กัณวีร์ ชี้เหตุยิงอดีตส.ส.กัมพูชา คือการกดปราบข้ามชาติ สะท้อนกม.ไทยหย่อนยาน จี้นายกฯรับผิดชอบhttps://www.matichon.co.th/politics/news_4989264
‘กัณวีร์’ เชื่อเหตุยิงอดีตส.ส.กัมพูชาเป็นมาตรการกดปราบ จี้นายกฯรับผิดชอบ เรื่องต้องไม่เงียบ อย่าตกเป็นเครื่องมือประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่รัฐสภา นาย
กัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม กล่าวถึง กรณีคนร้ายก่อเหตุยิง นาย
ลิม กิมยา ชาวกัมพูชา สัญชาติฝรั่งเศส นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และอดีต ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ชาวกัมพูชา ที่ย่านบางลำภู เมื่อวานนี้ (7 ม.ค.68) ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่าการกดปราบ ข้ามชาติ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ใช่กรณีแรก เป็นการที่ผู้ลี้ภัยหนีการประหัตประหาร จากประเทศ 1 มาอีกประเทศหนึ่ง และมีการร่วมมือกันไม่ว่าจะเป็นอย่างเปิดเผยหรือในทางลับ ทำให้เกิดการกดปราบข้ามชาติ เหมือนกรณีของ นาย
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่หายตัวในกัมพูชา ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้วทางการไทยได้ส่งตัวอดีตนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชากลับไปกัมพูชา ซึ่งสะท้อนให้เห็นความหย่อนยานในกระบวนการกฎหมายของไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ นาย
กัณวีร์กล่าวว่า แน่นอนเพราะตนทำเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน และช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีอดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝั่งกัมพูชา มาเสียชีวิตในพื้นที่ภาคอีสานของไทยอย่างต่อเนื่อง จึงสงสัยว่า เมื่อไหร่รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องการกดปราบข้ามชาติอย่างจริงจัง จะต้องไม่เป็นเครื่องมือ ทางการเมืองของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านของเรา
เมื่อถามถึงมาตรการการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือผู้ลี้ภัยทางการเมือง ไม่ใช่การผลักดันกลับประเทศ แต่สามารถยิงได้เลยใช่หรือไม่ นาย
กัณวีร์กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่ได้เพราะทางกฎหมายและประเพณีปฏิบัติระหว่างประเทศที่เรายึดมั่นอยู่แล้วเป็นหลักการไม่ส่งกลับ โดยเฉพาะมาตรา 13 ของพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหายหรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย ที่ระบุว่าไทยไม่สามารถผลักดันคนที่หนีการประหัตประหาร กลับไปที่ประเทศต้นทางได้ แต่ที่ยิ่งเลวร้ายกว่าคือการปล่อยให้ มีการประหัตประหารในพื้นดินไทย ซึ่งไทยผิดทั้งกฎหมายในประเทศ และหลักการระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ยังบอกไม่ได้ว่าเหตุการณ์ยิงครั้งนี้เป็นการกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ จะต้องสืบสวนสอบสวนอย่างโปร่งใส
นาย
กัณวีร์ ยังเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าการคุ้มครองระหว่างประเทศโดยเฉพาะผู้ลี้ภัยในประเทศไทย ว่า แม้ประเทศไทยจะยังไม่ลงสัตยาบัน ในอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย แต่เรามีทั้งกฎหมายระหว่างประเทศและในประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งอย่างไรต้องรับผิดชอบอยู่แล้วเพราะมีคนมาตายในประเทศไทย แต่ต้องขยายความให้ได้ว่าเขาเป็นผู้ลี้ภัยจริงหรือไม่ แต่เราต้องให้ความคุ้มครองคนที่อยู่ในประเทศไทยไม่ว่าเขาจะสัญชาติอะไร ซึ่งการที่ผู้ลี้ภัยทางการเมืองมาเสียชีวิตในประเทศไทยมีมานานแล้ว เรื่องก็เงียบมานานแล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องไม่เงียบอีกต่อไป
ส.ส.แฉกลางสภา ตร.นนท์โทรขอชื่อผู้ช่วยหาเสียง ส.อบจ.พรรคปชน. ข้องใจเอาไปทำอะไร
https://www.matichon.co.th/politics/news_4989183
ส.ส.ปรีติ แฉตำรวจเมืองนนท์ โทรถามรายชื่อผู้ช่วยหาเสียง ส.อบจ.ของพรรคประชาชน สงสัยเอาไปทำอะไร จี้ ตร.ให้ตำรวจวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งท้องถิ่น
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี นาย
ภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานนสภาคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ โดย นาย
ปรีติ เจริญศิลป์ ส.ส.นนทบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) หารือว่า ช่วงนี้จะมีการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ ได้รับแจ้งจากผู้สมัคร ส.อบจ.พรรคประชาชน ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ว่ามีตำรวจทรศัพท์มาสอบถามรายชื่อผู้ช่วยหาเสียงของ ส.อบจ. ซึ่งตนสงสัยว่าไม่ใช้หน้าที่ของตำรวจ ไม่ทราบว่าตำรวจถามไปทำไม
นาย
ปรีติกล่าวว่า ทำให้ผู้สมัคร ส.อบจ.เกิดความกังวลว่าจะมีการนำรายชื่อไปทำอะไรหรือไม่ จึงได้สอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ
“
ขอฝากประธานแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้แจ้งตำรวจทุกพื้นที่ให้วางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งด้วย” นาย
ปรีติกล่าว
ออกหมายจับ อดีตนาวิกโยธิน ยิงอดีต ส.ส.กัมพูชา ดับกลางกรุง
https://www.innnews.co.th/news/criminal/news_825772/
ศาลอาญา ออกหมายจับ ‘อดีตนาวิกโยธิน’ มือปืน สังหาร “ลิม กิมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิตกลางกรุง
วันนี้ ( 8 ม.ค.68) ศาลอาญา อนุมัติ หมายจับ นาย
เอกลักษณ์ อดีตนาวิกโยธิน สังกัดกองทัพเรือ ตกเป็นผู้ต้องหา ก่อเหตุ ยิง นาย
ลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง
หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย ก่อเหตุยิง นาย
ลิม กิมยา เป็นนักเคลื่อนไหวและอดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน ชาวกัมพูชา เสียชีวิตระหว่างเดินทางมาประเทศไทย กับภรรยาชาวฝรั่งเศส ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ พื้นที่ สน.ชนะสงคราม เหตุเกิดวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยมีพยานหลักฐาน เห็นคนร้ายเป็นชายรายหนึ่ง สวมกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อสีเทาแขนสั้น สะพายกระเป๋าคาดหน้า คาดว่าซุกซ่อนอาวุธปืนไว้ในกระเป๋า ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 สีแดง สวมหมวกกันน็อก ก่อนจะยิงนายลิม กิมยา ช่วงลงจากรถบัสแล้วขี่รถจักรยานยนต์หนีไป
JJNY : กัณวีร์ชี้เหตุยิงอดีตส.ส.กัมพูชา│ตร.นนท์โทรขอชื่อผู้ช่วยหาเสียงส.อบจ.ปชน.│ออกหมายจับอดีตนาวิกฯ│เช้านี้หุ้นไทยลบ
‘กัณวีร์’ เชื่อเหตุยิงอดีตส.ส.กัมพูชาเป็นมาตรการกดปราบ จี้นายกฯรับผิดชอบ เรื่องต้องไม่เงียบ อย่าตกเป็นเครื่องมือประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม กล่าวถึง กรณีคนร้ายก่อเหตุยิง นายลิม กิมยา ชาวกัมพูชา สัญชาติฝรั่งเศส นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และอดีต ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ชาวกัมพูชา ที่ย่านบางลำภู เมื่อวานนี้ (7 ม.ค.68) ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่าการกดปราบ ข้ามชาติ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ใช่กรณีแรก เป็นการที่ผู้ลี้ภัยหนีการประหัตประหาร จากประเทศ 1 มาอีกประเทศหนึ่ง และมีการร่วมมือกันไม่ว่าจะเป็นอย่างเปิดเผยหรือในทางลับ ทำให้เกิดการกดปราบข้ามชาติ เหมือนกรณีของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่หายตัวในกัมพูชา ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้วทางการไทยได้ส่งตัวอดีตนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชากลับไปกัมพูชา ซึ่งสะท้อนให้เห็นความหย่อนยานในกระบวนการกฎหมายของไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ นายกัณวีร์กล่าวว่า แน่นอนเพราะตนทำเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน และช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีอดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝั่งกัมพูชา มาเสียชีวิตในพื้นที่ภาคอีสานของไทยอย่างต่อเนื่อง จึงสงสัยว่า เมื่อไหร่รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องการกดปราบข้ามชาติอย่างจริงจัง จะต้องไม่เป็นเครื่องมือ ทางการเมืองของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านของเรา
