“ไพศาล”ชี้ “ทักษิณ” ตะเพิดพรรคร่วม สู่จุดพลิกผัน ก้าวสู่หนทางยุบสภา
https://siamrath.co.th/n/588171
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 นาย
ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ภาพและข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก
Paisal Puechmongkol ระบุว่า
การเมืองไทยมาถึงจุดพลิกผัน ก้าวสู่หนทางยุบสภา
1. การคำรามของนายทักษิณ ตะเพิดพรรคร่วมที่หนีการประชุม ครม. พิจารณาร่างพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีอากร จวกหนักว่าเป็นพวกอีแอบ ถ้าไม่พอใจอยู่ก็ให้ออกไป ซึ่งเป็นอาการสะท้อนการตบะแตก เนื่องจากมีข้อขัดแย้งภายในสะสม และหมักหมม มากจนเกิดระเบิดอารมณ์ดังกล่าว ทั้งที่รู้ดีว่ารัฐมนตรีที่ไม่เข้าร่วมประชุมนั้น มีถึง 8 คน ในจำนวนนี้รวมหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
2. เป็นวิสัยนักการเมืองที่รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง จึงเด้งเชือกไว้ก่อน รัฐมนตรีที่โดดการประชุมทุกคนปฏิเสธเป็นเสียงเดียวกันว่า ติดภารกิจอย่างโน้นอย่างนี้บ้าง ซึ่งดูเหมือนว่าหวั่นเกรงต่อเสียงคำรามที่ดังสนั่นมาจากต่างจังหวัด แต่น้ำใจโจรนั้น เหล่าโจรด้วยกันก็จะรู้ว่าหมายความว่าหมายถึงอะไร ดังนั้น จึงเกิดการประสานงานรวมตัวกันขึ้น และเริ่มก่อหวอดแสดงท่าทีทางการเมืองร่วมกัน เช่น การแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายยึดอำนาจฝ่ายทหาร เป็นต้น
3. การเคลื่อนไหวนอกสภา เริ่มมีกระแสถึงการประสานงานกับพรรคประชาชน ซึ่งกระแสเพียงเท่านี้ก็พอเห็นแล้วว่าพรรคร่วมรัฐบาล บวกกับพรรคประชาชนก็มีเสียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ซึ่งถ้าหากสถานการณ์ไปถึงขั้นนั้น และมีความชัดเจนขึ้น พรรคเพื่อไทยคงไม่ปล่อยให้ไปถึงขั้นมีการเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจไล่รัฐบาล หรือแพ้โหวตในกฎหมายสำคัญ ในสภาพเช่นนี้การเมืองจึงโฉมหน้าไปสู่การยุบสภา ทำให้การยุบสภานั้นเป็นสภานการณ์ทางการเมืองที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่การยุบสภานั้นใครจะประกันได้เล่าว่าจะสามารถดับกระแสต่อต้านที่กำหนดขับเคลื่อนอย่างเต็มที่อยู่นอกสภาได้ ที่สำคัญคือ เรื่องนี้เป็นบทพิสูจน์ว่า ความคิดเห็นที่ถีบหัวส่งพรรคก้าวไกล ไม่ให้จัดตั้งรัฐบาลตามวิถีทางปกติ เพราะความหวาดกลัวจนเกิดกาลนั้น กลับกลายเป็นเรื่องหนีเสือปะจระเข้ ที่ร้ายแรงกว่าหลายเท่า ดังนั้น สถานการณ์แบบนี้ อะไรที่ไม่คาดฝันก็ยังเกิดขึ้นได้ จับตาดูกันให้ดีก็แล้วกัน
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid024CNTw1NwGRtDxZuQ9HDgcNTKpWMJyHeKJtTkvNi7UTcSFpugYtWQu4Lub82axKygl
สภา เตรียมลงมติร่างพรบ.ประชามติอีกครั้ง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_817548/
สภาผู้แทนราษฎร เตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 09.00 น. วันนี้ (18 ธ.ค.67) ภายหลังเปิดให้ สส. นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแล้วจากนั้น มีวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว 3 เรื่อง ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ,ร่างพระราชบัญญัติอำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. …. และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีวาระพิจารณาเรื่องด่วน 6 เรื่อง เช่น ร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. , ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. รวมทั้ง มีวาระเรื่องที่ค้างพิจารณา 46 เรื่อง เช่น ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. , ร่างพระราชบัญญัติโคนมและผลิตภัณฑ์นม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ….
