หมอพูดเอง! แชร์ประสบการณ์หดหู่ ตรวจคนไข้ ประกันสังคม ลั่น รู้สึกแย่ จนไม่อยากเจออีกแล้ว
https://www.matichon.co.th/social/news_4975336
หมอพูดเอง! แชร์ประสบการณ์หดหู่ ตรวจคนไข้ ประกันสังคม ลั่น รู้สึกแย่ จนไม่อยากเจออีกแล้ว
กลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อคุณหมอท่านหนึ่งในติ๊กต็อก ออกมาแชร์ประสบการณ์หลังได้ตรวจคนไข้ประกันสังคม ระบุว่า
หดหู่ที่สุด จนไม่อยากกลับไปทำงานแบบนี้อีกแล้ว ก่อนหน้านี้เคยเห็นคนออกมาบ่นว่า หมอประกันสังคมหมอเหมือนไม่ใส่ใจ หรือตรวจไม่ดี
ตนได้ไปรับงานประกันสังคม โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตรวจคนไข้ตามปกติ ใครมีปัญหาก็ตรวจนาน ตรวจชั่วโมงแรกได้ 3-4 คน ด้านผู้ช่วยพยาบาลเร่งให้ตรวจไวๆ ก็เข้าใจได้ว่า คนไข้เยอะ แต่บางคนจำเป็นต้องรับการตรวจเลือดจริงๆ ด้านผู้ช่วยก็กระซิบบอกอีกว่า มันเกินค่าใช้จ่ายต่อครั้งของคนไข้ จึงต้องตัดรายการตรวจออกต่อหน้าคนไข้
“
เรารู้สึกแย่กับคนไข้มากๆเลย ทำไมคนไข้ไม่ได้รับสิทธิการรักษาที่ครบถ้วน พอเป็นสิทธินี้ต้องแบ่งตรวจ ครั้งนี้ตรวจอย่างหนึ่ง ครั้งหน้าตรวจอย่างหนึ่ง แล้วเราจะวินิจฉัยคนไข้ได้เมื่อไหร่” หมอกล่าว
คุณหมอกล่าวต่อว่า “
พอตรวจเสร็จ เวลาเหลือ ผู้ช่วยบ่นว่า “ไม่มีเคสส่งให้หมอเลย” อ้าวมันยังเหลือเวลาที่หมอได้นั่งว่าง เราแบ่งเวลาให้คนไข้ไม่ได้เหรอ ตรวจนานกว่านี้ไม่ได้เหรอ ไม่สงสารคนไข้เหรอ หรืออยู่ตรงนี้นานเกินจนไม่มีจิตใจความเป็นมนุษย์ บอกเลยไม่ใช่คนไข้ที่รู้สึกแย่ หมอก็รู้สึกแย่มาก”
ทั้งนี้ หลังคลิปดังกล่าวมียอดผู้ชมถึง 3 ล้าน รวมถึงคอมเมนต์มากมาย อาทิ
• เป็นหมอคนแรกในประเทศเราครับ ที่มีจรรยาบรรณ และออกมาเสนอความเป็นมนุษย์ ขอบคุณครับ คุณหมอมีความเป็นหมอ โดยสมบูรณ์
• ขอบคุณค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
• เงินประกันสังคมที่เขาเก็บไปใช้เพื่อลงทุนแสวงหากำไรไม่ได้เก็บเพื่อประโยชน์แรงงานครับ
• เอาง่ายๆ ประกันสังคม เอาเปรียบทุกทาง ทั้งค่ารักษา ทั้งเงินออม แย่มาก
• 750 บาท/ เดือน เท่ากับซื้อประกันดีๆได้1แผนเลยนะคะหมอ ขอบคุณหมอที่เข้าใจคนไข้นะคะ
• หมอที่มีจรรยาบรรณ มีเยอะนะคะ แต่ระบบทำให้หมอเครียด
• มาตรฐานประกันสังคมกับบัตรทอง เคยได้ยินว่าแตกต่างกัน น่าจะจริงนะคะ
• ขอให้หมอเจอแต่สิ่งดีดีในชีวิต อย่าสูญเสียตัวตนและจิตวิญญาณนี้ไปนะคะ
เผยผลโครงการ 'นักสืบทุนเทา' ร้องเรียน 1,000 เรื่องใน 2 เดือน 'นอมินีต่างชาติ' ปัญหาอันดับ 1
https://prachatai.com/journal/2024/12/111857
กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เผยผลโครงการ 'นักสืบทุนเทา' ร้องเรียน 1,000 เรื่องใน 2 เดือน นอมินีต่างชาติปัญหาอันดับ 1 ห้วยขวางนำโด่งพื้นที่ร้องเรียนสูงสุดในกรุงเทพฯ รองลงมาปทุมวัน-ราชเทวี ขณะที่ภูเก็ตครองแชมป์ต่างจังหวัด พบแก้ไขแล้วเพียง 7% เร่งหน่วยงานเกี่ยวข้องติดตามปัญหา ก่อนปิดรับเรื่องสิ้นปี 2567
เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2567 ว่า นาย
สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าโครงการนักสืบทุนเทา หลังดำเนินการครบ 2 เดือน ว่า โครงการนักสืบทุนเทาเป็นการเปิดรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติผิดกฎหมาย โดยเฉพาะปัญหานอมินี โดยให้ประชาชนร้องเรียนผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส สนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ตลอดจนแก้ไขความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการไทย ที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบรุนแรงจากสินค้าและธุรกิจต่างชาติผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เปิดโครงการเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2567 ปัจจุบันดำเนินการมากว่า 2 เดือน เปิดให้ประชาชนร้องเรียนใน 6 ประเด็นปัญหา ได้แก่
1. สินค้าที่ไม่มีเครื่องหมายการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)
2. สินค้าที่ไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.)
3. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา
4. ธุรกิจที่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) จากผู้บริโภค แต่ไม่สามารถออกใบกำกับภาษีได้
5. การโอนเงินโดยตรงเข้าบัญชีต่างประเทศ
และ 6. การประกอบธุรกิจผ่านนอมินีของชาวต่างชาติผิดกฎหมาย
โดยจนถึงวันที่ 26 ธ.ค. 2567 มีประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนผ่านโครงการนักสืบทุนเทาแล้วกว่า 1,121 เรื่อง และ กมธ.ได้ตรวจสอบ คัดกรอง และส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว จำนวน 1,104 เรื่อง ซึ่งเชิงสถิติเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนมากที่สุด คือ ปัญหานอมินีต่างชาติ จำนวน 447 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 44 ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด รองลงมาคือปัญหาสินค้าไม่มีเครื่องหมาย มอก. จำนวน 241 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 24 และอันดับสาม คือ ปัญหาสินค้าไม่มีเครื่องหมาย อย. จำนวน 180 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 18 ส่วนพื้นที่จังหวัดที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามามากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร กว่า 700 เรื่อง และหากเจาะลึกเฉพาะเขต พบว่า อันดับ 1 เขตห้วยขวาง จำนวน 191 เรื่อง อันดับสอง เขตปทุมวัน จำนวน 95 เรื่อง และอันดับ 3 เขตราชเทวี จำนวน 55 เรื่อง ส่วนจังหวัดรองลงมาคือ ภูเก็ต มีเรื่องร้องเรียนเข้ามากว่า 150 เรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับปัญหานอมินี
ทั้งนี้ ในการประชุม กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2567 ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงานเข้าชี้แจงถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาเรื่องร้องเรียน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยหน่วยงานชี้แจงว่า เรื่องร้องเรียนส่วนมากอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ปัญหา ปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว 72 เรื่อง หรือคิดเป็นร้อยละ 7 ซึ่ง กมธ.ได้ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา พร้อมให้แจ้งความคืบหน้า กมธ. ขณะที่ทุกหน่วยงานรับปากจะเร่งดำเนินการต่อไป
สำหรับปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแก่ประชาชน ทราบว่าพบปัญหาได้รับข้อมูลไม่เพียงพอ เช่น ชื่อร้านค้า เลขใบอนุญาด ฯลฯ ทางกรรมาธิการฯ จึงขอให้หน่วยงานพิจารณาเข้าร่วมระบบ Plug In เพื่อติดต่อกับผู้ร้องเรียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อันจะทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันมีเพียงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เท่านั้น ที่เข้าร่วมระบบ
อย่างไรก็ตาม โครงการนักสืบสายเทา จะปิดรับเรื่องร้องเรียนภายในสิ้นปี 2567 นี้ (31 ธ.ค.) โดยหลังจากนี้ กมธ.จะติดตามการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานต่าง ๆ ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าเพื่อนำมารายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบ ตลอดจนจะจัดทำข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเพื่อเสนอรัฐบาลต่อไป
จนท.เร่งตรวจสอบ เหตุซุ่มยิงตร.เจ็บ 1 ที่ยะลา เผย ยังไม่ตัดประเด็นสร้างสถานการณ์ ป่วนเมืองปีใหม่
https://www.matichon.co.th/region/news_4975436
จนท.เร่งตรวจสอบ เหตุซุ่มยิงตร.เจ็บ 1 ที่ยะลา เผย ยังไม่ตัดประเด็นสร้างสถานการณ์ ป่วนเมืองปีใหม่
จากเหตุการณ์คนร้าย ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนำกำลังเข้าตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่น บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ถนนสาย 418 (ยะลา-ปัตตานี) ฝั่งขาเข้าเมืองยะลา ส่งผลทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ คือ จ.ส.ต.