เมื่อถามถึงมาตรการการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือผู้ลี้ภัยทางการเมือง ไม่ใช่การผลักดันกลับประเทศ แต่สามารถยิงได้เลยใช่หรือไม่ นายกัณวีร์กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่ได้เพราะทางกฎหมายและประเพณีปฏิบัติระหว่างประเทศที่เรายึดมั่นอยู่แล้วเป็นหลักการไม่ส่งกลับ โดยเฉพาะมาตรา 13 ของพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหายหรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย ที่ระบุว่าไทยไม่สามารถผลักดันคนที่หนีการประหัตประหาร กลับไปที่ประเทศต้นทางได้ แต่ที่ยิ่งเลวร้ายกว่าคือการปล่อยให้ มีการประหัตประหารในพื้นดินไทย ซึ่งไทยผิดทั้งกฎหมายในประเทศ และหลักการระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ยังบอกไม่ได้ว่าเหตุการณ์ยิงครั้งนี้เป็นการกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ จะต้องสืบสวนสอบสวนอย่างโปร่งใส
นายกัณวีร์ ยังเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าการคุ้มครองระหว่างประเทศโดยเฉพาะผู้ลี้ภัยในประเทศไทย ว่า แม้ประเทศไทยจะยังไม่ลงสัตยาบัน ในอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย แต่เรามีทั้งกฎหมายระหว่างประเทศและในประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งอย่างไรต้องรับผิดชอบอยู่แล้วเพราะมีคนมาตายในประเทศไทย แต่ต้องขยายความให้ได้ว่าเขาเป็นผู้ลี้ภัยจริงหรือไม่ แต่เราต้องให้ความคุ้มครองคนที่อยู่ในประเทศไทยไม่ว่าเขาจะสัญชาติอะไร ซึ่งการที่ผู้ลี้ภัยทางการเมืองมาเสียชีวิตในประเทศไทยมีมานานแล้ว เรื่องก็เงียบมานานแล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องไม่เงียบอีกต่อไป
ส.ส.แฉกลางสภา ตร.นนท์โทรขอชื่อผู้ช่วยหาเสียง ส.อบจ.พรรคปชน. ข้องใจเอาไปทำอะไร
https://www.matichon.co.th/politics/news_4989183
ส.ส.ปรีติ แฉตำรวจเมืองนนท์ โทรถามรายชื่อผู้ช่วยหาเสียง ส.อบจ.ของพรรคประชาชน สงสัยเอาไปทำอะไร จี้ ตร.ให้ตำรวจวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งท้องถิ่น
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานนสภาคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ โดย นายปรีติ เจริญศิลป์ ส.ส.นนทบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) หารือว่า ช่วงนี้จะมีการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ ได้รับแจ้งจากผู้สมัคร ส.อบจ.พรรคประชาชน ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ว่ามีตำรวจทรศัพท์มาสอบถามรายชื่อผู้ช่วยหาเสียงของ ส.อบจ. ซึ่งตนสงสัยว่าไม่ใช้หน้าที่ของตำรวจ ไม่ทราบว่าตำรวจถามไปทำไม
นายปรีติกล่าวว่า ทำให้ผู้สมัคร ส.อบจ.เกิดความกังวลว่าจะมีการนำรายชื่อไปทำอะไรหรือไม่ จึงได้สอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ
“ขอฝากประธานแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้แจ้งตำรวจทุกพื้นที่ให้วางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งด้วย” นายปรีติกล่าว
ออกหมายจับ อดีตนาวิกโยธิน ยิงอดีต ส.ส.กัมพูชา ดับกลางกรุง
https://www.innnews.co.th/news/criminal/news_825772/
ศาลอาญา ออกหมายจับ ‘อดีตนาวิกโยธิน’ มือปืน สังหาร “ลิม กิมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิตกลางกรุง
วันนี้ ( 8 ม.ค.68) ศาลอาญา อนุมัติ หมายจับ นายเอกลักษณ์ อดีตนาวิกโยธิน สังกัดกองทัพเรือ ตกเป็นผู้ต้องหา ก่อเหตุ ยิง นายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง
หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย ก่อเหตุยิง นายลิม กิมยา เป็นนักเคลื่อนไหวและอดีต ส.ส.ฝ่ายค้าน ชาวกัมพูชา เสียชีวิตระหว่างเดินทางมาประเทศไทย กับภรรยาชาวฝรั่งเศส ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ พื้นที่ สน.ชนะสงคราม เหตุเกิดวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยมีพยานหลักฐาน เห็นคนร้ายเป็นชายรายหนึ่ง สวมกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อสีเทาแขนสั้น สะพายกระเป๋าคาดหน้า คาดว่าซุกซ่อนอาวุธปืนไว้ในกระเป๋า ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 สีแดง สวมหมวกกันน็อก ก่อนจะยิงนายลิม กิมยา ช่วงลงจากรถบัสแล้วขี่รถจักรยานยนต์หนีไป