ทีมอาสาสุดช็อก กลับจากช่วยน้ำท่วมเทพา โดนคนร้ายล้อมรถ บุกปล้นถุงยังชีพ ขณะกำลังลำเลียงให้ผู้ประสบภัย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9531990
ทีมอาสาสุดช็อก กลับจากช่วยน้ำท่วมเทพา โดนคนร้ายล้อมรถ บุกปล้นถุงยังชีพ ขณะกำลังลำเลียงให้ผู้ประสบภัย ผู้หวังดีเตือนให้ออกก่อน 6 โมงเย็น
วันที่ 2 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงใกล้รุ่งสางที่ผ่านมา ทีมอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง จำนวน 30 นาย ได้แจ้งการเดินทางกลับพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง หลังจากได้เดินทางเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยในจุดหนึ่ง ของ ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา
โดยนำรถกู้ภัย 7 คัน เรือลำเลียงกู้ภัย 1 ลำ และถุงยังชีพเข้าให้การช่วยเหลือในพื้นที่ในช่วงเย็นวานนี้ แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ในพื้นที่ประสบภัยเข้าปิดล้อมขบวนรถและชิงเอาถุงยังชีพที่เตรียมไปแจกจ่ายในประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ชุมชนน้ำท่วมสูง
หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ระบุว่า ขณะเกิดเหตุได้ไปหยุดขบวนรถที่บริเวณใกล้กับทางรถไฟใน ต.ท่าม่วง ด้วยความเป็นนอกพื้นที่ไม่ชัดเจนว่าจุดนั้นเรียกว่าบ้านอะไร หลังจากนั้นได้แบ่งถุงยังชีพลงเรือขนย้ายไปยังจุดน้ำท่วมสูงอีกด้านที่มีชาวบ้านเดือดร้อนจำนวนหลายราย
หลังจากนั้นเริ่มมีรถจยย.มาจอดขวางหน้าขบวนรถ มีชายฉกรรจ์ประมาณ 20 คนทยอยมาปิดล้อม และบังคับเอาถุงยังชีพ แต่เจ้าหน้าที่พยายามชี้แจงว่าจะต้องพยายามแบ่งจัดให้กับพื้นที่เดือดร้อนหนักที่มีน้ำท่วมสูงและสำหรับคนที่ติดอยู่ในที่เหล่านั้น
ปรากฏว่ากลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นเริ่มโวยวายทำนองเหตุใดต้องเอาไปให้คนข้างในข้างนอกก็เดือดร้อน ทั้งที่เขายังขี่รถจยย.ได้ มีความคล่องตัวในการเดินทาง แต่คนภายในน้ำถึงคอหรือมิดศีรษะ
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นและคนเริ่มมามากขึ้น เริ่มไปมองหาสิ่งของในรถ มีการกดดันอย่างหนัก จนกระทั่งท้ายที่สุดต้องยอมว่ามีของเท่านี้ กลุ่มคนเหล่านั้นได้มีการแย่งชิงของไปจนหมด
และมีบางคนที่หวังดีได้เข้ามาเตือนว่าให้รีบออกจากพื้นที่ก่อน 6 โมงเย็นไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ที่นี่เป็นพื้นที่อันตราย ทำให้ทีมทั้งหมดตกใจอย่างมาก ก่อนที่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าทีมให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ทั้งหมด และได้เดินทางกลับนครศรีธรรมราช และตรังได้อย่างปลอดภัย
ทีมกู้ภัยประสบเหตการณ์ไม่คาดคิด รายนี้ระบุด้วยว่าไม่ใช่ทุกที่จะเหมือนกับที่ไปประสบมา เกือบทั้งหมดมีรอยยิ้มมีน้ำใจไมตรี พวกเราเป็นจิตอาสานำพาน้ำใจไปบรรเทาทุกข์ร้อน ต่างมีความเข้าใจกันและกัน
แต่บางจุดที่ไปประสบมานั้นขอให้เข้าใจพวกเรา สิ่งที่นำมาเปิดเผยนั้นขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทีมกู้ภัยทุกทีม และขอให้เป็นบทเรียนของคนเหล่านั้น พวกเราล้วนเป็นคนไทยช่วยเหลือและมีน้ำใจกันเสมอเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น.
