บทความเรื่อง "เหตุผลในการสร้างพระพุทธรูป และวัตถุมงคล และการทำน้ำมนต์"


การสร้างและบูชา พระพุทธรูป และ วัตถุมงคล นั้น มีเหตุผลก็คือ......

1.เป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน เพื่อระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ให้จิตเกาะในอารมณ์ที่เป็นกุศล ถ้าเกิดตายในช่วงเวลานั้น ไปสุคติภูมิ
(เราไม่ได้กราบไหว้เพราะเรานับถือปูน แต่เราเห็นรูปปูนปั้นนั้นเป็นรูปแทนตัวของบุคคลที่เรานับถือและมีบุญคุณต่อเรา)
(เราจึงกราบไหว้พระพุทธรูปปูนปั้นนั้น)

2.เป็นการ เจริญพระกรรมฐาน ในด้าน กสิณสี 4 อย่าง (แดง, เขียว, เหลือง, ขาว)

ถ้าเพ่งพระพุทธรูป สีแดง                          ก็เป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน + กสิณสีแดง      (โลหิตกสิณ)
ถ้าเพ่งพระพุทธรูป สีเขียว                         ก็เป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน + กสิณสีเขียว     (นิลกสิณ)
ถ้าเพ่งพระพุทธรูป สีเหลือง(หรือทองคำ)    ก็เป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน + กสิณสีเหลือง  (ปีตกสิณ)
ถ้าเพ่งพระพุทธรูป สีขาว                           ก็เป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน + กสิณสีขาว      (โอทาตกสิณ)

วัดบางวัด ตั้งใจทาสีองค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ หรือหาพระแก้วใสที่มี 4 สี (แดง,เขียว,เหลือง,ขาว)  เพื่อเอาไว้สำหรับให้ชาวบ้านเพ่งเป็นองค์พระกสิณ
วางพระพุทธรูปเรียงใกล้ๆกัน 4องค์ 4สี ให้ชาวบ้านเห็นได้อย่างชัดเจน เพื่อให้เลือกฝึกได้ว่าจะเพ่งองค์พระสีไหน (ถูกจริตกับสีไหนเลือกได้เลย)
(แต่ชาวบ้านบางคน อาจจะไม่รู้เหตุผลว่าทาสีแบบนั้นไว้ทำไม และวางเรียงไว้แบบนั้นเพราะอะไร เพราะไม่รู้เรื่องกรรมฐาน นึกว่าทาสีให้สวยเฉยๆ)

กสิณสี 4 อย่าง แดง,เขียว,เหลือง,ขาว เป็นกสิณที่ระงับอารมณ์โทสะได้ดี เหมาะแก่ผู้ที่เป็น  โทสะจริต
(และ กสิณสีขาว ก็เป็นทั้งกสิณสี และเป็นทั้งกสิณที่ทำให้เกิดทิพย์จักษุญาณ)

ถ้าเพ่งพระพุทธรูป สีแก้วใส                       ก็เป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน + กสิณแสงสว่าง (อาโลกสิณ)

กสิณที่ทำให้เกิดทิพย์จักษุญาณ 3 อย่าง  ก็คือ กสิณแสงสว่าง(อาโลกสิณ), กสิณไฟ(เตโชกสิณ), กสิณสีขาว(โอทาตกสิณ)

เพราะฉนั้น ความรู้จากการปฏิบัติของโบราณจารย์ที่สะสมมา ท่านมีความฉลาด  ท่านจึงสอนให้เพ่งองค์พระพุทธรูปเป็นกสิณ ไปในทีเดียว
เพื่อที่จะให้เป็นทั้ง พุทธานุสสติกรรมฐาน และ กสิณ ไปพร้อมๆกัน

เพราะฉนั้น ถ้ามีใครมาบอกว่าพระพุทธรูปไม่จำเป็น หรือไม่ต้องมีก็ได้ ก็ต้องถามเขากลับไปว่า  เขาเคยฝึกกรรมฐานจริงๆบ้างหรือเปล่า?
(การสอนให้เพิกเฉยและละทิ้งพระพุทธรูป ก็เท่ากับเป็นการแสดงตนว่าไม่มีความรู้ในเรื่องการฝึกกรรมฐาน)  (มีแต่คนโง่เท่านั้นที่สอนให้เพิกเฉย)
เพราะพระพุทธรูป เป็นพุทธานุสสติก็ได้ เพ่งเป็นกสิณก็ได้ และสืบต่ออายุพระศาสนา และเป็นตัวแทนขององค์พระศาสดาในโลกที่มีแต่สมมตินี้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



