จ่าทหาร รีวิวผู้ใช้จริง จีที 200 พื้นที่ชายแดนใต้ ไม่เคยตรวจเจอระเบิด ซ้ำพบเรื่องเศร้า สูญเสีย 5 ชีวิต
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7095307
 
 
จ่าทหาร รีวิวผู้ใช้จริง จีที 200 ใช้งานชายแดนใต้ ไม่เคยตรวจเจอระเบิด ซ้ำทำให้เกิดเหตุการณ์หลอกหลอน สูญเสีย 5 ชีวิต หวั่นคนไทยเสียภาษีฟรีๆ
  
หลัง นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการใช้งบประมาณกระทรวงกลาโหมที่ไม่ปรากฏในเอกสารงบประมาณว่า ปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา กองทัพบกทำสัญญาจ้าง มูลค่ารวม 7,570,000 บาท ให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ไปตรวจสอบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด GT200 จำนวน 757 เครื่อง ตกเครื่องละ 10,000 บาท ทำให้ประชาชนหันมาให้ความสนในการใช้งบประมาณดังกล่าว และเครื่องจีที 200 กันอีกครั้ง
 
ทั้งนี้ มีจ่าทหารท่านหนึ่ง โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กเล่าถึงประสบการณ์ใช้เครื่องจีที 200 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยระบุว่า 
 
เรามาทำความรู้จักเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 กันเถอะเรื่องนี้เป็นเรื่องฉาวโฉ่ในแวดวงกระทรวงกระลาโหมมาแล้วเมื่อ 14 ปีที่แล้วกองทัพไทยได้สั่งซื้อไอ้เจ้าเครื่อง GT200 มาใช้งานในกองทัพด้วยราคาเครื่องละเกือบล้านบาท
 
ซึ่งหนึ่งในคนที่ได้ใช้เครื่องคือตัวผมเอง สมัยทำงานอยู่ สามจังหวัดชายแดนใต้ ผมบอกได้เลยว่า กว่า 3 ปีที่ผมใช้ไอ้เจ้าเครื่องนี้ผมไม่เคยตรวจเจอวัตถุระเบิดเลย แต่ตรงกันข้ามวันไหนไม่ได้ใช้ แต่เราใช้การสังเกตด้วยตัวเองผมเจอทุกครั้ง ผมก็ประเมินด้วยตัวเองแล้วแหละว่ามันใช้ไม่ได้ผลจริงๆ ไม่ต้องเอาไปให้ผู้เชี่ยวชาญที่ใหนมาพิสูจน์ให้เสียเงินอีกหรอกทำไมไม่มาถามคนเคยใช้งานแบบผมนี่ครับ..ติดต่อได้ 24 ชั่วโมง จ่า(ขอสงวนชื่อนามสกุล) นี่ครับจะพิสูจน์ให้เอาเก็บเงินภาษี กว่า 7 ล้านไว้เถอะครับท่านๆ
 
ความผิดพลาดของ GT200 ไม่ได้มีแค่นี้..เคยมีเหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2549 ก่อนวันที่ ผบ.ฉก.1 ขณะนั้นจะเข้าพื้นที่บ้านบันนังกูแว อำเภอบันนังสะตา จังหวัดยะลา ผมไปตรวจหาวัตถุระเบิดก่อนแล้ว ทุกคนไม่เจอ พื้นที่ปลอดภัย 100% ด้วยความเชื่อ เครื่องบ้าๆ นั้น
 
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น..รถท่าน ผบ.ฉก.1 ขับนำหน้าผมไปโดยมีรถผมขับตาม Cover ให้ความปลอดภัย โดนระเบิดทำให้ไฟลุกไหม้ทั้งคัน ทหารกล้าเสียชีวิตทันที 5 นายรวมท่าน ผบ.ฉก.ด้วย เหตุการณ์นั้นยังติดตาและคอยหลอกหลอนผมจนมาถึงทุกวันนี้..ผมช่วยชีวิตคนบนรถไว้ได้แค่ 3 คน นี่คืออีกหนึ่งของเครื่อง GT200 ที่ผมจะบอกว่า แ-่งห่วยไม่ต้องส่งให้ใครตรวจสอบหรอกครับ….แค่ย้อนไปดูเรื่องราวเก่าๆก็พอว่ามันใช้ได้จริงมั้ย???
 
