คิดเห็นอย่างไรหลังจากข่าว ญี่ปุ่นเรียกคืน ขนมเลย์ และทางผู้ผลิตชี้แจงว่าไม่ใช่สารปนเปื้อน

ตามที่มีข่าวเมื่อเช้าว่าขนมกรอบเลย์ ได้ถูกตรวจพบสารตกค้างทางเคมี ที่ชื่อ ไกลโคแอลคาลอยด์ ซึ่งเป็นสารพิษจากธรรมชาติ และได้มีการเรียกคืนสินค้า โดยทางผู้ผลิตได้ออกหนังสือชี้แจงว่าไม่ใช่สิ่งปนเปื้อน นี่ที่บ้านก็พึ่งซื้อมาเลยแกะถุงยังกินไม่หมด เพื่อนๆชาวพันทิปคิดเห็นกันอย่างไรบ้างครับ คิดว่าสารดังกล่าวมีอันตรายไหม ถ้าต้องกินปริมาณมาก และที่ว่ามากต้องมากกว่าเท่าไหร่จึงจะเป็นอันตราย
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ผมลองวิเคราะห์แบบหยาบๆ โดยขออนุญาตินำคห1ในลิ้งที่คห3 นำมาลงนะครับ หากผิดถูกอย่างไรก็ขออภับ

สาร Glycoalkaloids จะมีอยู่ตามธรรมชาติในมันฝรั่งครับ

Glycoalkaloids จะเกิดขึ้นในทุกส่วนของต้นมันฝรั่ง  โดยจะพบสูงสุดดอก และ หน่อ
และจะพบปริมาณต่ำสุดในหัวมันฝรั่ง  โดยทั่วไปแล้วจะพบประมาณ
10 - 150 mg/kg ของน้ำหนักมันฝรั่ง    Glycoalkaloids จะพบได้เข้มข้น
ใน layers ลึกลงไปประมาณ 1.5 มม. ใต้เปลือกมันฝรั่ง
(30 - 80% ของทั้งลูกจะพบในเปลือก)  ดังนั้น  การปอกมันฝรั่งให้กินลึกลงไปในเนื้อ
มากหน่อยจะลดระดับของสารนี้ได้อย่างมากครับ


หากเราประมาณหาค่าหยาบๆจากค่าเฉลี่ยข้างต้นจะพบว่า ค่าGlycoalkaloids ที่พบในหัวมันเท่ากับ 80 mg/kg

ขณะเดียวกันหากคิดปริมาณที่เริ่มทำให้เป็นพิษ คือ 2 mg/kg (น้ำหนักผู้รับประทาน)

ดังนั้นสมมุติว่าเด็กคนหนึ่งมีน้ำหนัก 20 kg นั่นคือจะต้องได้รับเกินกว่า 40 mg จึงจะเริ่มเป็นอันตรายต่อร่างกาย

เท่ากับว่าเด็กคนนี้จะต้องไม่กินมันฝรั่งในปริมาณที่ไม่เกินกว่า 1/2 กก. ซึ่งตามรูป ไซส์ถุงขนาด 160 กรัมนี้ หากเด็กคนนี้กินเกินกว่า 3 ถุง จะเริ่มมีความเสี่ยงต่อสารพิษในมันฝรั่งนั่นเอง  แต่หากเป็นผู้ใหญ่ก็คูณน้ำหนักตัวเข้าไป เช่นผญ มีนน 60 โล ไม่ควรกินมันฝรั่งเกินกว่า 1.5 โล เป็นต้น

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เรื่องนี้ ในเฟสบุ๊คผมก็แชร์กันว่อน จะเป็นจะตาย มีกระทู้หนึ่ง เห็นแว๊บๆ เค้าใช้คำว่า
"มาตรฐานชีวิตเราต่ำกว่าเขาเยอะ" ผมอ่านแล้วรู้สึกอยากถามเลยว่า
ตอนเอ็งเป็นเด็ก ที่บ้านบดกล้วยนำเข้าให้กินรึป่าว? ตอนเด็กเอ็งไม่เคยกินขนมถุงเลยเหรอ?

จริงๆ มันก็ต้องไปดูครับ ว่ากินเท่าไร มันถึงส่งผลต่อร่างกายแบบเม้นบนๆ ที่เขียนกัน ไม่ใช่เจอข่าวปั๊บ ด่าประเทศเลย
เอาตรงๆ ส่วนมากคนที่บ่นและด่าคือ พวกที่ไปเรียนเมืองนอกมาด้วย
แต่น่าเสียดายที่ไปเรียนมาแล้ว ไม่มีทักษะด้านการวิเคราะห์ข้อมูลติดหัวกลับมาเลย

เชื่อผมเถอะ ไอ้พวกที่บ่นในหน้าเฟสฯผมเนี่ย เค้าสามารถไปกินส้มตำ หรือ ร้านยำดังๆ ที่ใช้ครกหรือถ้วยเดียวกัน
ปรุงอาหารเป็นชั่วโมง โดยไม่มีการล้างได้ และ ไม่มีการบ่นเลยซักคำ แถมยังบอกว่าร้านดี อนามัยสะอาด

ผมล่ะเชื่อเลย คิดว่าน่าจะพวกอคติกับประเทศมากกว่า ตาบอดจนมองอะไรไม่เห็น

ผมก็งง ทำไมมันไม่ไปบ่นเรื่องยาพาราบ้านเราบ้าง ของเราเม็ดละ 500 มิลลิกรัมรึป่าวไม่แน่ใจ
ของญี่ปุ่นนี่น้อยกว่านั้นมากๆๆๆๆๆ แถมไม่จ่ายยาพร่ำเพื่อด้วย ให้หายเอง
ทำไมไม่เคลมวิธีการรักษาบ้านเราบ้างล่ะ ตรรกะโคตะระแปลกเลย
ความคิดเห็นที่ 11
อ่านหลายกระทู้บะ คิดว่าพอเป็นยี่ปุ่น คนไทยจะเกิดอาการวิตกจริตโอเว่อรีแอคอย่างเห็นได้ชัด 5555
อาหารเรียกคืนกันได้ฮะ บางอย่างผิดพลาด แต่ไม่ได้ใส่ยาพิษลงไป
บางคนนี่ถึงกับมาลงที่คนไทย ประเทศไทยกันเลย
ไอ้ยุ่นเองก็โดนจับเรื่องการผลิตผิดพลาดอยู่ออกจะบ่อย ที่น่าทุเรศสุดคือ ถุงลมนิรภัย ไงฮะ อเมริกาปรับไปเยอะเลย
ไม่รู้คนยี่ปุ่นมันตั้งกระทู้ด่าคนชาติตัวเองรึเปล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่