อัสรี (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็ว จุดตรวจท่าสาป หลังเกิดเหตุ เพื่อนตำรวจได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
ล่าสุดเช้าวันที่ 28 ธันวาคม พล.ต.ต.
เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมทั้งรุดเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ที่โรงพยาบาลยะลา ล่าสุดอาการปลอดภัย รอแพทย์ทำการผ่าหัวกระสุนออก ทั้งนี้ที่ผ่านมาเหตุวัยรุ่นป่วนก่อกวนในพื้นที่จังหวัดยะลา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ เคลื่อนที่เร็ว เข้าตรวจสอบทุกพื้นที่ ป้องกันเหตุอย่างเข้มข้น โดยเหตุที่เกิดขึ้นนั้น มีการถูงยิงมาจากด้านข้างของถนนสาย 418 โดยที่เกิดเหตุค่อนข้างมืด ทางเจ้าหน้าที่รอการเข้าตรวจสอบโดยละเอียดในช่วงเช้าของวันนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเรื่องของกลุ่มวัยรุ่นที่คึกคะนอง อาจจะไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความเข้มงวด ในการคุมเข้ม หรือเป็นเรื่องของการก่อเหตุสร้างความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยละเอียดและยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
ทั้งนี้ มาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในห้วงเทศกาลปีใหม่นี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีปราบปรามและป้องเหตุความไม่สงบอย่างเข้มงวด ทั้งเหตุความมั่นคง และเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่น โดยการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เพิ่มอีก 7 ชุด ในการตรวจตรา ลาดตระเวนเชิงรุกทุกพื้นที่ ที่มีการรวมกลุ่มของวัยรุ่น โดยเฉพาะในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
JJNY : แชร์ประสบการณ์หดหู่│เผยผลโครงการ'นักสืบทุนเทา'│เร่งสอบซุ่มยิงตร.เจ็บ1ที่ยะลา│ผู้รอดชีวิตอาเซอร์ไบจานเล่านาทีระทึก
https://www.matichon.co.th/social/news_4975336
หมอพูดเอง! แชร์ประสบการณ์หดหู่ ตรวจคนไข้ ประกันสังคม ลั่น รู้สึกแย่ จนไม่อยากเจออีกแล้ว
กลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อคุณหมอท่านหนึ่งในติ๊กต็อก ออกมาแชร์ประสบการณ์หลังได้ตรวจคนไข้ประกันสังคม ระบุว่า
หดหู่ที่สุด จนไม่อยากกลับไปทำงานแบบนี้อีกแล้ว ก่อนหน้านี้เคยเห็นคนออกมาบ่นว่า หมอประกันสังคมหมอเหมือนไม่ใส่ใจ หรือตรวจไม่ดี
ตนได้ไปรับงานประกันสังคม โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตรวจคนไข้ตามปกติ ใครมีปัญหาก็ตรวจนาน ตรวจชั่วโมงแรกได้ 3-4 คน ด้านผู้ช่วยพยาบาลเร่งให้ตรวจไวๆ ก็เข้าใจได้ว่า คนไข้เยอะ แต่บางคนจำเป็นต้องรับการตรวจเลือดจริงๆ ด้านผู้ช่วยก็กระซิบบอกอีกว่า มันเกินค่าใช้จ่ายต่อครั้งของคนไข้ จึงต้องตัดรายการตรวจออกต่อหน้าคนไข้
“เรารู้สึกแย่กับคนไข้มากๆเลย ทำไมคนไข้ไม่ได้รับสิทธิการรักษาที่ครบถ้วน พอเป็นสิทธินี้ต้องแบ่งตรวจ ครั้งนี้ตรวจอย่างหนึ่ง ครั้งหน้าตรวจอย่างหนึ่ง แล้วเราจะวินิจฉัยคนไข้ได้เมื่อไหร่” หมอกล่าว
