน์กำลังดิ้นรนเพื่อให้อากาศหายใจในขณะที่ชายสวมหน้ากากนั่งลงและเฝ้าดูเขาตายอย่างช้าๆ

แมนน์์เผยตัวตนความจริง

โจและนุ่นมาถึงที่เกิดเหตุ โจบอกนุ่นให้รอที่รถขณะหยิบปืนแล้วตามชายสวมหน้ากากเข้าไปในโกดัง เขาแอบเข้าไปในโกดังอย่างระมัดระวัง เขามองไปที่หน้าต่างโกดัง โจเห็นแมนน์หายใจลำบาก ขณะที่ฆาตกรเฝ้ารอเขาตายอย่างอดทน โจรอไม่ไหวแล้ว เขาชาร์จเข้าไปในโกดังเพื่อหยุดเขาจากการฆ่าแมนน์ “หยุดนะ หยุด ไม่งั้นฉันจะยิง” โจพูด ชายสวมหน้ากากเริ่มยิงใส่โจก่อน. โจหลบกระสุนหลังกล่องสินค้า โจยิงกลับ นุ่นได้ยินเสียงปืนจึงลงจากรถแล้วตามโจเข้าไปในโกดัง ภายในโกดัง การต่อสู้ระหว่างโจกับชายสวมหน้ากากได้เริ่มต้นขึ้น. โจต่อสู้กับชายสวมหน้ากากลึกลับ แต่เขาแข็งแกร่งเกินกว่าที่โจจะรับมือได้ด้วยตัวเอง โจได้รับบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้ แต่เขาสามารถเปิดโปงชายสวมหน้ากากได้ก่อนที่เขาจะหมดสติ. นุ่นเห็นหน้าฆาตกรต่อเนื่อง เซอร์ไพรส์มันคือเนติวัฒน์ เนติวัฒน์มาตามนุ่นพยายามทำร้ายเธอ. เนติวัฒน์รัดคอ นุ่น นุ่นพยายามดิ้นหลุดจากกำมือแต่ทำไม่ได้ เขาแข็งแกร่งเกินไป เนติวัฒน์จ้องนุ่นเขม็ง เขาอยากให้นุ่นตายจริงๆ นุ่นโพล่งออกมาทันที : "ฉันท้อง" เนติวัฒน์ปล่อยคอ เนติวัฒน์อึ้งมาก เมื่อนุ่นบอกว่าท้องลูกกับเนติวัฒน์ ฉากนี้เป็นเรื่องตลกร้ายที่นุ่นเล่นด้วยใจเนติวัฒน์ และเพราะอยากให้เนติวัฒน์ปล่อยเธอไป. เธอบอกเนติวัฒน์ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาที่เมืองเพื่อบอกเขาว่าเธอกำลังตั้งครรภ์กับลูกของเขา, เขาจะไม่โหดร้ายพอที่จะฆ่าลูกของตัวเอง. ในช่วงเวลาที่อ่อนแอ เนติวัฒน์คิดอยู่ครู่หนึ่ง นุ่นผลักเขาออกไป คว้าไม้ท่อนใหณ่และเริ่มตีเขาอย่างแรง เนติวัฒน์ล้มลงพยายามป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด. นุ่นพยายามวิ่ง เนติวัฒน์ลุกขึ้นคว้าตัว เขาตรึงเธอไว้กับพื้น เธอพยายามหนีจากการเกาะกุมของเขา แต่ก็ทำไม่ได้. “ปล่อยฉันไปนะ” นุ่นบอก เนติวัฒน์บีบคอเธออีกครั้ง พยายามทำร้ายเธอ เธอตะโกนขอความช่วยเหลือบอกให้เขาปล่อยเธอไป.

นุ่นและแมนนน์์ถูกดนัยลักพาตัว.

