ผลไม้เป็นของดีมีประโยชน์ แต่มีผลไม้ 3 ชนิดที่ผู้บริโภคหลายคนมักซื้อไปกินบ่อย หรือซื้อกลับไปวางไว้บนโต๊ะที่บ้านเพื่อรอเวลากินเพราะเห็นว่าราคาถูก แต่แท้จริงแล้วอาจซ่อนอันตรายต่อสุขภาพไว้ได้เช่นกันเพราะเซลล์มะเร็งชอบ
1. ผลไม้ที่มีรูปร่างผิดปกติ
รูปร่างของผลไม้แต่ละชนิด มักไม่มีรูปแบบตายตัว บางชนิดอาจโตขึ้นเกินขนาดธรรมดา แต่หากคุณสังเกตเห็นผลไม้จำนวนมากที่มีลักษณะผิดปกติ ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ผลไม้ที่ผิดรูปมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม สีสัน หรือสภาพแวดล้อมในการปลูก และบางครั้งอาจมีสารตะกั่วหรือปรอทปนเปื้อน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผลไม้เหล่านี้ถึงมีขนาดใหญ่ผิดปกติและมักจะถูกขายในราคาถูกที่สุด การหลีกเลี่ยงผลไม้เหล่านี้จะช่วยปกป้องสุขภาพของคุณและครอบครัวได้ดีที่สุด
2. ผลไม้ที่มีสัญญาณเน่าเสีย
เมื่อผลไม้เริ่มเน่าเสีย วิตามินต่าง ๆ ที่มีอยู่ในผลไม้จะถูกทำลายไป และเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราจำนวนมาก จะเข้ามาปนเปื้อนและสร้างสารอันตราย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อตับ ไต และสุขภาพโดยรวม แม้จะตัดส่วนที่เน่าเสียออกไปแล้ว ส่วนที่ดูเหมือนยังดีอาจดูดซึมสารพิษไว้ ทำให้ยากที่จะตรวจจับได้จากภายนอก สิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษคือ เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่ปนเปื้อนอาจมีสารอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารอันตรายที่องค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) จัดให้เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 ตั้งแต่ปี 1993 นอกจากนี้ อะฟลาท็อกซิน ยังถือเป็นหนึ่งในสาเหตุของมะเร็งตับ นอกจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด B และ C ที่เรื้อรัง
3. ผลไม้ที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว
หลายคนมักชอบซื้อผลไม้หั่นชิ้นพร้อมทาน เพราะสะดวกและราคาถูก แต่เรามักไม่สามารถรู้ได้ว่า ผลไม้ที่หั่นแล้วนั้น เป็นผลไม้สดหรือผลไม้ที่เริ่มเน่าเสีย ที่อาจแค่ตัดส่วนที่เสียออกไป นอกจากนี้ เรายังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าผู้ขายได้รักษาความสะอาดในกระบวนการหั่น เช่น การสวมถุงมือ การใช้มีดสะอาด และการเก็บรักษาที่ถูกต้องเพื่อป้องกันแบคทีเรียที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เมื่อผลไม้หั่นแล้วสัมผัสกับอากาศ ก็อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตได้ง่ายขึ้น และยังทำให้คุณค่าทางโภชนาการของผลไม้ลดลงอีกด้วย
ใน 2 กรณีนี้ ผลไม้ยังสามารถทานได้
1. ผลไม้ที่แห้ง/แช่แข็ง
ผลไม้ที่แห้งหรือแช่แข็งอาจเกิดขึ้นได้เมื่อเก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิสูงเกินไป ผลไม้เหล่านี้อาจมีรอยแผลที่เกิดจากการสูญเสียน้ำหรือการออกซิเดชัน ทำให้ดูไม่สวยงาม แต่จริง ๆ แล้วยังสามารถทานได้ หากไม่ได้เก็บไว้นานเกินไปและไม่มีอาการเน่าเสีย อย่างไรก็ตาม การทานผลไม้สดยังดีที่สุดเพื่อรักษารสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของมัน
2. ผลไม้ที่มีรอยบุบ
ตั้งแต่ผลไม้สุกจนถึงมือผู้บริโภค มักไม่สามารถหลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกที่ทำให้เกิดรอยบุบ บุบหรือช้ำได้ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีเปลือกบางและเนื้อนิ่ม อย่างไรก็ตาม รอยเหล่านี้เป็นแค่การกระทบทางกายภาพ ไม่ได้สร้างสารพิษหรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพเมื่อบริโภค แต่สำหรับผลไม้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทบกระแทก ควรกินให้เร็วที่สุด หากสังเกตเห็นกลิ่นหรือรสที่ผิดปกติ เช่น กลิ่นแอลกอฮอล์ อาจแสดงว่าเป็นผลไม้ที่เสียแล้ว ไม่ควรกิน
ดังนั้นหากผู้บริโภคจะซื้อผลไม้มารับประทานให้ดูดีๆ ควรเลือกสดใหม่ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจเสี่ยงต่อโรคร้ายได้
