JJNY : จุดพลุสนั่นหน้าเรือนจำ│ไฟใต้เดือดอีก ยิงถล่มกระบะ│‘วันนอร์‘เชื่อการเมืองปี68 ร้อนแรงกว่า│ยูเครนไม่ต่อสัญญาส่งก๊าซ

จุดพลุสนั่นหน้าเรือนจำ ถามชัดๆ ‘เมื่อไรเพื่อนได้ประกัน’ ผลัดปราศรัยเดือดส่งท้ายปีเก่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_4980010
 
จุดพลุสนั่นหน้าเรือนจำ ถามชัดๆ ‘เมื่อไรเพื่อนได้ประกัน’ ผลัดปราศรัยเดือดส่งท้ายปีเก่า
 
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร นักกิจกรรมอิสระ จัดกิจกรรม ‘เราจะไม่ทอดทิ้งกัน’ ส่งผ่านปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปพร้อมกับเพื่อนๆ
 
โดยนัดหมายเคาต์ดาวน์ปีใหม่ 2568 หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กับเพื่อนในเรือนจำอีก 33 คน เพื่อส่งกำลังใจให้กับเพื่อนผู้ต้องหาทางการเมืองที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
 
บรรยากาศตั้งแต่เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองอิสระ ตลอดจนอดีตคนเสื้อแดงและเยาวชนคนรุ่นใหม่ เดินทางมารวมตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงนายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง คดี ม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 รวมถึง เจ๊ป๊อกกี้, คุณบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน, นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ’ แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ
 
นอกจากนี้ยังมี นายเทพดรุณ สุรฤทธิ์ธำรง บิดาของนายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเป็นเวลากว่า 1 ปี ไปจนถึง นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน พร้อมด้วย น.ส.พลอยวรินทร์ หรือ พ้อย น้องสาวของเพนกวิน ผู้ลี้ภัยทางการเมืองคนล่าสุด เดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วย โดยผู้ร่วมงานต่างนำอาหารมาจับกลุ่มล้อมวงรับประทานร่วมกันหลากหลายเมนู อาทิ ลาบ ส้มตำ  บาร์บีคิว ไปจนถึงน้ำหวาน เป็นต้น
 
บรรยากาศเวลา 18.30 น.นายณัฐพงษ์ ภูแก้ว หรือ ‘แก้วใส’ นักร้องและมือกีตาร์วงสามัญชนและ ‘หนวดริมทาง’ ศิลปินอิสระที่ใช้บทเพลงเคลื่อนไหวทางการเมือง ร่วมบรรเลงหลายบทเพลง นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมจับฉลากของขวัญ และเล่นเกมส่งท้ายปีเก่า รวมถึงเขียนข้อความ ส่งถึงนักโทษทางการเมือง
 
ต่อมาเวลา 19.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรถกระบะของ กรมราชทัณฑ์ ขับมาจอดบริเวณที่จัดกิจกรรม โดยนำโจ๊กหมู มาแจกให้กับผู้ร่วมงาน
 
บรรยากาศเวลา 20.30 น. ต้นอ้อ นักกิจกรรมทางการเมือง กล่าวในหัวข้อ ‘ประชาชนอยากปลดแอก รัฐที่เป็นธรรม’ โดยกล่าวว่า เรายังรอเพื่อนนักต่อสู้ออกมา เรายังคือเพื่อนกัน ในเรื่องการต่อสู้ เราสู้กันมายาวนานมาก เป็นสิบๆ ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ เสื้อแดงสูญเสีย โดนทำร้าย เราเจอเยาวชนปลดแอก เราเห็นน้องๆ นักเรียน กล้าออกมาม็อบ มาชู 3 นิ้ว เป็นอะไรที่เราเชื่อเหลือเกินว่า จะสร้างความหวังไปถึงคนที่ไม่เคยเห็นหัวเราบ้าง
 
