‘ฝ่ายค้าน’ ยื่น ซักฟอกรัฐบาลต้นกุมภาฯ ‘ปชน.’ เปิดให้ลูกพรรคเสนอหัวข้อแล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9558553
‘ฝ่ายค้าน’ ยื่น ซักฟอกรัฐบาลต้นกุมภาฯ ‘ปชน.’ เปิดให้ลูกพรรคเสนอหัวข้อแล้ว
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า หลังจากที่มีการนัดรับประทานอาหารเย็นร่วมกับพรรคฝ่ายค้านพรรคอื่นๆ เราเห็นคล้ายกันว่า จะขอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง แต่จะอยู่ในกรอบเวลาราวๆ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม ที่ได้มีการคุยกันไว้คร่าวๆ แต่ก็จะมีการคุยกันอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ
เมื่อถามว่า กรอบระยะเวลาดังกล่าวจะเป็นการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายใช่หรือไม่ นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นการอภิปรายในช่วงนั้น แต่จะมีการยื่นญัตติก่อนนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ คือช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
เมื่อถามว่า ได้มีการดูประเด็นไว้แล้วหรือไม่ว่าจะอภิปรายไปในทิศทางใด นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า แต่ละพรรคบอกว่าจะไปพูดคุยกันในพรรคว่ามีใครมีประเด็นเรื่องไหนบ้าง แต่คงจะไม่มีการเจาะลึกหรือการข้ามพรรคเท่าไหร่ เพียงแค่จะมีการมาพูดคุยกันเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เป็นประเด็นซ้ำกัน หรือหากเป็นเรื่องที่คล้ายกันก็อาจจะมีการพูดคุยโดยการลงรายละเอียดเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนกันมากเกินไป
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรค ปชน.จะลงรายละเอียดเน้นเรื่องใดเป็นพิเศษเลยหรือไม่ นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบาย การทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ ซึ่งแต่ละพรรคก็คงจะมีความคล้ายกันที่มีการมองประเด็นไว้หลายเรื่อง
ถามต่อว่า พรรคปชน.ได้มีการเตรียมตัวให้สมาชิกเสนอประเด็นมาแล้วหรือไม่ นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า มีการเปิดรับให้สส.แจ้งหัวข้อมาเบื้องต้นแล้ว เดี๋ยวจะมีการคุยในรายละเอียดรายคนต่อไป ว่าเรื่องไหนที่จะมีการหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อไปต่อได้
เมื่อถามว่า ได้มีการตั้งใครเป็นหัวหน้าทีมที่จะดูแลภาพรวมหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คงไม่ถึงกับเป็นหัวหน้าทีม แต่โดยปกติแล้วจะเป็นตน น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ปชน. รวมถึงอาจจะมีนาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ปชน. ที่จะมาช่วยกันดูเบื้องต้น
ไม่ใช่อีแอบแล้ว! สุขุม อ่านเกมภูมิใจไทย ปมโหวตประชามติแก้ รธน. ชี้แนวทางชัด
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966079
ไม่ใช่อีแอบแล้ว! สุขุม อ่านเกมภูมิใจไทย ปมโหวตประชามติแก้ รธน. ชี้แนวทางชัด
จากประเด็นเรื่องการโหวตประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โหวตต่างจากพรรคแกนนำรัฐบาล ขณะที่พรรคร่วมบางพรรค ไม่ร่วมโหวต ซึ่งทาง ส.ส.เพื่อไทย มองเป็นอีแอบ
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม รศ.
สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวให้ความเห็นว่า ถ้าจะบอกว่า ภูมิใจไทยเป็นอีแอบ อันนั้นไม่ใช่แล้ว ภูมิใจไทยเป็นลูกโดด โหวตสวนกันให้เห็น ภูมิใจไทยมีแนวทางชัดว่าไปในทิศทางของฝ่ายอนุรักษ์นิยม เป็นตัวแทนเสียงของฝ่ายนั้น
“ภูมิใจไทยนับว่ายกระดับพรรคในสายตาฝ่ายอนุรักษ์ นี่คือพรรคความหวัง มันเกิดขึ้น เพราะภูมิใจไทย เห็นแล้วว่า ฝ่ายอนุรักษ์ ไปต่อได้ มีคนสนับสนุนมากมายพอสมควร แต่ขาดแกนหลัก ภูมิใจไทยเลยต้องเข้ามารับอาสาตรงนี้”
รศ.
สุขุม กล่าวอีกว่า ส่วนพรรคอื่นๆ ก็เห็นว่าไม่เอาด้วยเรื่องประชามติ ในแบบของเพื่อไทย แต่ใช้การไม่มาโหวตแทนการโหวตสวน ไม่ชัดเจนแบบพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่า พรรคแกนนำรัฐบาล กับพรรคภูมิใจไทย จะมีรอยร้าวหรือไม่ รศ.
สุขุม ตอบว่า อย่างไรเสียพรรคการเมืองต้องมีรอยร้าวกันอยู่แล้ว ก็มันเป็นคนละพรรค มันจะไปเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างไร แต่ถามว่า จะแตกหัก ไหม ขอบตอบว่า ยังไม่ใช่เวลา ที่จะมาหักกัน พรรคการเมืองเขาคุยกันได้ เพื่อไทยต้องรู้สไตล์พรรคร่วมด้วย พรรคร่วมก็ต้องเข้าใจบทที่เพื่อไทยต้องเล่น
“
ถามว่า เพื่อไทย ออกทำมาดุดัน ขึงขัง จริงๆ แล้ว อยากจะทำเรื่องปรับเปลี่ยนโครงสร้างบ้านเมืองขนาดไหน ผมมองว่า เพื่อไทยแค่แตะให้กองเชียร์ เห็นว่าเต็มที่แล้วนะ แต่มีคนขวาง ซึ่งไม่รู้ว่าการทำเต็มที่ของเพื่อไทย จริงๆ แล้วออกแรงแค่ไหน ตอนนี้เพื่อไทยเน้นเรื่องแก้ปากท้องเป็นหลักมากกว่า เขามองว่าตรงนี้เป็นคะแนนได้มากกว่า และเสี่ยงน้อยกว่าไปทำเรื่องโครงสร้างการเมืองไทย”
เช่าซื้อมอเตอร์ไซค์’68 ส่อซึมต่อ หวังมาตรการแก้หนี้หนุนตลาดทยอยฟื้น
https://www.prachachat.net/finance/news-1720013
ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ปี’68 ส่อไม่โต ชี้ยังเผชิญภาวะ “หนี้ครัวเรือนสูง-รายได้ผู้กู้ฟื้นช้า” กดดันยอดขายรถ-ไฟแนนซ์เข้มปล่อยกู้ “ฐิติกร” คาดยอดขายรถจักรยานยนต์ทรงตัวที่ราว 1.7 ล้านคัน ส่วนสินเชื่อทรงตัวที่ 6-7 หมื่นล้านบาท ฟาก “กรุงศรีฯ-ที ลีสซิ่ง” ลุ้นมาตรการแก้หนี้หนุนตลาดทยอยฟื้น
นาย
ประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผย “
ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปี 2568 ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ยังคงได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รายได้ครัวเรือนยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ยังคงไม่เห็นการฟื้นตัวของตลาด สะท้อนจากยอดขายในช่วง 9-10 เดือนแรกของปี 2567 ที่หดตัว 10% สอดคล้องกับตลาดรถยนต์และที่อยู่อาศัย
ดังนั้น น่าจะเห็นผู้ประกอบการยังคงเข้มงวดปล่อยสินเชื่อต่อเนื่อง เนื่องจากลูกค้ามีกำลังผ่อนชำระลดลงค่อนข้างมาก จากรายได้ที่ยังไม่ฟื้นตัว แม้ว่าจะมีเรื่องการปรับเพิ่มค่าแรงขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อก็ทยอยสูงตาม จึงคาดว่ายอดขายรถจักรยานยนต์น่าจะทรงตัว หรือหดตัวเล็กน้อยจากปี 2567 ที่น่าจะมียอดขายทั้งสิ้น 1.7 ล้านคัน และสินเชื่อเช่าซื้อที่ราว 6-7 หมื่นล้านบาท