ประเทศไทยเสียเงินแบบไม่จำเป็นกับ GT200 ไปแล้ว 1 รอบ น่าสนใจว่า กระทรวงกลาโหม จะใช้ภาษีคนไทยฟรีๆ กับ GT200 เป็นรอบที่ 2 หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป

---

'หมอมานพ' ติงไม่ถูกต้อง รบ.ยกเคส Pride Month-ดนตรีในสวน โยงโควิด ทำปชช.เข้าใจความเสี่ยงผิด
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_7095886
 
‘หมอมานพ’ ติงไม่ถูกต้อง รบ.ยกเคส Pride Month-ดนตรีในสวน โยงสถานการณ์โควิด ชี้ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี ทำให้ประชาชนเข้าใจความเสี่ยงผิด
 
กรณี นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ โดยระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศดีขึ้นตามลำดับ และมีการผ่อนคลายมาตรการให้หลายพื้นที่สามารถดำเนินกิจการ กิจกรรม ทำให้ภาครัฐ เอกชน ประชาชน หลายกลุ่มมีการจัดงานหรือกิจกรรมต่างๆ ในระยะนี้ อาทิ งาน Pride Month 2022 งานดนตรีในสวน ซึ่งการจัดกิจกรรมนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
 
ต่อเรื่องดังกล่าว ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะ​แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ manopsi แสดงความคิดเห็นระบุว่า การพูดเรื่องกิจกรรมกลางแจ้งอย่างดนตรีในสวน หรือ Pride Month Parade ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีในการพูดถึงความเสี่ยง COVID ของรัฐ
 
ผับบาร์สถานบันเทิงที่อนุญาตให้เปิดต่างหากที่ควรต้องเฝ้าระวัง และที่สำคัญกว่าคือการเน้นเรื่องปูพรมวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย mRNA ให้ถึงเป้า 70% แบบสองเข็มแรก
 
หมอมานพ ระบุอีกว่า การยกตัวอย่างที่ไม่ถูกต้อง นอกจากทำให้ประชาชนเข้าใจความเสี่ยงผิด ยังเป็นการเอา COVID ไปผูกกับประเด็นการเมือง แทนที่จะเป็นประเด็นวิชาการที่เป็นกลาง
 
https://twitter.com/manopsi/status/1533694204718612480
 
https://twitter.com/manopsi/status/1533694978014076929
 

---

 
สหพันธ์การขนส่งฯ ลั่นขอขึ้นค่าขนส่งอีก 3% หลัง กบน.ให้ขึ้นราคาดีเซลอีกบาท
https://www.nationtv.tv/news/378875563

ประชาชนอ่วมซ้ำ สหพันธ์การขนส่งฯ ขอขึ้นค่าขนส่งอีก 3% หลัง กบน.ให้ขึ้นราคาดีเซลอีกบาท ยันผู้ประกอบการไม่ได้กำไรเพิ่มตาม เพราะหมดไปกับค่าน้ำมันทั้งหมด
 
วันนี้ (6 มิ.ย.65) นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน. มีมติปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเป็น 34 บาทต่อลิตร หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น (อ่านข่าว)   ว่า กรณีดังกล่าวทำให้สหพันธ์ฯ จำเป็นต้องปรับขึ้นค่าขนส่งอีก 3% และจะปรับขึ้นค่าขนส่งทุกๆ 3% ต่อการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 1 บาท  
 
นายอภิชาติ กล่าวว่า โดยจะปรับขึ้นเรื่อย ๆ ตามการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลของภาครัฐ หมายความว่า หากสัปดาห์หน้าราคาน้ำมันดีเซลขึ้นอีกลิตรละ 1 บาท เป็น 35 บาทต่อลิตร ตามการคาดการณ์ของคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สหพันธ์ฯ ก็พร้อมจะขึ้นค่าขนส่งอีก 3% ทันที
 
นายอภิชาติ ยืนยันว่า สำหรับ 3% ที่ปรับขึ้นมา ผู้ประกอบการไม่ได้กำไรเพิ่มตาม เพราะหมดไปกับค่าน้ำมันทั้งหมด หากอนาคตราคาน้ำมันดีเซลลง ก็จะลดค่าขนส่งลงตาม โดยอิงจากฐานที่ว่า ทุกการปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 1 บาท จะปรับลดค่าขนส่งลง 3%
 
