มีฌานแล้วไม่รู้จักละ โง่เลย

ได้ฌานแล้วไปยึดติดฌาน ไม่ยอมละฌาน
ก็โง่ดักดานที่ฌานนั้นไปไหนไม่รอด
คนทำฌานไม่เป็นก็เห็นว่าฌานวิเศษ
พอทำฌานได้ก็ไปยึดติดฌาน  
ไม่ยอมละก็ติดอยู่ที่ฌานนั้น ดิ้นไม่หลุด
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
อหังการ มมังการ และมานานุสัย
คำว่าอหังการ มมังการ ก็คือความยึดถือของสรรพสัตว์ทั้งหลายว่า นี่เป็นเรา-อหังการ นี่เป็นของเรา-มมังการ และความคิดว่าเราดีกว่าเขาบ้าง เราด้อยกว่าเขาบ้าง เราเสมอกับเขาบ้าง-มานานุสัย ดำว่าอหังการ มมังการนั้น ย่อมนำไปสู่การปกป้อง หวงแหน ว่านี่สิ่งที่รักของเรา นี่ไม่ใช่ที่ท่านจะมายึดถือได้ เพราะการปกป้องนี้ถึงนำไปสู่การทะเลาะวิวาท กล่าวว่ากู มีง และการจับอาวุธขึ้นมาทำร้ายกัน (ที่กล่าวมานี้เป็นพระพุทธวจนะครับ ไม่ใช่ผมกล่าวเอง) ส่วนคำว่ามานานุสัยนั้นพระผู้มีพระภาคตรัสว่าเป็นอุปาทาน ดังความจริงที่ว่าไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม ย่อมมีเป้าหมายสูงสุดในชีวิตคือการหลุดพ้นจากวัฏฏสงสาร ท่านที่หลุดพ้นแล้วนั้นหมายถึงว่าละกิเลสคือราคะ โทสะ โมหะได้ เมื่อเป็นเช่นนี้จะยึดถือไปทำไมว่าเราดีกว่าท่าน เราด้อยกว่าท่าน เราเสมอกันกับท่าน แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นศาสดาเอก ทรงรู้แจ้งในโลกก็ยังทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน ก็แต่ว่าผู้ประพฤติผิด หรือยึดถือเอามิจฉาทิฏฐิ มีบาปธรรมย่อมเสวยทุกข์เพราะผลกรรมเป็นธรรมดา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่