ค่าฝุ่นกทม.สูงเกินมาตรฐานระดับสีส้ม 39 พื้นที่ แนะนำควรสวมหน้ากากอนามัย
https://www.dailynews.co.th/news/4199086/
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมโฆษกศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 18 ธ.ค.67 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
ตรวจวัดได้ 30.8-49.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 39 พื้นที่ คือ
1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 49.4 มคก./ลบ.ม. 2.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 48.3 มคก./ลบ.ม. 3.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 46.7 มคก./ลบ.ม. 4.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม. 5.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม.
6.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 46.3 มคก./ลบ.ม. 7.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 46.0 มคก./ลบ.ม. 8.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม. 9.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 45.2 มคก./ลบ.ม.10.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 44.7 มคก./ลบ.ม.
11.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 44.3 มคก./ลบ.ม. 12.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 43.7 มคก./ลบ.ม. 13.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 43.6 มคก./ลบ.ม. 14.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม. 15.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 42.7 มคก./ลบ.ม. 16.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 42.5 มคก./ลบ.ม. 17.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 42.2 มคก./ลบ.ม. 18.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม. 19.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 41.9 มคก./ลบ.ม. 20.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 41.6 มคก./ลบ.ม.
21.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม. 22.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 40.9 มคก./ลบ.ม. 23.สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ : มีค่าเท่ากับ 40.6 มคก./ลบ.ม. 24.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 40.4 มคก./ลบ.ม. 25.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม. 26.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม. 27.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 40.2 มคก./ลบ.ม. 28.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 40.1 มคก./ลบ.ม. 29.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม. 30.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม.
31.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 39.5 มคก./ลบ.ม. 32.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม. 33.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม. 34.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 39.2 มคก./ลบ.ม. 35.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม. 36.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม. 37.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 38.4 มคก./ลบ.ม. 38.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม. 39.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.
ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่าเฉลี่ยฝุ่นอยู่ที่ 38.3 มคก/ลบ.ม.
ข้อแนะนำสุขภาพ คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมากควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง(คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 18 – 26 ธ.ค. 67 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “อ่อน” ประกอบกับเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้น จึงทำให้มลพิษทางอากาศสามารถแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัว และคาดการณ์วันนี้ อากาศเย็นในตอนเช้า
ทั้งนี้ แนะนำประชาชนควรตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านทาง แอปพลิเคชัน AirBKK , www.airbkk.com, FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร , FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม ,FB: กรุงเทพมหานคร และ LINE ALERT หากประชาชนพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแสผ่านทาง Traffy Fondue.
JJNY : “ไพศาล”ชี้ “ทักษิณ” ก้าวสู่หนทางยุบสภา│สภาเตรียมลงมติร่างพรบ.ประชามติ│ค่าฝุ่นกทม.สูงเกิน│ชี้เกาหลีเหนือเสียทหาร
https://siamrath.co.th/n/588171
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ภาพและข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า
การเมืองไทยมาถึงจุดพลิกผัน ก้าวสู่หนทางยุบสภา
1. การคำรามของนายทักษิณ ตะเพิดพรรคร่วมที่หนีการประชุม ครม. พิจารณาร่างพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีอากร จวกหนักว่าเป็นพวกอีแอบ ถ้าไม่พอใจอยู่ก็ให้ออกไป ซึ่งเป็นอาการสะท้อนการตบะแตก เนื่องจากมีข้อขัดแย้งภายในสะสม และหมักหมม มากจนเกิดระเบิดอารมณ์ดังกล่าว ทั้งที่รู้ดีว่ารัฐมนตรีที่ไม่เข้าร่วมประชุมนั้น มีถึง 8 คน ในจำนวนนี้รวมหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
2. เป็นวิสัยนักการเมืองที่รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง จึงเด้งเชือกไว้ก่อน รัฐมนตรีที่โดดการประชุมทุกคนปฏิเสธเป็นเสียงเดียวกันว่า ติดภารกิจอย่างโน้นอย่างนี้บ้าง ซึ่งดูเหมือนว่าหวั่นเกรงต่อเสียงคำรามที่ดังสนั่นมาจากต่างจังหวัด แต่น้ำใจโจรนั้น เหล่าโจรด้วยกันก็จะรู้ว่าหมายความว่าหมายถึงอะไร ดังนั้น จึงเกิดการประสานงานรวมตัวกันขึ้น และเริ่มก่อหวอดแสดงท่าทีทางการเมืองร่วมกัน เช่น การแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายยึดอำนาจฝ่ายทหาร เป็นต้น
