黃成風 ยอดบุรุษซ่อนคมพยัคฆ์ : ภาคหวงเฉิงเฟิง บทที่ ๑๑. เรื่องของความรัก

บทนำ https://ppantip.com/topic/38091648
บททั้งหมดก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เกริ่นนำ : ภาษาที่ใช้เรียกขานชื่อตัวละครและสถานที่ทั้งหมดจะเรียกเป็นภาษาจีนกลางนะคะ ,นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นทั้งหมด
คำเตือน : บุหรี่และสุราเป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพ





"บทที่ ๑๑. เรื่องของความรัก "


                 เมื่อเข้าเขตสวี่ฮุ่ย ลุงตัวฝูขับรถมาถึงบริเวณตึกสองชั้นที่อยู่ถัดไปเบื้องหน้า ด้านล่างบางส่วนของตึกแห่งนี้เปิดเป็นร้านค้าขายของ ส่วนชั้นบนแบ่งเป็นห้องเช่าให้พักอาศัย
                เฉิงเฟิงจึงบอกให้ลุงฝูช่วยจอดรถและนั่งรอ  ชายหนุ่มเอื้อมมือเปิดประตูลงจากรถตามไปด้วยม่านอี้ เธอหันกลับมายิ้มกับลุงฝูพร้อมกับกล่าวขอบคุณ
               เฉิงเฟิงยืนอยู่ที่มุมนี้แล้วมองไปรอบบริเวณของตึกที่พักอีกครั้ง เงยหน้าขึ้นมองโคมไฟเก่าบนเพดานที่ส่องแสงสว่างอยู่ไม่กี่ดวง สะท้อนให้เห็นสีของผนังที่ยิ่งดูหม่นทึบมากขึ้น      
               บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงาไม่คึกคักเหมือนกับบริเวณอื่น อาจจะเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจและการเมือง ห้องเช่าที่นี่ถือว่ามีราคาถูกที่สุดของย่านนี้  ชายหนุ่มตัดสินใจจะเดินไปส่งม่านอี้ถึงที่พักจนอีกฝ่ายรู้สึกเกรงใจจึงหันไปกล่าวขอบคุณแล้วบอกกับเขาเพื่อความสบายใจ
               “ฉันไม่อยากรบกวนคุณหวงแล้ว ที่พักอยู่ใกล้แค่นี้ ฉันเดินไปเองได้ค่ะ”
                เฉิงเฟิงหันไปมองใบหน้าจิ้มลิ้ม แม้จะยังไม่วางใจนัก แต่ก็ต้องเตือนตัวเองในใจให้คลายความระแวงลงบ้าง เขาจึงพยักหน้าแล้วหยิบนามบัตรในกระเป๋าเสื้อออกมาส่งไปให้เธอ
               “หากคุณหนูหลี่มีเรื่องอะไรด่วน ก็โทรหาผมที่เบอร์ในนามบัตรได้”
                ม่านอี้รับนามบัตรไว้ในมือแล้วเก็บใส่กระเป๋าถือ เธอช้อนตาขึ้นมองเขาพร้อมกับกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ก่อนที่จะหันหลังเดินไปตามฟุตบาท เฉิงเฟิงมองตามร่างระหงที่เริ่มเดินห่างออกไป ยอมรับว่าม่านอี้เป็นคนที่มีความมั่นใจตามฉบับของหญิงสาวสมัยใหม่ บุคลิกดี ข้อสำคัญเธอสามารถให้เหตุผลโต้แย้งกับเขาอย่างที่เขารู้สึกพึงพอใจ เฉิงเฟิงยิ้มกับตัวเองแล้วเดินกลับไปขึ้นรถ สักครู่รถยนต์สีดำคันนั้นก็เคลื่อนห่างออกไป…
            
