JJNY : #Conforall จ่อเยือนทำเนียบ 15ม.ค.│นักเรียนประท้วงผอ.ปมแจ้งจับ│กมธ.เชิญ“ผู้ว่าฯ ชัชชาติ”ถก│ทหารเมียนมาหนีไปอินเดีย

#Conforall จ่อเยือนทำเนียบ 15 ม.ค. ขอคุยเศรษฐา ลุยหาทางออกประชามติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4371678
 
 
Con for All จ่อเยือนทำเนียบ 15 ม.ค. ขอคุยเศรษฐา ลุยหาทางออกประชามติ
 
เมื่อวันที่ 12 มกราคม กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ หรือ #Conforall เปิดเผยถึงการเตรียมยื่นหนังสือขอเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ณ ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 15 มกราคม 2567 นี้ เพื่อหารือทางออกแนวทางการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ
 
นายนันทวัฒน์ ศักดิ์สกุลคุณากร ตัวแทนจากคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาคประชาชนได้ยื่นเสนอคำถามประชามติไปยังคณะรัฐมนตรีให้จัดออกเสียงประชามติภายใต้เงื่อนไขว่าต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับจากสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งมีประชาชนร่วมลงชื่อไม่น้อยกว่า 211,904 คน แต่ ครม. ยังไม่ให้ความเห็นชอบกับคำถามดังกล่าว
 
ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการประชามติฯ ที่รัฐบาลตั้งขึ้น ได้มีข้อสรุปว่าจะทำประชามติทั้งหมดสามครั้ง โดยการทำประชามติครั้งแรก จะถามเพียงคำถามเดียวแต่มีสองประเด็น คือ “ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์” ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลว่า เป็นการถามคำถามที่มีประเด็นซ้อนกัน ประชาชนไม่สามารถสะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชนได้
 
ด้านนายรัชพงษ์ แจ่มจิรไชยกุล ตัวแทนโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวว่า คำถามประชามติของคณะกรรมการประชามติฯ มีลักษณะของการนำเจตจำนงที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาปนกับประเด็นเชิงเนื้อหาภายในรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังไม่ใช่เรื่องที่ควรจะพูดคุยกันในขั้นต้นเพราะอาจจะทำให้ผู้ที่ไม่อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือผู้ที่อยากแก้ไขประเด็นใดในหมวด 1 หรือหมวด 2 ออกไปลงคะแนนไม่เห็นชอบจนนำไปสู่การทำประชามติไม่ผ่าน และทำให้รัฐบาลต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองตามมา
 
คำถาม #Conforall จึงไม่ใช่เป็นเพียงการเน้นย้ำหลักการเพียงอย่างเดียว แต่คือการสร้างหลักประกันว่าเสียงของประชาชนจะมีผลต่อกระบวนการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่อย่างแท้จริง” นายรัชพงษ์กล่าว
 
นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ตัวแทนจากคณะรณรงค์รัฐธรรมนูญ กล่าวว่า หลังจากนี้การตัดสินใจเกี่ยวกับการทำประชามติจะอยู่ในมือของคณะรัฐมนตรี ดังนั้น ทางกลุ่มจึงมีข้อเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ดังนี้
 
1. ขอให้ทบทวนการตั้งคำถามประชามติที่คณะกรรมการประชามติฯ แนะนำ เนื่องจากคำถามนี้มีปัญหาในหลายประเด็นที่อาจจะทำให้การทำประชามติไม่ผ่าน
 
2. ขอให้รับรองคำถามประชามติ #Conforall ที่มาจากการเข้าชื่อของประชาชน พิจารณาควบคู่ไปกับคำถามของคณะกรรมการประชามติฯ
 
หวังว่ารัฐบาลจะไม่ตีตกความทุ่มเทของประชาชนในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีความชัดเจน เป็นประชาธิปไตย ตามที่รัฐบาลเคยได้หาเสียงไว้ก่อนการเลือกตั้ง โดยไม่ทำให้คำถามประชามติกลายเป็นชนวนของความขัดแย้งที่อาจจะทำให้ประชามติครั้งนี้ไม่ผ่านและเลื่อนระยะเวลาการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกไป” นางสาวภัสราวลี กล่าว
 


นักเรียน ประท้วง ผอ. ปิดประตูไม่ให้เข้ารร. ปมแจ้งจับโพสต์อาหารกลางวัน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8048375