“มีคนมากมายโดนคุกคาม เพียงเพราะเขากล้าที่จะออกมาแสดงความคิดเห็น ออกมาพูด เสรีภาพ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมีใครพรากจากเราไป ประชาชนต้องมีสิทธิมีเสียง และรัฐเองต้องดูแลคุ้มครอง แต่ที่ผ่านเหมือนถูกทำให้เจ็บใจ เราเจอแก๊สน้ำตา กระสุนยาง พี่น้องบางคนโดนกระสุนยิงจนบาดเจ็บ มันไม่เป็นธรรม และไม่ควรเกิดอย่างยิ่ง
 
เราเชื่อว่าเสียงของพวกเรามีความหมาย เราอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ไม่รับฟังคนเห็นต่าง มันไม่สมควรเป็นเช่นนั้น เพื่อนเรามากมายอยู่ในเรือนจำ ถูกคุมขัง โดนแจ้งข้อหา ทั้ง 112 พ.ร.บ.ชุมนุม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บางคนเข้าไปอยู่เป็นร้อยๆ วัน บางคนอยู่เป็นปีๆ” ต้นอ้อกล่าว
 
ต้นอ้อ กล่าวต่อว่า ถ้าจำได้เพื่อนเรา เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ เคยอดอาหารอยู่หลายเดือน จนต้องเข้าโรงพยาบาล เก็ท โสภณ กรีดหน้าอกแสดงสัญลักษณ์
 
แม้กระทั่งอยู่ข้างในเข้ายังสู้ แล้วเราจะเลิกสู้ไหม เรายังยืนยัน เสียทุกคนมีค่า ส่วนตัวเป็นคนรุ่นใหม่ที่เชื่อว่า เราจะปลดแอกสิ่งที่เรียกว่ากะลาได้ และพี่น้องหลายคนคงจะเห็นว่า เราต่างเดือดร้อนทั้งสิ้น หลายคนขึ้นมาจากต่างจังหวัด เพราะได้รับผลกระทบจากการทำงานที่ไม่เป็นธรรม
 
เพราะปล่อยให้เรารอเสมอมา จนบางคนรอจะแทบขาดใจตาย พี่น้องจึงรวมตัวกันขึ้นมากรุงเทพฯ ใช้แรงกายแรงใจกันมา หวังว่าข้อเรียกร้องจะได้รับการตอบรับ” ต้นอ้อกล่าว และว่า เด็กรุ่นใหม่ พร้อมเข้ามาช่วยเหลือ ในการต่อสู้
 
ต้นอ้อกล่าวอีกด้วยว่า เราออกมาช่วยกัน อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราเชื่อว่าหลายคนยังสู้
 
จากนั้น ‘ต้นอ้อ’ อ่านบทกวี “เพียงความคิดไม่อาจขัง เพียงผนังไม่อาจกั้น เพียงรอยขีดคอยกีดกัน ใช่ลบฝันที่เรามี” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ‘บทเพลงของสามัญชน
 
บรรยากาศเวลา 20.42 น. มาชุน สามีของ นางเงินตา คำแสน หรือ มานี ชาวจังหวัดยโสธรวัย 44 ปี ผู้ต้องหา ม.112 จากการไลฟ์สดการชุมนุม กล่าวถึงภรรยาที่ยังไม่ได้รับสิทธิประกันตัว ซึ่งยังถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลาง
 
มาชุนกล่าวว่า พี่มานี และขุนแผนแสนสะท้าน สื่ออิสระ โดนคดี ม.112 และ ม.113 รวมถึงพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่ง มานีกับขุนแผน ได้ไปเรียกร้องสิทธิการประกันตัว ให้แก่ ใบปอ – ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ และ บุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม
 
เราไปทำกิจกรรมที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ในตอนนั้น กลับได้ข้อหากลับมา ยังมีอีกหลายคนโดนคดีนี้ด้วย เป็นแม่ๆ ที่โดนทั้ง 2 คน” มาชุนเผย
 
ด้าน เจ๊ป๊อกกี้ ตั้งคำถามถึงการใช้กฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐ นิติธรรม
 