ด้านคุณภาพสินเชื่อรถจักรยานยนต์ จะยังเห็นการขยับเพิ่มขึ้นของหนี้เสียต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะกลุ่มลูกค้ารถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มรายได้น้อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจและรายได้ยังไม่ได้ฟื้นตัวชัดเจน ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้อาจสะดุดได้ แม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการแก้หนี้ แต่เชื่อว่าการแก้ไขอาจจะไม่ง่ายและไม่ครอบคลุม เนื่องจากไม่ได้รวมหนี้ของผู้ประกอบการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (น็อนแบงก์) ด้วย
“
สินเชื่อรถจักรยานยนต์ปี 2568 คงไม่คึกคัก ตลาดยังคงซึม ๆ จากปีนี้ เพราะเราเห็นสัญญาณการชะลอตัวในหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ ทั้งสินเชื่อรถยนต์เองก็หดตัว 20% สินเชื่อบ้านก็ยังเหนื่อย คุณภาพลูกหนี้ไม่ดี กำลังผ่อนลดลง ทำให้ปีหน้ายังเห็นทุกคนยังคงเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้ภาพรวมสินเชื่อน่าจะลดลงหรืออย่างดีที่สุดคือทรงตัว ไม่ติดลบ”
นาย
มงคล เพียรพิทักษ์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด และอุปนายกสมาคมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ กล่าวกับ “
ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์ในไตรมาส 4/2567 ยังคงหดตัว ล้อตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และปัจจัยเสี่ยงด้านต่าง ๆ ที่เป็นแรงกดดัน ทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และเพดานอัตราดอกเบี้ยที่ถูกควบคุมอยู่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้สถาบันการเงินยังคงนโยบายเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ทำให้ยอดการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ปรับเพิ่มขึ้น
“
คาดว่ายอดขายรถจักรยานยนต์ในปี 2567 จะเห็นตัวเลขหดตัว 10% จากปี 2566 ที่มียอดขายรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 1.8 ล้านคัน ส่งผลให้ปีนี้ยอดขายน่าจะอยู่ที่ราว 1.65-1.7 ล้านคัน ส่วนในปี 2568 แนวโน้มยอดขายน่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐที่น่าจะออกมาในปีหน้า อย่างไรก็ดี ภาพการเติบโตจะไม่ได้หวือหวามากนัก เพราะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน และสถาบันการเงินยังคงให้ความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ”
นางสาว
ชญาน์ธิป พันธุ์มณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “
ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีนี้ ยอดปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ของกรุงศรี ออโต้ ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการขยายพื้นที่การให้บริการและการเข้าถึงลูกค้าที่ครอบคลุมมากขึ้น
โดยคุณภาพหนี้พอร์ตสินเชื่อรถจักรยานยนต์ของบริษัท ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ตั้งเป้าหมายไว้ สามารถควบคุมเอ็นพีแอล ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2% ได้ โดยเน้นการปล่อยสินเชื่อตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก และเป็นไปตามเกณฑ์การปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
“ปีนี้ คาดว่าสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์น่าจะลดลงราว 10% ถือเป็นการปรับตัวของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ และหลังจาก ธปท.ออกมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน เชื่อว่าจะช่วยให้แนวโน้มคุณภาพหนี้โดยรวมไปในทิศทางที่ดีขึ้น และรักษาเสถียรภาพของตลาดและเศรษฐกิจเติบโตได้ดีขึ้น”