3. การเคลื่อนไหวนอกสภา เริ่มมีกระแสถึงการประสานงานกับพรรคประชาชน ซึ่งกระแสเพียงเท่านี้ก็พอเห็นแล้วว่าพรรคร่วมรัฐบาล บวกกับพรรคประชาชนก็มีเสียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ซึ่งถ้าหากสถานการณ์ไปถึงขั้นนั้น และมีความชัดเจนขึ้น พรรคเพื่อไทยคงไม่ปล่อยให้ไปถึงขั้นมีการเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจไล่รัฐบาล หรือแพ้โหวตในกฎหมายสำคัญ ในสภาพเช่นนี้การเมืองจึงโฉมหน้าไปสู่การยุบสภา ทำให้การยุบสภานั้นเป็นสภานการณ์ทางการเมืองที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่การยุบสภานั้นใครจะประกันได้เล่าว่าจะสามารถดับกระแสต่อต้านที่กำหนดขับเคลื่อนอย่างเต็มที่อยู่นอกสภาได้ ที่สำคัญคือ เรื่องนี้เป็นบทพิสูจน์ว่า ความคิดเห็นที่ถีบหัวส่งพรรคก้าวไกล ไม่ให้จัดตั้งรัฐบาลตามวิถีทางปกติ เพราะความหวาดกลัวจนเกิดกาลนั้น กลับกลายเป็นเรื่องหนีเสือปะจระเข้ ที่ร้ายแรงกว่าหลายเท่า ดังนั้น สถานการณ์แบบนี้ อะไรที่ไม่คาดฝันก็ยังเกิดขึ้นได้ จับตาดูกันให้ดีก็แล้วกัน
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid024CNTw1NwGRtDxZuQ9HDgcNTKpWMJyHeKJtTkvNi7UTcSFpugYtWQu4Lub82axKygl
สภา เตรียมลงมติร่างพรบ.ประชามติอีกครั้ง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_817548/
สภาผู้แทนราษฎร เตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 09.00 น. วันนี้ (18 ธ.ค.67) ภายหลังเปิดให้ สส. นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแล้วจากนั้น มีวาระพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว 3 เรื่อง ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ,ร่างพระราชบัญญัติอำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. …. และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีวาระพิจารณาเรื่องด่วน 6 เรื่อง เช่น ร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. , ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย(ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. รวมทั้ง มีวาระเรื่องที่ค้างพิจารณา 46 เรื่อง เช่น ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. , ร่างพระราชบัญญัติโคนมและผลิตภัณฑ์นม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ….
ค่าฝุ่นกทม.สูงเกินมาตรฐานระดับสีส้ม 39 พื้นที่ แนะนำควรสวมหน้ากากอนามัย
https://www.dailynews.co.th/news/4199086/
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมโฆษกศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 18 ธ.ค.67 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
ตรวจวัดได้ 30.8-49.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 39 พื้นที่ คือ
1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 49.4 มคก./ลบ.ม. 2.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 48.3 มคก./ลบ.ม. 3.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 46.7 มคก./ลบ.ม. 4.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม. 5.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม.
6.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 46.3 มคก./ลบ.ม. 7.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 46.0 มคก./ลบ.ม. 8.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม. 9.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 45.2 มคก./ลบ.ม.10.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 44.7 มคก./ลบ.ม.
11.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 44.3 มคก./ลบ.ม. 12.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 43.7 มคก./ลบ.ม. 13.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 43.6 มคก./ลบ.ม. 14.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม. 15.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 42.7 มคก./ลบ.ม. 16.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 42.5 มคก./ลบ.ม. 17.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 42.2 มคก./ลบ.ม. 18.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม. 19.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 41.9 มคก./ลบ.ม. 20.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 41.6 มคก./ลบ.ม.
21.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม. 22.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 40.9 มคก./ลบ.ม. 23.สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ : มีค่าเท่ากับ 40.6 มคก./ลบ.ม. 24.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 40.4 มคก./ลบ.ม. 25.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม. 26.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม. 27.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 40.2 มคก./ลบ.ม. 28.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 40.1 มคก./ลบ.ม. 29.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม. 30.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม.
31.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 39.5 มคก./ลบ.ม. 32.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม. 33.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม. 34.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 39.2 มคก./ลบ.ม. 35.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม. 36.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม. 37.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 38.4 มคก./ลบ.ม. 38.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม. 39.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.
ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่าเฉลี่ยฝุ่นอยู่ที่ 38.3 มคก/ลบ.ม.
ข้อแนะนำสุขภาพ คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมากควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง(คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 18 – 26 ธ.ค. 67 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “อ่อน” ประกอบกับเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้น จึงทำให้มลพิษทางอากาศสามารถแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัว และคาดการณ์วันนี้ อากาศเย็นในตอนเช้า
ทั้งนี้ แนะนำประชาชนควรตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านทาง แอปพลิเคชัน AirBKK , www.airbkk.com, FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร , FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม ,FB: กรุงเทพมหานคร และ LINE ALERT หากประชาชนพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแสผ่านทาง Traffy Fondue.