JJNY : 5in1 บุกปล้นถุงยังชีพ│อิสราเอลเตือนพลเมือง│‘เท้ง’โวพร้อมสู้│วิปฝ่ายค้านฮึ่มรบ.│ทองร่วง บาทอ่อน จับตาตัวเลขจ้างงาน

ทีมอาสาสุดช็อก กลับจากช่วยน้ำท่วมเทพา โดนคนร้ายล้อมรถ บุกปล้นถุงยังชีพ ขณะกำลังลำเลียงให้ผู้ประสบภัย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9531990
 
ทีมอาสาสุดช็อก กลับจากช่วยน้ำท่วมเทพา โดนคนร้ายล้อมรถ บุกปล้นถุงยังชีพ ขณะกำลังลำเลียงให้ผู้ประสบภัย ผู้หวังดีเตือนให้ออกก่อน 6 โมงเย็น

วันที่ 2 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงใกล้รุ่งสางที่ผ่านมา ทีมอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง จำนวน 30 นาย ได้แจ้งการเดินทางกลับพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง หลังจากได้เดินทางเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยในจุดหนึ่ง ของ ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา

โดยนำรถกู้ภัย 7 คัน เรือลำเลียงกู้ภัย 1 ลำ และถุงยังชีพเข้าให้การช่วยเหลือในพื้นที่ในช่วงเย็นวานนี้ แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ในพื้นที่ประสบภัยเข้าปิดล้อมขบวนรถและชิงเอาถุงยังชีพที่เตรียมไปแจกจ่ายในประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ชุมชนน้ำท่วมสูง

หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ระบุว่า ขณะเกิดเหตุได้ไปหยุดขบวนรถที่บริเวณใกล้กับทางรถไฟใน ต.ท่าม่วง ด้วยความเป็นนอกพื้นที่ไม่ชัดเจนว่าจุดนั้นเรียกว่าบ้านอะไร หลังจากนั้นได้แบ่งถุงยังชีพลงเรือขนย้ายไปยังจุดน้ำท่วมสูงอีกด้านที่มีชาวบ้านเดือดร้อนจำนวนหลายราย

หลังจากนั้นเริ่มมีรถจยย.มาจอดขวางหน้าขบวนรถ มีชายฉกรรจ์ประมาณ 20 คนทยอยมาปิดล้อม และบังคับเอาถุงยังชีพ แต่เจ้าหน้าที่พยายามชี้แจงว่าจะต้องพยายามแบ่งจัดให้กับพื้นที่เดือดร้อนหนักที่มีน้ำท่วมสูงและสำหรับคนที่ติดอยู่ในที่เหล่านั้น

ปรากฏว่ากลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นเริ่มโวยวายทำนองเหตุใดต้องเอาไปให้คนข้างในข้างนอกก็เดือดร้อน ทั้งที่เขายังขี่รถจยย.ได้ มีความคล่องตัวในการเดินทาง แต่คนภายในน้ำถึงคอหรือมิดศีรษะ

บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นและคนเริ่มมามากขึ้น เริ่มไปมองหาสิ่งของในรถ มีการกดดันอย่างหนัก จนกระทั่งท้ายที่สุดต้องยอมว่ามีของเท่านี้ กลุ่มคนเหล่านั้นได้มีการแย่งชิงของไปจนหมด

และมีบางคนที่หวังดีได้เข้ามาเตือนว่าให้รีบออกจากพื้นที่ก่อน 6 โมงเย็นไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ที่นี่เป็นพื้นที่อันตราย ทำให้ทีมทั้งหมดตกใจอย่างมาก ก่อนที่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าทีมให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ทั้งหมด และได้เดินทางกลับนครศรีธรรมราช และตรังได้อย่างปลอดภัย

ทีมกู้ภัยประสบเหตการณ์ไม่คาดคิด รายนี้ระบุด้วยว่าไม่ใช่ทุกที่จะเหมือนกับที่ไปประสบมา เกือบทั้งหมดมีรอยยิ้มมีน้ำใจไมตรี พวกเราเป็นจิตอาสานำพาน้ำใจไปบรรเทาทุกข์ร้อน ต่างมีความเข้าใจกันและกัน

แต่บางจุดที่ไปประสบมานั้นขอให้เข้าใจพวกเรา สิ่งที่นำมาเปิดเผยนั้นขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทีมกู้ภัยทุกทีม และขอให้เป็นบทเรียนของคนเหล่านั้น พวกเราล้วนเป็นคนไทยช่วยเหลือและมีน้ำใจกันเสมอเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น.