อิสราเอลเตือนพลเมือง ระวังภัยก่อการร้ายในเอเชียตอ.เฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4931958
อิสราเอลเตือนพลเมือง ระวังภัยก่อการร้ายในเอเชียตอ.เฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย
สภาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอล (เอ็นเอสซี) ได้ระบุบนเว็บไซต์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อชาวอิสราเอลในประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย พร้อมทั้งออกคำแนะนำสำหรับชาวอิสราเอลในภูมิภาคนี้
เอ็นเอสซีระบุว่าสืบเนื่องจากการที่ทางหน่วยงานได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาถึงการพบภัยคุกคามในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาต่อชาวอิสราเอลจากองค์กรก่อการร้ายในประเทศไทย ล่าสุด หน่วยงานด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ได้ประเมินข้อมูลข่าวกรองล่าสุดซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังการสังหารแรบไบ ซวี โคแกน ผู้เป็นพระในศาสนายูดาห์ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กำลังวางแผนที่จะลงมือก่อการร้ายอีกครั้ง
เนื่องจากภัยคุกคามต่อชาวอิสราเอลที่เพิ่มขึ้น เอ็นเอสซีจึงออกคำแนะนำให้แก่ชาวอิสราเอลที่พำนักอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ปฏิบัติตาม ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่เป็นที่นิยมของชาวอิสราเอลหรือชาวยิว
2. เพิ่มความระมัดระวังขณะอยู่ในที่สาธารณะ อาทิ ร้านอาหาร โรงแรม หรือบาร์
3. ปกปิดทุกสิ่งที่อาจบ่งชี้ว่าคุณเป็นชาวยิว
4. ให้ความร่วมมือกับกองกำลังความมั่นคงท้องถิ่น และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ รวมถึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นทันทีหากเผชิญหรือพบเห็นการก่อการร้าย และแจ้งสายด่วนเตือนภัยการเดินทางของเอ็นเอสซี หมายเลข +972-2-666-7444
5. หลีกเลี่ยงการโพสต์รายละเอียดการเดินทางและรูปลงบนโซเชียลมีเดียทั้งก่อนและระหว่างการเดินทาง รวมถึงในกลุ่มการท่องเที่ยวต่างแดน
6. ทางหน่วยงานแนะนำให้ชาวอิสราเอลตั้งบัญชีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียให้เป็นส่วนตัวและหลีกเลี่ยงการแชร์บัญชีใช้งานโซเชียลมีเดียของตนเอง
7. หลีกเลี่ยงการแบ่งปันรายละเอียดซึ่งบ่งชี้เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพลงบนโซเชียลมีเดียหรือการสนทนากับคนแปลกหน้า
แถลงการณ์ของเอ็นเอสซีระบุด้วยว่าหน่วยงานความมั่นคงของอิสราเอลจะยังคงร่วมมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไปเพื่อกำจัดภัยคุกคามดังกล่าวต่อชาวอิสราเอล
‘เท้ง’ โวพร้อมสู้เลือกตั้ง หลัง ‘พท.’ ขู่ ‘ภท.’ ยุบสภาปมเห็นต่างประชามติ
https://www.dailynews.co.th/news/4141756/
กล้ามั้ย!! “เท้ง” โว พรรคประชาชนพร้อมสู้ทุกสนามเลือกตั้ง หลัง “สส.พท.” ขู่ “ภท.” ยุบสภา ปมเห็นต่างเกณฑ์ประชามติ
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 67 ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเทลส์ และทาวเวอร์ กทม. นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความขัดแย้งใน สส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่ นพ.
เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาขู่พรรคภูมิใจไทย ที่เห็นไม่ตรงกับพรรคเพื่อไทย เรื่องเกณฑ์ผ่านการทำประชามติตามร่างกฎหมายประชามติ ด้วยการยุบสภา ว่า ฝ่ายค้านได้ดำเนินการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ แต่หากฝ่ายรัฐบาลจะเกิดปัญหาการเมืองภายใน จะเกิดการยุบสภาหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาล จะต้องไปเจรจากันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากจะมีการแตกหักถึงขั้นยุบสภาจริงหรือไม่นั้น ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะเป็นเรื่องการเมืองภายในของพรรคร่วมรัฐบาล แต่เห็นได้จากอดีตว่า หากมีเรื่องที่ต้องลงมติ ทั้งรายงานการนิรโทษกรรม หรือกฎหมายอื่น ๆ บางครั้งพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อว่า ประชาชนคนไทยก็มีความเป็นห่วง เพราะหากการเมืองขาดเสถียรภาพ ก็จะส่งผลถึงความเชื่อมั่นใจการลงทุน และความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ ด้วย
เมื่อถามย้ำงว่า หากมีการยุบสภาจริง พรรคประชาชนจะมีความพร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งแล้วหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวยืนยันว่า ทางพรรคประชาชนมีความพร้อมทุกสนามอยู่แล้ว และพรรคการเมืองทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคใด ไม่สามารถปฏิเสธการเลือกตั้งได้ และพรรคประชาชน ก็มีความพร้อมทุกวินาที และหากจะมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคก็จะมีนโยบายใหม่มานำเสนอให้กับประชาชนทุกคน
นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวถึงการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ฝ่ายค้านโดยพรรคประชาชน ยังคงยืนยันผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เห็นได้จากดำเนินการโดยคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน ซึ่งก็ได้มีการไปหารือกับประธานรัฐสภา และประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้ยืนยันต่อฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วว่า สามารถจัดการออกเสียงประชามติ 2 ครั้ง เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยประธานรัฐสภา สามารถบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้โดยทันที และยังมีช่องทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่มีการบรรจุระเบียบวาระ ที่เสนอโดยพรรคประชาชน เข้าสู่ระเบียบวาระไปแล้ว ดังนั้นในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยืนยันว่าได้ดำเนินการอย่างเต็มที่.
วิปฝ่ายค้าน ฮึ่มรัฐบาล สมัยนี้ยื่นแน่ อภิปรายไม่ไว้วางใจ แย้มเปิดสภาฯ ถามกระทู้สดทันที
https://www.matichon.co.th/politics/news_4931962
”ปกรณ์วุฒิ“ ยัน ฝ่ายค้านขอเปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอน รอเคาะชัดเจน ชี้ แม้ใช้ ม.155 ประชุมลับ ยังมีช่องทางอื่นเปิดสาธรณะได้ จ่อ ประเดิมถามกระทู้สด
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงสมัยประชุมที่กำลังจะถึงนี้ ว่า ยังไม่มีความชัดเจนเป็นแค่แผนที่ทางพรรคฝ่ายค้านวางไว้ว่าในสมัยประชุมนี้จะมีการเปิดอภิปรายแน่ๆ
ส่วนกรณีที่ นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องเอ็มโอยู 44 จะเสนอให้เปิดอภิปรายรัฐธรรมนูญ มาตรา 155 เพื่อเปิดประชุมรัฐสภาให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว.ได้อภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี นั้น นาย