               ที่ชั้นบนของตึกแห่งนี้ ทันทีที่ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นดังใกล้เข้ามาทำให้ชายสองคนซึ่งแอบอยู่ที่มุมลับตาหันมากระซิบกัน “เธอเดินขึ้นมาแล้ว”
                ม่านอี้มาถึงด้านบนแล้วเดินเลี้ยวไปทางขวาโดยไม่ได้นึกเฉลียวใจว่ามีคนกำลังแอบติดตามเธออยู่ เมื่อพวกมันดูจนแน่ใจว่าเธอเดินมาเพียงลำพัง แล้วร่างระหงก็ถูกฉุดดึงตัวให้มาอยู่ที่ริมทางเดินอีกด้านซึ่งไม่มีคนพักอาศัย ชายร่างผอมสวมชุดเสื้อกางเกงสีเก่าซีดชักมีดขึ้นมาพร้อมกับวางท่าทางข่มขู่
                ม่านอี้ถึงกับหน้าซีด เดินถอยกรูจนหลังติดกับผนัง หัวใจเต้นรัวจนมือไม้เย็นเฉียบไปหมด เธอกำลังนึกหาทางเอาตัวรอดเท่าที่จะคิดออกได้ในตอนนี้ พยายามกลั้นใจพูดออกไป
               “พวกนายต้องการเงิน ฉันจะให้”  
               เจ้านักเลงสองคนต่างหันมองหน้ากัน ม่านอี้อาศัยจังหวะนี้เปิดกระเป๋าแต่กลับมองไม่เห็นอาวุธ ใบหน้ายิ่งซีดเซียวเพราะเธอลืมปืนพกไว้ในห้อง ยังไม่ทันตั้งตัวพวกมันก็แย่งกระเป๋าไปจากมือ แล้วพากันค้นหาสิ่งของที่พวกมันต้องการ
               “อะไรกันคนสวย แต่งตัวก็ดี มีเงินเท่านี้เองเหรอ” คนตัวผอมพูดแล้วยิ้มเยาะที่มุมปาก มือของมันหยิบธนบัตรที่มีอยู่ในกระเป๋าไม่กี่หยวนขึ้นมาโชว์ แม้จะดูค่อนข้างผิดหวังแต่คนร่างท้วมอีกคนกลับมีดวงตาลุกวาวขึ้นมาทันที มันใช้สายตามองม่านอี้พร้อมกับนึกจิตนการสำรวจรูปร่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดเสื้อเชิ้ตและกระโปรงบานผ้าเนื้อดี
                สายตาที่ดูหื่นกระหายทำให้คนถูกมองรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว คนร่างท้วมเข้ามาจับสองแขนของเธอรวบไว้ด้านหลังทันที เธอพยายามตะโกนแต่ก็ไม่มีเสียงใดเพราะมันชิงเอื้อมมือมาปิดปากเธอเอาไว้ก่อน ส่วนคนร่างผอมก็เดินตรงเข้ามา ม่านอี้เห็นมันกำลังโน้มตัวเข้ามาใกล้ เธอจึงยกเข่าขึ้นกระแทกจุดสำคัญของมันไปอย่างแรงจนมันต้องก้มตัวงอด้วยความรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก  ม่านอี้พยายามขัดขืนเธอยกเท้าขึ้นกระแทกรองเท้าส้นสูงสามนิ้วลงที่ขาของชายร่างท้วมทำให้มันต้องร้องด้วยความเจ็บแปลบจนต้องปล่อยมือที่จับแขนเธอออก
               เมื่อม่านอี้ได้เป็นอิสระ เธอจึงรีบวิ่งทันทีพร้อมกับตะโกนเรียกให้คนช่วย แต่คนร่างท้วมก็ติดตามมาทัน มันกระชากคอเสื้อของเธอจากด้านหลังจนกระดุมหลุดกระเด็น
               หญิงสาวตกใจก้มลงมองเสื้อของตน  พวกมันวิ่งมาขวางไว้เบื้องหน้าแล้วมีรอยยิ้มให้กับสิ่งที่เห็น ผิวขาวอมชมพูเนียนละเอียดจากช่วงลำคอถึงเนินอกอิ่มที่โผล่พ้นจากเสื้อชั้นใน ม่านอี้พยายามยกสองมือขึ้นปิดบังส่วนที่กำลังอวดสายตากับพวกมัน  เหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่มีอะไรที่ใช้เป็นอาวุธได้ รู้สึกเหมือนตนเองกำลังสิ้นหวัง ดวงตานั้นกำลังเบลอด้วยม่านน้ำตา
               ม่านอี้บอกกับตนเองเธอจะไม่ยอมและพร้อมจะสู้ตายกับพวกมัน แต่แล้วใบหน้าของม่านอี้ก็กลับมีรอยยิ้มขึ้นอีกครั้ง สายตาของหญิงสาวที่จับจ้องมองไปทางด้านหลังของพวกมัน  ทำให้เจ้านักเลงทั้งสองคนนั้นนึกแปลกใจแล้วเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติที่อยู่เบื้องหลัง
            
