คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ออกกำลังกายต้องกินมากขึ้น ไม่งั้นร่างกายตกใจ เข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน ถึงตอนนี้เราจะรู้สึกไม่สดชื่น ออกกำลังกายก็ไม่ค่อยมีแรง หัวใจเต้นเร็วขึ้น น้ำหนักก็ไม่ลด กลับมากินน้ำหนักพุ่ง (โยโย่อิฟเฟคต์)
จขกท ไม่ได้บอกตัวเลขมาแต่ก็ไม่ได้มีผล เราเลือกทีละอย่างก็ได้ครับ ถ้าไม่เคยออกกำลังกายเล่นกีฬามาก่อน ควบคุมอาหารอย่างเดียว นน.ก็ลด สักพัก นน.มันจะเริ่มนิ่ง ค่อยออกกำลังกายก็ได้
การจะลด นน.ให้ได้จำนวนหนึ่งตามที่เราต้องการ อุปสรรคสำคัญที่สุดมาจากจิตใจ ความกดดันต่างๆ รอบตัว หลายๆคนจะเริ่มกลัวและรู้สึกว่าต้องต่อสู้ดิ้นรน ก็จะแสดงออกผ่านการทำอะไรหลายๆ อย่างให้นน. ลดไว เช่น ออกกำลังกายหน้กเกินตัว งดอาหารบางมื้อ ทานปริมาณน้อยลง (แต่แคลอรี่เท่าเดิม) สุดท้าย ร้อยทั้งร้อยก็ล้มเหลว
ผมไม่เรียกว่าวิธีลดน้ำหนัก เพราะมันลดน้ำหนักไม่ได้ แต่เรียกว่า "การลดความรู้สึกผิด" และพยายามบอกต่อสังคมว่า ฉันเคยลดน้ำหนักนะ แต่ล้มเลิก (ไม่มีใครล้มเหลว มีแต่ล้มเลิก?) ไปเพราะเหตุผลอะไรสักอย่างหนึ่ง มันไม่มีประโยชน์ครับ นั่นคือการทำร้ายตัวเองให้สังคมยอมรับ เรียกว่าจับตัวเองเป็นตัวประกัน เพื่อป้องกันการพาล การระราน หรือบูลลี่จากสังคมไม่ให้มาล้อเลียนเรา จะบอกว่าสิ้นคิดก็แรงเกิน (แต่พิมพ์ไปละ)
อย่างแรกสุดสำหรับที่ทำ ไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่ต้องควบคุมอาหารครับ สิ่งแรกที่ทำคือ "สะกดจิตตัวเอง" ก่อนครับ การลดน้ำหนักจะสำเร็จไม่ได้เลยถัาเราไม่รัก ไม่พึงพอใจในตัวเอง สร้างความรู้สึกทางที่ดีกับตัวเอง ในปัจจุบันนี้ให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรกนะครับ สัปดาห์แรกแค่ชั่ง นน. ทุกเช้าก็พอ เราทานมากน้อย ทำอะไรบ้าง มีผลต่อนน. อย่างไรเก็บข้อมูลไว้คร่าวๆ แต่ที่จะพบก็คือ มันก็ขึ้นๆลงๆ ทุกวันแหละครับ บางที่ทานมาก นน.ลด ทานน้อย นน.เพิ่ม
ต่อมาการนอน (ยังครับ เรื่องกินไว้ทีหลัง) นอนให้ได้วันละ 8 ชม. ต่อวัน การนอนเราเบิร์นแคลอรี่ได้ประมาณ 80 แคล/ชม. รวมวันละ 640 แคล เท่ากับวิ่ง 8 กม. ปั่นจักรยาน 30 กม. เต้นคาร์ดิโอ 1 ชม. และที่สำคัญคือรีเซ็ทร่างกายให้เป็นปกติ ไม่ให้เข้าสู่โหมดตกใจ เอาเป็นว่าติดภารกิจก็ให้ได้ 3-4 วันต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อย
