พิธา ดันคนรุ่นใหม่ชิงนายกอบจ.เชียงใหม่ ไม่หวั่น ทักษิณ ลงพื้นที่ หวังสื่อจัดดีเบตโชว์วิชั่นผู้สมัคร
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966775
พิธา พร้อมสู้ ดันคนรุ่นใหม่ ชิงนายกอบจ. เชียงใหม่ ไม่หวั่นแม้ “ทักษิณ” ลุยเอง ชี้ ลงพื้นที่ทับไลน์กันบ่อย ไม่มีอะไร แค่เขตยุทธศาสตร์ ไร้กังวลฐานเสียงหลักกลับมาเลือกไม่ได้ แต่รับว่า เลือกตั้งท้องถิ่นต้องแก้ไข ให้เลือกตั้งล่วงหน้าหรือนอกเขตได้
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่จ.เชียงใหม่ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)เชียงใหม่ ว่า ตอนนี้เป็นไปได้ด้วยดี นาย
พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ เปิดตัวครบปีพอดี นาย
พันธุ์อาจ เป็นคนคิดนอกกรอบ ซึ่งตนอยากเห็น นายกอบจ.รุ่นใหม่ ที่มีพลัง แนะนำความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี มาแก้ไขปัญหาให้ชาวเชียงใหม่ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแผน 100 วัน ก่อนที่จะมีฝุ่น ซึ่งในการมาเชียงใหม่ที่ผ่านมา จนถึงเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว พบว่ามีฝุ่นเกินกว่า 50 กว่าวัน ตอนนี้เรารู้ล่วงหน้าก็ควรจะมีแผนรับมือกับฝุ่น ใช้เทคโนโลยีโดรน ประสานความร่วมมือกับ GISDA แจกเครื่องกรองราคาถูกให้กับประชาชน รวมถึง หน้ากากอนามัย
เมื่อถามว่าคู่แข่งคนสำคัญคือนาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังจะลงพื้นที่มาหาเสียง นาย
พิธา กล่าวว่า ยินดีกับการแข่งขันอยู่แล้ว เพราะในทางการเมือง หากมีการแข่งขันมีการแสดงวิสัยทัศน์ นำนโยบายมาสู้กัน น่าจะเป็นสิ่งที่ดี ทั้งนาย
ทักษิณ และตนก็เป็นผู้ช่วยหาเสียงทั้งคู่ ยังหวังว่าก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 จะมีสื่อมวลชนสักช่องจัดดีเบต เหมือนที่จ.อุดรธานี และจ.อุบลราชธานี เพื่อให้ผู้สมัครทั้งสองท่าน ได้โชว์วิสัยทัศน์ น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกับภาวะผู้นำที่ต้องใช้กับจ.เชียงใหม่ ทั้งฤดูฝนและฤดูฝน ที่ดับฝันประชาชนจะมีแนวคิดอย่างไร อยากให้ผู้นำตัวจริงที่ดูแลงบประมาณได้แสดงวิสัยทัศน่าจะเหมาะสมกว่า
เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์นายทักษิณ อาจจะกลับมาทวงคืนพื้นที่จ.เชียงใหม่ นาย
พิธากล่าวว่า เป็นสิทธิของคุณ
ทักษิณ แต่ในพื้นที่มี ส.ส. 7คนเป็นของพรรคประชาชน ซึ่งทางเราก็มองว่าเป็นเขตยุทธศาสตร์ สื่อมวลชนก็มีความสนใจ ถามว่าทำไมทับไลน์กันบ่อย 2 คนนี้ คราวที่แล้วจำกันได้ มาก็ปีใหม่ไทยตอนนี้มาก็ปีใหม่สากล ถึงเลยชนกันบ่อย ต่างคนต่างพรรคก็วางแผนในการลงพื้นที่ ก็เลยเจอกันบ่อย
นาย
พิธา กล่าวว่า เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งเราอยากได้ทั้งนายกอบจ. ลำพูน และเชียงใหม่ เพื่อจะได้ทำงานร่วมกัน ทางการท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม การทำ CODING การดูแลผู้ป่วยติดเตียง และอยากเห็นนายกอบจ. ทำงานร่วมกับนาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน เพราะจะเป็นคนที่สามารถใช้เทคโนโลยีที่คนรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ได้ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับไฟป่า ฝุ่น และการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องสมัยใหม่ จึงอยากเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ และอยากให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ ออกไปใช้สิทธิ์กันเยอะๆ เหมือนกับการเลือกตั้งในปี 2566 ซึ่งอดีตพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงมากกว่า 4 แสนเสียง เชื่อว่าจะได้นายกอบจ.ที่คิดนอกกรอบ เคยผ่านระบบราชการ ทำงานกับจิสด้า แก้ไขปัญหาได้ทุกฤดู