เธอสามารถผลักเขาออกจากเธอ แต่เขาลุกขึ้นและดึงขาของเธอลง. เธอกำลังเตะและกรีดร้องอย่างสุดหัวใจเพื่อให้เขาปล่อยเธอไป เธอเตะเขาลงและวิ่งออกไปจากที่นั่น เนติวัฒน์ : “นุ่นโกหกวัฒน์”. ขณะที่นุ่นวิ่งออกไปจากที่นั่น เนติวัฒน์วิ่งตามเธอไป ตลอดทางที่วิ่ง นุ่นกรีดร้องขอความช่วยเหลือ แล้วเธอก็วิ่งเข้าไปหาดนัยโดยไม่ตั้งใจ เธอขอให้ดนัยช่วยพาหนีจากเนติวัฒน์ แต่กลับพบว่าดนัยเป็นหุ้นส่วนของเนติวัฒน์ในคดีฆ่าคนจำนวนมาก. เนติวัฒน์และดนัยร่วมกันไล่ล่าตามนุ่นวิ่งไปตามถนนจนนุ่นเข้าไปชนกับรถ เธอถูกรถชนจนหมดสติ เนติวัฒน์กับดนัยตกใจมาก. "เธอตายรึเปล่า" ดนัยกล่าว“ ฉันไม่รู้แต่ออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะก่อนที่ใครจะมาเห็นเรา” เนติวัฒน์ตอบ. ตอนนี้ผู้ชมกำลังเรียนรู้ ๒ ประเด็นหลักเกี่ยวกับสายเลือด ๒ หัวใจในตอนนี้ ก่อนอื่นเนติวัฒน์และดนัยเป็นฆาตกรต่อเนื่อง พวกเขาทำงานเป็นทีม. นุ่นได้รับบาดเจ็บจากการเรียนรู้ตัวตนของฆาตกรต่อเนื่อง.

โจพลาดโอกาสที่จะช่วยแมนน์และนุ่น.

โจสามารถช่วยและปลดปล่อยแมนน์ออกจากห่วงโซ่คลังสินค้าได้ เขารอดชีวิต แต่ชีวิตของนุ่นติดอยู่กับภัยคุกคาม. แมนน์ออกจากเมืองหลังจากที่เขาได้รับการช่วยเหลือจากโจ.แมนน์เกือบตายเพราะความลับที่เขาเก็บใว้. ฆาตกรต่อเนื่องต้องการฆ่าเขา. เขาต้องหนีอีกแล้ว. คำถามคือ “เนติวัฒน์จะทำอะไรกับนุ่น” ตอนนี้นุ่นเป็นภัยต่อเนติวัฒน์และดนัยเพื่อความอยู่รอด. โจเจอนุ่นที่ถนนเลือดออกมาก เลยพานุ่นไปโรงพยาบาลทันที นุ่นตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรง. อาการบาดเจ็บของเธอรุนแรงมาก เธออยู่ในห้องไอซียู เนติวัฒน์เข้ามาแกล้งเป็นห่วงสภาพนุ่น. โจถามเนติวัฒน์ว่าไปไหนมา?เพราะเขาโทรไปหลายทีก็ไม่รับ. เนติวัฒน์บอกโจว่าลืมมือถือไว้ที่ห้องตอนนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่าง เขาไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง. พอได้ยินโทรศัพท์ทีหลัง เขาก็รับ และได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้น เขามาที่โรงพยาบาลทันที.

โจบอกเนติวัฒน์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง. ดนัยลักพาตัวแมนน์์และนุ่น แต่ชายคนหนึ่งของหมอมณฑลลักพาตัวแมนน์และพยายามจะฆ่าเขา. โจช่วยแมนน์ก่อนที่เขาจะถูกแขวนคอตาย นุ่นเห็นหน้าฆาตกรแล้วถูกไล่ล่าวิ่งไปตามถนนจนถูกรถชน ตอนนี้แมนน์หายไปตัวไป. ดนัยโดนยิง ตอนนี้อยู่ในห้องผ่าตัด โจแนะนำให้เนติวัฒน์ไปตรวจอาการดนัย แต่เนติวัฒน์บอกว่าเป็นห่วงอาการนุ่น. เนติวัฒน์แกล้งทำเป็นเป็นห่วงนุ่น แต่ในใจกลับอยากให้นุ่นตาย. ลูกหว้าสงสัยเนติวัฒน์เพราะบ้านอยู่ไกลจากโรงพยาบาลมากเกินไป มาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง. เขาบอกเธอว่าเขาขับรถเร็ว เขาขับรถไปที่ทางหลวงด้วยความเร็ว ๑๗๐ ไมล์ต่อชั่วโมงระหว่างขับรถมาโรงพยาบาล. ลูกหว้าขอให้แบงค์ไปสืบในบ้านของเนติวัฒน์. แบงค์บอกกับลูกหว้าว่าเนติวัฒน์จะขับรถเร็วขนาดนี้ได้ยังไง ในเมื่อรถของเขาจอดอยู่ที่บ้าน. เขาเฝ้าอยู่หน้าบ้านตามที่ลูกหว้าสั่ง. ลูกหว้า:"พี่วัฒน์์โกหก". แบงค์:"เขาจะโกหกไปทำไมวะ". ลูกหว้า:"ฉันไม่รู้". แบงค์:นั่นเธอคิดจะทําอะไรนะลูกหว้า:"ฉันไม่แน่ใจ ฉันต้องคุยกับพี่โจก่อน, ฉันจะบอกนายเมื่อฉันได้ยินอะไร. เฮ้ แบงค์ ฉันแนะนำให้นายกลับบ้านไปก่อนและระวังตัวด้วย". นั่นคือจุดสิ้นสุดของการสนทนาทางโทรศัพท์ (ลูกหว้าและแบงค์) หน้าห้องผ่าตัด ขณะที่โจกับเนติวัฒน์รออย่างใจร้อนให้หมอออกมาบอกอาการของนุ่น ลูกหว้าเข้ามาในห้อง โจถามว่าลูกหว้าบอกแม่เรื่องอาการนุ่นหรือยัง. ลูกหว้าบอกเล่าให้แม่ฟังแล้ว แม่จะมาเยี่ยมทีหลัง. ผู้การเอกพจน์เข้ามาเยี่ยมเมื่อได้ยินข่าวว่านุ่นกับดนัยโดนยิง เขาต้องการทราบเกี่ยวกับสภาพของพวกเขา. 