ส่วนการสร้าง พระใหญ่, วัดใหญ่สวยงาม นั้นมีเหตุผลซ่อนอยู่  เพราะต้องการจะช่วยให้คนหมู่มากในวัฏสงสารรอดพ้นจากการตกอบายภูมิเป็นอันดับแรก

เพราะวัฏสงสารนั้นยาวนานมาก นานเสียจนแม้แต่พระพุทธเจ้า ท่านใช้พุทธญานไปดูต้นทางของวัฏสงสารก็ยังไม่เห็น
ดวงจิต-ดวงวิญญาณ ดวงนึง นั้น เวียนว่ายตายเกิดมานับอสงไขยไม่ถ้วน

ถ้าพลาดจากความเป็นคน ล่วงหล่นลงไปเกิดยังอบายภูมิ ก็จะต้องไปเกิดเป็นสัตว์นรก ไปเกิดเป็นเปรต ไปเกิดเป็นอสุรกาย ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
แค่ด่านสุดท้ายด่านเดรัจฉาน คุณก็จะต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ให้ครบตามจำนวนบาปกรรมที่คุณเคยกระทำลงไป
เป็นความทุกข์ทรมานอันแสนยาวนานเหลือเกิน กว่าจะได้กลับมาเกิดเป็นคนอีกครั้ง มันช่างแสนยากและยาวนานเสียเหลือเกิน

อานิสงส์ผลบุญจาก "ทาน" , "ศีล" , "ภาวนา" จะช่วยให้ไม่ตกอบายภูมิ
ในโลกของความเป็นจริงนั้น  "คนทั่วไปที่เป็นคนส่วนมาก"  นั้น มักจะเป็นผู้ที่มีศีล 5 ไม่ครบ และ ขาดการภาวนา

เพราะฉนั้น การที่จะช่วยเหลือคน ที่เป็นคนส่วนมากบนโลกนี้ ให้รอดพ้นจากการตกอบายภูมิอันแสนยาวนานและทุกข์ทรมานนั้น
จะอาศัยอานิสงส์ผลบุญจาก  "ทาน"  ซึ่งทำได้ง่าย เป็นอันดับแรก
(ชาวบ้านชอบทำอะไรที่ง่ายและสะดวก แค่หยอดเงินใส่ตู้ ก็ได้บุญวิหารทานแล้ว  ไม่ต้องประคองการกระทำนั้นนานๆ  เหมือนการถือศีล และภาวนา)

เช่น ร่วมสร้างพระใหญ่, วัดใหญ่, สร้างโบสถ์ที่ใหญ่โตและสวยงาม, ร่วมสร้างวิหารแก้วที่ใหญ่โตและสวยงาม
ร่วมสร้างกำแพงวัดที่สวยงาม, ร่วมสร้างศาลาวัดที่สวยงาม, ร่วมสร้างกุฏิสงฆ์, ร่วมสร้างห้องน้ำพระ ฯลฯ

เมื่อคนเหล่านี้ได้มีส่วนร่วมในการทำบุญสร้างถาวรวัตถุไว้ในพระพุทธศาสนา เมื่อถึงเวลาใกล้ตาย ใกล้จะหมดลม
จิตของเขาย่อมระลึกถึงบุญกุศลที่ตัวเองได้เคยกระทำเอาไว้ได้โดยง่าย (ง่ายกว่าคนที่ไม่เคยทำแน่นอน) ดวงจิตจึงเกาะบุญจากวิหารทาน ไปสู่สุคติภูมิ

และภาพพระใหญ่ พระสวยงาม เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน จะทำให้ติดตา-ติดใจ ระลึกนึกถึงได้ง่าย จึงทำให้ระลึกถึงบุญกุศลในการร่วมสร้างพระได้ง่าย
และการมีพระใหญ่ วัดสวยงาม มีที่ทางที่สะดวกในการปฏิบัติธรรม จะทำให้ชาวบ้านสนใจและมาร่วมทำบุญและศึกษาธรรมะได้ง่าย ต่ออายุพระศาสนา


และการสร้างวัตถุมงคล เพื่อให้ชาวบ้านบูชา หรือเก็บไว้ในกรุ  ก็เป็นการต่ออายุพระศาสนา
เพราะเมื่อกาลเวลาผ่านไป สามารถนำวัตถุมงคลเหล่านั้น ออกมาให้ชาวบ้านบูชา เพื่อหาเงินบำรุงซ่อมแซมวัด เป็นการต่ออายุพระศาสนา
และเป็นพุทธานุสสติเอาไว้ให้ชาวบ้านได้คล้องคอบูชา  เพื่อคุ้มครองตนเอง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่