เมื่อถามว่า 7 เขตของพรรคประชาชนยังแข็งแรงใช่หรือไม่ นาย
พิธา กล่าวว่า แน่นอนเราทำงานอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นเพียงผู้ช่วยหาเสียง แต่ก็ได้ติดตามเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาดว่าถึงไหนแล้ว ซึ่งผู้ที่จะมาบริหารก็คือนายก อบจ. ไม่ใช่ผู้ว่าฯ ถือเป็นการผลักดันกฎหมายของ ส.ส.เชียงใหม่ ที่เป็นข่าวดี ในเรื่องของ พีเอ็ม 2.5 ในตรวจสอบการรับซื้อข้าวโพด ว่ามาจากการเผ่าป่าหรือไม่ ซึ่ง สส. เชียงใหม่ถือว่าทำหน้าที่ในสภาและดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่ ในวันพรุ่งนี้ในการลงพื้นที่ตลาดวโรรส จะเป็น สิ่งสะท้อนว่า ส.ส.เขตทำงานอย่างเหนียวแน่นหรือไม่
เมื่อถามว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ คนทำงานส่วนใหญ่ ออกไปทำงานในต่างจังหวัดกังวลกับฐานเสียง หลักจะไม่กลับมาเลือกตั้งนายกอบจ.หรือไม่ นาย
พิธา กล่าวว่า ไม่ได้กังวลใจเฉพาะเชียงใหม่ แต่กังวลกับระบบประชาธิปไตยทั้งประเทศ ในเรื่องของการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ไม่เหมือนกับสนามใหญ่ที่ให้ เลือกตั้งข้ามเขต เลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งในต่างประเทศไม่ได้ ทำให้การมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงลดลงอย่างมีนัยยะ เช่นในจังหวัดอุดรธานี้ที่ 69% เหลือเพียง 32% การเลือกตั้งแล้วมีคนมาใช้สิทธิ์ต่ำกว่า 50% คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องคิดแล้ว ขณะที่นาย
แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ก็ระบุว่า เมื่อมีนโยบายออกล่วงหน้าก็กระทบ และการที่มีการเลือกตั้งหลายครั้งๆ เช่น เลือกตั้งในวันที่ 22 ธันวาคม ปีใหม่กลับมาบ้าน และเดือน ก.พ.มีเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) อีก ก็ไม่มีใครสามารถลางานเพื่อกลับมาเลือกตั้งได้บ่อยๆ
“
อยากเชิญชวน กกต และคนที่ดูแลเกี่ยวกับกฎหมายประชาธิปไตย ว่า การเลือกตั้งควรจะสะดวก เรียบง่าย ควรจะใช้เวลาน้อยคำนึงถึงพี่น้องประชาชน คนที่ต้องเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว คนที่เดินทางไปอยู่ต่างประเทศ อยู่ที่ไต้หวัน เกาหลีใต้ อิสราเอลก็เยอะ แต่กลับมาเลือกตั้งไม่ได้ เข้าใจว่า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง จะเรียกกกต.มาพูดคุยในเรื่องนี้ ทั้งเรื่องนายกอบจ.ลาออกล่วงหน้า ซึ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นใช้งบประมาณกว่า 6-7 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการเลือกตั้งระดับประเทศที่สำคัญ รองจาก สส.กับนายกฯ แต่กระบวนการที่เทคโนโลยีขนาดนี้ ทั้งเรื่องจดหมายและการโหวตผ่านอินเทอร์เน็ตยังไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นสักที อยากให้กระบวนการเลือกตั้งสะดวกกับประชาชนที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเป็นโลกก็ยังเป็นคนไทย” นาย
พิธากล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่เห็นด้วยกับการที่นายกอบจ ลาออกเพื่อมาชิงตำแหน่ง นาย
พิธา กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา แต่จะทำให้งบประมาณเปลืองสองครั้ง ทำให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์ยากลำบาก และเป็นช่วงที่ไม่เกี่ยวกับปีใหม่ ซึ่งไม่มีใคร ที่เป็นสามัญชนคนธรรมดาที่จะสลับบ้านติด ๆ กันทุก 2 สัปดาห์ได้ จึงทำให้การใช้สิทธิ์เลือกตั้งมีน้อย เช่นในจังหวัดลำพูนที่มีคนมาใช้สิทธิ์เพียง 16% ซึ่งเป็นคนที่รักประชาธิปไตยมากเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งตนหวังว่าชาวลำพูนและชาวเชียงใหม่จะออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่อาจจะไปเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ หรือปิดเทอม ซึ่งเมื่อวานตอนเจอ เด็ก จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ มหิดล ที่กลับมา ในจังหวัดอุบลจำนวนมาก และหวังว่าจะทำให้ เกิดการตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น