JJNY : ซักฟอกรัฐบาลต้นกุมภาฯ│ไม่ใช่อีแอบแล้ว! สุขุม อ่านเกม│เช่าซื้อมอเตอร์ไซค์’68 ส่อซึมต่อ │วานูอาตู“แผ่นดินไหวซ้ำ”
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9558553
‘ฝ่ายค้าน’ ยื่น ซักฟอกรัฐบาลต้นกุมภาฯ ‘ปชน.’ เปิดให้ลูกพรรคเสนอหัวข้อแล้ว
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า หลังจากที่มีการนัดรับประทานอาหารเย็นร่วมกับพรรคฝ่ายค้านพรรคอื่นๆ เราเห็นคล้ายกันว่า จะขอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง แต่จะอยู่ในกรอบเวลาราวๆ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม ที่ได้มีการคุยกันไว้คร่าวๆ แต่ก็จะมีการคุยกันอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ
เมื่อถามว่า กรอบระยะเวลาดังกล่าวจะเป็นการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นการอภิปรายในช่วงนั้น แต่จะมีการยื่นญัตติก่อนนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ คือช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
เมื่อถามว่า ได้มีการดูประเด็นไว้แล้วหรือไม่ว่าจะอภิปรายไปในทิศทางใด นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า แต่ละพรรคบอกว่าจะไปพูดคุยกันในพรรคว่ามีใครมีประเด็นเรื่องไหนบ้าง แต่คงจะไม่มีการเจาะลึกหรือการข้ามพรรคเท่าไหร่ เพียงแค่จะมีการมาพูดคุยกันเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เป็นประเด็นซ้ำกัน หรือหากเป็นเรื่องที่คล้ายกันก็อาจจะมีการพูดคุยโดยการลงรายละเอียดเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนกันมากเกินไป
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรค ปชน.จะลงรายละเอียดเน้นเรื่องใดเป็นพิเศษเลยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบาย การทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ ซึ่งแต่ละพรรคก็คงจะมีความคล้ายกันที่มีการมองประเด็นไว้หลายเรื่อง
ถามต่อว่า พรรคปชน.ได้มีการเตรียมตัวให้สมาชิกเสนอประเด็นมาแล้วหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า มีการเปิดรับให้สส.แจ้งหัวข้อมาเบื้องต้นแล้ว เดี๋ยวจะมีการคุยในรายละเอียดรายคนต่อไป ว่าเรื่องไหนที่จะมีการหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อไปต่อได้
เมื่อถามว่า ได้มีการตั้งใครเป็นหัวหน้าทีมที่จะดูแลภาพรวมหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คงไม่ถึงกับเป็นหัวหน้าทีม แต่โดยปกติแล้วจะเป็นตน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ปชน. รวมถึงอาจจะมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ปชน. ที่จะมาช่วยกันดูเบื้องต้น
ไม่ใช่อีแอบแล้ว! สุขุม อ่านเกมภูมิใจไทย ปมโหวตประชามติแก้ รธน. ชี้แนวทางชัด
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966079
ไม่ใช่อีแอบแล้ว! สุขุม อ่านเกมภูมิใจไทย ปมโหวตประชามติแก้ รธน. ชี้แนวทางชัด
จากประเด็นเรื่องการโหวตประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โหวตต่างจากพรรคแกนนำรัฐบาล ขณะที่พรรคร่วมบางพรรค ไม่ร่วมโหวต ซึ่งทาง ส.ส.เพื่อไทย มองเป็นอีแอบ
