สื่อนอกตีข่าว อดีตส.ส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา ถูกสังหารกลางเมืองหลวงไทย ตรงกับวันครบ 46 ปี สิ้นสุดเขมรแดง
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4990274
สื่อนอกตีข่าว ลิมกิมยา ถูกสังหารกลางเมืองหลวงไทย วันเดียวกับครบ 46 ปี สิ้นสุดเขมรแดง CNRP ประณามความรุนแรง องค์กรสิทธิมนุษยชน ชี้ เป็นการส่งสารถึงนักเคลื่อนไหวกัมพูชา ไม่มีใครปลอดภัย
 
จากกรณี นายลิม กิมยา เป็นนักเคลื่อนไหวและอดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน ชาวกัมพูชา ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตระหว่างเดินทางมาประเทศไทย กับภรรยาชาวฝรั่งเศส ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ พื้นที่ สน.ชนะสงคราม โดยพบว่าคนร้ายเป็นทหารเรือ ที่ถูกให้ออกจากราชการไปเมื่อปี 2566
 
กรณีดังกล่าว กลายเป็นประเด็นที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยสื่อต่างประเทศต่างนำเสนอเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้ง The Guardian, VOA

Aljazeera เป็นอีกหนึ่งที่รายงานข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า นายลิม กิมยา อดีตสมาชิกรัฐสภากัมพูชา จากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ถูกยิงเสียชีวิตที่กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย โดยอดีตเพื่อนร่วมงาน ระบุว่าเป็นการ “ลอบสังหาร”
 
พรรค CNRP ยืนยันข่าวการเสียชีวิตดังกล่าวในแถลงการณ์ โดยระบุว่า รู้สึกตกใจและเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการเสียชีวิตของนายลิม กิมยา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาของ CNRP ในจังหวัดกำปงธม อย่างโหดร้ายและไร้มนุษยธรรม
 
มีรายงานว่า อดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน ผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสและกัมพูชา ยังคงอาศัยอยู่ในกัมพูชา ขณะที่นักการเมืองฝ่ายค้านคนอื่นๆ จำนวนมากหลบหนีไป เนื่องจากถูกคุกคามจากพรรคประชาชนกัมพูชา หรือ CPP ที่เป็นรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีฮุน เซนในขณะนั้น
 
พรรค CNRP ที่ครั้งหนึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ถูกยุบ และศาลฎีกาก็สั่งห้ามกิจกรรมทางการเมืองทั้งหมดในปี 2560 พรรคยังคงดำรงอยู่ในฐานะองค์กรในชุมชนชาวกัมพูชาในต่างแดนในออสเตรเลีย อเมริกา และที่อื่นๆ
 
ในแถลงการณ์ที่แชร์บนโซเชียลมีเดีย CNRP กล่าวถึงการเสียชีวิตของ นายลิม กิมยา ว่าเป็น “การลอบสังหาร”

แถลงการณ์ระบุว่า พรรค CNRP ขอประณามการกระทำอันป่าเถื่อนนี้อย่างรุนแรง ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเสรีภาพทางการเมือง พรรคการเมืองได้ติดตามคดีฆาตกรรมนี้อย่างใกล้ชิด และเรียกร้องให้ทางการไทย ดำเนินการสืบสวนอย่างละเอียดและเที่ยงธรรม
 
ด้าน กลุ่มสิทธิมนุษยชน หลายกลุ่มได้เรียกร้องให้ทางการไทยดำเนินการสืบสวนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
 
เอเลน เพียร์สัน ผู้อำนวยการฝั่งเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า การสังหารอย่างเลือดเย็น ครั้งนี้ส่งสารถึงนักเคลื่อนไหวทางการเมืองกัมพูชาว่า จะไม่มีใครปลอดภัย แม้ว่าจะออกจากกัมพูชาแล้วก็ตาม