ชวาล ยินดีพิสูจน์ตามกระบวนการศาล หลัง กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966769
ชวาล พลเมืองดี ยินดีพิสูจน์ตามกระบวนการศาล หลัง กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ เดินหน้าทำงานในฐานะ ส.ส.ต่อไป
จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำวินิจฉัยสั่งดำเนินคดีอาญา นาย
ชวาล พลเมืองดี ส.ส.พรรคประชาชน เขต 3 จ.ชลบุรี กรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.2566 นายชวาลกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 67 และมาตรา 155 คือจงใจยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง ทำให้การเมืองในพื้นที่ จ.ชลบุรี เริ่มมีความคึกคักขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง หากจะเกิดการเลือกตั้งซ่อมในอนาคตนั้น
ล่าสุด ค่ำวันที่ 22 ธันวาคม นาย
ชวาล ระบุทางแฟนเพจ
ชวาล พลเมืองดี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า
ตามที่ปรากฏในข่าวว่า กกต. มีมติดำเนินคดีอาญาด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการแจ้งบัญชีรายจ่ายของผมที่มีการกล่าวหาว่าผมแจ้งค่ายิงแอด facebook ผิดหลงไป 8 พันกว่าบาท
ผมยินดีพิสูจน์ต่อไปตามกระบวนการของศาล และจะยังคงทำหน้าที่ต่อไปในฐานะผู้แทนราษฎรเพื่อประโยชน์ของพี่น้องชาวชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นในด้านการผลักดันกฎหมายในสภา (เช่น การแก้ไข พ.ร.บ.โรงงาน ที่ผมและคณะได้เสนอไป) การช่วยทีม อบจ.ของพรรคประชาชนในการนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนในพื้นที่ การประสานเรื่องข้อร้องเรียนของพี่น้องประชาชน และที่สำคัญคือการตรวจสอบกรณีการกระทำความผิดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิทธิของพี่น้องประชาชน ทั้งปัญหาโรงงานที่สร้างผลกระทบโรงงานเถื่อน หรือแม้กระทั่งการประกอบกิจการอื่นที่ไม่มีใบอนุญาต ผิดต่อกฎหมาย สร้างปัญหาโดยไม่เหลียวแลพี่น้องประชาชน
ผมจะทำงานต่อไปโดยไม่ท้อถอย เพื่อแก้ปัญหาที่ยังคงค้างคาอยู่และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน
#พรรคประชาชน #ผู้แทนสามัญประจำบ้าน
https://www.facebook.com/Ponlameungdee/posts/pfbid0GijM3arkKo6SoSwJ7BwNtT5Xyia3ANvXzMQXZsuDVUNFkKYJwocE7UGSh1uSjHGKl
พรรคประชาชน น้อมรับความพ่ายแพ้ เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ ‘สิทธิพล’ ทำงานเพื่อปชช.ต่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966750
พรรคประชาชน แถลงรับความพ่ายแพ้ ‘นายก อบจ.อุบลฯ’ อีกจังหวัด ‘พิจารณ์’ ยันไม่ท้อ พร้อมทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา เชื่อยิ่งคนออกมาใช้สิทธิ ยิ่งมีสิทธิชนะ ด้าน ‘สิทธิพล’ ย้ำยังทำงานกับพรรคต่อ
เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 22 ธันวาคม ที่จ.อุบลราชธานี พรรคประชาชน (ปชน.) นำโดย นาย
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน, นาย
คำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ นาย
สิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครนายกอบจ.อุบลราชธานี หมายเลข 2 ในนามพรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารราชการส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี อย่างไม่เป็นทางการ