ก่อนที่เราจะเข้าสู่ฉากละครที่เหลือ เรามาดูช่วงเวลาหวานอมขมกลืนระหว่างลูกหว้ากับโจกันก่อน: ฉากหวานขมของลูกหว้าและโจ: โจกำลังโกนหนวดอยู่หน้ากระจก เขากำลังนึกถึงวันที่เฮียตงเสียชีวิตและเขาก็เสียใจ มันหลอกหลอนจิตใจของเขาและในขณะเดียวกันก็ทำให้เขาร้องไห้ ลูกหว้าเสนอที่จะช่วยโกนหนวดให้โจ ในขณะที่หว้าโกนหนวดเคราโจเบา ๆ โจก็ร้องไห้อย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้. เมื่อเธอโกนหนวดเคราเสร็จแล้ว เธอเช็ดใบหน้าของเขาด้วยผ้าขนหนูสีขาว ลูกหว้าเสนอที่จะเช็ดน้ำตาของเขาเพราะเธอเองก็ผิดหวังกับการตายของเฮียตงเช่นกัน.

ลูกหว้าและโจปลอบใจกันเมื่อถึงเวลาจำเป็น:เธอเช็ดน้ำตาของฉัน ฉันเช็ดน้ำตาของเธอ เราจะไม่มีวันปล่อยมือจากกัน.

ในตอนนี้เราจะมาดูกันว่าโจและลูกหว้าปลอบใจกันอย่างไรในยามยาก ฉันคิดว่ามันหวานและขมในเวลาเดียวกัน ต้องใช้คนใกล้ชิดตายเพื่อให้พวกเขาพึ่งพาอาศัยกันอย่างแท้จริงเมื่อถึงเวลา มันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพวกเขาเพราะว่าเฮียตงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพวกเขา. 
กลับมาที่สถานการณ์อาการบาดเจ็บของนุ่น. เธอยังอยู่ในสภาพอันตรายอย่างร้ายแรง เธอยังไม่ตื่น. หมอบอกโจและครอบครัวที่เหลือของนุ่นที่มีเลือดออกที่ศีรษะจนบาดเจ็บสาหัสจนต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะตื่น ก่อนที่หมอจะแจ้งเรื่องอาการบาดเจ็บที่ศีรษะของนุ่น หัวใจของนุ่นหยุดเต้นหลายครั้งจนหมอต้องทำ CPR เพื่อให้หัวใจเต้นอีกครั้ง. เนติวัฒน์พยายามทำตัวไร้เดียงสาเหมือนไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ ยิ่งเขาพยายามทำตัวปกติมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งปล่อยเบาะแสออกมาว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิด ลูกหว้าฉลาดสงสัยพฤติกรรมเนติวัฒน์.

ลูกหว้าสงสัยเนติวัฒน์ ความรู้สึกของเธอมันกำลังมาแรงที่บอกว่าเนติวัฒน์เป็นนักฆ่า. เธอรู้ว่าเนติวัฒน์โกหกทุกคนที่ขับรถไปโรงพยาบาล แต่รถของเขายังจอดอยู่ที่บ้าน เธอรู้ว่าเนติวัฒน์โกหกว่าเขาอยู่บ้านตอนที่นุ่นถูกฆาตกรต่อเนื่องโจมตี แต่เขาไม่ได้อยู่. ลูกหว้าบอกโจถึงความสงสัยของเธอ ลูกหว้าเตือนโจให้อยู่ห่างจากเนติวัฒน์ อย่าให้เนติวัฒน์มาใกล้นุ่นทุกกรณี.
โจแนะนำให้ลูกหว้าเก็บข้อมูลนี้ไว้คนเดียว, เพราะโจไม่อยากให้เนติวัฒน์รู้ตัว ก่อนที่เขาจะทำอะไรกับมันได้. โจกับลูกหว้า จับเนติวัฒน์และดนัยไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรมากพอที่จะจับมันได้.  

