สุทินสวน เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ ตั้งรัฐบาลเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7397654
สุทิน คลังแสง ลั่น เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ ถือเป็นมติมหาชน ทุกฝ่ายต้องเคารพ ตั้งรัฐบาลได้เอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร ชี้ไปยกให้พรรคอื่นตั้ง ทำลายเจตนารมณ์ประชาชน
วันที่ 3 ธ.ค.2565 นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ระบุว่าแม้พรรคพท.ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ แต่สุดท้ายก็ต้องพึ่ง พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่า คงเป็นตรรกะคนละแบบกับเรา การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ถือเป็นมติหาชนที่ทุกฝ่ายต้องเคารพและดำเนินการตามนั้น
“นี่คือความหมายและความจำเป็นที่ต้องมีการเลือกตั้ง หากพรรคพท.ชนะแบบแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปพึ่งพาใครให้มาจัดตั้งรัฐบาลให้ พรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ได้คะแนนเสียงจากประชาชนสูงที่สุดต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเอง”
‘สุทิน’ ย้ำ ฝ่ายค้านยืนยันไม่เป็นองค์ประชุมให้ เย้ย วิปรบ.แก้เกมสภาล่มเอาเอง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3707763
‘สุทิน’ ย้ำ ฝ่ายค้านยืนยันไม่เป็นองค์ประชุมให้ เย้ย วิป รบ.แก้เกมสภาล่มเอาเอง
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวกรณี นาย
นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ระบุฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือจนทำให้การประชุมสภาล่ม ว่าเรื่องนี้เป็นโจทย์ง่ายๆ ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรเลย
รัฐบาลเองต่างหากที่คุมเสียงตัวเองไม่ได้ ที่การประชุมสภาล่ม 2 สัปดาห์ติดนั้นฝ่ายค้านพูดชัดเจนว่าถ้ามาถึงจุดนี้ มาตรานี้ เราจะไม่เป็นองค์ประชุมให้ ซึ่งเราเฉลยข้อสอบให้ขนาดนี้แล้ว แต่พวกคุณกลับไม่ทำการบ้านกันเอง ไม่ทำการบ้านไม่พอ พรรคร่วมรัฐบาลกลับมีปัญหากันเองอีกด้วย
“
สัปดาห์หน้าหากมีการโหวตมาตรา 9/1 ร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นใหม่อีกครั้ง ฝ่ายค้านก็จะไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม บอกขนาดนี้แล้วรัฐบาลต้องหาคนประชุมให้พอ จะมาโทษฝ่ายค้านไม่ได้
ส่วนที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานสภา (วิปรัฐบาล) ระบุว่าฝ่ายค้านเล่นเกมสภาล่มเพราะอยากให้ยุบสภานั้น เราไม่ได้เล่นเกม หากคุณพูดว่าเราเล่นเกมก็แก้เกมมาสิ แก้ง่ายนิดเดียว นี่ไม่แก้เกม แถมพวกคุณกลับเล่นเกมกันเองอีกต่างหาก เชื่อว่าการประชุมสภาในสัปดาห์หน้าโอกาสสภาล่มอีกสูงมาก” นาย
สุทินกล่าว
‘ก้าวไกล’ พร้อมสู้สูตรหาร 100 เปิดรับจับมือตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3707724
‘ก้าวไกล’ พร้อมสู้สูตรหาร 100 เปิดรับจับมือตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นาย
ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พรรค ก.ก. มีความพร้อมกับสูตรเลือกตั้งแบบหาร 100 หรือไม่ว่า เราย้ำมาโดยตลอดว่า เราเคารพในกติกาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถึงแม้เราจะเคยสนับสนุนระบบเลือกตั้งที่เรียกว่าระบบคู่ขนาน ฉะนั้น ในเมื่อรัฐธรรมนูญถูกแก้ไขมา เราก็มีการเตรียมความพร้อมโดยตลอด และที่สิ่งที่พรรค ก.ก.เสนอคือไม่ว่าอย่างไรในการเลือกตั้งรอบหน้าจุดเน้นของเราคือการเพิ่ม ส.ส.เขต และต้องการให้มี ส.ส.เขตในทุกภาค และประกอบกับ 3-4 ปีที่ผ่านมา แกนนำพรรคและคณะกรรมการ คณะทำงานในระดับจังหวัดทุกจังหวัดมีความพร้อมมากกว่าสมัยที่เราอยู่พรรคอนาคตใหม่ด้วยซ้ำ ไม่ว่ากติกาจะออกแบบมาเพื่อใคร โดยใคร หรือกำจัด จำกัด พรรคการเมืองใคร เราไม่ห่วงกังวล และเราจะเดินหน้าในการเลือกตั้งในระบบปกติ
