คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
จริงๆแล้วการที่พาเด็กไปรพ.เพราะเรื่องไข้
ผู้ปกครองที่พาไปก็ต้องทราบอยู่แล้วว่าเด็กมีไข้
สามารถให้กินยาลดไข้ตัวที่ค่อนข้างปลอดภัยคือ paracetamol ไปก่อนเลยนะครับ
ส่วนเรื่องระดับไข้
ถ้าเอาเกณฑ์ฉุกเฉินของกระทรวงจะเอาอุณหภูมิ 400c ขึ้นไปนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จริงๆแล้วการเช็ดตัวลดไข้เป็นสิ่งที่ทำกันมานาน
แต่สำหรับเรื่องไข้สูงแล้วทำให้ชักจากไข้
เราพบว่าไม่ว่าการให้ยาลดไข้หรือการเช็ดตัวลดไข้ไม่ได้ลดการเกิดอาการชักซำ้จากไข้ได้
แต่ไข้ที่ลดอาจทำให้เด็กสบายตัวขึ้น
ถ้าเรา search ข้อมูลด้วย keyword " tapid sponge and febrile convulsion "
จะพบว่าข้อมูลที่ขึ้นมาส่วนใหญ่จะไม่แนะนำให้เช็ดตัวลดไข้กันแล้วครับ
เพราะอาจจะทำให้มีอาการหนาวสั่น
การสั่นของร่างกายอาจจะทำให้มีการสร้างความร้อนมากขึ้น
ทำให้ไข้สูงขึ้นได้ในบางครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนอันนี้จาก NICE ของอังกฤษ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หรือจากที่อื่นเช่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนของ best practice จาก BMJ ( British Medical Journal )ซึ่งเป็นวารสารระดับโลกแห่งหนึ่ง
ก็ไม่สรุปว่าวิธีลดไข้แบบไม่ใช้ยา( เช็ดตัวลดไข้ ถอดเสื้อผ้า ให้อยู่ในห้องที่เย็น เอาพัดลมเป่า )
จะมีประโยชน์หรือโทษอย่างไรในเด็กที่ชักจากไข้
เพราะขาดข้อมูลโดยตรงจากการศึกษาแบบ RCTs ที่เพียงพอ( randomized controlled trial )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนอันนี้มีคุณหมอที่เรียบเรียงบทความจาก Pediatric in Review
ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ที่กุมารแพทย์นิยมอ่าน
ถือเป็นวารสารที่อ้างอิงได้ โดยจะ update ข้อมูลใหม่ๆมาเป็นระยะ
บทความนี้เป็นของเดือน สิงหา 2013 ยังถือว่าใหม่ในขณะนี้นะครับ
การเช็ดตัวตามที่เราเชื่อกันมานานไม่ได้มีหลักฐานยืนยันว่าประโยชน์หรือจะกันชักจากไข้ได้
ดังนั้นไม่ต้องไปกังวลกับการที่จะทำให้ไข้ลดมากเกินไป
แม้กระทั่งการกินยาลดไข้ก็ไม่ได้ทำให้อาการป่วยหายเร็วขึ้นกว่าไม่กิน
( แต่การลดไข้จะมีประโยชน์ในแง่ทำให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้น )
นอกจากไข้จะสูงถึงระดับที่เสี่ยงที่จะอันตรายต่อสมองเช่นไข้สูง 41.10c ขึ้นไป
( ที่จริงภาวะไข้ก็เป็นกลไกตอบสนองของร่างกายที่มีประโยชน์อยู่บ้าง