ต่อมาการควบคุมอาหาร อย่างแรกต้องทานข้าวเย็นนะครับ มื้อเย็นเน้นผักเน้นเนื้อ แป้งน้อยๆ ของหวานห้าม รอ 3 ชม. ค่อยนอน ทุกมื้อไขมันของทอดของผัดพยายามงด ถ้าอยากก็ให้ทานตอนเช้า (นน.ไม่ลด แต่ก็ไม่เพิ่ม) งดแอลกอฮอล์ เน้นปริมาณเท่าเดิมที่เคยทาน การที่เราต้องทนหิวแสดงว่าเมนูลดนน.นั้นล้มเหลว เราต้องอิ่มทุกมื้อครับ
การควบคุมอาหารไม่ใช่การอดอาหาร คือ การตัดสารอาหารที่ไม่จำเป็น ไขมันปริมาณน้อยแต่ให้พลังงานสูง ร่างกายไม่ได้ใช้ก็จะแปลงไปเป็นไขมันเก็บในร่างกาย แป้ง น้ำตาลก็เช่นกัน ช่วงนี้งดก่อน ไว้เราแข็งแรง ออกกำลังกายเบิร์นแคลได้มากขึ้นค่อยกลับมาทานครับ
การออกกำลังกายถือเป็นปลายเหตุ การใช้ร่างกายมากขึ้น กินไม่ดี พักผ่อนน้อย ออกกำลังกายเป็นโทษมากกว่าผลดี การฝึกซ้อมเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อ มีเรื่องตัวเลขต่างๆ ค่าความหนัก ฯลฯ เข้ามาเยอะขึ้นเพื่อให้ผลออกมาตรงกับสภาพร่างกายแต่ละคน เบาไปก็เสียเวลา หนักไปก็บาดเจ็บ และผลเป็นเรื่องของตัวบุคคล บางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้ เพราะพื้นฐานทางการกีฬาต่างกัน
การออกกำลังกาย ก่อนอื่นทำทีละอย่างครับ ทำได้หลายอย่าง แต่วันหนึ่งเลือกอย่างเดียวก็พอ ที่เป็นประเภทเน้นความอดทนหรือเอนดูแรนซ์ เช่น วิ่ง เดิน จ้กรยาน เต้นแอโรบิค ว่ายน้ำ ฯลฯ รู้สึกสบายๆพูดคุยได้ ไม่เหนื่อยมาก และให้เกิน 30 นาทีไว้ก่อน
จขกท ไม่ได้บอกตัวเลขมาแต่ก็ไม่ได้มีผล เราเลือกทีละอย่างก็ได้ครับ ถ้าไม่เคยออกกำลังกายเล่นกีฬามาก่อน ควบคุมอาหารอย่างเดียว นน.ก็ลด สักพัก นน.มันจะเริ่มนิ่ง ค่อยออกกำลังกายก็ได้
การจะลด นน.ให้ได้จำนวนหนึ่งตามที่เราต้องการ อุปสรรคสำคัญที่สุดมาจากจิตใจ ความกดดันต่างๆ รอบตัว หลายๆคนจะเริ่มกลัวและรู้สึกว่าต้องต่อสู้ดิ้นรน ก็จะแสดงออกผ่านการทำอะไรหลายๆ อย่างให้นน. ลดไว เช่น ออกกำลังกายหน้กเกินตัว งดอาหารบางมื้อ ทานปริมาณน้อยลง (แต่แคลอรี่เท่าเดิม) สุดท้าย ร้อยทั้งร้อยก็ล้มเหลว
ผมไม่เรียกว่าวิธีลดน้ำหนัก เพราะมันลดน้ำหนักไม่ได้ แต่เรียกว่า "การลดความรู้สึกผิด" และพยายามบอกต่อสังคมว่า ฉันเคยลดน้ำหนักนะ แต่ล้มเลิก (ไม่มีใครล้มเหลว มีแต่ล้มเลิก?) ไปเพราะเหตุผลอะไรสักอย่างหนึ่ง มันไม่มีประโยชน์ครับ นั่นคือการทำร้ายตัวเองให้สังคมยอมรับ เรียกว่าจับตัวเองเป็นตัวประกัน เพื่อป้องกันการพาล การระราน หรือบูลลี่จากสังคมไม่ให้มาล้อเลียนเรา จะบอกว่าสิ้นคิดก็แรงเกิน (แต่พิมพ์ไปละ)