นักเรียน ฮือประท้วง ผอ. ปิดประตูไม่ให้เข้าโรงเรียน หลังไปแจ้งความจับเด็กปมโพสต์ภาพ อาหารกลางวัน มีแค่ข้าวเปล่ากับไข่ต้ม 1 ฟอง
 
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 12 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน เด็กนักเรียนชาวเขา ในโรงเรียนดังกล่าว รวมตัวประท้วงไม่ให้ ผู้อำนวยการโรงเรียน เข้ามาในโรงเรียนด้วยการปิดประตูโรงเรียนทุกช่องทาง
 
สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ผอ.โรงเรียนได้เดินทางไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ภานุพันธ์ จันทร์โฉม พนักงานสอบสวน สภ.แม่ลาน้อย เพื่อเอาผิดเด็กนักเรียน กรณีโพสต์คลิปอาหารกลางวัน ในถาดหลุมมีข้าวเปล่า ไข่ต้ม 1 ใบ และน้ำพริกตาแดง 1 ห่อขนาดเล็ก ในความผิดฐาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
 
ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น.วันเดียวกัน เด็กนักเรียนในโรงเรียนดังกล่าว ได้พากันเดินทางไปที่ สภ.แม่ลาน้อย เพื่อคัดค้านการแจ้งความเอาผิดกับเด็กที่โพสต์คลิปกับข้าวในถาดหลุมที่ไม่พอกิน
 
แหล่งข่าวในโรงเรียน เปิดเผยว่า ผอ.โรงเรียนคนดังกล่าว เป็นคนที่กดดันเด็กนักเรียน จนมีนักเรียนเสียชีวิตไป 2 คน และกำลังเป็นคดี 1 ราย ส่วนอีกรายมีการชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้ปกครองเด็ก นอกจากนี้ การจัดอาหารให้นักเรียนก็ไม่พอกิน บางมื้อมีแค่ข้าวเปล่า กับไข่ต้มเพียง 1 ใบ และน้ำพริกตาแดง 1 ห่อเล็ก
 
ซึ่งทำให้เด็กกินไม่อิ่ม แต่ถ้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่มาตรวจ วันนั้นก็จะมีการจัดอาหารให้อย่างดี ซึ่งนาน ๆ ครั้งถึงจะได้กินดี จากสภาพดังกล่าวที่เด็กถูกกดดัน จนทนไม่ไหว จึงได้รวมตัวประท้วงไม่ให้ผอ.เข้ามาบริหารในโรงเรียนและยื่นคำขาดให้ ผอ.คนดังกล่าวย้ายไปที่อื่น
 
ด้าน พ.ต.ท.สมเพชร พันกับ รองผกก.(สอบสวน) สภ.แม่ลาน้อย กล่าวว่า เมื่อค่ำของวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ผอ.โรงเรียน ได้เดินทางมาแจ้งความเพื่อเอาผิดเด็กนักเรียน กรณีโพสต์คลิปอาหารกลางวัน ในถาดหลุมมีข้าวเปล่า ไข่ต้ม 1 ใบ และน้ำพริกตาแดง 1 ห่อขนาดเล็ก
 
พ.ต.ท.สมเพชร กล่าวต่อว่า ในความผิดฐาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเด็กโพสต์คลิปและแชร์ไป 20 ราย จึงมาลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวน แต่ต่อมามีเด็กนักเรียน 20 กว่ารายพร้อมผู้ปกครองเดินทางมาที่โรงพัก พนักงานสอบสวนพยายามไกล่เกลี่ย จนผอ.ยกเลิกลงบันทึกประจำวันและจะปรับปรุงเรื่องอาหารให้แก่เด็ก จากนั้นได้พากันเดินทางกลับ
 
พ.ต.ท.สมเพชร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นด้าน ผอ.คนดังกล่าว ได้กล่าวต่อพนักงานสอบสวนว่า ภาพที่โพสต์ไม่ใช่ในโรงเรียน อาจจะเป็นการนำมาจากที่อื่นเพื่อทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้กล่าวต่อเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างใด หลัง ผอ.ถอนแจ้งความ



กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เชิญ “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ถกทางออกเรื่องผังเมือง กทม. 18 ม.ค. นี้
https://www.thairath.co.th/news/politic/2754633