ปกรณ์วุฒิ ระบุว่า มีหลายช่องทางในการสอบถาม การเปิดอภิปรายตามมาตรา 155 ก็เป็นหนึ่งในนั้น หากเห็นว่า เป็นประเด็นที่อ่อนไหว ก็สามารถช่องนี้ได้ หรือแม้กระทั่งตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย และใช้ญัตติด่วนในการซักถาม หากรัฐบาลมองว่าเรื่องนี้สำคัญสามารถประสานงานไปยังคณะรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้ามาชี้แจง เพราะข้อบังคับกำหนดว่า หากรัฐบาลหรือนายกฯต้องการชี้แจง ประธานสภาฯมีสิทธิ์ที่จะอนุญาต
เมื่อถามว่า มองอย่างไรหากผู้นำฝ่ายค้าน เปิดอภิปรายตามมาตรา 155 เพราะเป็นการประชุมลับ นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เราทำได้หลายโอกาส ไม่จำเป็นต้องเรื่องนี้แค่เรื่องเดียว อาจใช้เวทีกระทู้สดถามก่อน หรือ พูดคุยรายละเอียดเบื้องต้น หรือใช้ญัตติด่วยด้วยวาจา เพื่อเปิดโอกาสให้ส.ส.ทั้ง 2 ฝ่ายอภิปรายอย่างเต็มที่ หากมีประเด็นไหนที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกัน หรือฝ่ายค้านเห็นว่า มีบางประเด็นที่ทางรัฐมนตรียังไม่กล้าตอบในทางสาธารณะ เพราะมองว่า เป็นเรื่องที่อ่อนไหว กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สภาฯสามารถใช้ช่องทางการประชุมลับ ให้ทางส.ส.ได้ซักถามให้รัฐมนตรีตอบได้เช่นกัน แต่หลายๆประเด็นสามารถเป็นสาธารณะได้อยู่แล้ว หากจะเปิดอภิปรายตามมาตรา 155 ก็ไม่ได้หมายความว่าในวาระอื่นสภาฯไม่สามารถพูดเรื่องนี้ได้
เมื่อถามว่า ปกติพรรคประชาชนต้องเปิดเผยทุกอย่างเพื่อให้เกิดความโปร่งใส นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่สามารถเข้าใจได้ และการอภิปรายตามมาตรา 155 มีเจตนารมณ์อยู่
เมื่อถามว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นมีการประสานมาบ้างแล้วหรือไม่ นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ แต่คิดว่า ทุกฝ่ายก็คงเห็นเหมือนกันว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ในสัปดาห์แรกที่เปิดสมัยประชุมก็มีกระทู้สดรออยู่แล้ว เราอยากใช้โอกาสนี้ใสการซักถามเรื่องดังกล่าวได้
JJNY : 5in1 บุกปล้นถุงยังชีพ│อิสราเอลเตือนพลเมือง│‘เท้ง’โวพร้อมสู้│วิปฝ่ายค้านฮึ่มรบ.│ทองร่วง บาทอ่อน จับตาตัวเลขจ้างงาน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9531990
ทีมอาสาสุดช็อก กลับจากช่วยน้ำท่วมเทพา โดนคนร้ายล้อมรถ บุกปล้นถุงยังชีพ ขณะกำลังลำเลียงให้ผู้ประสบภัย ผู้หวังดีเตือนให้ออกก่อน 6 โมงเย็น
วันที่ 2 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงใกล้รุ่งสางที่ผ่านมา ทีมอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง จำนวน 30 นาย ได้แจ้งการเดินทางกลับพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง หลังจากได้เดินทางเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยในจุดหนึ่ง ของ ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา
โดยนำรถกู้ภัย 7 คัน เรือลำเลียงกู้ภัย 1 ลำ และถุงยังชีพเข้าให้การช่วยเหลือในพื้นที่ในช่วงเย็นวานนี้ แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ในพื้นที่ประสบภัยเข้าปิดล้อมขบวนรถและชิงเอาถุงยังชีพที่เตรียมไปแจกจ่ายในประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ชุมชนน้ำท่วมสูง
หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ระบุว่า ขณะเกิดเหตุได้ไปหยุดขบวนรถที่บริเวณใกล้กับทางรถไฟใน ต.ท่าม่วง ด้วยความเป็นนอกพื้นที่ไม่ชัดเจนว่าจุดนั้นเรียกว่าบ้านอะไร หลังจากนั้นได้แบ่งถุงยังชีพลงเรือขนย้ายไปยังจุดน้ำท่วมสูงอีกด้านที่มีชาวบ้านเดือดร้อนจำนวนหลายราย
หลังจากนั้นเริ่มมีรถจยย.มาจอดขวางหน้าขบวนรถ มีชายฉกรรจ์ประมาณ 20 คนทยอยมาปิดล้อม และบังคับเอาถุงยังชีพ แต่เจ้าหน้าที่พยายามชี้แจงว่าจะต้องพยายามแบ่งจัดให้กับพื้นที่เดือดร้อนหนักที่มีน้ำท่วมสูงและสำหรับคนที่ติดอยู่ในที่เหล่านั้น