               พวกมันสองคนพากันหันขวับไปด้านหลังทันที เพียงแค่พริบตาคนร่างท้วมก็ทรุดตัวลงกับพื้นโดยไม่มีเสียงร้องใด หลุดลอดออกมา ทำให้คนตัวผอมเห็นเพื่อนมันล้มลงไปต่อหน้า ตัวเองถึงกับหน้าซีดเผือด เมื่อเห็นชัดถนัดแก่สายตาว่าคนที่มาเป็นใคร
               “อะ อะ อินทรีหน้าบาก!” คนพูดน้ำเสียงนั้นละล่ำละลัก เหงื่อผุดบนใบหน้า
               ภายใต้แสงสว่างริบรี่จากโคมไฟดวงเก่าคร่ำ สะท้อนนัยน์ตาที่เปล่งประกายความเหี้ยมเด่นชัด ร่างสูงนั้นเดินเข้ามาใกล้จนทำให้เจ้านักเลงตัวผอมถึงเบิกตาโพลง จนลืมหายใจไปทีเดียวเพราะคงจะรู้ชะตากรรมของตนเอง
               “แกจะไม่มีโอกาสได้ทำชั่วอีกต่อไป” เฉิงเฟิงพูดน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมกับอาวุธสังหารในมือ เขาขยับเพียงแค่นิดเดียวคนร่างผอมก็ทรุดตัวล้มลงตามเพื่อนมันไปอีกคน
                เฉิงเฟิงเก็บอาวุธแล้วหันกลับไปมองม่านอี้  หญิงสาวกำลังตกอยู่ในอาการหวาดผวา เธอรีบวิ่งเข้ามากอดเขาจนชายหนุ่มรู้สึกถึงความอ่อนนุ่มและเนื้อตัวสั่นเทาราวกับลูกนกเปียกน้ำ เธอซบใบหน้ากับอกของเขาพร้อมกับร้องไห้สะอื้น
               เฉิงเฟิงกอดกระชับม่านอี้ไว้ในแอ้มแขน มือลูบหลังของเธออย่างปลอบโยนพร้อมกับพูดเพื่อให้เธอสบายใจ   “คุณปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกลัว”
               สักครู่เฉิงเฟิงก็คลายวงแขนที่สวมกอดเธอไว้ แล้วรีบถอดเสื้อคลุมของตนเองออกมาไปสวมคลุมให้ทันที ม่านอี้ได้แต่ก้มหน้าที่เปียกชื้นด้วยน้ำตา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา
                “คืนนี้ผมต้องพาคุณไปพักที่บ้านก่อน”
                  ในตอนนี้ม่านอี้ทั้งตาทั้งหูอื้ออึงไปหมด ยังรู้สึกตื่นตระหนกกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่  เฉิงเฟิงจึงโอบไหล่พาเธอค่อย ๆ เดินไปกับเขา..