“
ขอให้คนที่ดูแลหรือกำกับการเลือกตั้ง ดูแลด้วยความเป็นธรรม ไม่ใช่ใช้เงื่อนไขทางกฎหมายมาเล่นแง่กับพรรคใดพรรคหนึ่ง และไม่ใช้ช่องทางพิเศษที่จะมาเล่นแง่กับพรรคใดพรรคหนึ่ง ย้ำว่าไม่ว่าจะกติกาแบบใด พรรค ก.ก.พร้อม และมองว่าทุกสนามการเลือกตั้งคือโอกาสที่เราจะเสนอนโยบายให้กับประชาชน” นาย
ณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ ส.ส.สูงสุด พรรค ก.ก. พร้อมร่วมเป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นาย
ณัฐวุฒิกล่าวว่า ประสบการณ์ 3-4 ปี ที่ได้ทำงานกับพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน เราเชื่อมั่นว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นพรรคการเมืองที่ยืนข้างระบบประชาธิปไตย ฉะนั้น เรายินดีในการทำงานไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ แต่ท้ายที่สุดขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งว่าจะเป็นอย่างไร และขึ้นอยู่กับหากได้มีโอกาสร่วมในรัฐบาล สิ่งที่เราเสนอเป็นนโยบายข้อใดจะได้รับการตอบสนองบ้าง ซึ่งถ้านโยบายในกรอบหลักเห็นตรงกัน เราจับมือกับพรรค พท. หรือพรรคฝ่ายค้านได้แน่นอน แต่พรรค พท.จะเลือกเราหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบแทนได้
“
และในขณะเดียวกันจุดยืนของเราชัดเจนว่าจะไม่จับมือกับพรรคที่ถือว่าเป็นพรรคนั่งร้านของระบบ คสช. หรือระบบเผด็จการแน่ๆ กลุ่มนี้เราไม่สามารถจับมือได้” นาย
ณัฐวุฒิกล่าว
‘ณัฐวุฒิ’ เผย ‘บิ๊กตู่’ ไม่ถูกบีบจริง ไม่ยุบสภาแน่ คาด อภิปรายซักฟอก ม.152 ปีหน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_3707637
‘ณัฐวุฒิ’ เผย ‘บิ๊กตู่’ ไม่ถูกบีบจริงไม่ยุบสภาแน่ คาดอภิปรายซักฟอก ม.152 ปีหน้า ลั่นรอฟัง ‘ฝ่ายค้าน’ สักนิดก่อนยุบ
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นาย
ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่ นาย
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าหากมี ส.ส.แห่ลาออกจนทำให้เหลือ ส.ส.ในสภาแค่ 200 คน อาจเป็นเงื่อนไขต้องยุบสภา ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจำนวน ส.ส.มีไม่เต็มมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แทนที่จะมี ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ได้ 500 คน
แต่เหลือ ส.ส.ที่ทำหน้าที่ได้เพียง 400 กว่าคน ที่ส่วนหนึ่งอาจจะโดนเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นกลไกของรัฐธรรมนูญ หรือการออกแบบกติกาโครงสร้างทางการเมืองที่ดูไม่สอดคล้องต่อการสนับสนุนให้ตัวแทนประชาชนได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว และถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมี ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 400 กว่าคน สิ่งที่พบคือสภาล่มบ่อยครั้งมาก
นาย
ณัฐวุฒิกล่าวว่า การที่องค์ประชุมเป็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราไม่ได้มองแบบนั้น และฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มที่มาโดยตลอด เว้นแต่กรณีที่เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เช่น ในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่ได้มีการลงมติไปแล้ว และจะขอให้ได้มีการลงมติใหม่ เรื่องนี้เป็นครั้งเดียวที่ฝ่ายค้านมีจุดยืนชัดเจนว่าเราไม่สามารถร่วมเป็นองค์ประชุมได้ แต่ก็เห็นว่าจำนวน ส.ส.จะเหลือเท่าไหร่ ข้อเท็จจริงคือจำนวน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่มีเกินครึ่งกลับไม่ทำหน้าที่ที่ควรจะเป็นอย่างเพียงพอมาโดยตลอด ตนมองว่าปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวตัดสินว่าถ้ารัฐบาลจะใช้วิธีการยุบสภาเพื่อแก้ปัญหาที่ตัวเองไม่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ประเทศชาติจะได้ประโยชน์มากกว่า คงไม่ได้อยู่ที่จำนวนที่เหลือของ ส.ส.
