ผู้อ่านท่านผู้เจริญ ผมมีตัวอย่างของคนที่นำมวลมหาประชาชนอันดับ 1 ของโลกมารับใช้ต่อ ตอนแรกลุงเลนินก็พูดโจมตีรัฐบาลพระเจ้าซาร์ ขอให้ประชาชนช่วยกันล้ม และบอกว่าจะรีบตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ “พี่น้องประชาชนคนรัสเซียที่รัก  เราต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่ จึงขอให้ท่านไปช่วยกันเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในวันที่ 15-19 พฤศจิกายน ค.ศ. 1917 ส่วนพระเจ้าซาร์ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ที่เราเคารพนั้น ขอท่านโปรดสบายใจ พวกเราจะถวายความปลอดภัยอย่างสูงสุด ข้าพเจ้าจะทูลเชิญท่านไปประทับที่ซาร์สโกเอเซโล ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อน มวลมหาประชาชนที่รัก เราจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ เราจะมีรัฐบาลใหม่ในไม่ช้านี้ ส่วนรัฐบาลโซเวียตที่พวกข้าพเจ้าบริหารอยู่นี้ เป็นเพียงรัฐบาลชั่วคราวเท่านั้น”

รัสเซียสมัยนั้น ประชาชนเบื่อหน่ายรัฐบาลที่มีแต่การเล่นพรรคเล่นพวก ความแตกต่างทางเศรษฐกิจระหว่างกรรมกรกับชาวนาและพวกเศรษฐีที่ดินมีสูง ยิ่งมีปัญหาเรื่องรัสปูตินเข้ามา ยิ่งทำให้ความเสื่อมปกคลุมราชวงศ์โรมานอฟ แต่ผู้อ่านท่านครับ คนรัสเซียไม่ชอบคอมมิวนิสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมมิวนิสต์ที่รุนแรงอย่างพรรคบอลเชวิค ที่ผมกล้าเขียนอย่างนี้เพราะการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ทั่วประเทศ 707 คนนั้น สมาชิกพรรคบอลเชวิคได้เพียง 175 คน

อันนี้ทำให้ลุงเลนินตกใจมาก เพราะตอนจะล้มรัฐบาล มวลมหาประชาชนมากันมาก แกก็นึกว่าคนรักและศรัทธาแก แต่พอถึงคราวเลือกตั้ง อ้าว ได้ผู้แทนมาน้อย เลือกตั้งแพ้ ลุงเลนินก็กลับจะไม่เอาสภาแล้ว คนทั่วไปคิดว่าลุงเลนินบริสุทธิ์ มีเพียงลุงเลนินกับคนใกล้ชิดเท่านั้น ที่รู้ว่าจะต้องค่อยๆ บิดเบือนเจตนารมณ์ที่บอกประชาชนไว้ตั้งแต่ทีแรกไปทีละเล็กทีละน้อย

การเปิดประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญที่เลือกตั้งโดยอภิพญามวลมหาประชาชนทั้งประเทศของแท้ กำหนดไว้ในวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1918 ส.ส.ร.จากพรรคบอลเชวิคที่มีลุงเลนินเป็นผู้นำก็ออกฤทธิ์โดยการวอล์กเอาต์จากที่ประชุมบ้าง อภิปรายไร้สาระเพื่อถ่วงเวลาบ้าง ประสงค์ก็คือ เพื่อให้สภาร่างรัฐธรรมนูญเปิดประชุมในวันแรกไม่ได้ ประชาชนจะได้รู้เช่นเห็นชาติกันเสียทีว่า สภาที่มาจากประชาชนของแท้นั้นทำงานไม่ได้   เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ลุงเลนินซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลโซเวียตประกาศยุบสภาโดยประชาชนไม่ต่อต้าน

พรรคบอลเชวิคสร้างกองทหารเรดการ์ดทำงานควบคู่กับพรรคเอาไว้นานแล้ว ลุงเลนินก็ใช้กองทหารเรดการ์ดเข้ามาก่อกวนการประชุมสภาวันแรก โดยใช้กำลังบังคับให้ผู้ที่กำลังประชุมเดินออกจากห้องประชุม เมื่อสภาเละตุ้มเป๊ะอย่างนี้ ลุงเลนินก็ประกาศยุบสภา