ปรากฏว่ากลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นเริ่มโวยวายทำนองเหตุใดต้องเอาไปให้คนข้างในข้างนอกก็เดือดร้อน ทั้งที่เขายังขี่รถจยย.ได้ มีความคล่องตัวในการเดินทาง แต่คนภายในน้ำถึงคอหรือมิดศีรษะ
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นและคนเริ่มมามากขึ้น เริ่มไปมองหาสิ่งของในรถ มีการกดดันอย่างหนัก จนกระทั่งท้ายที่สุดต้องยอมว่ามีของเท่านี้ กลุ่มคนเหล่านั้นได้มีการแย่งชิงของไปจนหมด
และมีบางคนที่หวังดีได้เข้ามาเตือนว่าให้รีบออกจากพื้นที่ก่อน 6 โมงเย็นไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ที่นี่เป็นพื้นที่อันตราย ทำให้ทีมทั้งหมดตกใจอย่างมาก ก่อนที่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าทีมให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ทั้งหมด และได้เดินทางกลับนครศรีธรรมราช และตรังได้อย่างปลอดภัย
ทีมกู้ภัยประสบเหตการณ์ไม่คาดคิด รายนี้ระบุด้วยว่าไม่ใช่ทุกที่จะเหมือนกับที่ไปประสบมา เกือบทั้งหมดมีรอยยิ้มมีน้ำใจไมตรี พวกเราเป็นจิตอาสานำพาน้ำใจไปบรรเทาทุกข์ร้อน ต่างมีความเข้าใจกันและกัน
แต่บางจุดที่ไปประสบมานั้นขอให้เข้าใจพวกเรา สิ่งที่นำมาเปิดเผยนั้นขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทีมกู้ภัยทุกทีม และขอให้เป็นบทเรียนของคนเหล่านั้น พวกเราล้วนเป็นคนไทยช่วยเหลือและมีน้ำใจกันเสมอเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น.
อิสราเอลเตือนพลเมือง ระวังภัยก่อการร้ายในเอเชียตอ.เฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4931958
อิสราเอลเตือนพลเมือง ระวังภัยก่อการร้ายในเอเชียตอ.เฉียงใต้ โดยเฉพาะไทย
สภาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอล (เอ็นเอสซี) ได้ระบุบนเว็บไซต์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นต่อชาวอิสราเอลในประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย พร้อมทั้งออกคำแนะนำสำหรับชาวอิสราเอลในภูมิภาคนี้
เอ็นเอสซีระบุว่าสืบเนื่องจากการที่ทางหน่วยงานได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาถึงการพบภัยคุกคามในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาต่อชาวอิสราเอลจากองค์กรก่อการร้ายในประเทศไทย ล่าสุด หน่วยงานด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ได้ประเมินข้อมูลข่าวกรองล่าสุดซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังการสังหารแรบไบ ซวี โคแกน ผู้เป็นพระในศาสนายูดาห์ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กำลังวางแผนที่จะลงมือก่อการร้ายอีกครั้ง
เนื่องจากภัยคุกคามต่อชาวอิสราเอลที่เพิ่มขึ้น เอ็นเอสซีจึงออกคำแนะนำให้แก่ชาวอิสราเอลที่พำนักอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ปฏิบัติตาม ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่เป็นที่นิยมของชาวอิสราเอลหรือชาวยิว
2. เพิ่มความระมัดระวังขณะอยู่ในที่สาธารณะ อาทิ ร้านอาหาร โรงแรม หรือบาร์
3. ปกปิดทุกสิ่งที่อาจบ่งชี้ว่าคุณเป็นชาวยิว
4. ให้ความร่วมมือกับกองกำลังความมั่นคงท้องถิ่น และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ รวมถึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นทันทีหากเผชิญหรือพบเห็นการก่อการร้าย และแจ้งสายด่วนเตือนภัยการเดินทางของเอ็นเอสซี หมายเลข +972-2-666-7444
5. หลีกเลี่ยงการโพสต์รายละเอียดการเดินทางและรูปลงบนโซเชียลมีเดียทั้งก่อนและระหว่างการเดินทาง รวมถึงในกลุ่มการท่องเที่ยวต่างแดน