เพราะทำให้เชื้อโรคอยู่ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม )
เครดิตก็ตามชื่อคุณหมอในบทความเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุปคือ
ไข้ 39.4 ถ้าเอาตามกระทรวงเวลาใช้สิทธิบัตรทองไม่ถือว่าฉุกเฉินครับ( เกณฑ์ฉุกเฉิน เอา 40oc ขึ้นไป )
แต่เวลาดูฉุกเฉินหรือไม่ต้องดูอาการอื่นประกอบด้วยครับ
เด็กที่ไข้เกิน 40oc มานิดหน่อย
แต่ตรวจแล้วไม่ฉุกเฉินก็มี เช่นไข้เลือดออกวันแรกๆที่ไม่ซึมมาก เกล็ดเลือดยังไม่ตำ่
หรือตรวจแล้วเป็นไข้หวัดใหญ่ ถ้าเพิ่งเป็นมา 1 วันหรือไม่เกิน 2 วัน
ให้ยาต้านไวรัสไปกิน 1-2 วันไข้ก็มักจะลดชัดเจนหรือไข้หายไปเลยก็บ่อย
ส่วนเด็กที่ไข้ 38oc ต้นๆหรือปลายๆแต่ซึมมาก ตรวจเลือดแล้วเม็ดเลือดขาวสูงมากๆ
หรือปัสสาวะมีเม็ดเลือดขาวมากสงสัยการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะก็อาจถือเป็นฉุกเฉินเร่งด่วนก็มี( อาจไม่ถึงฉุกเฉินวิกฤติ )
กรณีข้อมูลตามที่ให้มาข้างบน
เด็กที่ไข้ 39.40c เจอได้เรื่อยๆครับ
ที่ตรวจแล้วออกมาเป็นฉุกเฉินไม่เร่งด่วนก็มีประปราย
แต่ส่วนใหญ่จะไม่ฉุกเฉินซะมากกว่ามาก
มีไข้แนะนำให้กินยา para ไปก่อนไปรพ.ได้เลยครับ
ไม่ต้องกลัวว่ากินไปแล้วไข้จะลดแล้วหมอจะไม่รู้ว่ามีไข้หรอกครับ
ถ้าประวัติมีไข้ชัด หมอก็เชื่อว่ามีไข้จริงไว้ก่อนอยู่แล้วครับ
และส่วนใหญ่ไข้มักไม่ได้ลดจนหายสนิทด้วย
ถ้าอยากจะเช็ดตัวลดไข้จริงๆก็สามารถทำได้ ไม่น่าจะอันตรายมาก
แต่จะไม่เช็ดตัวลดไข้ก็ได้เช่นกัน( ไม่จำเป็น )
และระยะหลังแนวโน้มจะแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องเช็ดตัวซะมากกว่าครับ
case แบบนี้ถ้าคุณ complain ไป
ถ้าเป็นรพ.เอกชนเขาก็จะรับเรื่องไว้และต่อว่าจนท.
ไม่ใช่เพราะเรื่องรอโดยไม่ได้รีบลดไข้ เช่นไม่ได้เช็ดตัว
แล้วจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตแต่อย่างใด
แต่เป็นเพราะเขาเน้นบริการที่ต้องรวดเร็วและต้องสร้างความพึงพอใจให้ผู้มาใช้บริการ
เพราะถ้าเป็นรพ.รัฐบาลที่คนเยอะๆ
case แบบนี้มักจะต้องนั่งรอคิวเฉยๆ 2-4 ชั่วโมงโดยไม่ได้ทำอะไรเลยครับ
ส่วนถ้าจขกท.อยากจะฟ้องเอาให้ถึงกับไล่ออก ติด black list หรือถอนใบอนุญาต
อันนี้ฟ้องเฉพาะการ complain ไปที่รพ.คงไม่พอครับ
คงต้องฟ้องไปถึงสภาวิชาชีพนั้นหรือฟ้องศาลไปเลย
ที่จริงก็เป็นสิทธิที่ทำได้ไม่มีใครห้ามได้อยู่แล้วครับ
แต่ขอให้ไตร่ตรองถึงผลที่จะได้จากการฟ้องเอาผิดถึงขั้นนั้นสักนิดนะครับ