เมื่อถามว่ามีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ หรือมีกระแสข่าวเคลื่อนไหวในเชิงนี้หรือไม่ นาย
ณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนมองว่าแนวโน้มของการยุบสภาไม่ได้อยู่ที่จำนวน ส.ส.แต่อยู่ที่ไม่สามารถทำให้กลไกของรัฐบาล หรือสภาทำงานได้ต่อ ซึ่งจะเห็นได้ว่าหลายเรื่องของรัฐบาลในวันนี้ก็ถึงทางตัน ที่หาไม่ได้ว่าตกลงใครเป็นผู้นั่งแคนดิเดตนายกฯของพรรคไหนกันแน่
แม้กระทั่งพรรคพลังประชารัฐที่เราเห็นสถานการณ์ว่าไม่นิ่งมาโดยตลอด ฉะนั้น โอกาสของการยุบสภาเกิดได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น 24 ธันวาคม 2565 หรือ 6 กุมภาพันธ์ 2566 แต่ในมุมมองของฝ่ายค้านคิดว่า พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชื่อว่าชอบทำสถิติ ฉะนั้น ถ้าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองจริงๆ หรือไม่ได้มีแรงบีบคั้นอย่างสุดสุด ตนเชื่อว่า พล.อ.
ประยุทธ์ไม่ยุบสภา
นาย
ณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ประกอบกับสิ่งที่เราได้ข้อมูลมาคือ ในการที่จะเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองต้องมีตัวแทนประจำจังหวัด (ตทจ.) ซึ่งพรรคที่มีแนวโน้มว่า พล.อ.
ประยุทธ์จะเข้าไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ยังมีการตั้ง ตทจ.ได้แค่ 10 กว่าจังหวัด ฉะนั้น เหลืออีกหลายจังหวัดที่เขาต้องดำเนินการ ซึ่งเป็นเงื่อนไขทางกฎหมายที่ตนคิดว่าอาจจะยังไม่ไปสู่การยุบสภาโดยเร็ว เว้นแต่เขาจะมีความพร้อม
“
สิ่งที่เราเสียดายคือ ท้ายที่สุดแทนที่จะอาศัยกลไกการยุบสภา เพื่อทำให้ประชาชนมีทางเลือก แต่กลายเป็นว่ากลไก หรือเงื่อนเวลาที่จะยุบสภาตอนนี้กลับกลายเป็นว่าพรรคไหนจะมีความพร้อม หรือพรรคที่ตัวเองสังกัดจะพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งเมื่อไหร่ ซึ่งไม่ได้ตอบโจทย์สิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรคฝ่ายค้าน เราไม่ได้ห่วงประเด็นเรื่องยุบสภา สิ่งที่เราทำต่อคือกฎหมายที่เป็นประโยชน์ เราจะเดินหน้าต่อ และในสัปดาห์หน้าก็จะมีความชัดเจนเรื่องของการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะเปิดให้มีการอภิปรายในเดือนมกราคม 2566 และในกรณีแบบนี้ท่านอย่าชิงยุบสภาไปก่อน อย่างน้อยให้ตัวแทนประชาชนในนามฝ่ายค้านได้มีโอกาสตั้งคำถาม และแสดงความเห็น หรือข้อเสนอแนะที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาลในช่วงสุดท้าย ท่านอย่ามัวมองแต่อนาคตว่าใครจะได้เป็นนายกฯ แต่มองระยะสั้นก่อนว่าวันนี้ประชาชนลำบาก ฉะนั้น รอฟังข้ออภิปรายและข้อเสนอของฝ่ายค้านสักนิดก่อนที่จะมีการยุบสภา แต่ผมเชื่อว่าสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์คนเดียวไม่มีความคิดและความตั้งใจที่จะยุบสภา” นาย
ณัฐวุฒิกล่าว
JJNY : 5in1 สุทินสวนพท.ชนะแลนด์สไลด์│‘สุทิน’เย้ยวิปรบ.แก้เกม│‘ก้าวไกล’พร้อมสู้│ณัฐวุฒิคาดอภิปรายปีหน้า│รถอีวีต้นทุนพุ่ง
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7397654
สุทิน คลังแสง ลั่น เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ ถือเป็นมติมหาชน ทุกฝ่ายต้องเคารพ ตั้งรัฐบาลได้เอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร ชี้ไปยกให้พรรคอื่นตั้ง ทำลายเจตนารมณ์ประชาชน