6. ทางหน่วยงานแนะนำให้ชาวอิสราเอลตั้งบัญชีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียให้เป็นส่วนตัวและหลีกเลี่ยงการแชร์บัญชีใช้งานโซเชียลมีเดียของตนเอง
7. หลีกเลี่ยงการแบ่งปันรายละเอียดซึ่งบ่งชี้เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพลงบนโซเชียลมีเดียหรือการสนทนากับคนแปลกหน้า
แถลงการณ์ของเอ็นเอสซีระบุด้วยว่าหน่วยงานความมั่นคงของอิสราเอลจะยังคงร่วมมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไปเพื่อกำจัดภัยคุกคามดังกล่าวต่อชาวอิสราเอล
‘เท้ง’ โวพร้อมสู้เลือกตั้ง หลัง ‘พท.’ ขู่ ‘ภท.’ ยุบสภาปมเห็นต่างประชามติ
https://www.dailynews.co.th/news/4141756/
กล้ามั้ย!! “เท้ง” โว พรรคประชาชนพร้อมสู้ทุกสนามเลือกตั้ง หลัง “สส.พท.” ขู่ “ภท.” ยุบสภา ปมเห็นต่างเกณฑ์ประชามติ
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 67 ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเทลส์ และทาวเวอร์ กทม. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความขัดแย้งใน สส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาขู่พรรคภูมิใจไทย ที่เห็นไม่ตรงกับพรรคเพื่อไทย เรื่องเกณฑ์ผ่านการทำประชามติตามร่างกฎหมายประชามติ ด้วยการยุบสภา ว่า ฝ่ายค้านได้ดำเนินการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ แต่หากฝ่ายรัฐบาลจะเกิดปัญหาการเมืองภายใน จะเกิดการยุบสภาหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาล จะต้องไปเจรจากันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากจะมีการแตกหักถึงขั้นยุบสภาจริงหรือไม่นั้น ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะเป็นเรื่องการเมืองภายในของพรรคร่วมรัฐบาล แต่เห็นได้จากอดีตว่า หากมีเรื่องที่ต้องลงมติ ทั้งรายงานการนิรโทษกรรม หรือกฎหมายอื่น ๆ บางครั้งพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อว่า ประชาชนคนไทยก็มีความเป็นห่วง เพราะหากการเมืองขาดเสถียรภาพ ก็จะส่งผลถึงความเชื่อมั่นใจการลงทุน และความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ ด้วย
เมื่อถามย้ำงว่า หากมีการยุบสภาจริง พรรคประชาชนจะมีความพร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งแล้วหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวยืนยันว่า ทางพรรคประชาชนมีความพร้อมทุกสนามอยู่แล้ว และพรรคการเมืองทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคใด ไม่สามารถปฏิเสธการเลือกตั้งได้ และพรรคประชาชน ก็มีความพร้อมทุกวินาที และหากจะมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคก็จะมีนโยบายใหม่มานำเสนอให้กับประชาชนทุกคน
นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ฝ่ายค้านโดยพรรคประชาชน ยังคงยืนยันผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เห็นได้จากดำเนินการโดยคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน ซึ่งก็ได้มีการไปหารือกับประธานรัฐสภา และประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้ยืนยันต่อฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วว่า สามารถจัดการออกเสียงประชามติ 2 ครั้ง เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยประธานรัฐสภา สามารถบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้โดยทันที และยังมีช่องทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่มีการบรรจุระเบียบวาระ ที่เสนอโดยพรรคประชาชน เข้าสู่ระเบียบวาระไปแล้ว ดังนั้นในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยืนยันว่าได้ดำเนินการอย่างเต็มที่.