ว่าจะเอาผิดจนท. ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นพยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาล
ที่ไม่ได้รีบลดไข้ให้เด็ก เช่นเอาไปเช็ดตัวลดไข้
( ซึ่งกรณีนี้คงไม่ได้ก่อให้เกิดผลเสียอะไร แต่ไม่ถูกใจ )
ในระดับที่ให้ไม่ต้องประกอบอาชีพนี้กันไปเลย
( ถอนใบอนุญาตนี่คือไม่ต้องทำอาชีพนี้อีก ปกติจะใช้กรณีความผิดต่อวิชาชีพที่ร้ายแรงมากๆนะครับ )
โอกาสแพ้ชนะมีมากน้อยแค่ไหน
เด็กรายนี้เกิดอันตรายต่อการไม่รีบลดไข้ในเวลานั้นทันทีหรือไม่
หรือจะแค่ให้ว่ากล่าวตักเตือนให้วันหลังปรับปรุงการบริการให้รวดเร็วขึ้น
( เช่นให้เข้าตรวจกับคุณหมอไปเลยพร้อมๆกับเช็คสิทธิเช็คประกันไปในเวลาเดียวกัน )
ซึ่งถ้าฟ้องก็ถือเป็นกรณีศึกษากันต่อไปครับว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
ผู้ปกครองที่พาไปก็ต้องทราบอยู่แล้วว่าเด็กมีไข้
สามารถให้กินยาลดไข้ตัวที่ค่อนข้างปลอดภัยคือ paracetamol ไปก่อนเลยนะครับ
ส่วนเรื่องระดับไข้
ถ้าเอาเกณฑ์ฉุกเฉินของกระทรวงจะเอาอุณหภูมิ 400c ขึ้นไปนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จริงๆแล้วการเช็ดตัวลดไข้เป็นสิ่งที่ทำกันมานาน
แต่สำหรับเรื่องไข้สูงแล้วทำให้ชักจากไข้
เราพบว่าไม่ว่าการให้ยาลดไข้หรือการเช็ดตัวลดไข้ไม่ได้ลดการเกิดอาการชักซำ้จากไข้ได้
แต่ไข้ที่ลดอาจทำให้เด็กสบายตัวขึ้น
ถ้าเรา search ข้อมูลด้วย keyword " tapid sponge and febrile convulsion "
จะพบว่าข้อมูลที่ขึ้นมาส่วนใหญ่จะไม่แนะนำให้เช็ดตัวลดไข้กันแล้วครับ
เพราะอาจจะทำให้มีอาการหนาวสั่น
การสั่นของร่างกายอาจจะทำให้มีการสร้างความร้อนมากขึ้น
ทำให้ไข้สูงขึ้นได้ในบางครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนอันนี้จาก NICE ของอังกฤษ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หรือจากที่อื่นเช่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนของ best practice จาก BMJ ( British Medical Journal )ซึ่งเป็นวารสารระดับโลกแห่งหนึ่ง
ก็ไม่สรุปว่าวิธีลดไข้แบบไม่ใช้ยา( เช็ดตัวลดไข้ ถอดเสื้อผ้า ให้อยู่ในห้องที่เย็น เอาพัดลมเป่า )
จะมีประโยชน์หรือโทษอย่างไรในเด็กที่ชักจากไข้
เพราะขาดข้อมูลโดยตรงจากการศึกษาแบบ RCTs ที่เพียงพอ( randomized controlled trial )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนอันนี้มีคุณหมอที่เรียบเรียงบทความจาก Pediatric in Review
ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ที่กุมารแพทย์นิยมอ่าน
ถือเป็นวารสารที่อ้างอิงได้ โดยจะ update ข้อมูลใหม่ๆมาเป็นระยะ
บทความนี้เป็นของเดือน สิงหา 2013 ยังถือว่าใหม่ในขณะนี้นะครับ
การเช็ดตัวตามที่เราเชื่อกันมานานไม่ได้มีหลักฐานยืนยันว่าประโยชน์หรือจะกันชักจากไข้ได้
ดังนั้นไม่ต้องไปกังวลกับการที่จะทำให้ไข้ลดมากเกินไป
แม้กระทั่งการกินยาลดไข้ก็ไม่ได้ทำให้อาการป่วยหายเร็วขึ้นกว่าไม่กิน
( แต่การลดไข้จะมีประโยชน์ในแง่ทำให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้น )
นอกจากไข้จะสูงถึงระดับที่เสี่ยงที่จะอันตรายต่อสมองเช่นไข้สูง 41.10c ขึ้นไป
( ที่จริงภาวะไข้ก็เป็นกลไกตอบสนองของร่างกายที่มีประโยชน์อยู่บ้าง
เพราะทำให้เชื้อโรคอยู่ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม )
เครดิตก็ตามชื่อคุณหมอในบทความเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุปคือ
ไข้ 39.4 ถ้าเอาตามกระทรวงเวลาใช้สิทธิบัตรทองไม่ถือว่าฉุกเฉินครับ( เกณฑ์ฉุกเฉิน เอา 40oc ขึ้นไป )
แต่เวลาดูฉุกเฉินหรือไม่ต้องดูอาการอื่นประกอบด้วยครับ
เด็กที่ไข้เกิน 40oc มานิดหน่อย
แต่ตรวจแล้วไม่ฉุกเฉินก็มี เช่นไข้เลือดออกวันแรกๆที่ไม่ซึมมาก เกล็ดเลือดยังไม่ตำ่
หรือตรวจแล้วเป็นไข้หวัดใหญ่ ถ้าเพิ่งเป็นมา 1 วันหรือไม่เกิน 2 วัน
ให้ยาต้านไวรัสไปกิน 1-2 วันไข้ก็มักจะลดชัดเจนหรือไข้หายไปเลยก็บ่อย
ส่วนเด็กที่ไข้ 38oc ต้นๆหรือปลายๆแต่ซึมมาก ตรวจเลือดแล้วเม็ดเลือดขาวสูงมากๆ
หรือปัสสาวะมีเม็ดเลือดขาวมากสงสัยการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะก็อาจถือเป็นฉุกเฉินเร่งด่วนก็มี( อาจไม่ถึงฉุกเฉินวิกฤติ )
กรณีข้อมูลตามที่ให้มาข้างบน
เด็กที่ไข้ 39.40c เจอได้เรื่อยๆครับ
ที่ตรวจแล้วออกมาเป็นฉุกเฉินไม่เร่งด่วนก็มีประปราย
แต่ส่วนใหญ่จะไม่ฉุกเฉินซะมากกว่ามาก
มีไข้แนะนำให้กินยา para ไปก่อนไปรพ.ได้เลยครับ
ไม่ต้องกลัวว่ากินไปแล้วไข้จะลดแล้วหมอจะไม่รู้ว่ามีไข้หรอกครับ
ถ้าประวัติมีไข้ชัด หมอก็เชื่อว่ามีไข้จริงไว้ก่อนอยู่แล้วครับ
และส่วนใหญ่ไข้มักไม่ได้ลดจนหายสนิทด้วย
ถ้าอยากจะเช็ดตัวลดไข้จริงๆก็สามารถทำได้ ไม่น่าจะอันตรายมาก
แต่จะไม่เช็ดตัวลดไข้ก็ได้เช่นกัน( ไม่จำเป็น )
และระยะหลังแนวโน้มจะแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องเช็ดตัวซะมากกว่าครับ
case แบบนี้ถ้าคุณ complain ไป
ถ้าเป็นรพ.เอกชนเขาก็จะรับเรื่องไว้และต่อว่าจนท.
