黃成風 ยอดบุรุษซ่อนคมพยัคฆ์ : หวงเฉิงเฟิง (เตชินท์) บทที่๑ .ซ่อนกายที่เฉาโจว

บทนำ https://ppantip.com/topic/38091648
อารัมภบท "รำลึกถึงเฉาโจว" https://ppantip.com/topic/38091648
เกริ่นนำ : ภาษาที่ใช้เรียกขานชื่อตัวละครและสถานที่ทั้งหมดจะเรียกเป็นภาษาจีนกลางแทนนะคะ ส่วนบทสนทนาซึ่งควรจะเป็นภาษาแต้จิ๋ว จะบรรยายแทนด้วยคำว่าพูดภาษาจีนสำเนียงท้องถิ่น ,นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นทั้งหมด
คำเตือน : บุหรี่และสุราเป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพ
หมายเหตุ :  ชื่อของพระเอก จะอ่านตามเสียงภาษาจีนกลางว่า "หวงเฉิงเฟิง"





"บทที่ ๑ ซ่อนกายที่เฉาโจว"


         ในราตรีที่พระจันทร์กระจ่าง ภายใต้ยามวิกาลที่เงียบสงัด
    เสียงปืนที่ดังไล่หลังมาติดต่อหลายนัด ทำให้เด็กหนุ่มวัย ๑๔ ปี ต้องยกทั้งสองมือขึ้นปิดหู ใบหน้าซีดเซียว ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปดูต้นเสียง
   ‘จางคุน” คนสนิทของบิดาช่วยพาเขาหลบหนีจนพาขึ้นเรือมา เสียงตะโกนเรียกของคนพวกนั้นได้ค่อย ๆ เบาลงและเหมือนเสียงจะห่างไกลออกไปทุกที
     จนในที่สุดทุกอย่างก็เงียบสงบเมื่อเรือลำนี้พาพวกเขาออกมาไกลจากฝั่ง
      “อาคุน”  เด็กหนุ่มกำลังเป็นไข้นอนซบกับท่อนแขนของผู้ที่ช่วยเหลือเขาไว้
     “ตอนนี้พวกเราอยู่ไหนกัน”
     “บนแม่น้ำหาน เรากำลังจะไปเมืองเฉาโจว ครับคุณชาย”
    “ผมคิดถึงบ้าน  ผมอยากจะกลับบ้านครับอา”
    “ตอนนี้คงกลับไปไม่ได้แล้วละครับ” จางคุนตอบน้ำเสียงเบา
คำพูดที่ว่า“กลับไปไม่ได้” ทำให้เด็กหนุ่มได้แต่เหม่อมองออกไปด้านนอก เขารู้สึกเหมือนลำตัวกำลังโยกคลอนเพราะเรือที่โคลงเคลงขึ้นลงตามแรงกระเพื่อมของลำน้ำหาน บรรยากาศรอบบริเวณที่ดูมืด มองดูเงียบเหงา

     ในค่ำคืนนี้มีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์ที่ส่งประกายสะท้อนแวววาวบนผิวแม่น้ำ หากแต่ตอนนี้ตนเองก็ไม่มีแรง ได้แต่นอนซมเป็นไข้ อากาศก็เย็นจนรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว
     ”ทำไมพวกเขาต้องตามทำร้ายเรา” เด็กหนุ่มใบหน้าเศร้ายังคงเอ่ยถาม
      จางคุน ชายวัย๓๔ ปี รูปร่างสัดทัน ผมตัดสั้น ผิวขาว เป็นคนสนิทของเศรษฐีหวงเหวินบิดาของเฉิงเฟิง จางคุนมองคุณชายเล็กแล้วรู้สึกสงสารจับใจ เขาถอดเสื้อตัวนอกออกมาสวมคลุมพร้อมทั้งกอดคุณชายเล็กไว้แน่นเพื่อให้ร่างกายของเด็กหนุ่มอบอุ่น
   “คุณชายนอนพักก่อนเถอะครับ”
   เฉิงเฟิงรู้สึกเปลือกตาของตนเองหนักเหลือเกิน พิษไข้กำลังเล่นงานเขาอยู่
  
   เพียงไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ ในเมืองเฉาโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนทางตอนใต้
     จางคุนแบกเด็กหนุ่มไว้บนหลัง แล้วเร่งฝีเท้าอย่างรีบร้อนเดินผ่านตรอกหนึ่งไปยังอีกตรอกหนึ่ง ผ่านมาสามสี่ตรอก เฉิงเฟิงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ช่างงดงามนัก แม้เขายังไม่รู้ว่าจุดหมายอยู่ที่ใด มีเพียงแสงของดวงจันทร์คอยส่องนำทางให้กับพวกเขา เฉิงเฟิงซบหน้าที่ซีดเซียวลงบนไหล่ของจางคุน
       “อดทนหน่อยนะครับ”  คนพูดเหลียวหน้าไปบอก แล้วกระชับแขนรั้งตัวของเด็กหนุ่มที่เขาแบกอยู่ไว้ให้แน่นอีกครั้ง จางคุนยังคงเร่งฝีเท้าเพื่อรีบไปให้ถึงจุดหมายให้เร็วที่สุด
      
       ไม่นานนัก เขาก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง เสียงเคาะประตูดังติดต่อกันทำให้คนในบ้านต้องรีบออกมาประตูเปิด
       ทันทีที่บานประตูไม้ถูกเปิด หญิงสาวผู้อาศัยอยู่ในบ้านเช่าแห่งนี้ถึงกับ หน้าถอดสี เมื่อเห็นว่าผู้ที่มาเยือนยามวิกาลเป็นใคร  จางคุนไม่พูดไม่จารีบก้าวเท้าเข้าไปด้านใน หญิงสาวมองซ้ายแลขวาแล้วรีบปิดประตูลงกลอนทันที
       
     ภายในห้อง ตะเกียงดวงใหญ่ส่องแสงสว่าง ทำให้เห็นเด็กหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงนั้นใบหน้าแลดูซีดเซียวยิ่งนัก  เธอเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของเด็กหนุ่มแล้วก็ต้องสะดุ้งเพราะความร้อนที่แผ่ขึ้นมาจนรู้สึกได้
        หญิงสาวรีบลุกขึ้น เดินหายเข้าไปด้านใน สักครู่ก็ออกมาพร้อมกับนำกะละมังมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วรีบนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้กับเด็กหนุ่มพร้อมกับหยิบผ้าห่มคลุมตัวให้  เมื่อเรียบร้อยเธอก็ดึงมือพี่ชายออกมาคุยด้านนอก
         “พี่คุน เขาตัวร้อนมาก มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ”  
          จางคุนหันไปมองหน้า “จางซูหลิน” น้องสาววัย ๒๗  ปีของเขา           
           ซูหลินเป็นหญิงหน้าตาดี รูปร่างอวบอิ่ม เธอหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบแล้วคีบบุหรี่ไว้ที่มือ
            “พี่ไม่นึกว่าเรื่องที่พี่เคยคาดคิดไว้จะเกิดขึ้นเร็วเพียงนี้”
            หลังจากได้ฟังเล่าเรื่องราวเพียงคร่าว ๆ จากพี่ชาย คนเป็นน้องสาวก็ถอนหายใจ    
        “พี่คุน..รายได้ทั้งปีเหลือแค่ไม่กี่หยวน ฉันไม่มีเงินที่จะเลี้ยงเขาหรอกนะ”
        จางคุนถอนหายใจตาม รู้ว่าความเป็นอยู่ของน้องสาวยังค่อนข้างลำบาก