นาย
พิจารณ์กล่าวว่า แม้พรรคประชาชนจะไม่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดจากพี่น้องชาวอุบลราชธานี แต่เรายังเห็นสัญญาณจากผลการเลือกตั้งที่นับไปแล้วกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าพรรคประชาชนน่าจะได้รับความไว้วางใจมากยิ่งขึ้น จากการเลือกตั้งในปี 2563 ที่ผ่านมา
นาย
พิจารณ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เรายังหวังว่าผู้สมัครที่ได้รับความไว้วางใจ และชนะการเลือกตั้ง จะหยิบยกเอานโยบายที่พวกเราได้นำเสนอต่อประชาชน หากเห็นว่านโยบายใดเป็นนโยบายที่ดี สามารถตอบโจทย์ หรือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ เราก็ไม่สงวน และยินดีที่อยากจะให้ผู้สมัครที่ได้รับความไว้วางใจ นำนโยบายไปดำเนินการต่อไป
นาย
พิจารณ์กล่าวว่า ส่วนการทำงานในระดับภาพใหญ่ ในวันที่ 23 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีการเปิดรับสมัครนายก อบจ.ในหลายจังหวัด ซึ่งพรรคประชาชนพร้อมที่จะส่งผู้สมัครทั้งหมด 17 จังหวัด และในอีก 40 จังหวัดที่ไม่มีผู้สมัครนายก อบจ. แต่จะยังมี ส.อบจ.ลงสมัคร จึงขอให้พี่น้องประชาชนร่วมติดตามและสนับสนุน ยืนยันว่าเราไม่ย่อท้อ และจะยังคงทำงานบนเส้นทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมาต่อไป
ขณะที่นาย
สิทธิพลกล่าวว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องคนอุบลราชธานีที่ไว้วางใจลงคะแนนเสียงให้พรรคประชาชน ถึงตอนนี้ดูแล้วคะแนนอาจจะยังไม่มากพอ ไม่ได้รับเลือกเข้าไปบริหาร อบจ. ในนามผู้สมัครจะทำงานภาคประชาชน ร่วมกับพรรคประชาชน รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนคนอุบลราชธานีต่อไป ส่วนจะอยู่ในตำแหน่ง หรือจุดไหน ก็ต้องแล้วแต่พรรคประชาชน จะให้ทำงาน ซึ่งตนก็พร้อมทำงานเพื่อคนอุบลต่อไป
JJNY : พิธาดันคนรุ่นใหม่ ไม่หวั่นทักษิณ│ชวาลยินดีพิสูจน์ตามกระบวนการศาล│พรรคปชน.น้อมรับพ่ายแพ้│กม. NGO ไทย ส่อแทรกแซง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966775
พิธา พร้อมสู้ ดันคนรุ่นใหม่ ชิงนายกอบจ. เชียงใหม่ ไม่หวั่นแม้ “ทักษิณ” ลุยเอง ชี้ ลงพื้นที่ทับไลน์กันบ่อย ไม่มีอะไร แค่เขตยุทธศาสตร์ ไร้กังวลฐานเสียงหลักกลับมาเลือกไม่ได้ แต่รับว่า เลือกตั้งท้องถิ่นต้องแก้ไข ให้เลือกตั้งล่วงหน้าหรือนอกเขตได้
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)เชียงใหม่ ว่า ตอนนี้เป็นไปได้ด้วยดี นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ เปิดตัวครบปีพอดี นายพันธุ์อาจ เป็นคนคิดนอกกรอบ ซึ่งตนอยากเห็น นายกอบจ.รุ่นใหม่ ที่มีพลัง แนะนำความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี มาแก้ไขปัญหาให้ชาวเชียงใหม่ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแผน 100 วัน ก่อนที่จะมีฝุ่น ซึ่งในการมาเชียงใหม่ที่ผ่านมา จนถึงเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว พบว่ามีฝุ่นเกินกว่า 50 กว่าวัน ตอนนี้เรารู้ล่วงหน้าก็ควรจะมีแผนรับมือกับฝุ่น ใช้เทคโนโลยีโดรน ประสานความร่วมมือกับ GISDA แจกเครื่องกรองราคาถูกให้กับประชาชน รวมถึง หน้ากากอนามัย
เมื่อถามว่าคู่แข่งคนสำคัญคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังจะลงพื้นที่มาหาเสียง นายพิธา กล่าวว่า ยินดีกับการแข่งขันอยู่แล้ว เพราะในทางการเมือง หากมีการแข่งขันมีการแสดงวิสัยทัศน์ นำนโยบายมาสู้กัน น่าจะเป็นสิ่งที่ดี ทั้งนายทักษิณ และตนก็เป็นผู้ช่วยหาเสียงทั้งคู่ ยังหวังว่าก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 จะมีสื่อมวลชนสักช่องจัดดีเบต เหมือนที่จ.อุดรธานี และจ.อุบลราชธานี เพื่อให้ผู้สมัครทั้งสองท่าน ได้โชว์วิสัยทัศน์ น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกับภาวะผู้นำที่ต้องใช้กับจ.เชียงใหม่ ทั้งฤดูฝนและฤดูฝน ที่ดับฝันประชาชนจะมีแนวคิดอย่างไร อยากให้ผู้นำตัวจริงที่ดูแลงบประมาณได้แสดงวิสัยทัศน่าจะเหมาะสมกว่า
เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์นายทักษิณ อาจจะกลับมาทวงคืนพื้นที่จ.เชียงใหม่ นายพิธากล่าวว่า เป็นสิทธิของคุณทักษิณ แต่ในพื้นที่มี ส.ส. 7คนเป็นของพรรคประชาชน ซึ่งทางเราก็มองว่าเป็นเขตยุทธศาสตร์ สื่อมวลชนก็มีความสนใจ ถามว่าทำไมทับไลน์กันบ่อย 2 คนนี้ คราวที่แล้วจำกันได้ มาก็ปีใหม่ไทยตอนนี้มาก็ปีใหม่สากล ถึงเลยชนกันบ่อย ต่างคนต่างพรรคก็วางแผนในการลงพื้นที่ ก็เลยเจอกันบ่อย
นายพิธา กล่าวว่า เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งเราอยากได้ทั้งนายกอบจ. ลำพูน และเชียงใหม่ เพื่อจะได้ทำงานร่วมกัน ทางการท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม การทำ CODING การดูแลผู้ป่วยติดเตียง และอยากเห็นนายกอบจ. ทำงานร่วมกับนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน เพราะจะเป็นคนที่สามารถใช้เทคโนโลยีที่คนรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ได้ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับไฟป่า ฝุ่น และการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องสมัยใหม่ จึงอยากเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ และอยากให้พี่น้องชาวเชียงใหม่ ออกไปใช้สิทธิ์กันเยอะๆ เหมือนกับการเลือกตั้งในปี 2566 ซึ่งอดีตพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงมากกว่า 4 แสนเสียง เชื่อว่าจะได้นายกอบจ.ที่คิดนอกกรอบ เคยผ่านระบบราชการ ทำงานกับจิสด้า แก้ไขปัญหาได้ทุกฤดู
เมื่อถามว่า 7 เขตของพรรคประชาชนยังแข็งแรงใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า แน่นอนเราทำงานอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นเพียงผู้ช่วยหาเสียง แต่ก็ได้ติดตามเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาดว่าถึงไหนแล้ว ซึ่งผู้ที่จะมาบริหารก็คือนายก อบจ. ไม่ใช่ผู้ว่าฯ ถือเป็นการผลักดันกฎหมายของ ส.ส.เชียงใหม่ ที่เป็นข่าวดี ในเรื่องของ พีเอ็ม 2.5 ในตรวจสอบการรับซื้อข้าวโพด ว่ามาจากการเผ่าป่าหรือไม่ ซึ่ง สส. เชียงใหม่ถือว่าทำหน้าที่ในสภาและดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่ ในวันพรุ่งนี้ในการลงพื้นที่ตลาดวโรรส จะเป็น สิ่งสะท้อนว่า ส.ส.เขตทำงานอย่างเหนียวแน่นหรือไม่
เมื่อถามว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ คนทำงานส่วนใหญ่ ออกไปทำงานในต่างจังหวัดกังวลกับฐานเสียง หลักจะไม่กลับมาเลือกตั้งนายกอบจ.หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้กังวลใจเฉพาะเชียงใหม่ แต่กังวลกับระบบประชาธิปไตยทั้งประเทศ ในเรื่องของการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ไม่เหมือนกับสนามใหญ่ที่ให้ เลือกตั้งข้ามเขต เลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งในต่างประเทศไม่ได้ ทำให้การมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงลดลงอย่างมีนัยยะ เช่นในจังหวัดอุดรธานี้ที่ 69% เหลือเพียง 32% การเลือกตั้งแล้วมีคนมาใช้สิทธิ์ต่ำกว่า 50% คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องคิดแล้ว ขณะที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ก็ระบุว่า เมื่อมีนโยบายออกล่วงหน้าก็กระทบ และการที่มีการเลือกตั้งหลายครั้งๆ เช่น เลือกตั้งในวันที่ 22 ธันวาคม ปีใหม่กลับมาบ้าน และเดือน ก.พ.มีเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) อีก ก็ไม่มีใครสามารถลางานเพื่อกลับมาเลือกตั้งได้บ่อยๆ