วันที่ 3 ธ.ค.2565 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ระบุว่าแม้พรรคพท.ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ แต่สุดท้ายก็ต้องพึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่า คงเป็นตรรกะคนละแบบกับเรา การชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ถือเป็นมติหาชนที่ทุกฝ่ายต้องเคารพและดำเนินการตามนั้น
“นี่คือความหมายและความจำเป็นที่ต้องมีการเลือกตั้ง หากพรรคพท.ชนะแบบแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปพึ่งพาใครให้มาจัดตั้งรัฐบาลให้ พรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ได้คะแนนเสียงจากประชาชนสูงที่สุดต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเอง”
‘สุทิน’ ย้ำ ฝ่ายค้านยืนยันไม่เป็นองค์ประชุมให้ เย้ย วิปรบ.แก้เกมสภาล่มเอาเอง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3707763
‘สุทิน’ ย้ำ ฝ่ายค้านยืนยันไม่เป็นองค์ประชุมให้ เย้ย วิป รบ.แก้เกมสภาล่มเอาเอง
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวกรณี นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ระบุฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือจนทำให้การประชุมสภาล่ม ว่าเรื่องนี้เป็นโจทย์ง่ายๆ ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรเลย
รัฐบาลเองต่างหากที่คุมเสียงตัวเองไม่ได้ ที่การประชุมสภาล่ม 2 สัปดาห์ติดนั้นฝ่ายค้านพูดชัดเจนว่าถ้ามาถึงจุดนี้ มาตรานี้ เราจะไม่เป็นองค์ประชุมให้ ซึ่งเราเฉลยข้อสอบให้ขนาดนี้แล้ว แต่พวกคุณกลับไม่ทำการบ้านกันเอง ไม่ทำการบ้านไม่พอ พรรคร่วมรัฐบาลกลับมีปัญหากันเองอีกด้วย
“สัปดาห์หน้าหากมีการโหวตมาตรา 9/1 ร่าง พ.ร.บ.การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นใหม่อีกครั้ง ฝ่ายค้านก็จะไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม บอกขนาดนี้แล้วรัฐบาลต้องหาคนประชุมให้พอ จะมาโทษฝ่ายค้านไม่ได้
ส่วนที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานสภา (วิปรัฐบาล) ระบุว่าฝ่ายค้านเล่นเกมสภาล่มเพราะอยากให้ยุบสภานั้น เราไม่ได้เล่นเกม หากคุณพูดว่าเราเล่นเกมก็แก้เกมมาสิ แก้ง่ายนิดเดียว นี่ไม่แก้เกม แถมพวกคุณกลับเล่นเกมกันเองอีกต่างหาก เชื่อว่าการประชุมสภาในสัปดาห์หน้าโอกาสสภาล่มอีกสูงมาก” นายสุทินกล่าว
‘ก้าวไกล’ พร้อมสู้สูตรหาร 100 เปิดรับจับมือตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3707724
‘ก้าวไกล’ พร้อมสู้สูตรหาร 100 เปิดรับจับมือตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พรรค ก.ก. มีความพร้อมกับสูตรเลือกตั้งแบบหาร 100 หรือไม่ว่า เราย้ำมาโดยตลอดว่า เราเคารพในกติกาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถึงแม้เราจะเคยสนับสนุนระบบเลือกตั้งที่เรียกว่าระบบคู่ขนาน ฉะนั้น ในเมื่อรัฐธรรมนูญถูกแก้ไขมา เราก็มีการเตรียมความพร้อมโดยตลอด และที่สิ่งที่พรรค ก.ก.เสนอคือไม่ว่าอย่างไรในการเลือกตั้งรอบหน้าจุดเน้นของเราคือการเพิ่ม ส.ส.เขต และต้องการให้มี ส.ส.เขตในทุกภาค และประกอบกับ 3-4 ปีที่ผ่านมา แกนนำพรรคและคณะกรรมการ คณะทำงานในระดับจังหวัดทุกจังหวัดมีความพร้อมมากกว่าสมัยที่เราอยู่พรรคอนาคตใหม่ด้วยซ้ำ ไม่ว่ากติกาจะออกแบบมาเพื่อใคร โดยใคร หรือกำจัด จำกัด พรรคการเมืองใคร เราไม่ห่วงกังวล และเราจะเดินหน้าในการเลือกตั้งในระบบปกติ