ด้าน ฟิล โรเบิร์ตสัน ผู้อำนวยการองค์กรสิทธิมนุษยชนและแรงงานแห่งเอเชีย (AHRLA) กล่าวว่าการสังหารครั้งนี้ มีลักษณะเหมือนการลอบสังหารทางการเมืองทุกประการ
 
“ผลกระทบโดยตรงนั้น จะทำให้เกิดการข่มขู่อย่างรุนแรงต่อนักการเมืองฝ่ายค้านชาวกัมพูชาหลายร้อยคน นักเคลื่อนไหวจากองค์กรพัฒนาเอกชนและผู้ปกป้องสิทธิมนุษยชน ได้หลบหนีมายังประเทศไทยเพื่อหลบหนีการปราบปรามทางการเมืองของ ฮุนเซน”

การสังหาร ลิม กิมยา ตรงกันวันที่ 7 มกราคม ซึ่งเป็นวันครบรอบ หรือที่รู้จักกันในชื่อ วันแห่งชัยชนะ สำหรับพรรค CCP ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดระบอบปกครองอันโหดเหี้ยมของกลุ่มเขมรแดง ภายใต้การนำของนายพล พต เมื่อวันที่ 7 มกราคมปี ค.ศ.1979 นับแต่นั้นมา ประเทศนี้ก็ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองที่เข้มงวดของฮุน เซน และปัจจุบันคือฮุน มาเนต ลูกชายของเขา โดยแทบไม่มีพื้นที่สำหรับการต่อต้านทางการเมือง
 
ในพิธีรำลึก ฮุนเซนได้เรียกร้องให้มีกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อประณามผู้ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลของลูกชายของเขาว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย… ที่ต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”

แม้ว่าจะมีการต่อต้านพรรค CPP ที่ได้ผลเล็กน้อย ตั้งแต่ปี 1979 แต่สิ่งนั้นเกือบจะเปลี่ยนไปในปี 2013 ซึ่ง ลิม กิมยา ได้รับเลือกเป็นสมาชิกฝ่ายค้านของรัฐสภากัมพูชา หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งพรรครัฐบาลเกือบจะพ่ายแพ้ต่อพรรค CNRP
 
ฝ่ายค้าน ได้ใช้ประโยชน์จากกระแสสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประชาชน หลังจากฮุน เซนปกครองด้วยนโยบายหัวรุนแรงมาหลายทศวรรษ แม้ว่าพรรค CNRP เคยถูกมองว่าเป็นคู่ต่อสู้เพียงพรรคเดียวของพรรค CPP และอาจเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง แต่พรรคนี้ก็ถูกยุบโดยระบบตุลาการของกัมพูชาที่สนับสนุนทางการเมืองในปี 2560
 
ตั้งแต่นั้นมา ผู้นำและผู้สนับสนุนฝ่ายค้านจำนวนมากได้ลี้ภัยไปต่างประเทศ ท่ามกลางกระแสการจับกุม และฮุน เซน ซึ่งสัญญาว่าจะทำให้ชีวิตของพวกเขา “ตกนรก”
 
https://twitter.com/PearsonElaine/status/1876803011734860010
https://twitter.com/Reaproy/status/1876853064403239089

---

อังคณา ชี้สัญญาณอันตราย ลิม กิมยา ถูกยิงอุกอาจกลางเมือง แนะอิ๊งค์ ต้องสืบให้ถึงผู้บงการ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4990568

อังคณา ชี้สัญญาณอันตราย ลิม กิมยา ถูกยิงอุกอาจกลางเมือง แนะอิ๊งค์ ต้องสืบให้ถึงตัวผู้บงการ

จากกรณี นายลิม กิมยา อายุ 73 ปี อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา และนักเคลื่อนไหว ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตระหว่างเดินทางมาประเทศไทย กับภรรยาชาวฝรั่งเศส ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ พื้นที่ สน.ชนะสงคราม ต่อมาศาลอาญาอนุมัติหมายจับมือปืน  พ.จ.อ.เอกลักษณ์ อดีตนาวิกโยธิน สังกัดกองทัพเรือนั้น