“อยากเชิญชวน กกต และคนที่ดูแลเกี่ยวกับกฎหมายประชาธิปไตย ว่า การเลือกตั้งควรจะสะดวก เรียบง่าย ควรจะใช้เวลาน้อยคำนึงถึงพี่น้องประชาชน คนที่ต้องเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว คนที่เดินทางไปอยู่ต่างประเทศ อยู่ที่ไต้หวัน เกาหลีใต้ อิสราเอลก็เยอะ แต่กลับมาเลือกตั้งไม่ได้ เข้าใจว่า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง จะเรียกกกต.มาพูดคุยในเรื่องนี้ ทั้งเรื่องนายกอบจ.ลาออกล่วงหน้า ซึ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นใช้งบประมาณกว่า 6-7 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการเลือกตั้งระดับประเทศที่สำคัญ รองจาก สส.กับนายกฯ แต่กระบวนการที่เทคโนโลยีขนาดนี้ ทั้งเรื่องจดหมายและการโหวตผ่านอินเทอร์เน็ตยังไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นสักที อยากให้กระบวนการเลือกตั้งสะดวกกับประชาชนที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเป็นโลกก็ยังเป็นคนไทย” นายพิธากล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่เห็นด้วยกับการที่นายกอบจ ลาออกเพื่อมาชิงตำแหน่ง นายพิธา กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา แต่จะทำให้งบประมาณเปลืองสองครั้ง ทำให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์ยากลำบาก และเป็นช่วงที่ไม่เกี่ยวกับปีใหม่ ซึ่งไม่มีใคร ที่เป็นสามัญชนคนธรรมดาที่จะสลับบ้านติด ๆ กันทุก 2 สัปดาห์ได้ จึงทำให้การใช้สิทธิ์เลือกตั้งมีน้อย เช่นในจังหวัดลำพูนที่มีคนมาใช้สิทธิ์เพียง 16% ซึ่งเป็นคนที่รักประชาธิปไตยมากเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งตนหวังว่าชาวลำพูนและชาวเชียงใหม่จะออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่อาจจะไปเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ หรือปิดเทอม ซึ่งเมื่อวานตอนเจอ เด็ก จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ มหิดล ที่กลับมา ในจังหวัดอุบลจำนวนมาก และหวังว่าจะทำให้ เกิดการตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น
ชวาล ยินดีพิสูจน์ตามกระบวนการศาล หลัง กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966769
ชวาล พลเมืองดี ยินดีพิสูจน์ตามกระบวนการศาล หลัง กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ เดินหน้าทำงานในฐานะ ส.ส.ต่อไป
จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำวินิจฉัยสั่งดำเนินคดีอาญา นายชวาล พลเมืองดี ส.ส.พรรคประชาชน เขต 3 จ.ชลบุรี กรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.2566 นายชวาลกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 67 และมาตรา 155 คือจงใจยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง ทำให้การเมืองในพื้นที่ จ.ชลบุรี เริ่มมีความคึกคักขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง หากจะเกิดการเลือกตั้งซ่อมในอนาคตนั้น
ล่าสุด ค่ำวันที่ 22 ธันวาคม นายชวาล ระบุทางแฟนเพจ ชวาล พลเมืองดี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า
ตามที่ปรากฏในข่าวว่า กกต. มีมติดำเนินคดีอาญาด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการแจ้งบัญชีรายจ่ายของผมที่มีการกล่าวหาว่าผมแจ้งค่ายิงแอด facebook ผิดหลงไป 8 พันกว่าบาท