ปัจจุบันได้ปรับขึ้นค่าขนส่งแล้ว 15-20% หลังราคาน้ำมันดีเซลทยอยปรับขึ้นจาก 25 บาทต่อลิตร มาถึง 34 บาทต่อลิตรในปัจจุบัน พร้อมชี้ว่าจุดที่เหมาะสมของราคาน้ำมันดีเซลควรอยู่ที่ 25 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการอยู่ได้สบาย แต่ปัจจุบันที่ต้องขึ้นค่าขนส่งราว 20%  ก็ยอมรับว่าทำให้เสียลูกค้าไปบางส่วนเช่นกัน
 
นายอภิชาติ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เหตุใดโรงกลั่งน้ำมันทยอยขึ้นค่ากลั่นสูงมากกว่าเดิมถึง 400% ในปัจจุบัน ซึ่งได้มีหนังสือถามไปยังกระทรวงพาณิชย์แล้ว แต่ยังไม่ได้คำตอบ พร้อมขอให้รัฐช่วยเหลืออย่างจริงจัง เพราะประชาชนกำลังเดือดร้อน แต่ที่ผ่านมากลับไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย
 

---

ฝ่ายค้าน เตรียม สรุปญัตติซักฟอก 8 มิ.ย. พุ่งเป้า ‘นายกฯ-เจ้ากระทรวงใหญ่’ มั่นใจข้อมูลแน่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_3385228

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคพท. และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวภายหลังประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านถึงความคืบหน้าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า ขณะนี้คืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 พรรคร่วมยังขอสรุปความถูกต้อง ซึ่งในวันที่ 7 มิถุนายนจะได้ข้อสรุป ซึ่งรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย หลักคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ เช่น คลัง พาณิชย์ คมนาคม สาธารณสุข เกษตรฯ และจะมีกระทรวงอื่นๆ เพิ่มเติมอีก คาดว่าไม่เกินวันที่ 8 มิถุนายน จะได้ข้อสรุปและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนได้ โดยฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อประธานรัฐสภาในวันที่ 15 มิถุนายนนี้
 
เมื่อถามว่า พรรคเศษฐกิจไทย (ศท.) และพรรคเล็ก มีแนวโน้มร่วมอภิปรายไม่ไว้ววางใจด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องคุยอะไรเยอะ ที่ผ่านมาก็รู้กันอยู่แล้วว่าใครควรทำอะไร แต่พรรคพท.ต้องเดินหน้ายืนขาตัวเองให้แหลมคมมากที่สุด ใครจะมาไม่มาเป็นประเด็นรอง

เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ฝ่ายค้านมีข้อมูลเด็ดต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า เราก็คิดว่าเด็ด ซึ่งการอภิปรายงบประมาณที่ผ่านมาเราก็ยังพูดไม่หมด เพราะจะเอาข้อมูลมาอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งสุดท้าย คิดว่าครั้งนี้จะดีและสมบูรณ์กว่าทุกครั้ง
 
ถามต่อว่า ข้อสอบจะรั่วหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ลือกันไป แต่ความจริงแล้วไม่ถึงกับเป็นข้อสอบรั่วหรือข้อมูลรั่ว เพราะบางครั้งคนรู้กันอยู่ ดักทางกันง่าย
 
เมื่อถามถึง กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคพท. จะอภิปรายนอกสภาฯ ควบคู่กับการอภิปรายในสภาฯ นายสุทิน  กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันแต่สามารถเกิดขึ้นได้
 
เมื่อถามว่า กังวล 7 ส.ส.งูเห่าที่จะยกมือโหวตไว้วางใจให้รัฐบาลหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่กังวล มองเป็นเรื่องธรรมชาติ สังคมก็ตัดเสียงเหล่านี้ออก จึงไม่คาดหวังกับส.ส.เหล่านี้อยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญอยากให้ประชาชนจับตาไปที่เนื้อหาสาระ เห็นได้ชัดได้ว่าร้อยละ 90 ของฝ่ายค้านทั่วโลกไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ในการอภิปรายฯ แต่เนื้อหาสาระต่างหากที่ทำให้รัฐบาลเสื่อม และสังคมจะลงโทษ อาจจะแพ้หลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือจบที่การเลือกตั้ง