JJNY : เปิดหีบยังบางตา!│"ฝุ่นพิษ"ฟุ้ง"กทม." 31 พื้นที่│ขึ้นค่าผ่านทาง 'ดอนเมืองโทลล์เวย์'│ฝ่ายขวาเยอรมนีเรียกร้องส่งกลับ

เปิดหีบยังบางตา! ชาวอุตรดิตถ์ ทยอยออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายก อบจ.
https://www.matichon.co.th/region/news_4966002
 
 
เปิดหีบยังบางตา! ชาวอุตรดิตถ์ ทยอยออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายก อบจ.
 
เมื่อเวลา 07.45 น.วันที่ 22 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีการเลือกตั้ง นายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งซ่อมแทน นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา ลาออกจากตำแหน่ง และเป็นการลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ 4 ปี

สำหรับบรรยากาศการเลือกตั้ง นายก อบจ.อุตรดิตถ์ ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ 7 ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) จัดเตรียมสถานที่แล้วเสร็จก่อนเวลาเปิดหีบเลือกตั้ง แต่ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิลดต่ำ ต่างสวมเสื้อแขนยาว และมีการก่อไฟพิงหน้าหน่วยเลือกตั้ง เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย โดยมีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เดินทางมาก่อนเวลาเปิดหีบ 08.00 น.ร่วมพิงไฟรอเวลาด้วยเช่นกัน
หลังเปิดหีบเลือกตั้ง นายก อบจ.อุตรดิตถ์ บรรยากาศภาพรวมเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาชนมาใช้สิทธิ์บางตา ไม่คึกคัก มาแบบทยอย หรือนานๆ จะมีผู้มาใช้สิทธิ์ โดยประชาชนที่มาแต่เช้าส่วนใหญ่คือ กลุ่มผู้ใช้แรงงาน หรือกลุ่มรับจ้างทั่วไป บางคนมาพร้อมอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือในการทำงาน มาใช้สิทธิ์ก่อนที่จะไปทำงาน ประกอบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้ในช่วงเช้าประชาชนเดินทางมาใช้สิทธิ์ค่อนข้างน้อย ทั้งนี้หลังเปิดหีบสถานการณ์ทั่วไปยังคงปกติ ไม่มีการร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแต่อย่างใด
 
สำหรับการเลือกตั้ง นายก อบจ.อุตรดิตถ์ ครั้งนี้มีผู้สมัคร 3 หมายเลข คือ หมายเลข 1 นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา อดีตนายก อบจ.อุตรดิตถ์ 4 สมัย, 
หมายเลข 2 นายโปรย สมบัติ สื่อมวลชนอาวุโส และหมายเลข 3 นายสหวิช อภิชัยวิศรุตกุล อดีตรองผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 359,975 คน 9 อำเภอ 742 หน่วยเลือกตั้ง
 


"ฝุ่นพิษ"ฟุ้ง "กทม." 31 พื้นที่อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
https://siamrath.co.th/n/589184

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.67 ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของ กทม. เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยในช่วง 24 ชั่วโมงตรวจวัดได้ 28.8-54.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เนื่องจากการระบายอากาศในช่วงวันที่ 22-29 ธ.ค.67 อยู่ในเกณฑ์ "ไม่ดี-อ่อน" ขณะที่มีการเกิดอินเวอร์ชั่นเกิดใกล้ผิวพื้นทำให้มลพิษทางอากาศสามารถแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้มที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 31 พื้นที่ ได้แก่
 
- เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 54.4 มคก./ลบ.ม.
- เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 49.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 47.4 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 47.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 45.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 45.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 44.9 มคก./ลบ.ม.
- เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 43.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 42.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 42.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 42.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 42.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 41.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 41.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 41.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 40.9 มคก./ลบ.ม.
- สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 40.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 40.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 40.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 40.0 มคก./ลบ.ม.
- สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 40.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม.
- สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม.
- เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 39.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 38.7 มคก./ลบ.ม.
- สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 37.6 มคก./ลบ.ม
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร, จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก, ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ส่วนกลุ่มเสี่ยงให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร, เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
 