“ขอให้คนที่ดูแลหรือกำกับการเลือกตั้ง ดูแลด้วยความเป็นธรรม ไม่ใช่ใช้เงื่อนไขทางกฎหมายมาเล่นแง่กับพรรคใดพรรคหนึ่ง และไม่ใช้ช่องทางพิเศษที่จะมาเล่นแง่กับพรรคใดพรรคหนึ่ง ย้ำว่าไม่ว่าจะกติกาแบบใด พรรค ก.ก.พร้อม และมองว่าทุกสนามการเลือกตั้งคือโอกาสที่เราจะเสนอนโยบายให้กับประชาชน” นายณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ ส.ส.สูงสุด พรรค ก.ก. พร้อมร่วมเป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ประสบการณ์ 3-4 ปี ที่ได้ทำงานกับพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน เราเชื่อมั่นว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นพรรคการเมืองที่ยืนข้างระบบประชาธิปไตย ฉะนั้น เรายินดีในการทำงานไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ แต่ท้ายที่สุดขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งว่าจะเป็นอย่างไร และขึ้นอยู่กับหากได้มีโอกาสร่วมในรัฐบาล สิ่งที่เราเสนอเป็นนโยบายข้อใดจะได้รับการตอบสนองบ้าง ซึ่งถ้านโยบายในกรอบหลักเห็นตรงกัน เราจับมือกับพรรค พท. หรือพรรคฝ่ายค้านได้แน่นอน แต่พรรค พท.จะเลือกเราหรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบแทนได้
“และในขณะเดียวกันจุดยืนของเราชัดเจนว่าจะไม่จับมือกับพรรคที่ถือว่าเป็นพรรคนั่งร้านของระบบ คสช. หรือระบบเผด็จการแน่ๆ กลุ่มนี้เราไม่สามารถจับมือได้” นายณัฐวุฒิกล่าว
‘ณัฐวุฒิ’ เผย ‘บิ๊กตู่’ ไม่ถูกบีบจริง ไม่ยุบสภาแน่ คาด อภิปรายซักฟอก ม.152 ปีหน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_3707637
‘ณัฐวุฒิ’ เผย ‘บิ๊กตู่’ ไม่ถูกบีบจริงไม่ยุบสภาแน่ คาดอภิปรายซักฟอก ม.152 ปีหน้า ลั่นรอฟัง ‘ฝ่ายค้าน’ สักนิดก่อนยุบ
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าหากมี ส.ส.แห่ลาออกจนทำให้เหลือ ส.ส.ในสภาแค่ 200 คน อาจเป็นเงื่อนไขต้องยุบสภา ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจำนวน ส.ส.มีไม่เต็มมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แทนที่จะมี ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ได้ 500 คน
แต่เหลือ ส.ส.ที่ทำหน้าที่ได้เพียง 400 กว่าคน ที่ส่วนหนึ่งอาจจะโดนเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นกลไกของรัฐธรรมนูญ หรือการออกแบบกติกาโครงสร้างทางการเมืองที่ดูไม่สอดคล้องต่อการสนับสนุนให้ตัวแทนประชาชนได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว และถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมี ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 400 กว่าคน สิ่งที่พบคือสภาล่มบ่อยครั้งมาก
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การที่องค์ประชุมเป็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราไม่ได้มองแบบนั้น และฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ในสภาอย่างเต็มที่มาโดยตลอด เว้นแต่กรณีที่เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เช่น ในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่ได้มีการลงมติไปแล้ว และจะขอให้ได้มีการลงมติใหม่ เรื่องนี้เป็นครั้งเดียวที่ฝ่ายค้านมีจุดยืนชัดเจนว่าเราไม่สามารถร่วมเป็นองค์ประชุมได้ แต่ก็เห็นว่าจำนวน ส.ส.จะเหลือเท่าไหร่ ข้อเท็จจริงคือจำนวน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่มีเกินครึ่งกลับไม่ทำหน้าที่ที่ควรจะเป็นอย่างเพียงพอมาโดยตลอด ตนมองว่าปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวตัดสินว่าถ้ารัฐบาลจะใช้วิธีการยุบสภาเพื่อแก้ปัญหาที่ตัวเองไม่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ประเทศชาติจะได้ประโยชน์มากกว่า คงไม่ได้อยู่ที่จำนวนที่เหลือของ ส.ส.