วิปฝ่ายค้าน ฮึ่มรัฐบาล สมัยนี้ยื่นแน่ อภิปรายไม่ไว้วางใจ แย้มเปิดสภาฯ ถามกระทู้สดทันที
https://www.matichon.co.th/politics/news_4931962
”ปกรณ์วุฒิ“ ยัน ฝ่ายค้านขอเปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอน รอเคาะชัดเจน ชี้ แม้ใช้ ม.155 ประชุมลับ ยังมีช่องทางอื่นเปิดสาธรณะได้ จ่อ ประเดิมถามกระทู้สด
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงสมัยประชุมที่กำลังจะถึงนี้ ว่า ยังไม่มีความชัดเจนเป็นแค่แผนที่ทางพรรคฝ่ายค้านวางไว้ว่าในสมัยประชุมนี้จะมีการเปิดอภิปรายแน่ๆ
ส่วนกรณีที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องเอ็มโอยู 44 จะเสนอให้เปิดอภิปรายรัฐธรรมนูญ มาตรา 155 เพื่อเปิดประชุมรัฐสภาให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว.ได้อภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี นั้น นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า มีหลายช่องทางในการสอบถาม การเปิดอภิปรายตามมาตรา 155 ก็เป็นหนึ่งในนั้น หากเห็นว่า เป็นประเด็นที่อ่อนไหว ก็สามารถช่องนี้ได้ หรือแม้กระทั่งตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย และใช้ญัตติด่วนในการซักถาม หากรัฐบาลมองว่าเรื่องนี้สำคัญสามารถประสานงานไปยังคณะรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้ามาชี้แจง เพราะข้อบังคับกำหนดว่า หากรัฐบาลหรือนายกฯต้องการชี้แจง ประธานสภาฯมีสิทธิ์ที่จะอนุญาต
เมื่อถามว่า มองอย่างไรหากผู้นำฝ่ายค้าน เปิดอภิปรายตามมาตรา 155 เพราะเป็นการประชุมลับ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เราทำได้หลายโอกาส ไม่จำเป็นต้องเรื่องนี้แค่เรื่องเดียว อาจใช้เวทีกระทู้สดถามก่อน หรือ พูดคุยรายละเอียดเบื้องต้น หรือใช้ญัตติด่วยด้วยวาจา เพื่อเปิดโอกาสให้ส.ส.ทั้ง 2 ฝ่ายอภิปรายอย่างเต็มที่ หากมีประเด็นไหนที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกัน หรือฝ่ายค้านเห็นว่า มีบางประเด็นที่ทางรัฐมนตรียังไม่กล้าตอบในทางสาธารณะ เพราะมองว่า เป็นเรื่องที่อ่อนไหว กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สภาฯสามารถใช้ช่องทางการประชุมลับ ให้ทางส.ส.ได้ซักถามให้รัฐมนตรีตอบได้เช่นกัน แต่หลายๆประเด็นสามารถเป็นสาธารณะได้อยู่แล้ว หากจะเปิดอภิปรายตามมาตรา 155 ก็ไม่ได้หมายความว่าในวาระอื่นสภาฯไม่สามารถพูดเรื่องนี้ได้
เมื่อถามว่า ปกติพรรคประชาชนต้องเปิดเผยทุกอย่างเพื่อให้เกิดความโปร่งใส นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่สามารถเข้าใจได้ และการอภิปรายตามมาตรา 155 มีเจตนารมณ์อยู่
เมื่อถามว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นมีการประสานมาบ้างแล้วหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ แต่คิดว่า ทุกฝ่ายก็คงเห็นเหมือนกันว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ในสัปดาห์แรกที่เปิดสมัยประชุมก็มีกระทู้สดรออยู่แล้ว เราอยากใช้โอกาสนี้ใสการซักถามเรื่องดังกล่าวได้