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม รศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวให้ความเห็นว่า ถ้าจะบอกว่า ภูมิใจไทยเป็นอีแอบ อันนั้นไม่ใช่แล้ว ภูมิใจไทยเป็นลูกโดด โหวตสวนกันให้เห็น ภูมิใจไทยมีแนวทางชัดว่าไปในทิศทางของฝ่ายอนุรักษ์นิยม เป็นตัวแทนเสียงของฝ่ายนั้น
“ภูมิใจไทยนับว่ายกระดับพรรคในสายตาฝ่ายอนุรักษ์ นี่คือพรรคความหวัง มันเกิดขึ้น เพราะภูมิใจไทย เห็นแล้วว่า ฝ่ายอนุรักษ์ ไปต่อได้ มีคนสนับสนุนมากมายพอสมควร แต่ขาดแกนหลัก ภูมิใจไทยเลยต้องเข้ามารับอาสาตรงนี้”
รศ.สุขุม กล่าวอีกว่า ส่วนพรรคอื่นๆ ก็เห็นว่าไม่เอาด้วยเรื่องประชามติ ในแบบของเพื่อไทย แต่ใช้การไม่มาโหวตแทนการโหวตสวน ไม่ชัดเจนแบบพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่า พรรคแกนนำรัฐบาล กับพรรคภูมิใจไทย จะมีรอยร้าวหรือไม่ รศ.สุขุม ตอบว่า อย่างไรเสียพรรคการเมืองต้องมีรอยร้าวกันอยู่แล้ว ก็มันเป็นคนละพรรค มันจะไปเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างไร แต่ถามว่า จะแตกหัก ไหม ขอบตอบว่า ยังไม่ใช่เวลา ที่จะมาหักกัน พรรคการเมืองเขาคุยกันได้ เพื่อไทยต้องรู้สไตล์พรรคร่วมด้วย พรรคร่วมก็ต้องเข้าใจบทที่เพื่อไทยต้องเล่น
“ถามว่า เพื่อไทย ออกทำมาดุดัน ขึงขัง จริงๆ แล้ว อยากจะทำเรื่องปรับเปลี่ยนโครงสร้างบ้านเมืองขนาดไหน ผมมองว่า เพื่อไทยแค่แตะให้กองเชียร์ เห็นว่าเต็มที่แล้วนะ แต่มีคนขวาง ซึ่งไม่รู้ว่าการทำเต็มที่ของเพื่อไทย จริงๆ แล้วออกแรงแค่ไหน ตอนนี้เพื่อไทยเน้นเรื่องแก้ปากท้องเป็นหลักมากกว่า เขามองว่าตรงนี้เป็นคะแนนได้มากกว่า และเสี่ยงน้อยกว่าไปทำเรื่องโครงสร้างการเมืองไทย”
เช่าซื้อมอเตอร์ไซค์’68 ส่อซึมต่อ หวังมาตรการแก้หนี้หนุนตลาดทยอยฟื้น
https://www.prachachat.net/finance/news-1720013
ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ปี’68 ส่อไม่โต ชี้ยังเผชิญภาวะ “หนี้ครัวเรือนสูง-รายได้ผู้กู้ฟื้นช้า” กดดันยอดขายรถ-ไฟแนนซ์เข้มปล่อยกู้ “ฐิติกร” คาดยอดขายรถจักรยานยนต์ทรงตัวที่ราว 1.7 ล้านคัน ส่วนสินเชื่อทรงตัวที่ 6-7 หมื่นล้านบาท ฟาก “กรุงศรีฯ-ที ลีสซิ่ง” ลุ้นมาตรการแก้หนี้หนุนตลาดทยอยฟื้น
นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในปี 2568 ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ยังคงได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รายได้ครัวเรือนยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ยังคงไม่เห็นการฟื้นตัวของตลาด สะท้อนจากยอดขายในช่วง 9-10 เดือนแรกของปี 2567 ที่หดตัว 10% สอดคล้องกับตลาดรถยนต์และที่อยู่อาศัย
ดังนั้น น่าจะเห็นผู้ประกอบการยังคงเข้มงวดปล่อยสินเชื่อต่อเนื่อง เนื่องจากลูกค้ามีกำลังผ่อนชำระลดลงค่อนข้างมาก จากรายได้ที่ยังไม่ฟื้นตัว แม้ว่าจะมีเรื่องการปรับเพิ่มค่าแรงขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อก็ทยอยสูงตาม จึงคาดว่ายอดขายรถจักรยานยนต์น่าจะทรงตัว หรือหดตัวเล็กน้อยจากปี 2567 ที่น่าจะมียอดขายทั้งสิ้น 1.7 ล้านคัน และสินเชื่อเช่าซื้อที่ราว 6-7 หมื่นล้านบาท