เมื่อถามว่ามีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ หรือมีกระแสข่าวเคลื่อนไหวในเชิงนี้หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนมองว่าแนวโน้มของการยุบสภาไม่ได้อยู่ที่จำนวน ส.ส.แต่อยู่ที่ไม่สามารถทำให้กลไกของรัฐบาล หรือสภาทำงานได้ต่อ ซึ่งจะเห็นได้ว่าหลายเรื่องของรัฐบาลในวันนี้ก็ถึงทางตัน ที่หาไม่ได้ว่าตกลงใครเป็นผู้นั่งแคนดิเดตนายกฯของพรรคไหนกันแน่
แม้กระทั่งพรรคพลังประชารัฐที่เราเห็นสถานการณ์ว่าไม่นิ่งมาโดยตลอด ฉะนั้น โอกาสของการยุบสภาเกิดได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น 24 ธันวาคม 2565 หรือ 6 กุมภาพันธ์ 2566 แต่ในมุมมองของฝ่ายค้านคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชื่อว่าชอบทำสถิติ ฉะนั้น ถ้าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองจริงๆ หรือไม่ได้มีแรงบีบคั้นอย่างสุดสุด ตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ยุบสภา
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ประกอบกับสิ่งที่เราได้ข้อมูลมาคือ ในการที่จะเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองต้องมีตัวแทนประจำจังหวัด (ตทจ.) ซึ่งพรรคที่มีแนวโน้มว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ยังมีการตั้ง ตทจ.ได้แค่ 10 กว่าจังหวัด ฉะนั้น เหลืออีกหลายจังหวัดที่เขาต้องดำเนินการ ซึ่งเป็นเงื่อนไขทางกฎหมายที่ตนคิดว่าอาจจะยังไม่ไปสู่การยุบสภาโดยเร็ว เว้นแต่เขาจะมีความพร้อม
“สิ่งที่เราเสียดายคือ ท้ายที่สุดแทนที่จะอาศัยกลไกการยุบสภา เพื่อทำให้ประชาชนมีทางเลือก แต่กลายเป็นว่ากลไก หรือเงื่อนเวลาที่จะยุบสภาตอนนี้กลับกลายเป็นว่าพรรคไหนจะมีความพร้อม หรือพรรคที่ตัวเองสังกัดจะพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งเมื่อไหร่ ซึ่งไม่ได้ตอบโจทย์สิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรคฝ่ายค้าน เราไม่ได้ห่วงประเด็นเรื่องยุบสภา สิ่งที่เราทำต่อคือกฎหมายที่เป็นประโยชน์ เราจะเดินหน้าต่อ และในสัปดาห์หน้าก็จะมีความชัดเจนเรื่องของการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะเปิดให้มีการอภิปรายในเดือนมกราคม 2566 และในกรณีแบบนี้ท่านอย่าชิงยุบสภาไปก่อน อย่างน้อยให้ตัวแทนประชาชนในนามฝ่ายค้านได้มีโอกาสตั้งคำถาม และแสดงความเห็น หรือข้อเสนอแนะที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาลในช่วงสุดท้าย ท่านอย่ามัวมองแต่อนาคตว่าใครจะได้เป็นนายกฯ แต่มองระยะสั้นก่อนว่าวันนี้ประชาชนลำบาก ฉะนั้น รอฟังข้ออภิปรายและข้อเสนอของฝ่ายค้านสักนิดก่อนที่จะมีการยุบสภา แต่ผมเชื่อว่าสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์คนเดียวไม่มีความคิดและความตั้งใจที่จะยุบสภา” นายณัฐวุฒิกล่าว