อิสราเอลเตือนพลเมือง ระวังภัยก่อการร้ายในเอเชียตอ.เฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4931958

อิสราเอลเตือนพลเมือง ระวังภัยก่อการร้ายในเอเชียตอ.เฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย

สภาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอล (เอ็นเอสซี) ได้ระบุบนเว็บไซต์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อชาวอิสราเอลในประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย พร้อมทั้งออกคำแนะนำสำหรับชาวอิสราเอลในภูมิภาคนี้

เอ็นเอสซีระบุว่าสืบเนื่องจากการที่ทางหน่วยงานได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาถึงการพบภัยคุกคามในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาต่อชาวอิสราเอลจากองค์กรก่อการร้ายในประเทศไทย ล่าสุด หน่วยงานด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ได้ประเมินข้อมูลข่าวกรองล่าสุดซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังการสังหารแรบไบ ซวี โคแกน ผู้เป็นพระในศาสนายูดาห์ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กำลังวางแผนที่จะลงมือก่อการร้ายอีกครั้ง

เนื่องจากภัยคุกคามต่อชาวอิสราเอลที่เพิ่มขึ้น เอ็นเอสซีจึงออกคำแนะนำให้แก่ชาวอิสราเอลที่พำนักอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ปฏิบัติตาม ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่เป็นที่นิยมของชาวอิสราเอลหรือชาวยิว
2. เพิ่มความระมัดระวังขณะอยู่ในที่สาธารณะ อาทิ ร้านอาหาร โรงแรม หรือบาร์
3. ปกปิดทุกสิ่งที่อาจบ่งชี้ว่าคุณเป็นชาวยิว
4. ให้ความร่วมมือกับกองกำลังความมั่นคงท้องถิ่น และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ รวมถึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นทันทีหากเผชิญหรือพบเห็นการก่อการร้าย และแจ้งสายด่วนเตือนภัยการเดินทางของเอ็นเอสซี หมายเลข +972-2-666-7444
5. หลีกเลี่ยงการโพสต์รายละเอียดการเดินทางและรูปลงบนโซเชียลมีเดียทั้งก่อนและระหว่างการเดินทาง รวมถึงในกลุ่มการท่องเที่ยวต่างแดน
6. ทางหน่วยงานแนะนำให้ชาวอิสราเอลตั้งบัญชีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียให้เป็นส่วนตัวและหลีกเลี่ยงการแชร์บัญชีใช้งานโซเชียลมีเดียของตนเอง
7. หลีกเลี่ยงการแบ่งปันรายละเอียดซึ่งบ่งชี้เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพลงบนโซเชียลมีเดียหรือการสนทนากับคนแปลกหน้า

แถลงการณ์ของเอ็นเอสซีระบุด้วยว่าหน่วยงานความมั่นคงของอิสราเอลจะยังคงร่วมมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไปเพื่อกำจัดภัยคุกคามดังกล่าวต่อชาวอิสราเอล



‘เท้ง’ โวพร้อมสู้เลือกตั้ง หลัง ‘พท.’ ขู่ ‘ภท.’ ยุบสภาปมเห็นต่างประชามติ
https://www.dailynews.co.th/news/4141756/

กล้ามั้ย!! “เท้ง” โว พรรคประชาชนพร้อมสู้ทุกสนามเลือกตั้ง หลัง “สส.พท.” ขู่ “ภท.” ยุบสภา ปมเห็นต่างเกณฑ์ประชามติ

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 67 ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเทลส์ และทาวเวอร์ กทม. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความขัดแย้งใน สส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาขู่พรรคภูมิใจไทย ที่เห็นไม่ตรงกับพรรคเพื่อไทย เรื่องเกณฑ์ผ่านการทำประชามติตามร่างกฎหมายประชามติ ด้วยการยุบสภา ว่า ฝ่ายค้านได้ดำเนินการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ แต่หากฝ่ายรัฐบาลจะเกิดปัญหาการเมืองภายใน จะเกิดการยุบสภาหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาล จะต้องไปเจรจากันต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากจะมีการแตกหักถึงขั้นยุบสภาจริงหรือไม่นั้น ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะเป็นเรื่องการเมืองภายในของพรรคร่วมรัฐบาล แต่เห็นได้จากอดีตว่า หากมีเรื่องที่ต้องลงมติ ทั้งรายงานการนิรโทษกรรม หรือกฎหมายอื่น ๆ บางครั้งพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อว่า ประชาชนคนไทยก็มีความเป็นห่วง เพราะหากการเมืองขาดเสถียรภาพ ก็จะส่งผลถึงความเชื่อมั่นใจการลงทุน และความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ ด้วย

เมื่อถามย้ำงว่า หากมีการยุบสภาจริง พรรคประชาชนจะมีความพร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งแล้วหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวยืนยันว่า ทางพรรคประชาชนมีความพร้อมทุกสนามอยู่แล้ว และพรรคการเมืองทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคใด ไม่สามารถปฏิเสธการเลือกตั้งได้ และพรรคประชาชน ก็มีความพร้อมทุกวินาที และหากจะมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคก็จะมีนโยบายใหม่มานำเสนอให้กับประชาชนทุกคน