“พริษฐ์ วัชรสินธุ” เผย กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เชิญ “ผู้ว่าฯ กทม.” ร่วมหาทางออกเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดร่างผังเมือง กทม. พร้อมตั้ง 5 โจทย์หารือสัปดาห์หน้า ที่รัฐสภา
 
วันที่ 12 มกราคม 2567 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ได้มีมติเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงและหารือเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อกรณีร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ในการประชุมสัปดาห์หน้าวันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2567 ที่รัฐสภา
จากทั้งความเห็นของประชาชนที่ปรากฏในสาธารณะ และจากข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการที่ได้ไปสังเกตการณ์การประชุมรับฟังความเห็นประชาชนที่จัดโดย กทม. เมื่อวันที่ 6 มกราคม ทางคณะกรรมาธิการเห็นถึงปัญหาของกระบวนการรับฟังความเห็นที่ผ่านมา เช่น ประชาสัมพันธ์ที่สร้างความรับรู้ได้อย่างจำกัด การเผยแพร่ข้อมูลหรือแบบฟอร์มที่ยากต่อการทำความเข้าใจ หรือรูปแบบการจัดเวทีที่ไม่เปิดพื้นที่และจัดสรรเวลาเพียงพอให้กับประชาชนในการแสดงความเห็น
 
แม้ทาง กทม. ได้ประกาศขยายเวลาในการรับฟังความเห็นไปจนถึงสิ้นเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นเพียงการขยายเวลาการรับเอกสาร ทางคณะกรรมาธิการจึงยังมีความกังวลว่าเท่านั้นอาจไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหา จึงได้เชิญ ผู้ว่าฯ กทม. บริษัทที่ปรึกษา คณะกรรมการผังเมืองกรุงเทพมหานคร และกรมโยธาธิการและผังเมือง มาร่วมหาทางออกในการประชุมคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ สัปดาห์หน้า โดยจะมีการหารือประเด็นเบื้องต้นดังต่อไปนี้ 
 
1. กทม. มีแผนเชิงรุกหรือจะดำเนินการอย่างไรในห้วงเวลาที่ขยายเพิ่มขึ้นมา เพื่อออกแบบกระบวนการรับฟังความเห็น ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสร้างความรับรู้และรวบรวมความเห็นให้ครอบคลุม 
 
2. กทม. จะหาข้อยุติอย่างไรสำหรับประชาชนในหลายพื้นที่ที่จะถูกผลกระทบโดยตรงจากการขยายถนนและเวนคืนที่ถูกเสนอโดยร่างผังเมืองใหม่
 
3. กทม. มีแผนจะจัดทำ “ผังเมืองเฉพาะ” นอกเหนือจาก “ผังเมืองรวม” หรือไม่ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดผังเมือง รวมถึงรับประกันกลไกการชดเชยความเสียหายที่เป็นธรรมมากขึ้นสำหรับประชาชนที่ถูกลิดรอนสิทธิ 
 
4. กทม. จะเปิดเผยรายงานผังเมืองให้สาธารณะหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจถึงหลักเกณฑ์ในการออกแบบ รวมถึงมั่นใจว่าร่างผังเมืองปัจจุบันที่ถูกริเริ่มตั้งแต่ก่อนปี 2562 ได้มีการคำนึงถึงข้อมูลและพฤติกรรมประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (เช่น จำนวนประชากร รถไฟฟ้าสายที่เปิดใหม่ ผลกระทบจากโควิด)
 
5. กทม. ได้มีการรับฟังความเห็นและร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนาเมืองกับประชาชนตั้งแต่ตอน “ต้นทาง” ของกระบวนการจัดทำร่างผังเมืองเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากขั้นตอนรับฟังความเห็น ณ ปัจจุบันเป็นเสมือนการรับฟังความเห็น “กลางทาง” ที่ความเห็นประชาชนจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญได้ยาก
 
นายพริษฐ์กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้แสดงความเห็นว่าพร้อมฟังเหตุผลของประชาชน กมธ.พัฒนาการเมืองฯ จึงอยากชวนผู้ว่าฯ ชัชชาติ มาร่วมกันหาทางออกกับผู้แทนราษฎรในสภาฯ เพื่อปรับปรุงกระบวนการที่ต้องไม่เพียงแต่รับฟังความเห็นประชาชนอย่างเดียว แต่นำความเห็นพวกเขามาประกอบการพิจารณาและตัดสินใจในเรื่องผังเมืองที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตชาว กทม. ทุกคน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่