แบงก์์ถูกลูกหว้าและโจจ้างให้ไปสอบสวนที่บ้านเนติวัฒน์ทั้งคืน คืนนั้นเนติวัฒน์ไม่อยู่บ้าน. แบงก์์อยู่จนถึงเช้าจนกระทั่งไฟหน้าบ้านเนติวัฒน์ปิดอัตโนมัติ. แบงก์์กดกริ่งของบ้านสองสามครั้ง ก่อนที่เนติวัฒน์จะมาเปิดประตู เขาได้ซ่อนตัวจากสายตาของเนติวัฒน์แล้ว. แบงก์์: "เขาเข้ามาที่นี่เมื่อไหร่วะ" แบงก์์นึกในใจว่าเนติวัฒน์เข้ามาในบ้านได้ยังไง ในเมื่อเขาเฝ้าอยู่หน้าบ้านทั้งคืน. เนติวัฒน์ : "ใครมากดกริ่งประตูเล่นวะ" เนติวัฒน์รู้สึกสับสนว่าใครกดกริ่งประตูบ้าน ไม่มีใครอยู่หน้าประตูบ้าน. จากนั้นคนดูก็รู้ว่าเนติวัฒน์มีรอยฟกช้ำตามร่างกาย เพราะเขาปีนรั้วบ้านเพื่อเข้าไปในบ้านของตัวเอง. แบงค์ไปแจ้งโจด้วยข้อมูลที่เขาได้มา ช่องว่างระหว่างเวลาของเนติวัฒน์เดินทางไปโรงพยาบาลและกลับบ้านไม่นับรวมกัน เวลาขาดหายไป ๕ ชั่วโมง คำถามก็คือ “เนติวัฒน์ไปทำอะไรมากับ ๕ ชั่วโมงที่หายไปทั้งหมด?” 
ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ฉากรีวิวที่เหลือ มาดูโมเมนต์หวานๆ ระหว่าง ลูกหว้า กับ โจ กันก่อนดีกว่า อย่างที่เราคนดูรู้ว่าลูกหว้ากับโจกำลังเดทกันอยู่ ในตอนนี้ ลูกหว้าและโจอยู่ด้วยกันในบ้านเดียวกัน ในทางปฏิบัติ โจและลูกหว้าถือเป็นสามีภริยาในความรู้สึกทางกาย ไม่ถูกกฎหมาย ฉันว่ามันน่ารักดีนะที่ลูกหว้ากับโจจะนอนบนเตียงเดียวกัน ในขณะที่แม่ของลูกหว้ามาเห็นเขาอยู่ด้วยกันแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ในแง่หนึ่ง โจเป็นลูกเขยของพวกเขาไปแล้ว.
ลองคิดดูสิ โจและลูกหว้ากลับมาจากการทำงานอันยาวนาน พวกเขาต้องการพักผ่อนก่อนที่เขาจะกลับไปทำงานร่วมกัน สามีภรรยาไปทำงานร่วมกันในที่เดียวกัน, มันน่ารักมาก.

อีกฉากที่ชอบคือฉากครอบครัวของลูกหว้า โจ และแม่ลูกหว้า อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ครอบครัวสุขสันต์.
ฉากครอบครัว:ลูกหว้าและโจทำอาหารให้แม่ของพวกเขา พวกเขาเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารร่วมกันเป็นครอบครัว พวกเขากิน พูดคุย และสนับสนุนกันเป็นครอบครัว พอได้ข่าวว่านุ่นพ้นภัยก็อยากไปหานุ่น โจและลูกหว้าทำงานหนักมาก ทั้งคู่แนะนำให้พักผ่อนและนอนหลับก่อนกลับไปทำงานหรือไปเยี่ยมนุ่นที่โรงพยาบาล. นั่นคือความหมายของครอบครัว ครอบครัวควรอยู่ร่วมกันในช่วงเวลาแห่งความสุขหรือยามจำเป็น ฉันรู้สึกอบอุ่นใจที่ได้เห็นโจและลูกหว้าอยู่กับครอบครัว.