อย่างแรกสุดสำหรับที่ทำ ไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่ต้องควบคุมอาหารครับ สิ่งแรกที่ทำคือ "สะกดจิตตัวเอง" ก่อนครับ การลดน้ำหนักจะสำเร็จไม่ได้เลยถัาเราไม่รัก ไม่พึงพอใจในตัวเอง สร้างความรู้สึกทางที่ดีกับตัวเอง ในปัจจุบันนี้ให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรกนะครับ สัปดาห์แรกแค่ชั่ง นน. ทุกเช้าก็พอ เราทานมากน้อย ทำอะไรบ้าง มีผลต่อนน. อย่างไรเก็บข้อมูลไว้คร่าวๆ แต่ที่จะพบก็คือ มันก็ขึ้นๆลงๆ ทุกวันแหละครับ บางที่ทานมาก นน.ลด ทานน้อย นน.เพิ่ม
ต่อมาการนอน (ยังครับ เรื่องกินไว้ทีหลัง) นอนให้ได้วันละ 8 ชม. ต่อวัน การนอนเราเบิร์นแคลอรี่ได้ประมาณ 80 แคล/ชม. รวมวันละ 640 แคล เท่ากับวิ่ง 8 กม. ปั่นจักรยาน 30 กม. เต้นคาร์ดิโอ 1 ชม. และที่สำคัญคือรีเซ็ทร่างกายให้เป็นปกติ ไม่ให้เข้าสู่โหมดตกใจ เอาเป็นว่าติดภารกิจก็ให้ได้ 3-4 วันต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อย
ต่อมาการควบคุมอาหาร อย่างแรกต้องทานข้าวเย็นนะครับ มื้อเย็นเน้นผักเน้นเนื้อ แป้งน้อยๆ ของหวานห้าม รอ 3 ชม. ค่อยนอน ทุกมื้อไขมันของทอดของผัดพยายามงด ถ้าอยากก็ให้ทานตอนเช้า (นน.ไม่ลด แต่ก็ไม่เพิ่ม) งดแอลกอฮอล์ เน้นปริมาณเท่าเดิมที่เคยทาน การที่เราต้องทนหิวแสดงว่าเมนูลดนน.นั้นล้มเหลว เราต้องอิ่มทุกมื้อครับ
การควบคุมอาหารไม่ใช่การอดอาหาร คือ การตัดสารอาหารที่ไม่จำเป็น ไขมันปริมาณน้อยแต่ให้พลังงานสูง ร่างกายไม่ได้ใช้ก็จะแปลงไปเป็นไขมันเก็บในร่างกาย แป้ง น้ำตาลก็เช่นกัน ช่วงนี้งดก่อน ไว้เราแข็งแรง ออกกำลังกายเบิร์นแคลได้มากขึ้นค่อยกลับมาทานครับ
การออกกำลังกายถือเป็นปลายเหตุ การใช้ร่างกายมากขึ้น กินไม่ดี พักผ่อนน้อย ออกกำลังกายเป็นโทษมากกว่าผลดี การฝึกซ้อมเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อ มีเรื่องตัวเลขต่างๆ ค่าความหนัก ฯลฯ เข้ามาเยอะขึ้นเพื่อให้ผลออกมาตรงกับสภาพร่างกายแต่ละคน เบาไปก็เสียเวลา หนักไปก็บาดเจ็บ และผลเป็นเรื่องของตัวบุคคล บางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้ เพราะพื้นฐานทางการกีฬาต่างกัน
การออกกำลังกาย ก่อนอื่นทำทีละอย่างครับ ทำได้หลายอย่าง แต่วันหนึ่งเลือกอย่างเดียวก็พอ ที่เป็นประเภทเน้นความอดทนหรือเอนดูแรนซ์ เช่น วิ่ง เดิน จ้กรยาน เต้นแอโรบิค ว่ายน้ำ ฯลฯ รู้สึกสบายๆพูดคุยได้ ไม่เหนื่อยมาก และให้เกิน 30 นาทีไว้ก่อน
แสดงความคิดเห็น
ลดน้ำหนัก