4 ลูกเรือประมงไทยวืด! เมียนมาปล่อยตัวแค่ 151 คนไทยถูกหลอกทำงานแก๊งคอล
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9575746
ครบรอบวันชาติเมียนมา ปล่อยตัว 151 คนไทยถูกหลอกทำงานคอลเซ็นเตอร์ หลังรับโทษจำนวนหนึ่งก่อนได้รับอภัยโทษ ยังไร้ 4 ลูกเรือประมง
เมื่องันที่ 4 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย ที่ถูกเมียนมาจับกุมไปเมื่อปีที่แล้ว ในวันครบรอบวันชาติเมียนมาวันนี้ (4 ม.ค.)
ล่าสุด พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปจังหวัดเชียงราย รับตัวคนไทยที่ประสานให้เมียนปล่อยตัว ประมาณ 151 คน ที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เวลา 13.00 น.
มีรายงานข่าวว่า คนไทยจำนวน 151 คน เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยถูกหลอกให้ไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์และถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับกุม ถูกศาลตัดสินให้จำคุกและได้รับโทษมาเป็นเวลาหนึ่งแล้ว จึงได้รับอภัยโทษปล่อยตัว ส่วน 4 ลูกเรือประมงไทยยังไม่ได้รับการปล่อยตัว
ณัฐชา อัดรบ.ปากกล้าขาสั่น แนะเอาเวลาไปเตรียมรับซักฟอก โวลั่นตั้งองครักษ์ก็ช่วยไม่ได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4984299
”ณัฐชา“ เย้ยกลับรบ. อย่าปากกล้าขาสั่น ไล่เตรียมพร้อมรับซักฟอกดีกว่ามาดิสเครดิต ฝ่ายค้าน ขู่นายกฯ ยกองครักษ์มาเท่าใด ก็ช่วยไม่ได้ จับตาผลลงมติ ยิ่งตอกลิ่มให้พรรคร่วม ร้าวลึก
เมื่อวันที่ 4 มกราคม นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรี ของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะนำทีมโดย นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ปชน. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมี น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน. นาย
ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เป็นคณะกรรมการจัดเตรียมข้อมูลและคัดเลือก ส.ส.ที่จะขึ้นมาอภิปรายฯครั้งนี้ โดยตนขอเสนอตัวเข้าร่วมอภิปรายด้วย
ทั้งนี้ ขอให้ติดตามการอภิปรายของนายณัฐพงษ์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านข้อมูลสารสนเทศ จะชี้ให้เห็นความแตกต่าง ผลดี ผลเสีย ระหว่างการบริหารแบบรัฐบาล กับการบริหาร และข้อแนะนำของฝ่ายค้านจะช่วยให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์มากกว่าได้อย่างไร
เมื่อถามว่า มองอย่างไรพรรคร่วมรัฐบาลออกมาปรามาสฝ่ายค้านว่า อย่าอภิปรายด้วยข้อมูลเก่า ตัดแปะ ไม่มีเนื้อหาสาระ และสร้างวาทกรรมเพื่อหวังตีกินทางการเมือง นาย
ณัฐชากล่าวว่า ที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลรีบออกมาดิสเครดิตพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตั้งแต่ก่อนที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเกรงกลัวข้อมูลของพรรคฝ่ายค้าน เป็นอาการของพวกปากกล้าขาสั่นหรือไม่ ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าพรรค ปชน.ที่ทำหน้าที่สืบต่อจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีประสบการณ์การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมาแล้ว 1 สมัย ยืนยันว่าการอภิปรายพรรค ปชน.มีมาตรฐานด้วยเนื้อหาสาระ ข้อมูลหลักฐานครบถ้วน จะชี้ให้เห็นข้อบกพร่องและสิ่งที่รัฐบาล รวมทั้งรัฐมนตรีบางกระทรวงที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจนแน่นอน และหลังการอภิปรายทุกครั้งจะนำข้อมูล หลักฐานยื่นให้องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องต่ออย่างแน่นอน ที่ผ่านมาอดีตพรรค ก.ก.ได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และยื่นให้องค์กรอิสระตรวจสอบต่อถึงขั้นทำให้อดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่ทำหน้าที่เลขาธิการพรรคการเมืองหนึ่งพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว ขอให้มั่นใจว่าพรรค ปชน.จะอภิปรายอย่างเต็มที่ ไม่มีมวยล้ม ไม่มีชกไม่สมศักดิ์ศรีแน่นอน
“
ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลและรัฐมนตรีเอาเวลาไปเตรียมข้อมูล เอกสาร ข้อเท็จจริงต่างๆ ไว้ให้พร้อมรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรค ปชน.จะดีกว่า การรีบออกมาดิสเครดิตพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตั้งแต่ยังไม่มีการอภิปราย แต่ขออย่าทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ บริหารประเทศมาได้เพียง 90 วัน เพราะข้อเท็จจริง รัฐบาลแพทองธาร บริหารประเทศต่อจากรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มาเป็นเวลากว่า 1 ปี 6 เดือนแล้ว หลายนโยบายก็สานต่อมาจากรัฐบาลเศรษฐา และบางเรื่องก็ไม่ยอมแก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงและการบริหารแบบฝ่ายค้านจะทำให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์มากกว่าอย่างไร ขอให้มั่นใจว่าพรรค ปชน.รักษามาตรฐาน การทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก ขอให้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ไม่มีผิดหวังแน่นอน” นาย
ณัฐชากล่าว
เมื่อถามว่า พอยกตัวอย่างประเด็น และรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายได้หรือไม่ ว่ามีใครบ้าง นาย
ณัฐชากล่าวว่า ตามธรรมเนียมตั้งแต่พรรค ก.ก.มาจนถึงพรรค ปชน. เราจะมีคณะกรรมการจัดเตรียมข้อมูลและคัดเลือก ส.ส.ที่จะมาทำหน้าที่อภิปราย ทุกครั้งจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลและประเด็นที่จะเปิดอภิปรายออกมาก่อน แต่เชื่อว่ารัฐบาลพอจะเก็งข้อสอบไว้ล่วงหน้าได้ แต่จะถูกต้องหมดหรือไม่ ต้องรอติดตามวันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะจัดองค์รักษ์ขึ้นมาประท้วงเพื่อช่วยนายกฯ และทำให้ฝ่ายค้านเสียสมาธิการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายณัฐชากล่าวว่า ไม่กังวล ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะเตรียมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ มากี่คน ก็ไม่สามารถช่วย น.ส.
แพทองธารได้ เพราะนายกฯต้องตอบข้อกล่าวหา และคำถามของพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยตัวเอง เนื่องจากประชาชนทางบ้านที่ติดตามการอภิปรายครั้งนี้จะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าแต่ละฝ่าย ใครทำหน้าที่ออกมาอย่างไร สิ่งที่อยากเห็นคือ นายกฯควรตอบและชี้แจงให้ตรงกับการอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประชาชนจะได้ไม่เสียเวลาในการติดตาม
“ในการอภิปรายอยากเห็นนายกฯแสดงภาวะผู้นำในการบริหารประเทศด้วยตัวเอง มากกว่าการมีองครักษ์มาคอยช่วย หรือจะให้รัฐมนตรีมาช่วยชี้แจงข้อกล่าวหา เพราะที่ผ่านมานายกฯมักมีข้อครหาถึงภาวะผู้นำ ที่ยังไม่เด่นชัดเท่ากับทีมที่ปรึกษา โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บิดาของ น.ส.แพทองธาร ที่มักเคลื่อนไหวทางการเมือง เสนอแนะแนวทางต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในประเด็นทางเศรษฐกิจ จนชิงภาวะการนำได้มากกว่านายกฯ ทางออกที่ดีรัฐบาลควรให้นายทักษิณอยู่นิ่งๆ แล้วให้นายกฯแสดงภาวะผู้นำให้ประชาชนเห็นน่าจะเหมาะสมกว่า” นาย
ณัฐชากล่าว
นาย
ณัฐชากล่าวว่า ขอให้จับตาผลการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ จะเปิดเผยว่าพรรคไหนลงมติกันอย่างไร เชื่อว่าผลการลงมติครั้งนี้จะเป็นตะปูช่วยตอกลิ่มให้ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลร้าวลึกมากกว่าเดิม เพราะช่วงก่อนปิดสมัยประชุมสภาในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ส.ส.พรรค พท.คนหนึ่งก็อภิปรายตำหนิการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมาแล้ว รวมทั้งบทบาทของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แม้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงเป็นอันดับสอง แต่การทำหน้าที่ในสภา ไม่ต่างกับการมีฝ่ายค้านในรัฐบาล อย่างการโหวตสวนร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ให้คงจุดยืนใช้เกณฑ์เสียงข้างมากสองชั้นในการทำประชามติ ซึ่งแตกต่างจากจุดยืนของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จนได้รับฉายาจากสื่อประจำทำเนียบรัฐบาลว่า “
ภูมิใจขวาง” มาแล้ว
"ส.ว.พันธุ์ใหม่" หนุนแก้รธน. 256 ตั้งส.ส.ร. "นันทนา" ชี้ผ่านยากเหตุ "สว.สีนํ้าเงิน-ภท." ไม่เอา
https://siamrath.co.th/n/591819
วันที่ 4 ม.ค.2568 น.ส.
นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวถึงจุดยืนของกลุ่ม ส.ว.พันธุ์ใหม่ ต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ของนาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภากลางเดือนม.ค.นี้ ว่า ยืนยันว่าจะสนับสนุน เพราะการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมี ส.ส.ร.จากประชาชนทั้งหมด เป็นจุดยืนและหลักการของกลุ่มเรามาตั้งแต่ต้น ซึ่งทิศทางการลงมติ พ.ร.บ.ประชามติมีความเชื่อมโยงกับ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยจะเห็นได้ว่ากลุ่ม ส.ว.เสียงข้างมาก ไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เล่นเกมเยื้อในกระบวนการ ดังนั้นคาดว่าอาจจะไม่ได้เสียงสนับสนุนถึง 1 ใน 3
เมื่อถามว่า ต้องไปพูดคุยเกลี่ยกล่อมให้เขาเห็นด้วยหรือไม่ น.ส.
นันทนา กล่าวว่า หากดูจากการลงมติต่างๆ ที่ผ่านมา เราไม่สามารถไปเจรจา หรือพูดคุยโน้มน้าวกลุ่ม ส.ว.เสียงข้างมากได้ และเชื่อว่าทุกการลงมติหลังจากนี้จะเป็นปึกแผ่น 150 เสียงขึ้นไป
เมื่อถามว่า ต่อให้พรรคเพื่อไทยเสนอร่างประกบเข้ามา ก็มองว่าผ่านยากใช่หรือไม่ น.ส.
นันทนา กล่าวว่า ค่อนข้างยาก เพราะการลงมติของพรรค ภท. ประสานกับ ส.ว.เสียงข้างมาก เหมือนไม่พยายามให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย
เมื่อถามว่า จะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่าง 2 สภาหรือไม่ เพราะร่างของพรรค ปชน.เอง ก็ตัดอำนาจของ ส.ว.หลายอย่าง น.ส.
นันทนา กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง แต่เป็นเรื่องของหลักการทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยแบบสากล และมีอารยะ จะมองว่าลดอำนาจแล้วไม่โหวตให้ไม่ได้
“
อยากเตือนสติของสมาชิกรัฐสภาว่า การร่างรัฐธรรมนูญไม่ใช่ทําเพื่อใคร หรือกลุ่มใด แต่เป็นกติกาที่ใช้กับคนทั้งประเทศ ควรเป็นกติกาที่สากลยอมรับได้ และเป็นประชาธิปไตยแบบไม่ซ่อนเร้น ขอให้นึกถึงประชาชนทั้งประเทศ” น.ส.
นันทนา กล่าว
เงินบาท อ่อนค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จับตาสัปดาห์หน้า 4 ปัจจัยสำคัญ
https://www.prachachat.net/finance/news-1728103
เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ จับตา 4 ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของไทย สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางเงินหยวนและราคาทองคำในตลาดโลก
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทอ่อนค่าลง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เรื่องดอกเบี้ยเฟดและผลกระทบจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์
เงินบาทปรับตัวในกรอบแคบๆ ช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะพลิกอ่อนค่ากลับมาตามทิศทางการอ่อนค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคและเงินหยวน ซึ่งเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนถัดไปของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากข้อมูลด้านตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอจังหวะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ [จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลง 9,000 ราย ไปอยู่ที่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา vs. ตลาดคาดที่ 222,000 ราย]
ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ
ในวันศุกร์ที่ 3 ม.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 34.42 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.11 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (27 ธ.ค. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 2567 – 3 ม.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 1,140 ล้านบาท และ 7,861 ล้านบาท ตามลำดับ
JJNY : 5in1 4 ลูกเรือประมงไทยวืด!│ณัฐชาอัดรบ.│"ส.ว.พันธุ์ใหม่"หนุนแก้│เงินบาทอ่อนค่า จับตาสัปดาห์หน้า│ญี่ปุ่น-สหรัฐเตือน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9575746
ครบรอบวันชาติเมียนมา ปล่อยตัว 151 คนไทยถูกหลอกทำงานคอลเซ็นเตอร์ หลังรับโทษจำนวนหนึ่งก่อนได้รับอภัยโทษ ยังไร้ 4 ลูกเรือประมง
เมื่องันที่ 4 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย ที่ถูกเมียนมาจับกุมไปเมื่อปีที่แล้ว ในวันครบรอบวันชาติเมียนมาวันนี้ (4 ม.ค.)