        “พี่ไม่มีเวลาอธิบายมาก“ จางคุนพูดพร้อมกับหยิบจดหมายสองฉบับออกจากกระเป๋าเสื้อตัวในพร้อมกับถุงเงินใบใหญ่แล้วยื่นส่งให้น้องสาว
      “เรื่องราวอยู่ในจดหมายฉบับแรก ส่วนจดหมายฉบับที่สองเมื่อเธอเห็นว่าถึงเวลาที่เขาควรจะได้รู้ ก็ค่อยมอบให้เขา พี่มีเงินกับเครื่องประดับพวกนี้ พอจะให้เธอเอาไว้ใช้สอยยามจำเป็น”  
        ซูหลินคาบบุหรี่แล้วมองจดหมายในมือ แต่เธอเลือกเปิดดูถุงเงินใบใหญ่ ดวงตาโตต้องเบิกกว้างเพราะของที่อยู่ในถุงหลายชิ้นน่าจะมีมูลค่าไม่น้อย
      จางคุนยังหยิบป้ายหยกสีมรกตที่ถูกร้อยกับเชือกไหมสีแดงเป็นพู่ห้อยแลดูเป็นสิ่งล้ำค่า   “ซูหลิน หยกชิ้นนี้เป็นของเขา เธอช่วยเก็บรักษาไว้ให้ดี”
       ซูหลินเอื้อมอีกมือหนึ่งไปหยิบหยกชิ้นนั้นจากพี่ชาย เธอสัมผัสได้จากความเย็นของชิ้นหยกในมือ คาดคะเนว่าคงเป็นหยกเนื้อดีทีเดียว แล้วเพ่งตามองพร้อมกับอ่านอักษรสองตัวที่สลักอยู่ที่ป้ายหยก “เฉิงเฟิง”
      จางคุนพยักหน้า แล้วมองไปด้านในห้อง ที่เด็กหนุ่มกำลังนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ท่าทางยังดูหนาวสั่นอยู่ ซูหลินดับบุหรี่แล้วรีบเดินกลับเข้าไปด้านในวางจดหมายและสิ่งของไว้บนโต๊ะ เดินไปหยิบผ้าห่มคลุมตัวให้เฉิงเฟิงอีกผืนหนึ่ง
       “คุณอา..คุน”  เด็กหนุ่มคนนั้นยื่นมือออกมาจากผ้าห่ม ริมฝีปากซีดขาวปากสั่นจนได้ยินเสียงกระทบฟัน
       “ครับ คุณชายเล็ก” จางคุนรีบรุดไปนั่งลงข้างเตียง เอื้อมไปจับมืออันเย็นเฉียบแล้วลูบใบหน้าของเด็กหนุ่มที่แดงจัดเพราะพิษไข้
       “คุณชายอยู่ที่นี่กับน้าซูหลิน น้องสาวของอา แล้วอาจะมารับคุณชายนะครับ”
         เฉิงเฟิงมองใบหน้าของซูหลิน สลับกับมองใบหน้าของจางคุน
       “อา..คุน  อย่าทิ้งผมไป  คุณอา.. “ เฉิงเฟิงจับมือของจางคุนไว้แน่น
        เด็กหนุ่มพยายามยันตัวลุก แต่ก็อ่อนแรงเกินไปที่จะลุกขึ้นได้  จางคุนตัดใจปล่อยมือ พร้อมกับบอกลาคุณชายเล็กแล้วรีบเดินออกไป เฉิงเฟิงได้แต่นอนหมดแรง น้ำตาหยดใส ๆ ไหลรินที่ปลายตา
      
        ซูหลินเดินตามพี่ชายของเธอแล้วหยิบบุหรี่อีกมวนขึ้นจุดสูบ พร้อมกับส่งให้พี่ชายมวนหนึ่ง  จางคุนได้สูบบุหรี่แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
        “แล้วนี่เขาพูดภาษาเราได้หรือ”  ซูหลินเอ่ยถามกับพี่ชาย
        จางคุนหันไปมองน้องสาว  “คุณชายพูดได้สี่ภาษา”  
         “สี่ภาษา?” ซูหลินขมวดคิ้วเรียว  “อายุเท่านี้เอง ทางบ้านคงฐานะดีมากสินะ มิน่าล่ะ”  จางซูหลินพอจะเดาได้บ้างแล้วว่าทำไมเด็กหนุ่มที่ชื่อเฉิงเฟิงถึงต้องถูกตามทำร้าย เธอพ่นควันบุหรี่ขึ้นสูง
         “แต่ฉันไม่รับปากว่าจะเลี้ยงดูเขาให้ดีแค่ไหน มาอยู่กับฉันก็ต้องลำบากให้เป็น”  จางซูหลินยืนเอามือข้างหนึ่งกอดอกแล้วพูดกับพี่ชาย
          “เอาลูกเขามาเลี้ยง ดีก็ดีไป ไม่ดีก็อย่ามาโทษกันล่ะ”
          “เธอก็สอนให้เขารู้จักลำบาก  อนาคตเขาจะเป็นยังไง ก็อยู่ที่เธอด้วย”
         ทั้งน้ำเสียงและคำพูดที่จริงจังของพี่ชายทำให้คนเป็นน้องสาวถึงกับเลิกคิ้วสูง เมื่อนึกถึงภาระที่ต้องมาช่วยรับผิดชอบ
        “อะไรกันพี่คุน โยนมาให้ฉัน ลำพังฉันยังไม่รอด”
        จางคุนอัดบุหรี่เข้าปอดลึกก่อนที่จะดับมันทิ้ง และพูดกำชับกับน้องสาว
       “ซูหลิน มันสำคัญมาก”  
        คำพูดของพี่ชายยิ่งทำให้คนฟังรู้สึกสับสนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก
       เมื่อจางคุนเห็นได้เวลา เขาจึงบอกลาน้องสาวแล้วชะโงกหน้าไปดู คุณชายเล็กที่ตอนนี้ดูเหมือนจะหลับไปแล้ว  
     “คุณชายเล็กรักษาตัวนะครับ อาจะกลับมารับ” จางคุนพูดเสียงเบา น้ำตาคลอเบ้า การจากกันครั้งนี้ คงอีกยาวนานกว่าเขาจะกลับมาอีกครั้ง  ชายหนุ่มตัดสินใจหันหลังเดินออกจากบ้านไป โดยมีน้องสาวเดินตามไปส่ง
       