ด้านคุณภาพสินเชื่อรถจักรยานยนต์ จะยังเห็นการขยับเพิ่มขึ้นของหนี้เสียต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะกลุ่มลูกค้ารถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มรายได้น้อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจและรายได้ยังไม่ได้ฟื้นตัวชัดเจน ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้อาจสะดุดได้ แม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการแก้หนี้ แต่เชื่อว่าการแก้ไขอาจจะไม่ง่ายและไม่ครอบคลุม เนื่องจากไม่ได้รวมหนี้ของผู้ประกอบการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (น็อนแบงก์) ด้วย
“สินเชื่อรถจักรยานยนต์ปี 2568 คงไม่คึกคัก ตลาดยังคงซึม ๆ จากปีนี้ เพราะเราเห็นสัญญาณการชะลอตัวในหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ ทั้งสินเชื่อรถยนต์เองก็หดตัว 20% สินเชื่อบ้านก็ยังเหนื่อย คุณภาพลูกหนี้ไม่ดี กำลังผ่อนลดลง ทำให้ปีหน้ายังเห็นทุกคนยังคงเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้ภาพรวมสินเชื่อน่าจะลดลงหรืออย่างดีที่สุดคือทรงตัว ไม่ติดลบ”
นายมงคล เพียรพิทักษ์กิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด และอุปนายกสมาคมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์ในไตรมาส 4/2567 ยังคงหดตัว ล้อตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และปัจจัยเสี่ยงด้านต่าง ๆ ที่เป็นแรงกดดัน ทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และเพดานอัตราดอกเบี้ยที่ถูกควบคุมอยู่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้สถาบันการเงินยังคงนโยบายเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ทำให้ยอดการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ปรับเพิ่มขึ้น
“คาดว่ายอดขายรถจักรยานยนต์ในปี 2567 จะเห็นตัวเลขหดตัว 10% จากปี 2566 ที่มียอดขายรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 1.8 ล้านคัน ส่งผลให้ปีนี้ยอดขายน่าจะอยู่ที่ราว 1.65-1.7 ล้านคัน ส่วนในปี 2568 แนวโน้มยอดขายน่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐที่น่าจะออกมาในปีหน้า อย่างไรก็ดี ภาพการเติบโตจะไม่ได้หวือหวามากนัก เพราะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน และสถาบันการเงินยังคงให้ความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ”
นางสาวชญาน์ธิป พันธุ์มณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีนี้ ยอดปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ของกรุงศรี ออโต้ ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการขยายพื้นที่การให้บริการและการเข้าถึงลูกค้าที่ครอบคลุมมากขึ้น
โดยคุณภาพหนี้พอร์ตสินเชื่อรถจักรยานยนต์ของบริษัท ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ตั้งเป้าหมายไว้ สามารถควบคุมเอ็นพีแอล ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2% ได้ โดยเน้นการปล่อยสินเชื่อตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก และเป็นไปตามเกณฑ์การปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
“ปีนี้ คาดว่าสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์น่าจะลดลงราว 10% ถือเป็นการปรับตัวของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ และหลังจาก ธปท.ออกมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน เชื่อว่าจะช่วยให้แนวโน้มคุณภาพหนี้โดยรวมไปในทิศทางที่ดีขึ้น และรักษาเสถียรภาพของตลาดและเศรษฐกิจเติบโตได้ดีขึ้น”