ล่าสุด (8 ม.ค.) อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า 
 
นายกรัฐมนตรีต้องไม่เพิกเฉยกรณีนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาถูกยิงตายกลางกรุงเทพมหานคร

กรณีการลอบสังหารนายลิม กิมยา บริเวณใจกลางกรุงเทพมหานครบริเวณมีผู้คนพลุกพล่านถือเป็นการกระทำที่อุกอาจมากเกินกว่าจะยอมรับได้ อีกทั้งเป็นสัญญานว่า กรุงเทพไม่มีความปลอดภัยอีกต่อไป โดยเฉพาะกับผู้เห็นต่างทางการเมือง รวมถึงผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่พักพิง ตามรายงานคณะผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติที่ผ่านมามีผู้ลี้ภัยทางการเมืองหลายคนที่ถูกลักพาตัวหรือถูกบังคับให้สูญหายในประเทศไทย รวมถึงนายอ๊อด ไชยวงศ์ นักรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยชาวลาวที่ถูกอุ้มหายที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2562 จนถึงปัจจุบันไม่มีใครทราบที่อยู่และชะตากรรมของเขา

เรื่องนี้ คุณแพทองธารในฐานะนายกรัฐมนตรีมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐบาลกัมพูชาจะต้องไม่เพิกเฉยให้ผู้เห็นต่างทางการเมืองในประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาในประเทศไทยถูกฆ่า หรือถูกบังคับให้สูญหาย โดยผู้กระทำผิดยังคงลอยนวล รัฐบาลคุณแพทองธาร ต้องสืบค้นให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนายลิม กิมยา และนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว

ลิม คิมยา เป็นสมาชิกพรรคกู้ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party -CNRP) ซึ่งเป็นที่รู้จักถึงความมุ่งมั่นในการตรวจสอบรัฐบาลแม้จะเผชิญกับการถูกกดดันทางการเมือง ทั้งนี้พรรค CNRP ถูกศาลตัดสินยุบพรรคเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ทำให้ นายลิม กิมยา รวมถึงสมาชิกพรรค CNRP และเจ้าหน้าที่พรรคกว่าร้อยคน ของพรรคถูกสั่งห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ในฐานะหนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียงยี่สิบคนที่ยังคงปักหลักอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของ CNRP ในกรุงพนมเปญ เขายังคงดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง แม้สมาชิกคนอื่นๆ จะถอนตัวจากชีวิตสาธารณะเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม เขามีบทบาทสำคัญในการประท้วงหลายครั้ง รวมถึงการชุมนุมประท้วงด้านนอกเรือนจำกรณีที่นายเข็ม โสภา ผู้นำ CNRP ถูกคุมขังในข้อหากบฏ มีรายงานว่าก่อนหน้าคำสั่งยุบพรรค CNRP สมเด็จฯฮุน เซน เคยบอกให้สมาชิกพรรค CNRP ไปอยู่ด้วยกัน โดยสมเด็จฯฮุน เซน บอกกับฝูงชนในกรุงพนมเปญ ว่า “เราจะให้บันไดแก่คุณ ถ้าคุณไม่ปีนมัน คุณก็จะต้องไปลงนรก” โดยมีสมาชิกพรรค CNRP เพียงคนเดียวในพรรคที่รับข้อเสนอดังกล่าว (https://www.matichon.co.th/foreign/news_4988836) แม้จะเผชิญกับการข่มขู่และคุกคามโดยตรง เขาก็ยังยืนหยัดด้วยความกล้าหาญ โดยกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ผมจะไม่มีวันเลิกเล่นการเมือง” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของเขาในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในกัมพูชา และแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความอดทนในการเผชิญกับการถูกกดขี่ทางการเมือง

https://www.facebook.com/angkhana.nee/posts/pfbid0F5WWFGSb6ZAU9y6q2h4iWD271FZXnMGEcqm85rNA2XueWpruZNfwu9BzhJjCpkLrl