       เมื่อจางซูหลินเดินกลับเข้ามาในห้อง เห็นเด็กหนุ่มนอนหลับตา แต่ปากพึมพำน้ำเสียงแผ่วเบา  “แม่..ครับ “  
         เสียงละเมอเรียกหลายครั้งของเฉิงเฟิง ทำให้ซูหลินขยับตัวเข้ามาใกล้  เอื้อมมือแตะหน้าผากของเด็กหนุ่ม แม้ตัวจะร้อนน้อยลง แต่เธอก็รีบเช็ดตัวให้เขาอีกรอบ
        เมื่อเห็นแน่ชัดว่าเด็กหนุ่มคนนั้นหลับสนิทแล้ว ซูหลินได้แต่ส่ายหน้าไปมา เมื่อนึกขึ้นได้ก็เดินไปหยิบจดหมายฉบับแรกขึ้นมาเปิดดู อ่านไปก็เหลียวหน้ามองเด็กหนุ่มเฉิงเฟิงไป เมื่ออ่านข้อความจนจบ สีหน้าของซูหลินก็ฉายแวววิตกกังวล ไม่สู้สบายใจนัก แต่เมื่อพี่ชายกำชับเธอก็ต้องทำตามหน้าที่…

         เช้าวันรุ่งขึ้น ทันทีที่เปลือกตาเล็กขยับ คนที่นอนอยู่บนเตียงก็ได้ยินเสียงเล็กดังแว่วอยู่ใกล้
          “ยาย...เขาตื่นแล้ว..”
       เสียงพูดที่เฉิงเฟิงได้ยินเป็นภาษาจีนท้องถิ่น เมื่อลืมตาขึ้นเขาก็มองเห็นใบหน้าของหญิงวัยกลางคนกับใบหน้าของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
      “คุณ..”  ป้าอูเกือบลืมไปว่าซูหลินกำชับไม่ให้เรียกเฉิงเฟิงว่า..คุณชาย
      “อาเฟิง ค่อย ๆ ขยับตัวนะ”
      “คุณน้าซูหลินเหรอครับ”  เด็กหนุ่มเอ่ยทักทายเป็นภาษาจีนท้องถิ่นเช่นกัน
      “ไม่ใช่จ้ะ ป้าแซ่หลิว ชื่ออู เป็นเพื่อนข้างบ้าน ซูหลินไปทำงานแล้ว”
      เฉิงเฟิงได้ยินดังนั้นก็ขยับตัวลุกขึ้น เมื่อคืนเขาเผลอหลับไป ได้เห็นใบหน้าของน้าซูหลินแต่ไม่ชัดเจนนัก
       “อรุณสวัสดิ์ครับ ป้าอู” เฉิงเฟิงกล่าวทักทาย น้ำเสียงสุภาพ
       ป้าอูยิ้มพูดอรุณสวัสดิ์ตอบแล้วช่วยประคองตัวให้เฉิงเฟิงลุกขึ้นนั่ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่