เรื่องรัฐบาลชั่วคราวนี่อันตรายครับ พอใช้มวลมหาประชาชนล้มรัฐบาลเดิมได้แล้ว ประเทศก็อยู่ในสภาวะสุญญากาศทางการเมือง ก็ต้องเอาพวกแกนนำที่ทำการประท้วงนั่นแหละมาเป็นรัฐบาลชั่วคราว เพื่อจะจัดการเลือกตั้งใหม่ รัฐบาลชั่วคราวที่เรียกว่า รัฐบาลโซเวียตชั่วคราว จึงมีอำนาจยุบสภาร่างรัฐธรรมนูญ ผู้อ่านท่านเห็นไหมครับ ว่าบิดเพียงนิดเดียว ประวัติศาสตร์ของชาติก็เปลี่ยนแล้ว

เมื่อสภาร่างรัฐธรรมนูญทำงานไม่ได้  ทุกอย่างก็ต้องโยนไปให้สภาโซเวียตที่ตั้งกันมาเองในหมู่ผู้ที่เป็นแกนนำการประท้วงล้มรัฐบาล ลุงเลนินก็จัดประชุมสภาโซเวียตระหว่างวันที่ 8-18 มกราคม ค.ศ.1918 การประชุมสภาในวันนั้นมีมติให้ตัดคำว่าชั่วคราว ที่อยู่ท้ายรัฐบาลโซเวียตชั่วคราวออก ก็เลยกลายเป็นรัฐบาลโซเวียตถาวรโดยไม่ต้องมีการเลือกตั้ง

ตอนนั้นเรดการ์ดเริ่มมีอำนาจ ใครๆ ก็กลัวเรดการ์ด รัฐบาลโซเวียตประกาศกฤษฎีกาสลายกองทัพเดิม ทำให้ทหารเกือบ 8 ล้านคนถูกปลด  สภาโซเวียตประกาศตั้งคณะกรรมาธิการปฏิวัติทหารเพื่อวางระเบียบข้อบังคับและโครงสร้างของสังคมนิยม กำหนดให้ชายหญิงที่เคยเป็นกรรมกรและชาวนามาก่อนเท่านั้นจึงจะมีสิทธิเป็นทหารได้

รัสเซียมีการประท้วงต่อต้านกันอย่างรุนแรงมานาน จนไม่มีหน่วยงานใดแข็งแรง ยกเว้นพรรคบอลเชวิคของลุงเลนิน คนจึงต่อต้านลุงเลนินได้ยาก ลุงเลนินใช้ที่ประชุมใหญ่สภาโซเวียตร่างรัฐธรรมนูญโซเวียต ค.ศ. 1918 สถาปนาอำนาจเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพ เน้นการให้สิทธิเสรีภาพแก่พลเมืองผู้ใช้แรงงานเท่านั้น และไม่ให้มีพรรคการเมืองอื่น

เมื่อได้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งสภา รัฐบาล และกองกำลังทหารแล้ว เลนินก็บอกว่า ซาร์สโกเอเซโล พระตำหนักฤดูร้อนไม่ปลอดภัย ข้าพเจ้าจึงจำเป็นต้องทูลเชิญพระเจ้าซาร์ และราชวงศ์ทุกพระองค์เสด็จไปประทับที่เมืองโตบอลสตค์ ในไซบีเรีย

เวลาผ่านไปไม่นาน พระเจ้าซาร์และราชวงศ์ก็ถูกปลงพระชนม์

หลังจากมวลมหาประชาชนคนรัสเซียล้มรัฐบาลเดิมได้สำเร็จ ก็ไม่ได้เลือกตั้งโดยตรง 1 คน 1 เสียง อีกนานถึง 73 ปี.

อ้างอิง http://www.thairath.co.th/column/oversea/worldsky/396234

.........................................................................................................................................................................................

"รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม"

เห็นว่าน่าสนใจดี เลยเอามาให้อ่านดูกันครับ

จะได้รู้ความเป็นมาเป็นไปของชาติอื่นเมืองอื่นเขาเสียบ้าง...