ขณะที่สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานแจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง เพื่อเป็นการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน และขอเชิญชวนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วน โดยช่วยกันปรับเปลี่ยน พฤติกรรมและลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละออง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ "5 วิธีลดฝุ่น คุณก็ทำได้" 1.หมั่นทำความสะอาดบ้านด้วยวิธีเช็ดฝุ่น 2.งดเผาขยะ งดจุดธูป 3.ปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับมลพิษดักจับฝุ่นละออง 4.เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และ 5.ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ตรวจสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำ เกินมาตรฐาน


 
เริ่มวันนี้! ขึ้นค่าผ่านทาง 'ดอนเมืองโทลล์เวย์' 5-10 บาท เก็บสูงสุด 170 บาท
https://ch3plus.com/news/economy/weekend/428915

วันนี้ทางด่วนโทลล์เวย์ ปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทาง 5-10 บาท จากอัตราค่าปัจจุบัน จ่ายต่ำสุด 40 บาท สูงสุด 170 บาท

ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันนี้ (22 ธ.ค. 2567) ผู้ใช้รถที่ใช้บริการทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ จะต้องจ่ายค่าผ่านทางเพิ่ม 5-10 บาท ตามระยะทาง จากอัตราค่าผ่านทางในปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามสัญญาสัมปทานที่กำหนดให้ปรับค่าผ่านทางได้ทุก 5 ปี ซึ่งรอบนี้ จะมีผลไปถึง 21 ธ.ค. 2572 โดยช่วงดินแดง-ดอนเมือง จะเปลี่ยนแปลง 10 บาท หรือค่าเฉลี่ย 2 บาทต่อปี และช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน จะเปลี่ยนแปลง 5 บาท หรือ ค่าเฉลี่ย 1 บาทต่อปี จากอัตราค่าผ่านทางในปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

- ส่งผลค่าผ่านทางใหม่ ช่วงดินแดง-ดอนเมือง ด่านขาออก (การจราจรที่ไปทางทิศเหนือ) ด่านดินแดง, ด่านสุทธิสาร, ด่านลาดพร้าวขาออก, ด่านรัชดาภิเษก และด่านบางเขน รถ 4 ล้อ 90 บาท /รถมากกว่า 4 ล้อ 120 บาท

- ช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน ด่านหลักสี่ขาออก และด่านอนุสรณ์สถาน รถ 4 ล้อ 40 บาท รถมากกว่า 4 ล้อ 50 บาท

- ช่วงอนุสรณ์สถาน-ดินแดง ด่านขาเข้า (การจราจรไปทางทิศใต้) ด่านดอนเมือง รถ 4 ล้อ 130 บาท รถมากกว่า 4 ล้อ 170 บาท

- ทางยกระดับฯ ช่วงดอนเมือง-ดินแดง ด่านหลักสี่ขาเข้า, ด่านแจ้งวัฒนะ และด่านลาดพร้าวขาเข้า รถ 4 ล้อ 90 บาท รถมากกว่า 4 ล้อ 120 บาท

ทั้งนี้ อัตราค่าผ่านทางรถ 4 ล้อ (รถประเภทที่ 1) จำนวน 130 บาท/คัน/เที่ยว และรถมากกว่า 4 ล้อ (รถประเภทที่ 2) จำนวน 170 บาท/คัน/เที่ยว เป็นการชำระค่าผ่านทางยกระดับฯ ช่วงอนุสรณ์สถาน-ดอนเมือง และช่วงดอนเมือง-ดินแดง รวมกันครั้งเดียวที่ด่านดอนเมือง

อย่างไรก็ตามทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์จะสิ้นสุดสัมปทานในปี 2577 ทำให้คนกรุงทพฯ ต้องเจอการปรับขึ้นค่าผ่านทางอีกครั้งในเดือน ธ.ค.2572 ก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน เมื่อหมดสัญญาสัมปทาน ทางหลวงจะมาพิจารณาแนวทางการบริหารงานโทลล์เวย์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมถึงค่าผ่านทางก็อาจต้องพิจารณากันใหม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่