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ฝ่ายค้านโดยพรรคประชาชน ยังคงยืนยันผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เห็นได้จากดำเนินการโดยคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน ซึ่งก็ได้มีการไปหารือกับประธานรัฐสภา และประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้ยืนยันต่อฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วว่า สามารถจัดการออกเสียงประชามติ 2 ครั้ง เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยประธานรัฐสภา สามารถบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้โดยทันที และยังมีช่องทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่มีการบรรจุระเบียบวาระ ที่เสนอโดยพรรคประชาชน เข้าสู่ระเบียบวาระไปแล้ว ดังนั้นในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยืนยันว่าได้ดำเนินการอย่างเต็มที่.



วิปฝ่ายค้าน ฮึ่มรัฐบาล สมัยนี้ยื่นแน่ อภิปรายไม่ไว้วางใจ แย้มเปิดสภาฯ ถามกระทู้สดทันที
https://www.matichon.co.th/politics/news_4931962

”ปกรณ์วุฒิ“ ยัน ฝ่ายค้านขอเปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอน รอเคาะชัดเจน ชี้ แม้ใช้ ม.155 ประชุมลับ ยังมีช่องทางอื่นเปิดสาธรณะได้ จ่อ ประเดิมถามกระทู้สด
 
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงสมัยประชุมที่กำลังจะถึงนี้ ว่า ยังไม่มีความชัดเจนเป็นแค่แผนที่ทางพรรคฝ่ายค้านวางไว้ว่าในสมัยประชุมนี้จะมีการเปิดอภิปรายแน่ๆ
 
ส่วนกรณีที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องเอ็มโอยู 44 จะเสนอให้เปิดอภิปรายรัฐธรรมนูญ  มาตรา 155 เพื่อเปิดประชุมรัฐสภาให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว.ได้อภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี นั้น นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า มีหลายช่องทางในการสอบถาม การเปิดอภิปรายตามมาตรา 155 ก็เป็นหนึ่งในนั้น หากเห็นว่า เป็นประเด็นที่อ่อนไหว ก็สามารถช่องนี้ได้ หรือแม้กระทั่งตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย และใช้ญัตติด่วนในการซักถาม หากรัฐบาลมองว่าเรื่องนี้สำคัญสามารถประสานงานไปยังคณะรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้ามาชี้แจง เพราะข้อบังคับกำหนดว่า หากรัฐบาลหรือนายกฯต้องการชี้แจง ประธานสภาฯมีสิทธิ์ที่จะอนุญาต
 
เมื่อถามว่า มองอย่างไรหากผู้นำฝ่ายค้าน เปิดอภิปรายตามมาตรา 155 เพราะเป็นการประชุมลับ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เราทำได้หลายโอกาส ไม่จำเป็นต้องเรื่องนี้แค่เรื่องเดียว อาจใช้เวทีกระทู้สดถามก่อน หรือ พูดคุยรายละเอียดเบื้องต้น หรือใช้ญัตติด่วยด้วยวาจา เพื่อเปิดโอกาสให้ส.ส.ทั้ง 2 ฝ่ายอภิปรายอย่างเต็มที่ หากมีประเด็นไหนที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกัน หรือฝ่ายค้านเห็นว่า มีบางประเด็นที่ทางรัฐมนตรียังไม่กล้าตอบในทางสาธารณะ เพราะมองว่า เป็นเรื่องที่อ่อนไหว กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สภาฯสามารถใช้ช่องทางการประชุมลับ ให้ทางส.ส.ได้ซักถามให้รัฐมนตรีตอบได้เช่นกัน แต่หลายๆประเด็นสามารถเป็นสาธารณะได้อยู่แล้ว หากจะเปิดอภิปรายตามมาตรา 155 ก็ไม่ได้หมายความว่าในวาระอื่นสภาฯไม่สามารถพูดเรื่องนี้ได้
 
เมื่อถามว่า ปกติพรรคประชาชนต้องเปิดเผยทุกอย่างเพื่อให้เกิดความโปร่งใส นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่สามารถเข้าใจได้ และการอภิปรายตามมาตรา 155 มีเจตนารมณ์อยู่
 
เมื่อถามว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นมีการประสานมาบ้างแล้วหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ แต่คิดว่า ทุกฝ่ายก็คงเห็นเหมือนกันว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ในสัปดาห์แรกที่เปิดสมัยประชุมก็มีกระทู้สดรออยู่แล้ว เราอยากใช้โอกาสนี้ใสการซักถามเรื่องดังกล่าวได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่