คุณหมอกล่าวต่อว่า “พอตรวจเสร็จ เวลาเหลือ ผู้ช่วยบ่นว่า “ไม่มีเคสส่งให้หมอเลย” อ้าวมันยังเหลือเวลาที่หมอได้นั่งว่าง เราแบ่งเวลาให้คนไข้ไม่ได้เหรอ ตรวจนานกว่านี้ไม่ได้เหรอ ไม่สงสารคนไข้เหรอ หรืออยู่ตรงนี้นานเกินจนไม่มีจิตใจความเป็นมนุษย์ บอกเลยไม่ใช่คนไข้ที่รู้สึกแย่ หมอก็รู้สึกแย่มาก”
ทั้งนี้ หลังคลิปดังกล่าวมียอดผู้ชมถึง 3 ล้าน รวมถึงคอมเมนต์มากมาย อาทิ
• เป็นหมอคนแรกในประเทศเราครับ ที่มีจรรยาบรรณ และออกมาเสนอความเป็นมนุษย์ ขอบคุณครับ คุณหมอมีความเป็นหมอ โดยสมบูรณ์
• ขอบคุณค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
• เงินประกันสังคมที่เขาเก็บไปใช้เพื่อลงทุนแสวงหากำไรไม่ได้เก็บเพื่อประโยชน์แรงงานครับ
• เอาง่ายๆ ประกันสังคม เอาเปรียบทุกทาง ทั้งค่ารักษา ทั้งเงินออม แย่มาก
• 750 บาท/ เดือน เท่ากับซื้อประกันดีๆได้1แผนเลยนะคะหมอ ขอบคุณหมอที่เข้าใจคนไข้นะคะ
• หมอที่มีจรรยาบรรณ มีเยอะนะคะ แต่ระบบทำให้หมอเครียด
• มาตรฐานประกันสังคมกับบัตรทอง เคยได้ยินว่าแตกต่างกัน น่าจะจริงนะคะ
• ขอให้หมอเจอแต่สิ่งดีดีในชีวิต อย่าสูญเสียตัวตนและจิตวิญญาณนี้ไปนะคะ
เผยผลโครงการ 'นักสืบทุนเทา' ร้องเรียน 1,000 เรื่องใน 2 เดือน 'นอมินีต่างชาติ' ปัญหาอันดับ 1
https://prachatai.com/journal/2024/12/111857
กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เผยผลโครงการ 'นักสืบทุนเทา' ร้องเรียน 1,000 เรื่องใน 2 เดือน นอมินีต่างชาติปัญหาอันดับ 1 ห้วยขวางนำโด่งพื้นที่ร้องเรียนสูงสุดในกรุงเทพฯ รองลงมาปทุมวัน-ราชเทวี ขณะที่ภูเก็ตครองแชมป์ต่างจังหวัด พบแก้ไขแล้วเพียง 7% เร่งหน่วยงานเกี่ยวข้องติดตามปัญหา ก่อนปิดรับเรื่องสิ้นปี 2567
เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2567 ว่า นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าโครงการนักสืบทุนเทา หลังดำเนินการครบ 2 เดือน ว่า โครงการนักสืบทุนเทาเป็นการเปิดรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติผิดกฎหมาย โดยเฉพาะปัญหานอมินี โดยให้ประชาชนร้องเรียนผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส สนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ตลอดจนแก้ไขความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการไทย ที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบรุนแรงจากสินค้าและธุรกิจต่างชาติผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เปิดโครงการเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2567 ปัจจุบันดำเนินการมากว่า 2 เดือน เปิดให้ประชาชนร้องเรียนใน 6 ประเด็นปัญหา ได้แก่
1. สินค้าที่ไม่มีเครื่องหมายการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)
2. สินค้าที่ไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.)
3. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา
4. ธุรกิจที่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) จากผู้บริโภค แต่ไม่สามารถออกใบกำกับภาษีได้
5. การโอนเงินโดยตรงเข้าบัญชีต่างประเทศ
และ 6. การประกอบธุรกิจผ่านนอมินีของชาวต่างชาติผิดกฎหมาย
โดยจนถึงวันที่ 26 ธ.ค. 2567 มีประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนผ่านโครงการนักสืบทุนเทาแล้วกว่า 1,121 เรื่อง และ กมธ.ได้ตรวจสอบ คัดกรอง และส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว จำนวน 1,104 เรื่อง ซึ่งเชิงสถิติเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนมากที่สุด คือ ปัญหานอมินีต่างชาติ จำนวน 447 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 44 ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด รองลงมาคือปัญหาสินค้าไม่มีเครื่องหมาย มอก. จำนวน 241 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 24 และอันดับสาม คือ ปัญหาสินค้าไม่มีเครื่องหมาย อย. จำนวน 180 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 18 ส่วนพื้นที่จังหวัดที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามามากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร กว่า 700 เรื่อง และหากเจาะลึกเฉพาะเขต พบว่า อันดับ 1 เขตห้วยขวาง จำนวน 191 เรื่อง อันดับสอง เขตปทุมวัน จำนวน 95 เรื่อง และอันดับ 3 เขตราชเทวี จำนวน 55 เรื่อง ส่วนจังหวัดรองลงมาคือ ภูเก็ต มีเรื่องร้องเรียนเข้ามากว่า 150 เรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับปัญหานอมินี
ทั้งนี้ ในการประชุม กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2567 ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงานเข้าชี้แจงถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาเรื่องร้องเรียน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยหน่วยงานชี้แจงว่า เรื่องร้องเรียนส่วนมากอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ปัญหา ปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว 72 เรื่อง หรือคิดเป็นร้อยละ 7 ซึ่ง กมธ.ได้ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา พร้อมให้แจ้งความคืบหน้า กมธ. ขณะที่ทุกหน่วยงานรับปากจะเร่งดำเนินการต่อไป
สำหรับปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการแก้ไขเรื่องร้องเรียนแก่ประชาชน ทราบว่าพบปัญหาได้รับข้อมูลไม่เพียงพอ เช่น ชื่อร้านค้า เลขใบอนุญาด ฯลฯ ทางกรรมาธิการฯ จึงขอให้หน่วยงานพิจารณาเข้าร่วมระบบ Plug In เพื่อติดต่อกับผู้ร้องเรียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อันจะทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันมีเพียงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เท่านั้น ที่เข้าร่วมระบบ
อย่างไรก็ตาม โครงการนักสืบสายเทา จะปิดรับเรื่องร้องเรียนภายในสิ้นปี 2567 นี้ (31 ธ.ค.) โดยหลังจากนี้ กมธ.จะติดตามการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานต่าง ๆ ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าเพื่อนำมารายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบ ตลอดจนจะจัดทำข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเพื่อเสนอรัฐบาลต่อไป
จนท.เร่งตรวจสอบ เหตุซุ่มยิงตร.เจ็บ 1 ที่ยะลา เผย ยังไม่ตัดประเด็นสร้างสถานการณ์ ป่วนเมืองปีใหม่
https://www.matichon.co.th/region/news_4975436
จนท.เร่งตรวจสอบ เหตุซุ่มยิงตร.เจ็บ 1 ที่ยะลา เผย ยังไม่ตัดประเด็นสร้างสถานการณ์ ป่วนเมืองปีใหม่
จากเหตุการณ์คนร้าย ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนำกำลังเข้าตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่น บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ถนนสาย 418 (ยะลา-ปัตตานี) ฝั่งขาเข้าเมืองยะลา ส่งผลทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ คือ จ.ส.ต.อัสรี (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็ว จุดตรวจท่าสาป หลังเกิดเหตุ เพื่อนตำรวจได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
ล่าสุดเช้าวันที่ 28 ธันวาคม พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมทั้งรุดเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ที่โรงพยาบาลยะลา ล่าสุดอาการปลอดภัย รอแพทย์ทำการผ่าหัวกระสุนออก ทั้งนี้ที่ผ่านมาเหตุวัยรุ่นป่วนก่อกวนในพื้นที่จังหวัดยะลา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ เคลื่อนที่เร็ว เข้าตรวจสอบทุกพื้นที่ ป้องกันเหตุอย่างเข้มข้น โดยเหตุที่เกิดขึ้นนั้น มีการถูงยิงมาจากด้านข้างของถนนสาย 418 โดยที่เกิดเหตุค่อนข้างมืด ทางเจ้าหน้าที่รอการเข้าตรวจสอบโดยละเอียดในช่วงเช้าของวันนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเรื่องของกลุ่มวัยรุ่นที่คึกคะนอง อาจจะไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความเข้มงวด ในการคุมเข้ม หรือเป็นเรื่องของการก่อเหตุสร้างความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยละเอียดและยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
ทั้งนี้ มาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในห้วงเทศกาลปีใหม่นี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีปราบปรามและป้องเหตุความไม่สงบอย่างเข้มงวด ทั้งเหตุความมั่นคง และเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่น โดยการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เพิ่มอีก 7 ชุด ในการตรวจตรา ลาดตระเวนเชิงรุกทุกพื้นที่ ที่มีการรวมกลุ่มของวัยรุ่น โดยเฉพาะในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น