ผมยินดีพิสูจน์ต่อไปตามกระบวนการของศาล และจะยังคงทำหน้าที่ต่อไปในฐานะผู้แทนราษฎรเพื่อประโยชน์ของพี่น้องชาวชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นในด้านการผลักดันกฎหมายในสภา (เช่น การแก้ไข พ.ร.บ.โรงงาน ที่ผมและคณะได้เสนอไป) การช่วยทีม อบจ.ของพรรคประชาชนในการนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนในพื้นที่ การประสานเรื่องข้อร้องเรียนของพี่น้องประชาชน และที่สำคัญคือการตรวจสอบกรณีการกระทำความผิดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิทธิของพี่น้องประชาชน ทั้งปัญหาโรงงานที่สร้างผลกระทบโรงงานเถื่อน หรือแม้กระทั่งการประกอบกิจการอื่นที่ไม่มีใบอนุญาต ผิดต่อกฎหมาย สร้างปัญหาโดยไม่เหลียวแลพี่น้องประชาชน
ผมจะทำงานต่อไปโดยไม่ท้อถอย เพื่อแก้ปัญหาที่ยังคงค้างคาอยู่และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน
#พรรคประชาชน #ผู้แทนสามัญประจำบ้าน
https://www.facebook.com/Ponlameungdee/posts/pfbid0GijM3arkKo6SoSwJ7BwNtT5Xyia3ANvXzMQXZsuDVUNFkKYJwocE7UGSh1uSjHGKl
พรรคประชาชน น้อมรับความพ่ายแพ้ เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ ‘สิทธิพล’ ทำงานเพื่อปชช.ต่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966750
พรรคประชาชน แถลงรับความพ่ายแพ้ ‘นายก อบจ.อุบลฯ’ อีกจังหวัด ‘พิจารณ์’ ยันไม่ท้อ พร้อมทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา เชื่อยิ่งคนออกมาใช้สิทธิ ยิ่งมีสิทธิชนะ ด้าน ‘สิทธิพล’ ย้ำยังทำงานกับพรรคต่อ
เมื่อเวลา 19.45 น. วันที่ 22 ธันวาคม ที่จ.อุบลราชธานี พรรคประชาชน (ปชน.) นำโดย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน, นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ นายสิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครนายกอบจ.อุบลราชธานี หมายเลข 2 ในนามพรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารราชการส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี อย่างไม่เป็นทางการ
นายพิจารณ์กล่าวว่า แม้พรรคประชาชนจะไม่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดจากพี่น้องชาวอุบลราชธานี แต่เรายังเห็นสัญญาณจากผลการเลือกตั้งที่นับไปแล้วกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าพรรคประชาชนน่าจะได้รับความไว้วางใจมากยิ่งขึ้น จากการเลือกตั้งในปี 2563 ที่ผ่านมา
นายพิจารณ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เรายังหวังว่าผู้สมัครที่ได้รับความไว้วางใจ และชนะการเลือกตั้ง จะหยิบยกเอานโยบายที่พวกเราได้นำเสนอต่อประชาชน หากเห็นว่านโยบายใดเป็นนโยบายที่ดี สามารถตอบโจทย์ หรือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ เราก็ไม่สงวน และยินดีที่อยากจะให้ผู้สมัครที่ได้รับความไว้วางใจ นำนโยบายไปดำเนินการต่อไป
นายพิจารณ์กล่าวว่า ส่วนการทำงานในระดับภาพใหญ่ ในวันที่ 23 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีการเปิดรับสมัครนายก อบจ.ในหลายจังหวัด ซึ่งพรรคประชาชนพร้อมที่จะส่งผู้สมัครทั้งหมด 17 จังหวัด และในอีก 40 จังหวัดที่ไม่มีผู้สมัครนายก อบจ. แต่จะยังมี ส.อบจ.ลงสมัคร จึงขอให้พี่น้องประชาชนร่วมติดตามและสนับสนุน ยืนยันว่าเราไม่ย่อท้อ และจะยังคงทำงานบนเส้นทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมาต่อไป
ขณะที่นายสิทธิพลกล่าวว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องคนอุบลราชธานีที่ไว้วางใจลงคะแนนเสียงให้พรรคประชาชน ถึงตอนนี้ดูแล้วคะแนนอาจจะยังไม่มากพอ ไม่ได้รับเลือกเข้าไปบริหาร อบจ. ในนามผู้สมัครจะทำงานภาคประชาชน ร่วมกับพรรคประชาชน รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนคนอุบลราชธานีต่อไป ส่วนจะอยู่ในตำแหน่ง หรือจุดไหน ก็ต้องแล้วแต่พรรคประชาชน จะให้ทำงาน ซึ่งตนก็พร้อมทำงานเพื่อคนอุบลต่อไป