                 เช้าวันต่อ  
                    ม่านอี้ค่อย ๆ ขยับเปลือกตาขึ้น พยายามนึกทบทวนว่าเป็นความฝันหรือเป็นเรื่องจริง เมื่อก้มมองตนเองก็เห็นเสื้อคลุมของเขาที่เธอยังสวมไว้อยู่  หญิงสาวพลิกตัวหันมองไปรอบบริเวณ ไม่แน่ใจว่าห้องนี้เป็นของใคร แล้วพยายามจะฝืนตัวลุกขึ้นก็ยังรู้สึกเวียนศีรษะอยู่
                   “ไม่ต้องรีบลุกหรอกจ้ะ คุณหนูหลี่พักก่อนเถอะ” ป้าอูเดินเข้ามาพร้อมกับนำข้าวต้มร้อน ๆ ส่งกลิ่นหอมชวนทานมาให้ ทำให้ม่านอี้ต้องขมวดคิ้วเรียว ป้าอูจึงรีบบอกแนะนำตนเองให้กับม่านอี้ เมื่อทั้งสองคนได้รู้จักกันในเบื้องต้น หญิงวัยกลางคนก็มานั่งลงข้างเตียงนอน
                   “เดี๋ยวล้างหน้าแล้วก็กินข้าวต้มก่อน” ป้าอูบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ความมีมิตรไมตรีของหญิงวัยกลางคนทำให้ม่านอี้รู้สึกคลายกังวลได้บ้าง เธอจึงได้สอบถามเรื่องราวจากป้าอูถึงได้รู้ว่าเมื่อคืนเฉิงเฟิงพาเธอมาที่คฤหาสน์ตระกูลหวง โดยให้เธอมานอนพักที่ห้องของป้าอูและให้ป้าเป็นคนช่วยดูแล เมื่อถามถึงเฉิงเฟิง ก็รู้ว่าวันนี้เขามีธุระเรื่องงานแต่เช้า
                   “ป้าอูคะ วันนี้หนูต้องไปทำงานที่ร้านของน้าซูหลิน”คนพูดยังมีใบหน้าซีดเซียว
                    “ซูหลินรู้เรื่องแล้ว บอกให้คุณหนูหลี่พักวันหนึ่ง ไม่ต้องไปทำงานหรอกจ้ะ”
                     ป้าอูยังเล่าให้ม่านอี้ฟังอีกว่าซูหลินได้ให้คนไปช่วยขนของที่ห้องเช่ามาไว้ที่นี่แล้ว เรื่องน้องชายของม่านอี้ทางเฉิงเฟิงก็ให้อาเล่อไปช่วยจัดการให้และจะพามาอยู่ที่นี่ด้วยกัน
                    คำพูดของป้าอูทำให้ม่านอี้นึกไม่ถึง พวกเธอทั้งสองคนพี่น้องเป็นหนี้บุญคุณคนในครอบครัวตระกูลหวงมากมาย โดยเฉพาะเฉิงเฟิงที่ช่วยเหลือเธออีกครั้ง ทำให้ยิ่งคิดก็ยังนึกไม่ออกว่าเธอจะสามารถตอบแทนน้ำใจเขาได้ด้วยวิธีไหน..
  
                   เช้าวันเดียวกันนี้ ซูหลินกับหูเจี้ยนไปรับเหมยหลิงที่ท่าเรือ โดยมีอาเล่อพร้อมกับลูกน้องอีกสี่คนตามไปช่วยดูแลความเรียบร้อยตามคำสั่งของเจ้านาย
                      ทันทีที่หูเจี้ยนได้เห็นใบหน้าของเหมยหลิง หญิงสาวที่ตนเองหลงรักมาตั้งแต่เป็นเด็กหนุ่ม ใบหน้าของหูเจี้ยนกลับแดงขึ้นมาจนซูหลินเห็นเข้าถึงกับอดนึกขำในใจไม่ได้ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตซูหลินเองก็รู้นิสัยของหูเจี้ยนเป็นอย่างดี ตอนนี้บุตรสาวของเธอก็โตเป็นผู้ใหญ่มีประสบการณ์ความรักมากพอที่จะดูแลชีวิตของตนเองได้แล้ว เธอให้กำลังใจกับบุตรสาวมาตลอด
                     เมื่อเฉิงเฟิงตัดสินใจเล่าเรื่องของหูเจี้ยนให้ฟัง เธอย่อมอยากจะเห็นบุตรสาวมีความสุข หากว่าเหมยหลิงจะมีใจรักใคร่กับหูเจี้ยนแล้ว คนเป็นแม่อย่างเธอก็พร้อมจะยอมรับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่