ล่าสุด พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปจังหวัดเชียงราย รับตัวคนไทยที่ประสานให้เมียนปล่อยตัว ประมาณ 151 คน ที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เวลา 13.00 น.
มีรายงานข่าวว่า คนไทยจำนวน 151 คน เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยถูกหลอกให้ไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์และถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับกุม ถูกศาลตัดสินให้จำคุกและได้รับโทษมาเป็นเวลาหนึ่งแล้ว จึงได้รับอภัยโทษปล่อยตัว ส่วน 4 ลูกเรือประมงไทยยังไม่ได้รับการปล่อยตัว
ณัฐชา อัดรบ.ปากกล้าขาสั่น แนะเอาเวลาไปเตรียมรับซักฟอก โวลั่นตั้งองครักษ์ก็ช่วยไม่ได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4984299
”ณัฐชา“ เย้ยกลับรบ. อย่าปากกล้าขาสั่น ไล่เตรียมพร้อมรับซักฟอกดีกว่ามาดิสเครดิต ฝ่ายค้าน ขู่นายกฯ ยกองครักษ์มาเท่าใด ก็ช่วยไม่ได้ จับตาผลลงมติ ยิ่งตอกลิ่มให้พรรคร่วม ร้าวลึก
เมื่อวันที่ 4 มกราคม นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรี ของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะนำทีมโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ปชน. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เป็นคณะกรรมการจัดเตรียมข้อมูลและคัดเลือก ส.ส.ที่จะขึ้นมาอภิปรายฯครั้งนี้ โดยตนขอเสนอตัวเข้าร่วมอภิปรายด้วย
ทั้งนี้ ขอให้ติดตามการอภิปรายของนายณัฐพงษ์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านข้อมูลสารสนเทศ จะชี้ให้เห็นความแตกต่าง ผลดี ผลเสีย ระหว่างการบริหารแบบรัฐบาล กับการบริหาร และข้อแนะนำของฝ่ายค้านจะช่วยให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์มากกว่าได้อย่างไร
เมื่อถามว่า มองอย่างไรพรรคร่วมรัฐบาลออกมาปรามาสฝ่ายค้านว่า อย่าอภิปรายด้วยข้อมูลเก่า ตัดแปะ ไม่มีเนื้อหาสาระ และสร้างวาทกรรมเพื่อหวังตีกินทางการเมือง นายณัฐชากล่าวว่า ที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลรีบออกมาดิสเครดิตพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตั้งแต่ก่อนที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเกรงกลัวข้อมูลของพรรคฝ่ายค้าน เป็นอาการของพวกปากกล้าขาสั่นหรือไม่ ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าพรรค ปชน.ที่ทำหน้าที่สืบต่อจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีประสบการณ์การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมาแล้ว 1 สมัย ยืนยันว่าการอภิปรายพรรค ปชน.มีมาตรฐานด้วยเนื้อหาสาระ ข้อมูลหลักฐานครบถ้วน จะชี้ให้เห็นข้อบกพร่องและสิ่งที่รัฐบาล รวมทั้งรัฐมนตรีบางกระทรวงที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจนแน่นอน และหลังการอภิปรายทุกครั้งจะนำข้อมูล หลักฐานยื่นให้องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องต่ออย่างแน่นอน ที่ผ่านมาอดีตพรรค ก.ก.ได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และยื่นให้องค์กรอิสระตรวจสอบต่อถึงขั้นทำให้อดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่ทำหน้าที่เลขาธิการพรรคการเมืองหนึ่งพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว ขอให้มั่นใจว่าพรรค ปชน.จะอภิปรายอย่างเต็มที่ ไม่มีมวยล้ม ไม่มีชกไม่สมศักดิ์ศรีแน่นอน
“ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลและรัฐมนตรีเอาเวลาไปเตรียมข้อมูล เอกสาร ข้อเท็จจริงต่างๆ ไว้ให้พร้อมรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรค ปชน.จะดีกว่า การรีบออกมาดิสเครดิตพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตั้งแต่ยังไม่มีการอภิปราย แต่ขออย่าทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ บริหารประเทศมาได้เพียง 90 วัน เพราะข้อเท็จจริง รัฐบาลแพทองธาร บริหารประเทศต่อจากรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มาเป็นเวลากว่า 1 ปี 6 เดือนแล้ว หลายนโยบายก็สานต่อมาจากรัฐบาลเศรษฐา และบางเรื่องก็ไม่ยอมแก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงและการบริหารแบบฝ่ายค้านจะทำให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์มากกว่าอย่างไร ขอให้มั่นใจว่าพรรค ปชน.รักษามาตรฐาน การทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก ขอให้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ไม่มีผิดหวังแน่นอน” นายณัฐชากล่าว
เมื่อถามว่า พอยกตัวอย่างประเด็น และรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายได้หรือไม่ ว่ามีใครบ้าง นายณัฐชากล่าวว่า ตามธรรมเนียมตั้งแต่พรรค ก.ก.มาจนถึงพรรค ปชน. เราจะมีคณะกรรมการจัดเตรียมข้อมูลและคัดเลือก ส.ส.ที่จะมาทำหน้าที่อภิปราย ทุกครั้งจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลและประเด็นที่จะเปิดอภิปรายออกมาก่อน แต่เชื่อว่ารัฐบาลพอจะเก็งข้อสอบไว้ล่วงหน้าได้ แต่จะถูกต้องหมดหรือไม่ ต้องรอติดตามวันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะจัดองค์รักษ์ขึ้นมาประท้วงเพื่อช่วยนายกฯ และทำให้ฝ่ายค้านเสียสมาธิการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายณัฐชากล่าวว่า ไม่กังวล ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะเตรียมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ มากี่คน ก็ไม่สามารถช่วย น.ส.แพทองธารได้ เพราะนายกฯต้องตอบข้อกล่าวหา และคำถามของพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยตัวเอง เนื่องจากประชาชนทางบ้านที่ติดตามการอภิปรายครั้งนี้จะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าแต่ละฝ่าย ใครทำหน้าที่ออกมาอย่างไร สิ่งที่อยากเห็นคือ นายกฯควรตอบและชี้แจงให้ตรงกับการอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประชาชนจะได้ไม่เสียเวลาในการติดตาม
“ในการอภิปรายอยากเห็นนายกฯแสดงภาวะผู้นำในการบริหารประเทศด้วยตัวเอง มากกว่าการมีองครักษ์มาคอยช่วย หรือจะให้รัฐมนตรีมาช่วยชี้แจงข้อกล่าวหา เพราะที่ผ่านมานายกฯมักมีข้อครหาถึงภาวะผู้นำ ที่ยังไม่เด่นชัดเท่ากับทีมที่ปรึกษา โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บิดาของ น.ส.แพทองธาร ที่มักเคลื่อนไหวทางการเมือง เสนอแนะแนวทางต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในประเด็นทางเศรษฐกิจ จนชิงภาวะการนำได้มากกว่านายกฯ ทางออกที่ดีรัฐบาลควรให้นายทักษิณอยู่นิ่งๆ แล้วให้นายกฯแสดงภาวะผู้นำให้ประชาชนเห็นน่าจะเหมาะสมกว่า” นายณัฐชากล่าว
นายณัฐชากล่าวว่า ขอให้จับตาผลการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ จะเปิดเผยว่าพรรคไหนลงมติกันอย่างไร เชื่อว่าผลการลงมติครั้งนี้จะเป็นตะปูช่วยตอกลิ่มให้ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลร้าวลึกมากกว่าเดิม เพราะช่วงก่อนปิดสมัยประชุมสภาในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ส.ส.พรรค พท.คนหนึ่งก็อภิปรายตำหนิการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมาแล้ว รวมทั้งบทบาทของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แม้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงเป็นอันดับสอง แต่การทำหน้าที่ในสภา ไม่ต่างกับการมีฝ่ายค้านในรัฐบาล อย่างการโหวตสวนร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ให้คงจุดยืนใช้เกณฑ์เสียงข้างมากสองชั้นในการทำประชามติ ซึ่งแตกต่างจากจุดยืนของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จนได้รับฉายาจากสื่อประจำทำเนียบรัฐบาลว่า “ภูมิใจขวาง” มาแล้ว
"ส.ว.พันธุ์ใหม่" หนุนแก้รธน. 256 ตั้งส.ส.ร. "นันทนา" ชี้ผ่านยากเหตุ "สว.สีนํ้าเงิน-ภท." ไม่เอา
https://siamrath.co.th/n/591819