ไม่ใช่เพราะเรื่องรอโดยไม่ได้รีบลดไข้ เช่นไม่ได้เช็ดตัว
แล้วจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตแต่อย่างใด
แต่เป็นเพราะเขาเน้นบริการที่ต้องรวดเร็วและต้องสร้างความพึงพอใจให้ผู้มาใช้บริการ
เพราะถ้าเป็นรพ.รัฐบาลที่คนเยอะๆ
case แบบนี้มักจะต้องนั่งรอคิวเฉยๆ 2-4 ชั่วโมงโดยไม่ได้ทำอะไรเลยครับ
ส่วนถ้าจขกท.อยากจะฟ้องเอาให้ถึงกับไล่ออก ติด black list หรือถอนใบอนุญาต
อันนี้ฟ้องเฉพาะการ complain ไปที่รพ.คงไม่พอครับ
คงต้องฟ้องไปถึงสภาวิชาชีพนั้นหรือฟ้องศาลไปเลย
ที่จริงก็เป็นสิทธิที่ทำได้ไม่มีใครห้ามได้อยู่แล้วครับ
แต่ขอให้ไตร่ตรองถึงผลที่จะได้จากการฟ้องเอาผิดถึงขั้นนั้นสักนิดนะครับ
ว่าจะเอาผิดจนท. ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นพยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาล
ที่ไม่ได้รีบลดไข้ให้เด็ก เช่นเอาไปเช็ดตัวลดไข้
( ซึ่งกรณีนี้คงไม่ได้ก่อให้เกิดผลเสียอะไร แต่ไม่ถูกใจ )
ในระดับที่ให้ไม่ต้องประกอบอาชีพนี้กันไปเลย
( ถอนใบอนุญาตนี่คือไม่ต้องทำอาชีพนี้อีก ปกติจะใช้กรณีความผิดต่อวิชาชีพที่ร้ายแรงมากๆนะครับ )
โอกาสแพ้ชนะมีมากน้อยแค่ไหน
เด็กรายนี้เกิดอันตรายต่อการไม่รีบลดไข้ในเวลานั้นทันทีหรือไม่
หรือจะแค่ให้ว่ากล่าวตักเตือนให้วันหลังปรับปรุงการบริการให้รวดเร็วขึ้น
( เช่นให้เข้าตรวจกับคุณหมอไปเลยพร้อมๆกับเช็คสิทธิเช็คประกันไปในเวลาเดียวกัน )
ซึ่งถ้าฟ้องก็ถือเป็นกรณีศึกษากันต่อไปครับว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แสดงความคิดเห็น
กรณีนี้ผิดชัดเจนใหม ถ้าผิดฟ้องร้องอะไรได้บ้าง ต้องการให้มีการลงโทษ
ญาติพาลูก(1.2ขวบ)ไปโรงพยาบาลเอกชน
ตรวจพบว่ามีไข้ 39.4 องศา ตอน18.00 โดยเจ้าหน้าที่และพยาบาลที่อยู่ในห้องopdเด็ก
แต่เจ้าหน้าที่ตรงนั้นไม่ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นลดไข้ให้เด็กเลย
ได้แต่ปล่อยให้นั่งรอ โดยบอกว่าต้องเช็คประกันก่อน จนเด็กสั่นเหมือนจะชัก ร้องคราง แต่ก็ไม่มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
จนเอกสารประกันมา ถึงจะส่งเรื่องให้หมอตรวจ หมอรีบให้เช็ดตัวเพื่อลดไข้พร้อมให้อ๊อกซิเจน
กรณีอย่างนี้ผิดชัดเจนใหม่ เรื่องปล่อยคนไข้ให้อันตรายถึงชีวิต
ร้องเรียน หรือ ฟ้องร้อง โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ อะไรได้บ้าง
เพราะต้องการให้มีการลงโทษเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
เท่าที่ฟังมาจนเกิดกับตัวมีการปล่อยให้เด็กอันตรายแบบนี้หลายครั้งแล้ว