---

โรม บี้รบ.สาวให้ถึงเบื้องหลัง มือยิงอดีตส.ส.กัมพูชา รับเสียวอยู่ วันหนึ่งอาจเป็นฝ่ายค้านไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4989772
 
ลิม กิมยา – “รังสิมันต์” มองเหตุลอบยิง “อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา” เป็นเรื่องอุกอาจ จี้ รัฐบาลเร่งจับและสืบขยายผล ยอมรับมีเสียว เพราะวันหนึ่งอาจเป็นเรา
 
เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 8 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี นายลิม กิมยา อดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน ประเทศกัมพูชา ถูกยิงเสียชีวิต ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหารว่า การประกบยิงเช่นนี้เป็นเรื่องอุกอาจ และเกิดขึ้นกลางกรุงฯ เป็นเรื่องที่ตำรวจต้องให้ความสำคัญและเอาจริงเอาจัง หากดูแบ๊กกราวด์ของอดีต ส.ส.ท่านนี้ เขาเป็นอดีตนักการเมืองฝ่ายต่อต้านรัฐบาลปัจจุบันของกัมพูชา แต่ที่นี่คือประเทศไทย เรามีกฎหมาย เรามีประชาธิปไตย มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง เราจะไม่ยอมให้ประเทศไหนหรือใครก็ตามใช้ปฏิบัติการในการฆ่าคนเห็นต่างของชาติตนเองเด็ดขาด หวังว่าสุดท้ายแล้วจะไม่มีเบื้องหลังแบบนั้น
 
“วันนี้เรามีข้อมูลคนที่ยิง เราต้องตามจับ และขยายผลไม่ควรจบแค่มือปืน แต่ควรจะขยายผลให้เห็นว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้คือใคร หวังว่า รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบ ต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจว่า ใครก็ตามที่อยู่ในประเทศไทยไม่ว่าจะ เป็นคนชาติไหนพวกเขาจะต้องปลอดภัย”
 
ภายหลังการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวสอบถามนายรังสิมันต์ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว กังวลหรือไม่ว่าจะเกิดกับฝ่ายค้านไทย นายรังสิมันต์ระบุว่า เสียวอยู่ต้องยอมรับว่า วันหนึ่งหากมีการยิงกันก็อาจจะเป็นเราก็ได้ พร้อมย้ำว่าเราต้องเป็นประเทศที่ปลอดภัย

---

โรม ชี้ไทยมีภาพลักษณ์ เป็นนายหน้าแก๊งคอล บี้รบ.เอาจริงเอาจัง-วางเงื่อนไขฟรีวีซ่าจีน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4989898

“โรม” จี้รัฐบาล เอาจริงเรื่องปราบค้ามนุษย์ ชี้ วันนี้ไทยไม่ต่างกับเป็นนายหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์ มองฟรีวีซ่าจีนมีส่วนสร้างปัญหา ยัน พูดมาหลายรอบแล้ว
 
เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 8 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามกรณีที่มีการล่อลวงชาวต่างชาติโดยข้ามชายแดน ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ว่า ตนได้พูดอภิปรายเนื่องนั้น หลายครั้งแล้ว ในหลายๆโอกาส ต้องยอมรับว่า วันนี้จะมองเป็นปัญหาของประเทศอื่นไม่ได้ ต้องมองเป็นปัญหาของเราด้วย เพราะเราเป็นทางผ่าน วันนี้เราไม่แตกต่างอะไรกับการเป็นนายหน้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะเวลาเขาหลอกลวงคนไปเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ เขาก็อ้างว่า ชวนมาทำงานในไทย โดยมีเหยื่อจากหลายประเทศ แม้แต่ในอาเซียนเอง ตนจึงมองว่า เราต้องทำอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่เรากลับปล่อยปละละเลยเรื่องนี้