ขออนุญาตและขอขอบคุณ:-
https://www.dailynews.co.th/news/4209934/
ผลไม้ 3 ชนิด ไม่ควรกินเพราะเซลล์มะเร็งชอบ แต่หลายบ้านมีบนโต๊ะ
1. ผลไม้ที่มีรูปร่างผิดปกติ
รูปร่างของผลไม้แต่ละชนิด มักไม่มีรูปแบบตายตัว บางชนิดอาจโตขึ้นเกินขนาดธรรมดา แต่หากคุณสังเกตเห็นผลไม้จำนวนมากที่มีลักษณะผิดปกติ ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ผลไม้ที่ผิดรูปมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม สีสัน หรือสภาพแวดล้อมในการปลูก และบางครั้งอาจมีสารตะกั่วหรือปรอทปนเปื้อน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผลไม้เหล่านี้ถึงมีขนาดใหญ่ผิดปกติและมักจะถูกขายในราคาถูกที่สุด การหลีกเลี่ยงผลไม้เหล่านี้จะช่วยปกป้องสุขภาพของคุณและครอบครัวได้ดีที่สุด
2. ผลไม้ที่มีสัญญาณเน่าเสีย
เมื่อผลไม้เริ่มเน่าเสีย วิตามินต่าง ๆ ที่มีอยู่ในผลไม้จะถูกทำลายไป และเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราจำนวนมาก จะเข้ามาปนเปื้อนและสร้างสารอันตราย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อตับ ไต และสุขภาพโดยรวม แม้จะตัดส่วนที่เน่าเสียออกไปแล้ว ส่วนที่ดูเหมือนยังดีอาจดูดซึมสารพิษไว้ ทำให้ยากที่จะตรวจจับได้จากภายนอก สิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษคือ เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่ปนเปื้อนอาจมีสารอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารอันตรายที่องค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) จัดให้เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 ตั้งแต่ปี 1993 นอกจากนี้ อะฟลาท็อกซิน ยังถือเป็นหนึ่งในสาเหตุของมะเร็งตับ นอกจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด B และ C ที่เรื้อรัง
3. ผลไม้ที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว
หลายคนมักชอบซื้อผลไม้หั่นชิ้นพร้อมทาน เพราะสะดวกและราคาถูก แต่เรามักไม่สามารถรู้ได้ว่า ผลไม้ที่หั่นแล้วนั้น เป็นผลไม้สดหรือผลไม้ที่เริ่มเน่าเสีย ที่อาจแค่ตัดส่วนที่เสียออกไป นอกจากนี้ เรายังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าผู้ขายได้รักษาความสะอาดในกระบวนการหั่น เช่น การสวมถุงมือ การใช้มีดสะอาด และการเก็บรักษาที่ถูกต้องเพื่อป้องกันแบคทีเรียที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เมื่อผลไม้หั่นแล้วสัมผัสกับอากาศ ก็อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตได้ง่ายขึ้น และยังทำให้คุณค่าทางโภชนาการของผลไม้ลดลงอีกด้วย
ใน 2 กรณีนี้ ผลไม้ยังสามารถทานได้
1. ผลไม้ที่แห้ง/แช่แข็ง
ผลไม้ที่แห้งหรือแช่แข็งอาจเกิดขึ้นได้เมื่อเก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิสูงเกินไป ผลไม้เหล่านี้อาจมีรอยแผลที่เกิดจากการสูญเสียน้ำหรือการออกซิเดชัน ทำให้ดูไม่สวยงาม แต่จริง ๆ แล้วยังสามารถทานได้ หากไม่ได้เก็บไว้นานเกินไปและไม่มีอาการเน่าเสีย อย่างไรก็ตาม การทานผลไม้สดยังดีที่สุดเพื่อรักษารสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของมัน
2. ผลไม้ที่มีรอยบุบ
ตั้งแต่ผลไม้สุกจนถึงมือผู้บริโภค มักไม่สามารถหลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกที่ทำให้เกิดรอยบุบ บุบหรือช้ำได้ โดยเฉพาะผลไม้ที่มีเปลือกบางและเนื้อนิ่ม อย่างไรก็ตาม รอยเหล่านี้เป็นแค่การกระทบทางกายภาพ ไม่ได้สร้างสารพิษหรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพเมื่อบริโภค แต่สำหรับผลไม้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทบกระแทก ควรกินให้เร็วที่สุด หากสังเกตเห็นกลิ่นหรือรสที่ผิดปกติ เช่น กลิ่นแอลกอฮอล์ อาจแสดงว่าเป็นผลไม้ที่เสียแล้ว ไม่ควรกิน
ดังนั้นหากผู้บริโภคจะซื้อผลไม้มารับประทานให้ดูดีๆ ควรเลือกสดใหม่ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วอาจเสี่ยงต่อโรคร้ายได้
ขออนุญาตและขอขอบคุณ:-https://www.dailynews.co.th/news/4209934/