วันที่ 4 ม.ค.2568 น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวถึงจุดยืนของกลุ่ม ส.ว.พันธุ์ใหม่ ต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภากลางเดือนม.ค.นี้ ว่า ยืนยันว่าจะสนับสนุน เพราะการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมี ส.ส.ร.จากประชาชนทั้งหมด เป็นจุดยืนและหลักการของกลุ่มเรามาตั้งแต่ต้น ซึ่งทิศทางการลงมติ พ.ร.บ.ประชามติมีความเชื่อมโยงกับ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยจะเห็นได้ว่ากลุ่ม ส.ว.เสียงข้างมาก ไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เล่นเกมเยื้อในกระบวนการ ดังนั้นคาดว่าอาจจะไม่ได้เสียงสนับสนุนถึง 1 ใน 3
เมื่อถามว่า ต้องไปพูดคุยเกลี่ยกล่อมให้เขาเห็นด้วยหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า หากดูจากการลงมติต่างๆ ที่ผ่านมา เราไม่สามารถไปเจรจา หรือพูดคุยโน้มน้าวกลุ่ม ส.ว.เสียงข้างมากได้ และเชื่อว่าทุกการลงมติหลังจากนี้จะเป็นปึกแผ่น 150 เสียงขึ้นไป
เมื่อถามว่า ต่อให้พรรคเพื่อไทยเสนอร่างประกบเข้ามา ก็มองว่าผ่านยากใช่หรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า ค่อนข้างยาก เพราะการลงมติของพรรค ภท. ประสานกับ ส.ว.เสียงข้างมาก เหมือนไม่พยายามให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย
เมื่อถามว่า จะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่าง 2 สภาหรือไม่ เพราะร่างของพรรค ปชน.เอง ก็ตัดอำนาจของ ส.ว.หลายอย่าง น.ส.นันทนา กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง แต่เป็นเรื่องของหลักการทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยแบบสากล และมีอารยะ จะมองว่าลดอำนาจแล้วไม่โหวตให้ไม่ได้
“อยากเตือนสติของสมาชิกรัฐสภาว่า การร่างรัฐธรรมนูญไม่ใช่ทําเพื่อใคร หรือกลุ่มใด แต่เป็นกติกาที่ใช้กับคนทั้งประเทศ ควรเป็นกติกาที่สากลยอมรับได้ และเป็นประชาธิปไตยแบบไม่ซ่อนเร้น ขอให้นึกถึงประชาชนทั้งประเทศ” น.ส.นันทนา กล่าว
เงินบาท อ่อนค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จับตาสัปดาห์หน้า 4 ปัจจัยสำคัญ
https://www.prachachat.net/finance/news-1728103
เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ จับตา 4 ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของไทย สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางเงินหยวนและราคาทองคำในตลาดโลก
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทอ่อนค่าลง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เรื่องดอกเบี้ยเฟดและผลกระทบจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์
เงินบาทปรับตัวในกรอบแคบๆ ช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะพลิกอ่อนค่ากลับมาตามทิศทางการอ่อนค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคและเงินหยวน ซึ่งเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนถัดไปของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากข้อมูลด้านตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอจังหวะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ [จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลง 9,000 ราย ไปอยู่ที่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา vs. ตลาดคาดที่ 222,000 ราย]
ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ
ในวันศุกร์ที่ 3 ม.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 34.42 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.11 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (27 ธ.ค. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 2567 – 3 ม.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 1,140 ล้านบาท และ 7,861 ล้านบาท ตามลำดับ