มาชุน’ กล่าวต่อว่า เพื่อนเรา 33 คน ยังอยู่ข้างใน หลังกำแพงสูง ตนมาที่นี่เกือบทุกวัน 167 วัน และได้รับรู้ ได้เห็นเพื่อนๆ เห็นภรรยา
 
เพื่อนของผมที่อยู่ในเรือนจำ เมื่อไหร่จะได้รับการประกันตัว คดีบุ้งเมื่อไหร่จะได้รับความยุติธรรม เรามาให้กำลังใจเพื่อนๆ เรา พวกเขาต้องการกำลังใจเป็นที่สุด ข้างนอกต้องเป็นกำลังใจให้พวกเจา ต้องไม่ทิ้งพวกเขา” มาชุนกล่าวก่อนร่วมกันชู 3 นิ้ว จากนัน ร้องเพลงที่มีเนื้อหา สื่อถึงความคิดถึง ‘มานี’
มาชุน กล่าวอีกด้วยว่า ขอบคุณที่มา ถ้าเขารู้คงดีใจ ถือเป็นกำลังใจที่ดีที่สุด ขอให้ทุกคนได้รับสิทธิประกันตัว ออกมาอยู่กับครอบครัวทุกคน
 
นอกจากนี้ ยังประชาสัมพันธ์ด้วยว่า วันที่ 13 มกราคม ที่ศาลธัญบุรี จะมีการไต่สวนการเสียชีวิต คดีของ น.ส.เนติพร หากผู้ใดอยากเข้าร่วมฟังการไต่สวน สามารถไปร่วมฟังการสืบพยานได้ ในเวลา 13.00 น
 
จากนั้น มาชุน ร่วมร้องเพลง ‘บุ้ง เนติพร
 
โดยเวลา 21.00 น. มีการจับสลากของขวัญปีใหม่ แลกของขวัญระหว่างนักเคลื่อนไหวทางการเมือง
 
ต่อมาเวลา 20.56 น. มีการเปิดคลิปเสียงปราศรัย น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง
นิรโทษกรรมประชาชน ปล่อนเพื่อนเรา ขออวยพรให้ได้รับอิสรภาพ
 
บรรยากาศเวลา 23.59 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชน ตลอดจนนักกิจกรรมทางการเมือง ร่วมนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยมีการจุดพลุ ที่สะพานลอยหน้าเรือนจำ เกือบ 100 นัด บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน
 
จากนั้น ภรรยาของขุนแผนแสนสะท้าน กล่าวว่า ขอฝากสื่อแลถสังคม ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือกันมาตลอด พวกเราที่ออกมาต่อสู้ ไม่ได้หวังอะไรจากสังคมเลย ดีใจที่ไม่ทิ้ง ขุนแผนแสนสะท้าน

จากนั้น เวลา 00.05 น. พอร์ท ไฟเย็น บรรเลงบทเพลงที่มีเนื้อหาถึงการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยบรรยากากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
 

 
ไฟใต้เดือดอีก ยิงถล่มกระบะทหารสนั่นสุไหงปาดี "จ.ส.อ."พลีชีพ จุดไฟเผาวอดทั้งคัน 
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9571991

ชายแดนใต้โหดอีก รัวยิงถล่มรถกระบะเจ้าหน้าที่ทหาร จ.ส.อ. พลีชีพ จุดไฟเผารถวอดทั้งคันที่ สุไหงปาดี นราธิวาส
 
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 31 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานเกิดเหตุคนร้าย ใช้อาวุธปืนยิงถล่มรถกระบะเจ้าหน้าที่ทหาร เหตุเกิดภายในสวนปาล์ม หมู่ 1 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ส่งผลให้ จ.ส.อ.อนันต์ มณีโชติ ทหารสังกัด ชปข.ทพ.ฉก.48 ถูกกระสุนปืนคนร้ายเสียชีวิต
 
จากนั้นคนร้ายจุดไฟเผารถกระบะ สีขาว เสียหายทั้งคัน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงเข้าตรวจสอบ นำร่าง จ.ส.อ.อนันต์ มณีโชติ ส่งรพ. พร้อมเก็บรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป



‘วันนอร์‘ เชื่อการเมืองปี 68 ร้อนแรงกว่าที่ผ่านมา มอง ’รัฐบาล‘ แก้ปากท้องได้ อาจอยู่ครบเทอม
https://www.dailynews.co.th/news/4245550/

‘วันนอร์’ เชื่อการเมืองปี 68 ร้อนแรงกว่าที่ผ่านมา “รัฐบาล” แก้ปากท้องได้ก็อาจอยู่ครบเทอม หวังปชช. เห็นสภาเป็นที่ถกเถียงแก้ปัญหาบ้านเมือง มากกว่าแก้ด้วยวิธีอื่น

เมื่อวันที่ 1ม.ค. 68  นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ประเมินถึงสถานการณ์การเมืองในปี 68 ว่า การเมืองปี 68 สำหรับรัฐบาลได้ย่างเข้าสู่ปีที่ 2 เป็นเวลาเกือบครึ่งเทอม เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความเข้มข้นของการเมืองมากกว่าปีแรกๆ รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอีกมาก ส่วนตัวจึงเชื่อว่าปี 68 การเมืองอาจจะรุนแรงมากกว่าปี 66 และ 67
 
หากเราได้ร่วมมือกัน โดยเฉพาะรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประชาชนที่เดือดร้อนในขณะนี้ได้ ความร้อนแรงก็จะลดลงไป รัฐบาลก็อาจจะอยู่ครบเทอมก็ได้ จึงขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล” ประธานรัฐสภากล่าว
 
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ส่วนตนในฐานะที่เป็นประธานรัฐสภา ที่มองสิ่งต่างๆ ก็เห็นว่าเฉพาะนักการเมือง ทั้ง สส. และ สว. ก็มีพัฒนาการไปในทางที่สร้างสรรค์มากขึ้น การอภิปราย การทำการบ้าน ของสมาชิกรัฐสภาก็เป็นไปด้วยดี มีหลักมีฐาน การประชุมสภาในปี 67 ที่ผ่านมาก็ไม่เคยล่ม องค์ประชุมครบ เราอยู่ทำงานกันจนดึกดื่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย   ทั้งนี้ หวังว่าในปี 68 เฉพาะในด้านนิติบัญญัติ คงจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมือนกับปีที่ผ่านมา มีกฎหมายอีกหลายฉบับที่กำลังรอให้สมาชิกได้พิจารณาให้จบ รวมทั้งญัตติความเดือดร้อนต่างๆ ก็จำเป็นต้องใช้รัฐสภาในการพิจารณาแก้ไข 
 
หวังว่าพี่น้องประชาชนจะหวังใช้สภาในการแก้ปัญหาบ้านเมือง มากกว่าที่จะแก้ด้วยวิธีอื่นๆ เพราะวิถีประชาธิปไตยคือการใช้รัฐสภาเป็นที่ถกเถียงแก้ปัญหาของบ้านเมือง ผมก็หวังอย่างนั้น และสภาเราก็พร้อมจะทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

เมื่อถามว่า การเมืองที่ร้อนแรงขึ้น จะมีผลให้การทำงานของสภาต้องสะดุดลงหรือไม่นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า  สภาก็คงไม่มีอะไร เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ จะมีร้อนแรงหน่อยก็เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ หากฝ่ายค้านเห็นว่ามีประเด็นที่ต้องอภิปรายรัฐบาล ก็สามารถยื่นอภิปรายได้ ทั้งแบบไม่ลงมติ หรือแบบลงมติไม่ไว้วางใจ 

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่มีเกือบทุกสมัยการประชุม สมัยที่แล้วไม่มี แต่เชื่อว่าสมัยนี้ฝ่ายค้านก็เตรียมพร้อมจะเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องพร้อมตอบ เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลแก้ปัญหาอะไรบ้าง การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นบทบาททางการเมืองที่พิสูจน์ให้ประชาชนเห็นการทำงานทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านว่าเป็นอย่างไร.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่